ใบไม้เปลี่ยนสีที่ภูหลวง 2565 ~ เตือนภัย แดงมาแดงไป ไม่โกง
เมื่อ 22 ปีก่อน !! เชื่อว่าติ่งเกาหลียุค 90 ต้องรู้จักซีรีส์ Autumn in my Heart หรือ รักนี้ชั่วนิรันดร์ คำว่า "พี่ชาย" มันช่างละมุนเศร้าเคล้าน้ำตายิ่งนัก นางเอกสวย พระเอกพระรองหล่อ เพลงก็เพราะ บอกตัวเองว่า ช้านต้องไปภูหลวง
ตัดภาพมาในป่าใกล้ที่ทำการเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง จ.เลย 184km จากบ้านฉัน ใบเมเปิ้ล หรือ ก่วมแดง กำลังเป็นสีแดงเข้มอยู่บนต้นสูง ๆ และร่วงระเกะระกะลงพื้นมาให้ได้สัมผัส แม้จะไม่แดงไปทั้งป่าแต่ก็แดงได้น่าประทับใจมาก ไม่คิดว่าจะได้เห็นภาพแบบนี้ในเมืองไทย
ฉันเดินเข้าไปในป่าลึกมากขึ้น พื้นเริ่มแฉะเป็นโคลน ลุยหนามไปจนถึงลำธารสายเล็ก ๆ นั่ง ๆ นอน ๆ ถ่ายรูปถ่ายคลิปมุมโน้นมุมนี้เซลฟี่ไปเรื่อย ฟินอยู่คนเดียวจนคนอื่นเค้าออกไปกันหมดแล้ว
ทันใดนั้น มีสิ่งนึงมาเข้าตาขวา ไม่รู้เลยว่ามาจากทิศทางไหน คิดว่าเป็นแมลงรึฝุ่น แต่ไม่รู้สึกว่าโดนความแข็งความคมบาดรึโดนพิษนะ เป็นสิ่งนิ่ม ๆ ที่หยิบไม่ออก ส่องกระจกตลับแป้งดูเห็นสีดำ ๆ หายเข้าไปในเปลือกตา
ใจหายแว้บ กลัวจับใจ นึกอ้อนวอนขอพรคุณพระสิ่งศักดิ์สิทธิ์เจ้าป่าเจ้าเขาเลยล่ะ กลัวว่ามันจะฉลาดชอนไชไปที่อื่น กลัวจะต้องเสียดวงตาไป
เป็นพยาธิรึหนอนประเภทนั้นมั้ง รอบตัวไม่มีใครเลย โชคดีจำทางออกจากป่าได้ รีบวิ่งไปตะโกนไปบอกพี่บอกเพื่อนว่ามีอะไรไม่รู้เข้าตา จะไปห้องน้ำนะ
ล้างขันน้ำเทน้ำดื่มที่พกไปด้วยลืมตาในน้ำล้างตา ไม่ออกแฮะ ขยับเปลือกตาจนเจอเจ้าตัวเล็ก ยาวซัก 2 เซนติเมตร มันไม่ยอมออกง่าย ๆ หัวใจเต้นแรง มือไม้สั่น ตะโกนบอกมันว่า ออกมา ออกมาเถอะนะ
หยิบมันออกมาจนได้ น้ำตาไหลพราก ตกใจยิ่งกว่าตอนอยู่ในป่าอีก เพราะมันคือทาคุมิจัง อ่อ "ทากดูดเลือด" !! ก่อนจากกันมันยังร้ายกาจกัดนิ้วฉันอีกนะ เลือดไหลเลยล่ะ
สังเกตอาการตัวเองว่าไม่เป็นไรมาก เดินต่ออีกพักนึงก็กลับอุดรธานี ตระเวณรอบเมือง เย็นวันอาทิตย์แบบนี้คลีนิกโรคตาปิดหมดเลย จะเปิดอีกทีก็เที่ยงวันพรุ่งนี้ งั้นกลับบ้านนอนแต่วันก็แล้วกัน
เช้าวันจันทร์ พี่ ๆ น้อง ๆ กลัวว่าฉันจะแพร่เชื้อโรคตาแดงให้ รีบไล่ไปใส่แว่นปิดตาหาหมอซะบัดเดี๋ยวนี้ ตรงดิ่งไปโรงบาลค่ายฯ จุดคัดกรองที่ 1 ระบุให้ไปห้องฉุกเฉิน !!
ไม่ขนาดน้านม้าง หนุ่นน้อยในชุดทหารให้นอนเตียงตะแคงหน้านิดนึง แปะเทปที่หางตา เอาถาดเล็ก ๆ มารอง เอาน้ำยาล้างตาแขวนเสา ต่อสายยาง หยอดตาติ๊งนึง แสบสิจ๊ะ
เครียดปึ๊ดขึ้นมาแทบลืมหายใจเลย เค้าบอกให้ลืมตาสู้น้ำแล้วกลอกตาไปรอบ ๆ แสบ ๆ เคือง ๆ กว่าน้ำยาจะหมด ขวดไซส์น้ำเกลือที่เค้าแทงแข็มให้กันน่ะ
เสร็จแล้วส่งไปหาหมอตา วัดความดันตา ตรวจการมองเห็น เค้าบอกเคสนี้ฉุกเฉิน บังอาจแซงคิวพ่อแก่แม่แก่ตาต้อตาฟางอย่างอายเลย คุณหมอเป็นชายอาวุโสผมขาวโพลนตรวจอย่างอารมณ์ดี หมอไม่ถามซักคำ ส่องซ้ายส่องขวาผ่านเครื่องมือ แล้วบอกว่า
ไม่มีอันตรายอะไร แค่เส้นเลือดแตก รักษาหายขาดได้ แต่ใช้เวลาเป็นเดือน ๆ ให้น้ำตาเทียมกับยาหยอดฆ่าเชื้อ ไม่มียากิน ไม่นัด แค่เนี๊ยะ? สรุปพวกพยาบาลแตกตื่นไปเองกับคำว่า "ทากดูดเลือดเข้าตา"
เที่ยวป่ามาตั้งกะเป็นสาวน้อย โดนทากดูดมาหลายตัวจนจับมาเล่นได้แล้ว อากาศหนาวมากแต่งตัวมิดชิดโผล่มาแค่หน้าบวม ๆ มือเหี่ยว ๆ แต่ไม่น่าเชื่อว่าเจ้าทากมันจะดีดตัวมาเข้าตาพอดียังกะล็อกเป้าไว้แล้ว 55555.
ถ่ายภาพเมื่อ 25 ธ.ค. 2565
ขอบคุณเพื่อน ๆ ชาวบลูที่เข้ามาเยี่ยมชมกระทู้นี้ค่ะ
ให้ 3 คำ สำหรับทริปนี้คือ
ระ ~ วัง ~ ทาก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
[CR] ใบไม้เปลี่ยนสีที่ภูหลวง ~ Autumn in my eye
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น