น้อมรำลึกพระปรีชาสามารถ พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว ๗ มกราคม ๒๕๕๙

พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย และสมเด็จพระศรีสุริเยนทราบรมราชินี พระราชสมภพเมื่อวันอาทิตย์ที่ 4  กันยายน พ.ศ. 2351  

มีพระนามเดิมว่า  เจ้าฟ้าจุฑามณี  เป็นพระราชอนุชาร่วมพระราชบิดาและพระราชมารดาในพระบาทสมเด็จ พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระปรีชาสามารถหลายด้านตั้งแต่ครั้งทรงพระเยาว์ ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว  ทรงได้รับการแต่งตั้งเป็นกรมขุนอิศเรศรังสรรค์  บังคับบัญชาทหารปืนใหญ่  ทหารแม่นปืนหน้าปืนหลัง  ว่าการกรมทหารญวนอาสารบ  แขกอาสา ซึ่งเป็นกองทหารที่สำคัญและมีกำลังคนมาก ทรงแปลและเรียบเรียงตำราปืนใหญ่  รวมทั้งอำนวยการฝึกหัดทหารปืนใหญ่ ทำให้กองทหารมีระเบียบวินัยแบบตะวันตก

เมื่อพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จขึ้นครองราชย์  โปรดให้สมเด็จพระอนุชาธิราชเจ้าฟ้าจุฑามณี กรมขุนอิศเรศรังสรรค์เป็นพระมหาอุปราช แต่ให้มีพระเกียรติยศเป็นอย่างพระเจ้าแผ่นดินพระราชทานบวรราชาภิเษกเป็น "พระบาทสมเด็จพระปวเรนทราเมศร  มหิศเรศรังสรรค์  พระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว"  ทรงพระปรีชาสามารถในศิลปศาสตร์หลายสาขา ทั้งการช่าง การปกครอง การทหาร และศิลปกรรม ทรงดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารเรือเป็นพระองค์แรก นับแต่ทรงรับบวรราชาภิเษก นับเป็นผู้ที่ทรงวางรากฐานการจัดกิจการทหารเรือ ให้เข้าสู่ระบบสากลตามแบบอย่างอารยประเทศ

พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงโปรดทางศิลปะ ทั้งทางดนตรี กวี และนาฏศิลป์ ด้านวรรณกรรม ทรงเป็นนักเล่นสักวาที่มีฝีพระโอษฐ์คมคาย ทั้งได้ทรงพระราชนิพนธ์บทกล่อมและเพลงยาวต่างๆ ขึ้นหลายสำนวน ทรงพระปรีชาสามารถด้านการทรงแคน ซึ่งเป็นเครื่องดนตรีอีสาน  โปรดการแต่งกลอนแอ่วลาว โดยทรงพระราชนิพนธ์คำแอ่วไว้เป็นจำนวนมาก และยังได้ทรงริเริ่มประดิษฐ์ระนาดทุ้มเหล็กขึ้น โดยมีการจัดเล่นประกอบกับระนาดแบบเดิม รวมเป็นเครื่องดนตรี 4 ชนิด เรียกว่า "ปี่พาทย์เครื่องใหญ่" สืบมาจนทุกวันนี้

ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว รวมถึงที่ตั้งของพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร และบริเวณโรงละครแห่งชาติ เดิมเป็นพระราชวังบวรสถานมงคลอันเป็นที่ประทับของพระองค์ กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม ร่วมกับชมรมกองทุนพระบรมราชานุสรณ์พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้จัดพิธีบำเพ็ญกุศลถวาย ณ พระบวรราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว โรงละครแห่งชาติ ในวันที่ 7  มกราคม ของทุกปี ซึ่งเป็นวันคล้ายวันสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว

โดยในวันพฤหัสบดีที่ 7 มกราคม 2559  เวลา 08.00  น. จะมีพิธีวางพวงมาลาสักการะสังเวย และตั้งแต่เวลา 16.00  น. ได้จัดให้มีการบรรเลงปี่พาทย์เสภาที่วังหน้า ครั้งที่ 14 ประกอบด้วย การบรรเลงเพลงโหมโรงเย็น (เพลงเรื่อง) โดย วิทยาลัยนาฏศิลป สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ การขับเสภาอาศิรวาท พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว โดย อ.นฤพนธ์ ดุริยพันธุ์ และต่อด้วยการแสดงรำอาศิรวาทราชสดุดีพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว การแสดงเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ชุด "มหกรรมเภรี แซ่ซ้องร้องสดุดี ภัทรมหาราชา" การบรรเลงและขับร้องเพลง ภัทรมหาราช เถา ของกลุ่มดุริยางค์ไทย สำนักการสังคีต การแสดงโขน เรื่องรามเกียรติ์ ชุด "วานรพงศ์ องค์พระราม"  การแสดงชุด ฟ้อนแคนคำหอม การแสดงชุด ขุนแผนพานาง วันทองหนี ประกอบการบรรเลงและขับร้องเพลงเชิดจีน จากสำนักการสังคีต กรมศิลปากร และการบรรเลงและขับร้องวงปี่พาทย์เสภา ของวงดุริยางค์สี่เหล่าทัพ และสำนักวัฒนธรรมกีฬาและการท่องเที่ยว กรุงเทพมหานคร  ณ ลานพระบวรราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว ผู้สนใจสามารถเข้าชมได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

http://www.banmuang.co.th/news/education/36330

พระราชประวัติ
http://iseehistory.socita.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=538711144&Ntype=15
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่