Cartel Land ...ด้วยการพาตัวเองเข้าคลุก "วงใน" แบบที่ไม่เคยมีหนังเรื่องไหนทำได้มาก่อน...ภายใต้การถ่ายทำอย่างแทบจะลุยเดี่ยวของ แม็ตธิว ไฮเนแมน ผู้กำกับหนุ่มวัย 32 ปี Sicario ว่าระห่ำแล้ว...แต่สิ่งที่คุณจะได้เห็นในหนังเรื่องนี้คือของจริง! ในพื้นที่ที่แก๊งยาเสพติดยึดครองทุกอณูด้วยความรุนแรง ในยุคสมัยที่รัฐบาลไร้ความหมาย ในวันที่กฎหมายไร้ความศักดิ์สิทธิ์ และในสถานการณ์ที่ชีวิตชาวบ้านมีค่าแค่ผักปลา ...คนธรรมดาๆ กลุ่มหนึ่งจึงถึงเวลาต้องลุกขึ้นกำหนดชะตากรรมด้วยสองมือตนเอง!
"หลังจากได้อ่านเรื่องของเนเลอร์กับหมอโฆเซ (สองบุคคลหลักในหนังเรื่องนี้) ผมก็อยากรู้เพิ่มทันทีว่าโลกของพวกเขาเป็นยังไง-โลกที่กฎหมายล้มเหลวและประชาชนสามัญธรรมดาถูกบีบให้ต้องลุกขึ้นมาเป็นผู้คุ้มกฎเสียเอง ผมอยากเล่าเรื่องของพวกเขาในมุมใกล้ชิด ติดตามแบบที่ตัวผมไม่ต้องแทรกแซง ไม่ต้องพึ่งผู้เชี่ยวชาญมาอธิบาย ไม่ต้องมีข้อความบรรยายให้ความรู้อะไรทั้งนั้น และขณะเดียวกันก็ขับเคลื่อนด้วยแอ็กชั่นเป็นหลัก
ผมต้องใช้เวลาหลายเดือนกว่าจะได้รับความไว้วางใจจากพวกเขาจนอนุญาตให้เข้าไปบันทึกเรื่องราวที่ต้องการจะเล่าออกมาได้ การเข้าถึงและตัวสถานการณ์ผลักให้ผมต้องเผชิญหน้ากับความท้าทายอันตรายแบบสุดๆ หลายต่อหลายหน ผมเองไม่เคยมีประสบการณ์ทำหนังในที่เสี่ยงขนาดนี้มาก่อน แต่ Cartel Land ทำให้ผมต้องไปอยู่กลางการถล่มห่ากระสุนกลางถนนในรัฐมิโชอากัง ประเทศเม็กซิโก และในลานปรุงยาไอซ์ที่ราวกับกองถ่ายซีรีส์ Breaking Bad กลางดึกของคืนอันมืดมิด
ด้วยการใช้ทีมงานแค่ไม่กี่คน และหลายๆ หนผมก็ถือกล้องไปถ่ายคนเดียว เป้าหมายหลักของผมคือการไปอยู่ "ตรงนั้น" เพื่อคว้าจับเรื่องราวที่พลิกผันอยู่ตลอดเวลาแบบเรียลไทม์มาให้ได้ กล้องของผมทำหน้าที่ไล่ติดตามชิดใกล้อย่างที่ไม่ใช่ด้วยการสังเกตการณ์แบบคนนอก ทั้งมวลมันจึงเป็นการทำหนังและการผจญภัยแสนจะบ้าระห่ำและน่าผวาจริงๆ!"
"การพาตัวเองเข้าสู่ 'วงใน' ของกองกำลังป้องกันตนเองมิโชอากังของผม ไม่ได้เกิดขึ้นจากอะไรง่ายๆ แค่เพราะผมโดดร่มลงไปถ่ายแล้วก็หนีออกมา แต่ผมใช้เวลาวนเวียนกลับไปเม็กซิโกครั้งแล้วครั้งเล่า ซึ่งผมคิดว่าด้วยการที่เราแสดงถึงการติดตามเรื่องราวของพวกเขาอย่างกัดไม่ปล่อยและพร้อมเสี่ยงชีวิตเช่นนี้เองที่ทำให้พวกเขายอมรับเราง่ายขึ้น
หลังจากถ่ายมาได้ 8 เดือน วันหนึ่งขณะผมนั่งเล่นอยู่ในฐานของกองกำลัง บรรยากาศก็เคร่งเครียดขึ้นอย่างฉับพลันเมื่อมีคนส่งข่าวเข้ามาว่าสมาชิกพวกเขาสองคนถูกลอบฆ่าบนถนนโดยแก๊งมือปืนลึกลับบนมอเตอร์ไซค์ พวกเขาลุกพรวดจากโต๊ะอาหารมื้อเที่ยง วิ่งไปยัดกระสุนใส่ปืนแล้วคว้าเสื้อกันกระสุนใส่กันอย่างเร่งรีบ ผมรีบคว้ากล้องแล้วถามพวกเขาด้วยภาษาสเปนกระท่อนกระแท่น (ผมเข้าใจภาษานี้แค่ 50-60% และพูดได้แค่สั่งอาหาร ถามทางไปห้องน้ำ ฯลฯ) ว่าจะไปไหนกัน เขาตอบว่า 'ไปหาสตาร์บัคส์กิน' ซึ่งผมคิดว่าเป็นงั้นจริงๆ ผมจึงบอกว่าขอไปด้วย อยากกินกาแฟบ้าง
แต่แล้วโดยนึกไม่ถึง การออกปฏิบัติการครั้งนี้กลับกลายเป็นส่วนที่น่าขนหัวลุกและตึงเครียดที่สุดในหนัง รวมทั้งเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของเรื่องราวด้วย เพราะระหว่างออกลาดตระเวนรอบเมืองนั่นเอง พวกเขาก็ถูกยิงถล่มใส่รถ ทุกคนกระโดดออกจากรถแล้วหาที่กำบัง ตะโกนถามกันว่าใครยิง แล้วก็ออกไล่ล่าหารถต้องสงสัยทันที
ฉับพลัน ผมพบตัวเองตกอยู่กลางห่ากระสุน แล้วไม่กี่นาทีถัดมา ผมก็มาติดอยู่กลางรถที่สมาชิกกองกำลังจับผู้ชายเจ้าของรถต้องสงสัยคันนึงมาสอบสวนบนเบาะหลัง โดยที่ผมขยับตัวไปไหนแทบไม่ได้ ได้แต่เปิดกล้องจ่อถ่ายทุกสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้า ก่อนที่ทุกอย่างจะไปจบลงในห้องที่มีคนอีกมากมายกำลังถูกทรมานอยู่ เป็นไปไม่ได้เลยที่ช่วงไหนๆ ในเหตุการณ์ทั้งหมดนี้จะปรากฏในหนังได้ หากผมแค่เดินเข้าไปหาสมาชิกกองกำลังป้องกันตนเองแล้วบอกพวกเขาง่ายๆ ว่า 'ขอมาขลุกกับพวกคุณสักวันสองวันจะได้มั้ยครับ?'"
Documentary Club ภูมิใจเสนอ "Cartel Land ผ่าแดนนรก" หนังสารคดีระห่ำเดือดเจ้าของรางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยม + กำกับภาพยอดเยี่ยมจากเทศกาลหนังซันแดนซ์, รางวัล Courage Under Fire จาก International Documentary Association และหนึ่งในโผผู้ลุ้นเข้าชิงรางวัลออสการ์ปีหน้า! ผลงานโปรดิวซ์ของแคธริน บิเกโลว์ (ผู้กำกับหญิงเจ้าของออสการ์จาก The Hurt Locker) วันนี้ - กรุงเทพฯ (SFW CentralWorld) วันธรรมดา รอบ 19:00 และ 21:10 / วันเสาร์-อาทิตย์ รอบ 15:00 และ 19:20 - เชียงใหม่ (SFX Maya Chiangmai) รอบ 19:00
ที่มา
http://movie.bugaboo.tv/watch/229753/?link=4
Cartel Land สารคดีสุดระทึก แม็ตธิว ไฮเนแมน ผู้กำกับเสี่ยงตายถ่ายกลางดงกระสุน
Cartel Land ...ด้วยการพาตัวเองเข้าคลุก "วงใน" แบบที่ไม่เคยมีหนังเรื่องไหนทำได้มาก่อน...ภายใต้การถ่ายทำอย่างแทบจะลุยเดี่ยวของ แม็ตธิว ไฮเนแมน ผู้กำกับหนุ่มวัย 32 ปี Sicario ว่าระห่ำแล้ว...แต่สิ่งที่คุณจะได้เห็นในหนังเรื่องนี้คือของจริง! ในพื้นที่ที่แก๊งยาเสพติดยึดครองทุกอณูด้วยความรุนแรง ในยุคสมัยที่รัฐบาลไร้ความหมาย ในวันที่กฎหมายไร้ความศักดิ์สิทธิ์ และในสถานการณ์ที่ชีวิตชาวบ้านมีค่าแค่ผักปลา ...คนธรรมดาๆ กลุ่มหนึ่งจึงถึงเวลาต้องลุกขึ้นกำหนดชะตากรรมด้วยสองมือตนเอง!
"หลังจากได้อ่านเรื่องของเนเลอร์กับหมอโฆเซ (สองบุคคลหลักในหนังเรื่องนี้) ผมก็อยากรู้เพิ่มทันทีว่าโลกของพวกเขาเป็นยังไง-โลกที่กฎหมายล้มเหลวและประชาชนสามัญธรรมดาถูกบีบให้ต้องลุกขึ้นมาเป็นผู้คุ้มกฎเสียเอง ผมอยากเล่าเรื่องของพวกเขาในมุมใกล้ชิด ติดตามแบบที่ตัวผมไม่ต้องแทรกแซง ไม่ต้องพึ่งผู้เชี่ยวชาญมาอธิบาย ไม่ต้องมีข้อความบรรยายให้ความรู้อะไรทั้งนั้น และขณะเดียวกันก็ขับเคลื่อนด้วยแอ็กชั่นเป็นหลัก
ผมต้องใช้เวลาหลายเดือนกว่าจะได้รับความไว้วางใจจากพวกเขาจนอนุญาตให้เข้าไปบันทึกเรื่องราวที่ต้องการจะเล่าออกมาได้ การเข้าถึงและตัวสถานการณ์ผลักให้ผมต้องเผชิญหน้ากับความท้าทายอันตรายแบบสุดๆ หลายต่อหลายหน ผมเองไม่เคยมีประสบการณ์ทำหนังในที่เสี่ยงขนาดนี้มาก่อน แต่ Cartel Land ทำให้ผมต้องไปอยู่กลางการถล่มห่ากระสุนกลางถนนในรัฐมิโชอากัง ประเทศเม็กซิโก และในลานปรุงยาไอซ์ที่ราวกับกองถ่ายซีรีส์ Breaking Bad กลางดึกของคืนอันมืดมิด
ด้วยการใช้ทีมงานแค่ไม่กี่คน และหลายๆ หนผมก็ถือกล้องไปถ่ายคนเดียว เป้าหมายหลักของผมคือการไปอยู่ "ตรงนั้น" เพื่อคว้าจับเรื่องราวที่พลิกผันอยู่ตลอดเวลาแบบเรียลไทม์มาให้ได้ กล้องของผมทำหน้าที่ไล่ติดตามชิดใกล้อย่างที่ไม่ใช่ด้วยการสังเกตการณ์แบบคนนอก ทั้งมวลมันจึงเป็นการทำหนังและการผจญภัยแสนจะบ้าระห่ำและน่าผวาจริงๆ!"
"การพาตัวเองเข้าสู่ 'วงใน' ของกองกำลังป้องกันตนเองมิโชอากังของผม ไม่ได้เกิดขึ้นจากอะไรง่ายๆ แค่เพราะผมโดดร่มลงไปถ่ายแล้วก็หนีออกมา แต่ผมใช้เวลาวนเวียนกลับไปเม็กซิโกครั้งแล้วครั้งเล่า ซึ่งผมคิดว่าด้วยการที่เราแสดงถึงการติดตามเรื่องราวของพวกเขาอย่างกัดไม่ปล่อยและพร้อมเสี่ยงชีวิตเช่นนี้เองที่ทำให้พวกเขายอมรับเราง่ายขึ้น
หลังจากถ่ายมาได้ 8 เดือน วันหนึ่งขณะผมนั่งเล่นอยู่ในฐานของกองกำลัง บรรยากาศก็เคร่งเครียดขึ้นอย่างฉับพลันเมื่อมีคนส่งข่าวเข้ามาว่าสมาชิกพวกเขาสองคนถูกลอบฆ่าบนถนนโดยแก๊งมือปืนลึกลับบนมอเตอร์ไซค์ พวกเขาลุกพรวดจากโต๊ะอาหารมื้อเที่ยง วิ่งไปยัดกระสุนใส่ปืนแล้วคว้าเสื้อกันกระสุนใส่กันอย่างเร่งรีบ ผมรีบคว้ากล้องแล้วถามพวกเขาด้วยภาษาสเปนกระท่อนกระแท่น (ผมเข้าใจภาษานี้แค่ 50-60% และพูดได้แค่สั่งอาหาร ถามทางไปห้องน้ำ ฯลฯ) ว่าจะไปไหนกัน เขาตอบว่า 'ไปหาสตาร์บัคส์กิน' ซึ่งผมคิดว่าเป็นงั้นจริงๆ ผมจึงบอกว่าขอไปด้วย อยากกินกาแฟบ้าง
แต่แล้วโดยนึกไม่ถึง การออกปฏิบัติการครั้งนี้กลับกลายเป็นส่วนที่น่าขนหัวลุกและตึงเครียดที่สุดในหนัง รวมทั้งเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของเรื่องราวด้วย เพราะระหว่างออกลาดตระเวนรอบเมืองนั่นเอง พวกเขาก็ถูกยิงถล่มใส่รถ ทุกคนกระโดดออกจากรถแล้วหาที่กำบัง ตะโกนถามกันว่าใครยิง แล้วก็ออกไล่ล่าหารถต้องสงสัยทันที
ฉับพลัน ผมพบตัวเองตกอยู่กลางห่ากระสุน แล้วไม่กี่นาทีถัดมา ผมก็มาติดอยู่กลางรถที่สมาชิกกองกำลังจับผู้ชายเจ้าของรถต้องสงสัยคันนึงมาสอบสวนบนเบาะหลัง โดยที่ผมขยับตัวไปไหนแทบไม่ได้ ได้แต่เปิดกล้องจ่อถ่ายทุกสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้า ก่อนที่ทุกอย่างจะไปจบลงในห้องที่มีคนอีกมากมายกำลังถูกทรมานอยู่ เป็นไปไม่ได้เลยที่ช่วงไหนๆ ในเหตุการณ์ทั้งหมดนี้จะปรากฏในหนังได้ หากผมแค่เดินเข้าไปหาสมาชิกกองกำลังป้องกันตนเองแล้วบอกพวกเขาง่ายๆ ว่า 'ขอมาขลุกกับพวกคุณสักวันสองวันจะได้มั้ยครับ?'"
Documentary Club ภูมิใจเสนอ "Cartel Land ผ่าแดนนรก" หนังสารคดีระห่ำเดือดเจ้าของรางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยม + กำกับภาพยอดเยี่ยมจากเทศกาลหนังซันแดนซ์, รางวัล Courage Under Fire จาก International Documentary Association และหนึ่งในโผผู้ลุ้นเข้าชิงรางวัลออสการ์ปีหน้า! ผลงานโปรดิวซ์ของแคธริน บิเกโลว์ (ผู้กำกับหญิงเจ้าของออสการ์จาก The Hurt Locker) วันนี้ - กรุงเทพฯ (SFW CentralWorld) วันธรรมดา รอบ 19:00 และ 21:10 / วันเสาร์-อาทิตย์ รอบ 15:00 และ 19:20 - เชียงใหม่ (SFX Maya Chiangmai) รอบ 19:00
ที่มา http://movie.bugaboo.tv/watch/229753/?link=4