คือ อยากเป็นครูมาตั้งแต่แรกแล้วครับ เพราะชอบการสอน ดีใจที่ทำให้นักเรียนได้เข้าใจได้
แต่พอเป็นครูได้สักพักเริ่มหวั่นใจ เรื่องจริงที่ได้เจอมาก็คือ นักเรียนหลายคน
มีพื้นฐานอ่อนมาก บางที ม.ต้น ไม่รู้เรื่องของ ประถมต้น + ไม่ตั้งใจเรียน + ชวนเพื่อนคุยได้
เหมือนกับมาเรียนเพราะพ่อแม่ให้มา เวลาสอนแล้วบางครั้งรู้สึกเหนื่อยใจ เพราะเราตั้งใจสอน
แต่เหมือนเขาไม่รับ
ออกตัวก่อนนะครับ เป็นคนที่หน้าค่อนข้างหน้าอ่อนกว่าวัย และเป็นคนยิ้มง่าย
อาจจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้นักเรียนไม่ค่อยเกรงใจ แต่พยายามใช้หลายๆวิธี
จิตวิทยาครู หลักเหตุผล ข้อตกลงร่วมกัน แต่ก็ยังมีเหตุการณ์อย่างนี้หลายครั้ง
บางทีอยากให้นักเรียนรู้สึกสนุก เรียนแบบไม่เครียด กลับกลายเป็นคุยกันเสียงดัง ต้องมาจริงจังว่ากล่าวตักเตือนกัน
บางทีก็เหนื่อยที่ต้องทำหน้าบึ้งตึงบ่อยครั้ง เปลี่ยนโหมดจริงจัง บางทีก็รู้สึกปรับตัวไม่ทัน
ที่บุคลิกของเรายิ้มง่ายเฮฮา แต่ต้องเข้าโหมดแบบนี้ในทุกครั้ง
บางครั้งก็แอบเหนื่อยใจว่า มันเป็นความฝันของเราเลย การเป็นครู แต่ถ้าต้องเจอภาวะนี้บ่อยๆ
หรือเราควรเรียนต่อไปอีกเพื่อจะสอนในระดับวิทยาลัย/มหาวิทยาลัย ซึ่งน่าจะมีการคัดกรอง
นักเรียนที่ผ่านการทดสอบมหาวิทยาลัย น่าจะมีความรู้พื้นฐานที่ดี และคนที่เลือกเรียนเอกภาษาคงมีความชอบด้านนี้เป็นทุนอยู่แล้ว
น่าจะกระตือรือร้นมากกว่า หรือผันตัวเป็นติวเตอร์สถาบันสอนพิเศษ แต่ที่ผมเห็นส่วนใหญ่ครูที่สอนพิเศษ
เขาก็เป็นครูในโรงเรียนมาก่อน แล้วนักเรียนถึงไปเรียนนอกเวลากับครูเขานะครับ
พี่ๆหรือผู้รู้คนไหนมีข้อเสนอแนะบ้างครับ
ขอบคุณครับ
ขอปรึกษาเกี่ยวกับ อาชีพครู หน่อยครับ
แต่พอเป็นครูได้สักพักเริ่มหวั่นใจ เรื่องจริงที่ได้เจอมาก็คือ นักเรียนหลายคน
มีพื้นฐานอ่อนมาก บางที ม.ต้น ไม่รู้เรื่องของ ประถมต้น + ไม่ตั้งใจเรียน + ชวนเพื่อนคุยได้
เหมือนกับมาเรียนเพราะพ่อแม่ให้มา เวลาสอนแล้วบางครั้งรู้สึกเหนื่อยใจ เพราะเราตั้งใจสอน
แต่เหมือนเขาไม่รับ
ออกตัวก่อนนะครับ เป็นคนที่หน้าค่อนข้างหน้าอ่อนกว่าวัย และเป็นคนยิ้มง่าย
อาจจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้นักเรียนไม่ค่อยเกรงใจ แต่พยายามใช้หลายๆวิธี
จิตวิทยาครู หลักเหตุผล ข้อตกลงร่วมกัน แต่ก็ยังมีเหตุการณ์อย่างนี้หลายครั้ง
บางทีอยากให้นักเรียนรู้สึกสนุก เรียนแบบไม่เครียด กลับกลายเป็นคุยกันเสียงดัง ต้องมาจริงจังว่ากล่าวตักเตือนกัน
บางทีก็เหนื่อยที่ต้องทำหน้าบึ้งตึงบ่อยครั้ง เปลี่ยนโหมดจริงจัง บางทีก็รู้สึกปรับตัวไม่ทัน
ที่บุคลิกของเรายิ้มง่ายเฮฮา แต่ต้องเข้าโหมดแบบนี้ในทุกครั้ง
บางครั้งก็แอบเหนื่อยใจว่า มันเป็นความฝันของเราเลย การเป็นครู แต่ถ้าต้องเจอภาวะนี้บ่อยๆ
หรือเราควรเรียนต่อไปอีกเพื่อจะสอนในระดับวิทยาลัย/มหาวิทยาลัย ซึ่งน่าจะมีการคัดกรอง
นักเรียนที่ผ่านการทดสอบมหาวิทยาลัย น่าจะมีความรู้พื้นฐานที่ดี และคนที่เลือกเรียนเอกภาษาคงมีความชอบด้านนี้เป็นทุนอยู่แล้ว
น่าจะกระตือรือร้นมากกว่า หรือผันตัวเป็นติวเตอร์สถาบันสอนพิเศษ แต่ที่ผมเห็นส่วนใหญ่ครูที่สอนพิเศษ
เขาก็เป็นครูในโรงเรียนมาก่อน แล้วนักเรียนถึงไปเรียนนอกเวลากับครูเขานะครับ
พี่ๆหรือผู้รู้คนไหนมีข้อเสนอแนะบ้างครับ
ขอบคุณครับ