ห้องเพลง**คนรากหญ้า** พักยกการเมือง มุมเสียงเพลง มุมนี้ไม่มีสี ไม่มีกลุ่ม....มีแต่เสียง 4/1/2016.../sao..เหลือ..noi

กระทู้คำถาม


***สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ห้องราชดำเนินทุกคน***

กระทู้นี้ เป็นมุมพักผ่อน มุมนี้ไม่มีสี  ไม่มีกลุ่ม....แต่มีเสียง.........

ห้องเพลงคนรากหญ้าเปิดขึ้นมามีวัตถุประสงค์ เพื่อ


1.มีพื้นที่ให้เพื่อนๆ ได้มาพบปะ พูดคุยระหว่างกัน ในภาวะที่ต้องระมัดระวังการโพสการเมืองอย่างเคร่งครัด
2. เป็นพื้นที่ พักผ่อน ลดความเครียดทางการเมือง ให้เพื่อนๆ มีกิจกรรมสนุกๆ ร่วมกัน
3. สร้างมิตรภาพและความปรองดอง ซึ่งเราหวังให้สังคมไทยเป็นเช่นนี้ แม้นคิดต่างกัน แต่เมื่อคุยกัน
    แล้วก็เป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม




สุขสันต์เย็นวันจันทร์ค่ะ   เพื่อนๆ ห้องเพลง
ยังอยู่ในเทศกาลปีใหม่เนอะ  ....  ดีที่สุด  สำหรับเทศกาลปีใหม่
ทำจิตใจให้ผ่องใส  เพื่อจะได้ มีชีวิตที่ดี ตลอดปี และ ตลอดไป

สัปดาห์นี้ก็เลยชวนเดินทางไปท่องเที่ยวและพักผ่อนที่ จ. พระนครศรีอยุธยา เมืองหลวงเก่าแก่ของประเทศไทยที่ได้รับการขึ้นทะเบียน
มรดกโลกทางวัฒนธรรม ชมบรรยากาศของเมืองเก่า ไหว้พระให้สุขใจก็เป็นโปรแกรมความสุขครบเครื่อง ที่ให้ทั้งความสุขตา
และสุขใจในหนึ่งวัน ....

อยุธยาเป็นจังหวัดเดียวที่พี่สาวไปบ่อยกว่าจังหวัดอื่น  ไปทอดกฐินกับคุณพ่อ ตอนเด็ก ๆ  นั่งเรือยนตร์
จากกรุงเทพไปอยุธยา  ใช้เวลา 1 วันเต็มๆ เพราะเรือแล่นทวนน้ำ  วัดที่ไปทอดกฐิน  ถนนยังไปไม่ถึง  น่าจะเกิน 50 ปีมาแล้ว
มาทำความรู้จัก จังหวัด พระนครศรีอยุธยากันหน่อยค่ะ


จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

คำขวัญประจำจังหวัด : ราชธานีเก่า อู่ข้าวอู่น้ำ เลิศล้ำกานท์กวี คนดีศรีอยุธยา

ต้นไม้ประจำจังหวัด: หมัน

ดอกไม้ประจำจังหวัด: โสน


วัดที่พาไปเที่ยววันนี้  มีทั้งวัดที่เป็นโบราณสถาน  และวัดที่ได้บูรณะ เป็นวัดในปัจจุบันมีพระภิกษุสงฆ์จำวัด
ดูจากรูป  ก็พอจะเดาได้  พี่สาวไปมาแล้ว  น่าจะเกือบทุกวัดค่ะ  วัดไหนประทับใจพิเศษจะมีเกร็ดเพิ่มเติมค่ะ
ไปกันได้แล้ว ค่ะ
เม่าออกรถ



วัดมหาธาตุ เป็นศูนย์กลางทางศาสนาในกรุงศรีอยุธยา เพราะนอกจากเป็นที่ประดิษฐานพระสารีริกธาตุแล้ว
ยังเป็นที่พำนักของ สมเด็จพระสังฆราช ฝ่ายคามวาสีอีกด้วย  วัดนี้ว่า ได้ริเริ่มสร้างองค์พระมหาธาตุขึ้นในสมัยสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 1
(ขุนหลวงพะงั่ว) ต่อมาสมเด็จพระราเมศวรจึงทรงสร้างเพิ่มเติมจนเสร็จสิ้นเป็นพระอาราม และโปรดให้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ
มาบรรจุไว้ใต้ฐานพระปรางค์ประธานของวัดเมื่อ พ.ศ.1927  แล้วขนานนามว่า”วัดมหาธาตุ”



วัดพระศรีสรรเพชญ์ เป็นวัดสำคัญที่สุดในราชสำนักกรุงศรีอยุธยา อยู่ในเขตพระราชฐาน ใช้เป็นสถานประกอบ
ศาสนกิจของพระมหากษัตริย์ ประกอบพระราชพิธีสำคัญต่างๆ เช่น พระราชพิธีถือน้ำพิพัฒน์สัตยา และเป็นที่บรรจุพระบรมอัฐิของ
พระมหากษัตริย์อยุธยาเกือบทุกพระองค์ หากเป็นสมัยนี้ก็เปรียบได้กับวัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือวัดมหาธาตุแห่งกรุงสุโขทัย
วัดพระศรีสรรเพชญ์ อยู่ทางทิศเหนือของวิหารพระมงคลบพิตรในเขตอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ที่ตั้งของวัดเดิมเป็น
ที่ตั้งพระราชมณเฑียรอันเป็นที่ประทับของพระมหากษัตริย์ เมื่อพระบรมไตรโลกนาถโปรดให้ย้ายบรรดาพระราชมณเฑียรเลยขึ้น
ไปทางทิศเหนือ ต่อจากเขตวัดไปจนจรดริมแม่น้ำลพบุรีในปัจจุบัน จึงได้ทรงยกพื้นที่นี้ให้เป็นเขตพุทธาวาส เมื่อปี พ.ศ.1991


วัดภูเขาทองสมเด็จพระราเมศวร ทรงสร้าง เมื่อ พ.ศ. 1930เมื่อบุเรงนองยกมาตีกรุงศรีอยุธยาได้เมื่อ พ.ศ. 2112 นั้น
ได้สร้างพระเจดีย์ภูเขาทองขึ้นไว้เป็นที่ระลึก ต่อมาสมเด็จพระเจ้าบรมโกศ โปรดให้ซ่อมองค์พระเจดีย์ตอนบน เป็นแบบไทยพร้อม ๆ กัน
กับการบูรณะวัด



วัดมเหยงคณ์ มเหยงคณ์นี้ แปลว่าภูเขาเนินดิน เป็นอารามหลวงที่สร้างขึ้นในสมัยสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 2 (พระเจ้า

สามพระยา)
อันเป็นวัดที่สร้างถัดจาก วัดราชบูรณะ 14 ปี ในรัชสมัยเดียวกัน และวัดนี้นอกจากจะมีขนาดใหญ่โตกินบริเวณได้เท่ากับช้างล้อมรอบ
80 เชือกแล้ว หากแต่ยังมีโบสถ์อันโอ่งโถงที่จุพระสงฆ์ได้ราว 1,000 รูป  กลายเป็นวัดร้างไปภายหลังกรุงศรีอยุธยาแตกเมื่อ พ.ศ. ๒๓๑๐

-เป็นอีกวัดหนึ่งที่ไปแล้วไม่เคยผิดหวัง โบสถ์ที่แม้วันนี้ มีเพียงพื้น และเสา และกำแพง บางส่วน มีเพียงพระพุทธรูปและโต๊ะหมู่บูชาเล็กๆ
แต่เมื่อไปถึง ก็จะรำลึกได้ว่านี่คือโบสถ์  เงียบสงัด แม้จะมีคนไปกันหลายคน  มีโยมนั่งสมาธิในโบสถ์ประปราย  แนะนำเพื่อนไปหลาย
ทริป แล้ว  ประทับใจทุกคนค่ะ
เมื่อเด็ก ...อ่านนิตยสารรายเดือน "ชาวกรุง"  เล่าถึงวัดนี้ว่า  หากไปยามค่ำ อาจได้ยินเสียงมโหรีแว่วมาด้วย
....เม่าฝึกจิต



วัดมเหยงคณ์ในปัจจุบันเป็นอารามหลวงฝ่ายวิปัสสนาธุระคือวัดมเหยงคณ์ที่สร้างขึ้นใหม่ด้านในทิศตะวันออกถัดจากวัดเก่า

เข้าไปด้านใน
มีถนนเล็กๆเป็นเส้นแบ่งเขตระหว่างวัดเก่า-ใหม่ ซึ้งก่อนหน้านั้นเป็นที่รกร้างว่างเปล่าด้านทิศตะวันออกของวัดเก่า แต่เป็นชัยภูมิที่ดีมากๆ
เนื่องจาก อาณาเขตของวัด ทิศตะวันออก-เหนือ-ใต้ มีลำคลองสาธารณะล้อมรอบและอยู่ห่างไกลจากชุมชน จึงเงียบ สงบ เป็นส่วนตัว
เหมาะกับการปฏิบัติธรรมมาก จะพุกพล่านบ้างก็ช่วงวันหยุดต่อเนื่องและ เสาร์-อาทิตย์ จะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย-เทศเข้ามาเยี่ยมชม
สถานที่ ทั้งวัดเก่าและใหม่ ปะปราย ไม่รบกวนจนเกินไป

-ไปทำบุญถวายสังฆฑาณหลายครั้ง  เพราะเป็นสำนักปฏิบัติธรรมด้วย  เพื่อช่วยสืบทอดพระศาสนา  ศรัทธาในวัดและท่านเจ้าอาวาส

วัดไชยวัฒนาราม เป็นวัดที่พระเจ้าปราสาททอง โปรดให้สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2173 ได้ชื่อว่าเป็นวัดที่มีความงดงามมากแห่ง

หนึ่งใน
กรุงศรีอยุธยา ความสำคัญอีกประการหนึ่งคือ ในรัชสมัยของพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศวัดนี้ใช้เป็นที่ฝังพระศพของเจ้าฟ้าธรรมธิเบศร์
(เจ้าฟ้ากุ้ง) กวีเอกสมัยอยุธยาตอนปลาย ที่ถูกกล่าวโทษว่า เสด็จเข้ามาทำชู้กับเจ้าฟ้าสังวาลย์ในพระราชวังหลายครั้ง สืบสวนได้ความ
เป็นสัตย์จริง จึงลงพระราชอาญาเฆี่ยนทั้งสองพระองค์จนดับสูญแล้วนำศพไปฝังไว้ ณ วัดไชยวัฒนารามทั้งสองพระองค์

-เป็นวัดที่เป็นเพียงโบราณสถาน เคยไปงาน Concert in the Park ที่วัดนี้จำไม่ได้ใครจัด ได้ไปชมวัดยามเย็น  นั่ง

ทานอาหารค่ำริมแม่น้ำ
ก่อนจะไปฟัง Concert ....BSO  ประทับใจมาก  ไม่เคยเห็นจัดอีกเลย
อมยิ้ม21ฟิน



วัดใหญ่ชัยมงคล เมื่อปี พ.ศ. 2135 สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงเสริมพระเจดีย์ให้ ใหญ่และสูงขึ้นพร้อม ๆ กับการสร้าง
เจดีย์ยุทธหัตถีที่ตำบลหนองสาหร่าย จังหวัดสุพรรณบุรี เพื่อเฉลิมพระ เกียรติเมื่อคราวทรงชนะศึกยุทธหัตถี พระราชทานนาม
วัดใหม่ว่า"วัดชัยมงคล" ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็นวัดใหญ่ชัยมงคล

-นอกจากไปนมัสการหลวงพ่อพระประธาน แล้ว ก๋วยเตี๋ยวไก่  หน้าวัด อร่อยมาก ค่ะ ต้องเลือกเจ้าเก่า ด้วย



วัดหน้าพระเมรุ ตั้งอยู่ริมคลองสระบัวด้านทิศเหนือของคูเมือง (เดิมเป็นแม่น้ำลพบุรี)  ตรงข้ามกับพระราชวังหลวง
สร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนต้น พุทธศักราช 2046 มีชื่อเดิมว่า “วัดพระเมรุราชิการาม” ที่ตั้งของวัดนี้เดิมคงเป็นสถานที่สำหรับ
สร้างพระเมรุถวายพระเพลิงพระบรมศพของพระมหากษัตริย์พระองค์ใดพระองค์หนึ่งสมัยอยุธยาตอนต้นต่อมาจึงได้สร้างวัดขึ้น มีตำนาน
เล่าว่าพระองค์อินทร์ในรัชกาลสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 ทรงสร้างวัดนี้เมื่อ พ.ศ. 2046  พระประธานในอุโบสถสร้างปลายสมัยอยุธยาเป็น
พระพุทธรูปปางมารวิชัยหล่อด้วยทองสัมฤทธิ์ทรงเครื่องแบบกษัตราธิราช มีนามว่า “พระพุทธนิมิตวิชิตมารโมลีศรีสรรเพชญ์บรมไตรโลกนาถ”

จัดเป็นพระพุทธรูปทรงเครื่องสมัยอยุธยาที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่มีปรากฏอยู่ในปัจจุบันและมีความสมบูรณ์งดงามมากสูงประมาณ
6 เมตรหน้าตักกว้างประมาณ 4.40 เมตร วัดนี้มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ สมเด็จพระมหาจักรพรรดิเมื่อครั้งทำศึกกับพระเจ้าบุเรงนองได้มี

การทำสัญญาสงบศึกเมื่อ พ.ศ. 2106ได้สร้างพลับพลาที่ประทับขึ้นระหว่าง วัดหน้าพระเมรุกับวัดหัสดาวาส...วัดนี้เป็นวัดเพียงวัดเดียว ที่ไม่ถูก

พม่าเผาทำลายอย่างย่อยยับ ดังที่ทำกับ วัดอื่นๆ ทั้งนี้เป็นเพราะ วัดนี้เป็นที่ตั้งทัพของ  พระเจ้ากรุงหงสาวดี ที่ยึดเอาวัดนี้ เป็นที่มั่นเจาะเข้าไปยัง

พระบรมมหาราชวัง ซึ่งตั้งอยู่แค่ฝั่งตรงข้ามเท่านั้น

-ไปอยุธยาทุกครั้ง  ต้องไปวัดหน้าพระเมรุ  หลวงพ่อพระประธานในวัด ทรงเครื่องแบบกษัตราธิราช งามมากค่ะ  เป็นวัดที่ยังสมบูรณ์
เหมือนสมัยอยุธยา
เยี่ยม



วัดพนัญเชิงวรวิหารเป็นวัดที่มีมาก่อนการสร้างกรุงศรีอยุธยา ไม่ปรากฏหลักฐานว่าใครเป็นผู้สร้าง ตามพงศาวดารเหนือ

กล่าวว่า
พระเจ้าสายน้ำผึ้งซึ่งครองเมืองอโยธยาเป็นผู้สร้างขึ้นตรงที่พระราชทานเพลิงศพพระนางสร้อยดอกหมาก และพระราชทานนามวัดว่า
วัดพระเจ้าพระนางเชิง หรือ "วัดพระนางเชิง"ในพระวิหารเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปขนาดใหญ่ ตามพงศาวดารกล่าวว่าสร้างเมื่อ
พ.ศ.1867 เดิมชื่อ “พระพุทธเจ้าพนัญเชิง” แต่ในรัชกาลที่ 4 เมื่อมีการบูรณะปฏิสังขรณ์พระพุทธรูปองค์นี้ได้พระราชทานนามใหม่
ว่า “พระพุทธไตรรัตนนายก” (ชาวบ้านนิยมเรียกหลวงพ่อโต ชาวจีนนิยมเรียกว่าซำปอกง)เป็นพระพุทธรูปปูนปั้นปางมารวิชัยลงรัก
ปิดทอง มีขนาดหน้าตักกว้าง 14.10 เมตรและสูง 19 เมตรฝีมือปั้นงดงามมาก อาจนับได้ว่าเป็นพระพุทธรูปนั่งสมัยอยุธยาตอนต้นที่มี
ขนาดใหญ่มากที่สุดที่เหลืออยู่

-สมัยทำงาน ... เขาจัดสัมนาที่โรงแรมริมแม่น้ำฝั่งตรงข้ามวัด ...เพื่อนๆ ชวนกันนั่งเรือยนตร์ข้ามฟากไปไหว้พระ ตอนเช้า  โบสถ์เพิ่งเปิด
ไปวัดพนัญเชิงก็หลายครั้ง  ไม่เคยเจอได้ไปไหว้หลวงพ่อพระประธาน  ในสภาพที่โบสถ์มีคนไม่ถึง 10  คน  ได้ไปนั่งสวดมนต์ ทำสมาธิ
ประทับใจมาก ๆ ค่ะ น่าจะ ครั้งเดียว ในชีวิต ที่จะได้ประสบเหตุการณ์แบบนี้


-ใกล้ๆกรุงเทพแค่นี้เอง  เพื่อนๆคนไหนไปมาแล้ว  มาเล่าความประทับใจ  แลกเปลี่ยนกันก็ได้  ใครยังไม่เคยไปลองไปสักครั้งจะติดใจค่ะ
ครั้งหนึ่งเคยไปค้าง 1 คืน  แล้วอาหารมื้อเย็น  โรงแรมจัดรายการล่องเรือชมแม่น้ำยามค่ำ พร้อมอาหาร ราคาปกติ  ที่ให้สั่งก่อนลงเรือ
บวก ค่าล่องเรืออีกต่างหาก  มี จนท.จากพิพิธภัณสถาน ...มาเล่าประวัติ สถานที่ 2 ฝั่งแม่น้ำ  2 ชม.ผ่านไปแบบไม่รู้เบื่อ  อีก 1 ประทับใจค่ะ
อ้อ  เล่าต่อ  เช้าวันรุ่งขึ้น  เราก็ไปเที่ยว  unseen อยุธยา ตามที่ จนท.แนะนำเพิ่ม


บางครั้ง  ก็ไปเที่ยวกันไกลๆ จนลืมสถานที่น่าเที่ยว  ใกล้ ๆ ไปค้างคืน ได้เที่ยวทั่วทุกที่ และไม่เหนื่อยด้วยเยี่ยม

ฟังเพลงกันหน่อยนะคะ อมยิ้ม21อมยิ้ม21อมยิ้ม21

เพลงประจำจังหวัดอยุธยา
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
https://www.youtube.com/watch?v=q1JVTp1fK10

อยุธยาเมืองเก่า
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
https://www.youtube.com/watch?v=6jxNOeklLYM

สาวแว่น
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 19
สวัสดีค่ะ MC พี่สาว และเพื่อนๆ ทุกคน

ดีจังเลยวันนี้พี่สาวพาเที่ยวอยุธยา มีวัดเยอะและมีวิถีชีวิตที่น่าประทับใจ เพิ่งทราบจากพี่สาวว่าได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกด้วย

เพื่อให้เข้ากับหัวกระทู้วันนี้ เปิดเพลงนี้ก่อน


สาวผักไห่
- ก๊อต จักรพรรณ์

...โอกาสหน้าเข้าพรรษาเทศกาล
จงคอยพี่ก่อนไม่นานพี่กลับบ้านกรุงไกร
พี่คนบางกอกไม่เคยคิดหลอกดั่งคำใคร
ก็เพราะพี่รักปักใจ แม่สาวผักไห่อยุธยา

https://www.youtube.com/watch?v=KEzj3meLl7E
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 14
แจมด้วยเพลงเก่ามากๆๆ แต่เพราะๆและขำๆๆดีครับ

"Love Potion Number"
THE SEARCHERS


I took my troubles down to Madame Ruth
You know that gypsy with the gold-capped tooth
She's got a pad down on Thirty-Fourth and Vine
Sellin' little bottles of Love Potion Number Nine

I told her that I was a flop with chicks
I'd been this way since 1956
She looked at my palm and she made a magic sign
She said, "What you need is Love Potion Number Nine"

She bent down and turned around and gave me a wink
She said, "I'm gonna make it up right here in the sink"
It smelled like turpentine, it looked like India ink
I held my nose, I closed my eyes, I took a drink

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

เป็นเพลงขำๆแต่เกี่ยวพันกับเรื่องลึกลับของยาเสน่ห์
ไม่มีภาพยาเสน่ห์มาแจมหรอกครับ เลยเอาภาพที่ดู
ลึกลับของอวกาศมาแจมแทน จากนิทรรศการนาซ่าเมื่อปีที่แล้ว




ความคิดเห็นที่ 35
เมื่อวันที่ 4 ม.ค.53 หรือ6ปีที่แล้ว วงการร็อคเมืองไทยได้สูญเสียบุคลากรคนนึงไป
ไม่ใช่นักร้อง นักดนตรี แต่เป็นคนขายเทปเพลงคนนึง ที่ส้มได้อาศัยพึ่งพาหาเพลงวงโปรด และวงหายากมาฟังเสมอๆ
คือ เจ๊จู หรือที่รู้จักกันในชื่อ ร้านเจยู พันทิพย์ คาดว่าเพื่อนๆหลายคนในที่นี้คงพอรู้จัก
แผงขายเทปของเจ๊จู จะมีเอกลักษณ์พิเศษไม่เหมือนใคร คือเจ๊จะเอาวงเดียวกันมาแปะเทปไว้ด้วยกัน(กล่องเปล่า)
ดึงขึ้นมาจะติดกันเป็นตับ และร้านเจ๊จะพิเศษคือ ขอลองฟังได้ทุกม้วน ไม่โดนก็ไม่ต้องซื้อ
วงไหนดีเจ๊ก็บอกดี ไม่ดีเจ๊ก็บอกไม่ดี
ชอบวงไหนแนวร็อคเจ๊มีทุกวง แถมยังค้นฟังอัลบั้มเก่าๆได้อีก ไม่ได้มีขายเฉพาะอัลบั้มใหม่
RIP ค่ะ เจ๊จู เจ๊ยังคงอยู่ในใจคอร็อคตลอดไป

ขอฝากนี้ให้เจ๊จูค่ะ I Miss You จาก  Avril Lavigne  https://www.youtube.com/watch?v=x-L_x88POBo
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
ความคิดเห็นที่ 3
มาทำงานวันแรกหัวฟูเลยครับ






พ.ศ. 2351 (ค.ศ. 1809) - หลุยส์ เบรลล์ ครูตาบอดชาวฝรั่งเศส
Credit:
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

หลุยส์ เบรลล์ หรือ ลูย บราย (ฝรั่งเศส: Louis Braille เสียงอ่านภาษาฝรั่งเศส: [lwi bʁɑj]) (เกิดวันที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2352 (ค.ศ. 1809) ที่เมือง Coupvray ประเทศฝรั่งเศส) ครูตาบอดชาวฝรั่งเศส โดยเมื่อปี พ.ศ. 2372 สำนักงานสำมะโนประชากรฝรั่งเศสขึ้นบัญชีชื่อของเขา เป็นผู้ไม่รู้หนังสือแต่ในปีนั้นเขาเพิ่งจะตีพิมพ์ผลงานว่าด้วยเรื่อง "ภาษาใหม่" ผู้ประดิษฐ์อักษรเบรลล์สำหรับคนตาบอดอ่าน โดยใช้นิ้วมือสัมผัส เขาได้ความคิดมาจากการส่งข่าวสารทางทหาร ในเวลากลางคืนของกัปตันชาร์ลส์ บาร์บิเอร์ ซึ่งใช้กระดาษแข็งปั๊มเป็นรหัสจุด-ขีด โดยพัฒนามาเป็นระบบ 6 จุด ซึ่งสามารถจัดกลุ่มของจุดได้ถึง 63 แบบ ใช้แทนอักษรตาดี

Young Heroes: Louis Braille (accessible preview with captions)
Credit: https://www.youtube.com/watch?v=LxxViZxMaC4
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่