นอกจากโปรตีนแล้ว วิตามินซี ยังมีส่วนสำคัญในกระบวนการเสริมสร้างคอลลาเจน และอีลาสติน ทำให้ผิวมีความยืดหยุ่นไม่แก่ก่อนวัย
อีกทั้งยังเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพที่ดีตัวหนึ่ง คนรักสุขภาพ หรือคนที่อยากมีความหนุ่มสาวไปได้นานๆ มักเลือกใช้กัน
ซึ่งผมก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับวิตามินซีนี้ โดยผมเลือกใช้ของ Nat-C 1000mg. รับประทานทุกวันๆละ 1 เม็ด(จะหักครึ่ง
แบ่งเช้า-เย็น) แต่ผมไม่ทราบเลยว่า ที่ผ่านมานั้น ผมใช้ในปริมาณที่มากเกินไป นั่นคือ 1000mg./วัน เป็นระยะสิบกว่าปี (เริ่มใช้แบบจริง
จังตั้งแต่อายุ 20-21ปีแล้ว) แต่เปลี่ยนยีห้อไปเรื่อยๆตามช่วงเวลา แต่ปริมาณจะรับอยู่ในระดับไม่น้อยกว่า 1000mg. มาโดยตลอด และ
ผมเชื่อว่า หลายๆคนที่ใช้วิตามินซีนี้(ไม่ใช่แบบหวานใช้อมเหมือนลูกอม) ส่วนใหญ่ก็มักจะใช้ในปริมาณใกล้เคียงกับผมนี้เช่นกัน แต่ผม
ไม่ทราบเลยว่า การที่ผมรับวิตามินซีที่ผ่านมาตลอดระยะเวลาสิบกว่าปีมานี้ ผมได้ทำร้าย "ไต" อย่างผมไปด้วยโดยไม่รู้ตัวมาก่อนเลย
ผมได้ทราบข้อมูลผู้ป่วยโรคไตที่มีอัตราการเพิ่มขึ้นในระดับสูงขึ้นมาก ซึ่งเมื่อได้ยินคำว่าโรคไต หลายๆคนก็นึกถึงเพียงแค่การบริโภค
ของเค็มโดยส่วนใหญ่ ผมเองก็เช่นกัน ที่สนใจแต่ในเรื่องของเค็ม เลี่ยงได้ก็พยายามเลี่ยง เพื่อถนอมไตให้ใช้ได้นานๆ ไม่เสื่อมก่อนวัย
แต่ไม่คาดคิดเลยว่า การรับวิตามินซีในปริมาณที่สูงกว่า 100-500mg. ก็ไม่ต่างอะไรกับการที่เรากินเกลือในปริมาณมากๆ ที่เราพยายาม
เลี่ยงมาตลอด เพราะเป็นสาเหตุของการเกิดโรคไตได้เช่นเดียวกัน ไม่แตกต่างกันเลย ผมจึงนำมาเตือนเพื่อนๆ สมาชิกในที่นี้ด้วยครับ
ว่าให้ลดปริมาณให้น้อยลง ทุกของมีดีย่อมมีโทษอยู่ในตัวเอง หากใช้ในปริมาณที่มากเกินไป เดินทางสายกลางดีที่สุด เมื่อผมเพิ่งได้
ทราบว่าวิตามินซี หากรับเข้าร่างกายมากเกินไป ก็ทำให้เป็นโรคไตได้ด้วย รู้สึกแย่มากเลยครับ ทั้งๆที่เรื่องไต ผมให้ความสำคัญกับมัน
ไม่น้อยเช่นกัน เพราะคือพลังของชีวิตเลยก็ว่าได้ ไตทำงานดี ชีวิตก็ดี ถ้าไตเสื่อมเมือไหร่ พลังงานชีวิตจะลดลงทันที ความอ่อนเพลีย
จะเข้ามาแทนที่ เลี่ยงของเค็ม ของหมักดอง น้ำอัดลม ฯลฯ แต่เพิ่งมารู้ว่า ทำร้ายไตตัวเองทุกเช้า-เย็นด้วยวิตามินซี ย้อนเวลาไปก็ไม่ได้
แล้วนะครับ ไม่รู้ว่าไตเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้ คงจะหาโอกาสไปตรวจเร็วๆนี้ครับ ระวังในการใช้กันหน่อยนะครับ อย่าใช้เกินเหมือนผมที่ผ่านมา
เตือนกันหน่อย สำหรับผู้ที่กลัวแก่ แล้วทานผลิตภัณฑ์อาหารเสริมวิตามินซีอยู่ทุกวัน
อีกทั้งยังเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพที่ดีตัวหนึ่ง คนรักสุขภาพ หรือคนที่อยากมีความหนุ่มสาวไปได้นานๆ มักเลือกใช้กัน
ซึ่งผมก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับวิตามินซีนี้ โดยผมเลือกใช้ของ Nat-C 1000mg. รับประทานทุกวันๆละ 1 เม็ด(จะหักครึ่ง
แบ่งเช้า-เย็น) แต่ผมไม่ทราบเลยว่า ที่ผ่านมานั้น ผมใช้ในปริมาณที่มากเกินไป นั่นคือ 1000mg./วัน เป็นระยะสิบกว่าปี (เริ่มใช้แบบจริง
จังตั้งแต่อายุ 20-21ปีแล้ว) แต่เปลี่ยนยีห้อไปเรื่อยๆตามช่วงเวลา แต่ปริมาณจะรับอยู่ในระดับไม่น้อยกว่า 1000mg. มาโดยตลอด และ
ผมเชื่อว่า หลายๆคนที่ใช้วิตามินซีนี้(ไม่ใช่แบบหวานใช้อมเหมือนลูกอม) ส่วนใหญ่ก็มักจะใช้ในปริมาณใกล้เคียงกับผมนี้เช่นกัน แต่ผม
ไม่ทราบเลยว่า การที่ผมรับวิตามินซีที่ผ่านมาตลอดระยะเวลาสิบกว่าปีมานี้ ผมได้ทำร้าย "ไต" อย่างผมไปด้วยโดยไม่รู้ตัวมาก่อนเลย
ผมได้ทราบข้อมูลผู้ป่วยโรคไตที่มีอัตราการเพิ่มขึ้นในระดับสูงขึ้นมาก ซึ่งเมื่อได้ยินคำว่าโรคไต หลายๆคนก็นึกถึงเพียงแค่การบริโภค
ของเค็มโดยส่วนใหญ่ ผมเองก็เช่นกัน ที่สนใจแต่ในเรื่องของเค็ม เลี่ยงได้ก็พยายามเลี่ยง เพื่อถนอมไตให้ใช้ได้นานๆ ไม่เสื่อมก่อนวัย
แต่ไม่คาดคิดเลยว่า การรับวิตามินซีในปริมาณที่สูงกว่า 100-500mg. ก็ไม่ต่างอะไรกับการที่เรากินเกลือในปริมาณมากๆ ที่เราพยายาม
เลี่ยงมาตลอด เพราะเป็นสาเหตุของการเกิดโรคไตได้เช่นเดียวกัน ไม่แตกต่างกันเลย ผมจึงนำมาเตือนเพื่อนๆ สมาชิกในที่นี้ด้วยครับ
ว่าให้ลดปริมาณให้น้อยลง ทุกของมีดีย่อมมีโทษอยู่ในตัวเอง หากใช้ในปริมาณที่มากเกินไป เดินทางสายกลางดีที่สุด เมื่อผมเพิ่งได้
ทราบว่าวิตามินซี หากรับเข้าร่างกายมากเกินไป ก็ทำให้เป็นโรคไตได้ด้วย รู้สึกแย่มากเลยครับ ทั้งๆที่เรื่องไต ผมให้ความสำคัญกับมัน
ไม่น้อยเช่นกัน เพราะคือพลังของชีวิตเลยก็ว่าได้ ไตทำงานดี ชีวิตก็ดี ถ้าไตเสื่อมเมือไหร่ พลังงานชีวิตจะลดลงทันที ความอ่อนเพลีย
จะเข้ามาแทนที่ เลี่ยงของเค็ม ของหมักดอง น้ำอัดลม ฯลฯ แต่เพิ่งมารู้ว่า ทำร้ายไตตัวเองทุกเช้า-เย็นด้วยวิตามินซี ย้อนเวลาไปก็ไม่ได้
แล้วนะครับ ไม่รู้ว่าไตเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้ คงจะหาโอกาสไปตรวจเร็วๆนี้ครับ ระวังในการใช้กันหน่อยนะครับ อย่าใช้เกินเหมือนผมที่ผ่านมา