คือว่าผมจะหารถเก๋งไว้ขี่สักคัน เพราะตอนนี้ใช้ไมตี้เอ๊กซ์ตอนครึ่ง มา19 ปีเต็มๆ เพราะหลังจากผ่อนเจ้าไมตี้เสร็จฐานะของครอบครัวก็ไม่อำนวยเพราะลูกๆเริ่มเรียนหนัก ตอนนี้ลูกๆ ก็จบออกจากบ้านไปทำงานกันหมด อยู่กับคนแก่ที่บ้านกันแค่2คนเลยน่าจะพอมีปัญญาซื้อรถใหม่อีกครั้ง รถเก๋งที่เล็งไว้ก็ MG3 ละครับ แต่เท่าที่ดูๆอ่านๆ ในพันทิพย์ รู้สึกว่าสมาชิกทักท้วงกันจังเรื่องเป็นห่วงเรื่องการบริการหลังการขาย เลยสงสัยนิดหนึ่งเรื่องการบริการหลังการขาย เพราะห่างเหินเรื่องรถใหม่มาเสียนาน แต่นึกถึงตอนซื้อรถคันแรกเมื่อ ปี 2527 ซึ่งรถกระบะดีเซลออกมาใหม่ๆ เพราะก่อนนั้นรถกระบะจะใช้แต่เครื่องเบนซิน รู้สึกว่าจะมีแต่ “ดัทสัน” ทำออกเป็นรายแรก เลยออกรถดันสันโปรเฟสชันนอล มาคันหนึ่ง ตอนออกก็หวั่นๆ เหมือนกัน แต่แล้วก็ผ่านไปจนใช้งานได้ 10 ปีก็ขายต่อ ตลอดเวลา 10 ปีที่ใช้งานก็ไม่เคยเข้าศูนย์บริการ เพราะบอกตรงๆ ค่าบริการศูนย์กับอู่หรือคาแคร์มันต่างกันจนรับไม่ได้ และ ปี 36 ไมตี้เอ็กออกมาใหม่ในตลาด ก็ซื้อมาใช้งานจนปัจจุบัน ก็ไม่เคยเข้าศูนย์บริการ พาไปจะเข้าศูนย์ครั้งหนึ่งตอน 1 แสน กม. เพราะต้องเปลี่ยนสายพานไทม์มิ่งเห็นว่าเป็นอะไหล่ที่สำคัญขาดไม่ได้เครื่องจะพังทันที  มันประเมินราคา 11,000 บาท ในสมัยนั้น(ราคารถใหม่ 2.75 แสน) นะ เลยพาออกกลับมาให้อู่จัดการ ประมาณ 3 พัน เลยตั้งแต่นั้นมาก็เลยไม่เคยเหยียบกันเลยกับศูนย์บริการ ใช้แต่ อู่ กับคาแคร์ มาตลอด และนอกจาก2คันที่ว่า ก็ซื้อมือสอง ใช้คู่กันมาด้วย มิตชูไซโคลน , ฟอร์ดแรงเจอร์และ โคโรล่า 3 ห่วง เรียกว่าตลอด 30 กว่าปีที่ใช้รถมา ไม่เคยเข้าศูนย์ บริการเลย ก็ไม่เคยมีปัญหาอะไร และราคาถ้าจะขายต่อก็คิดว่าไม่ห่างกันกับรถที่เขาเข้าศูนย์ประจำ ตอนนี้เลยสงสัยว่ารถ MG นี่เขาพิสดาร อะไรเหรอ ที่ช่างไทยจะซ่อมไม่ได้ และดูเหมือนว่าเขาจะประกันสินค้าไว้ถึง 1.2 แสน กม.ด้วยนะในกรณีที่ปัญหาจริงๆ แต่ผมเชื่อนิสัยของพ่อค้าไทย พอรถเข้าตลาด อุปกรณ์จำพวกพวกบำรุงรักษา เช่น กรองมันเครื่อง กรองอากาศ มันจะมีของเทียบให้เลือกหาที่ร้านอะไหล่ในเวลาไม่เกินอึดใจรอ