สวัสดีสมาชิกทุกท่านครับ
กระทู้ก่อน เคยชวนคุยเรื่องมอไซค์ วันนี้ได้หยุดปีใหม่แล้ว พอมีเวลานั่งพิมพ์กระทู้ ขอชวนเพื่อนๆคุยถึงรถที่ตัวเองเคยใช้งานมา
ว่าชอบไม่ชอบ กันยังไง คุยกันสนุกๆไม่ต้องลงลายระเอียดละกันเนาะ เชิญเพื่อนๆทุกคนต่อในคอมเม้นได้เลยนะครับ
ปล.รถในส่วนที่ผมได้ใช้และกล่าวถึงเป็นรถที่ได้ใช้งาน ได้ครอบครองจริงๆครับ รถกระบะ จะเป็นของผม ส่วนรถเก๋งเป็นของภรรยา
ส่วนการดูแลรักษาผมเป็นคนจัดการทั้งหมดครับ ซึ่งเข้าศูนย์เป็นหลักครับ มีนอกศูนย์บ้างคือ ยาง, เบรก
บางคันไม่มีรูป อาจจะใช้รูปจากเน็ต ผมจะลงกำกับไว้นะครับ
ตัวผมจริงๆไม่ได้ชอบกระบะ อะไรเป็นพิเศษครับ แต่งานดอิเรก คือจักรยาน Downhill และ การขี่มอไซค์ในสนามปิด ทำให้จำเป็นต้องใช้กระบะ
คันแรก Nissan Navara D40 King cap 6MT ซื้อมือหนึ่งปี 2009
รถคันแรกในชีวิตครับ พักอยู่ชาญเมืองเลยยังคิดว่า MT ยังไหว(ตอนนี้อายุ 30 ต้นๆ) มาวันหนึ่งได้ขับกลับ ตจว.วันหยุดยาว
6ชั่วโมงพึ่งถึงสระบุรี ถึงกับปวดขากับการเหยียบคัตช์เลี้ยวกลับบ้าน กทม เลยครับ ด่าตัวเองไปทีว่าทำไมไม่เพิ่มอีก 70,000 เอา AT >_<"
สิ่งที่พอใจ
รถคันนี้ค่อนข้างพอใจในเรื่องการทรงตัว, เบรก, อ้ตราเร่งค่อนข้างดีมากครับ ไม่จุกจิก
เคยโดนเก๋งแต่งชนท้ายครั้งหนึ่ง เบาๆ กันชนท้ายรถผมมีแค่สีติดอยู่ แต่คันที่มาชน กันชนกองที่พื้น
สิ่งที่ไม่พอใจ คือ ภายในสีครีม, สีน้ำตาล มันดูไม่ดุดัน และศูนย์บริการ บางทีก็ไม่ไหวจะเคลีย
การซ่อมแซม อะไหล่ที่นอกเหนือจากการเช็คระยะ มี ลูกปืนยอยเพลากลาง เสียตอน 150,000 km รายการนี้มีดราม่ากับศูนย์
คือ เปลี่ยนลูกปืนประกอบ เพลากลางกลับแล้วสั่น เอากลับไปแก้ ไปโทษว่าโช้คเสีย ยางเสีย นั่นๆนี่ ผมแย้งไปว่าเพลากลางไม่ได้ถ่วงมา
ก็ไม่เชื่อ ลองเปลี่ยนโช้ค เปลี่ยนยางหลัง ก็ไม่หาย สุดท้ายถอดเพาลางไปถ่วง หายสนิท แน่นอน ผมให้ศูนย์ถอดยางกับโช้คคืน(ตกลงไว้ก่อนลองเปลี่ยน)
อีกรายการคือ แร็คทั้งเส้น รั่วและ หลวมตอน 180,000km จับเปลี่ยนแร็คแท้ทั้งเส้น แล้วเอารถกลับไปให้ที่ ตจว ใช้งานต่อรวมเวลาที่อยู่กับผม
ใช้งานไป 11ปี 180,000 km อัตราการสิ้นเปลืองวัดคราวๆนะครับ ในเมือง 9-10km/l , เดือนทางไกลได้ราวๆ 11-13km/l ครับ
คันที่สอง D-max 2.5 vgs z-prestige Hi-lander AT Model ปี2012
กระบะคันที่สองพอดีรถญาติจะขาย ประกอบกับอยากเปลี่ยนเป็นรถเกียร์ออโต้ เลยซื้อต่อมาครับ
ตอนที่รับมาปี 2020 (ระยะทาง78,000km) ใช้ไปถึงปี 2024 วิ่งถึง 113,000km เวลาที่ไมใช้ไป 4ปี ระยะทาง 35,000km
คันนี้ขอพูดถึงสิ่งที่ไม่ชอบก่อนละกันครับ
รถนิ่ม ย้วย ย้วยยังคันเร่ง แรกๆออกจากซอย ไม่ชินจังหวะคันเร่งเกือบโดนชนไปสองครั้ง รับกับควมย้วยไม่ได้จริงๆ
ส่วนของคันเร่ง ใส่กล่องคันเร่ง ดีขึ้นนิดหน่อย แต่ไปเสียการควบคุมช่วงกลางคั่นเร่งซะงั้น เลยปรับที่คนขับละกัน >_<"
แหนบหลังชอบแตกแถว เข้าศูนย์ช่างก็เดินมาเอาฆ้อนปอนด์หวดเข้าที่ ออกไปใช้ไม่ถึง100km ก็เป็นอีก เลยช่างมันคง
ที่สำคัญ วิ่งบูรภาวิถี หรือ มอเตอร์เวย์ ถ้ามีลมพัดเฉียงมาจะเกิดเสียงวู้ววววดังที่แถวๆใบปัดน้ำฝนด้านซ้ายค่อนข้างที่จะทำลายสมาธิการขับรถพอสมควร
การซ่อมแซม อะไหล่ที่นอกเหนือจากการเช็คระยะคือ กระจกมองข้างเฟืองรูด(รื้อจะเปลี่ยนเฟือง แต่ ซีลกันน้ำกรอบ เลยต้องเปลี่ยนทั้งชุดกระจก)
ผ้าเบรคหน้าครับ ของติดรถมา ผุ ร่อนแล้ว เบรกเสียงดัง ตั้งแต่ปีแรกที่ได้รถมา
และมีแกนกลางเทอร์โบรั่ว น้ำมันเครื่องเยิ้ม ควันเริ่มขาว (Navara เกือบสองแสนกม. ยังไม่เป็นไรแฮะ)
คันนี้มีประวิติการเช็คระยะจากเจ้าของ ย้อนกลับไปดูพบว่าใช้กึ่งสังเคราะห์มาโดยตลอด รวมทั้ง กรองอากาศ กรองน้ำมันเครื่อง กรองดีเซล
จะเป็นอะไหล่เกรดทดแทน ไม่ใช่ของ Original จาก Isuzu Motors ทุกครั้งที่เข้าศูนย์ จะเสนอด้วยอะไหล่แบบนี้ครับ
พอถึงตอนที่ผมเข้ารับบริการ ผมเลยสั่งให้ใช้ของ Isuzu Motors ทั้งหมด รวมถึงน้ำมันเครื่องเปลี่ยนเป็นสังเคราะห์
ก็เป็นอีกข้อสังเกตุนะครับ ไม่รู้ว่ามันจะเกี่ยวกันไหมกับการรั่วของเทอร์โบ
คันนี้เนื่องจากทำยังไงก็ขับไม่ชินสักที มีโอกาศเห็นมือสองรุ่นที่เล็งไว้ ไมล์น้อย สภาพดี เลยเอาไปเทิร์นคือคันถัดไปครับ
สิ่งที่ชอบ
คันนี้เรียนตามตรงว่าใม่ค่อยประทับใจครับ มีแค่ความประหยัด อัตราการสิ้นเปลืองวัดคราวๆนะครับ ในเมือง 11-12km/l ,
เดือนทางไกลได้ราวๆ 13-14km/l ครับ
คันที่สาม Nissan Navara Pro 2X รถโมเดล 2020 ซื้อจดทะเบียนปี 2022 ไมล์ตอนที่ผมซื้อมา 28700km
ด้วยความที่ติดใจ Nissan เลยเอาวะ กลับมานิสสันละกัน หาอยู่สักพักเจอคันนี้อยู่ที่ทางผ่านที่จะไปเที่ยว เลยแวะไปดู
รถสภาพสวยมาก สีไม่ได้เก็บมาเลย ร่องรอยขูดขีดจากเจ้าของเดิมยังอยู่ ภายในเนี๊ยมาก ช่วงล่าง ดูหลายๆจุดมั่นใจเลยมัดจำทันที
อาทิตย์ถัดมาก็ทำเรื่องเอา D-Max เทิร์น จ่ายส่วนต่างเงินสด รับรถกลับบ้าน ใช้งานมาได้ราวๆ 1 อาทิตย์ถ้วนครับ
สิ่งที่ชอบ
คันนี้ บาลานซ์ของราคา กับสภาพรถ รวมถึงสมรรถนะ โอเคเลยครับ ทั้งช่วงล่าง การทรงตัว ภายใน ดีถูกใจมาก
ระบบช่วยเหลือ ทัศนวิสัย ความเงียบของห้องโดยสาร ดีกว่า D-Max , D40 เยอะ (รถคนละยุคกันมันก็ควรจะเป็นแบบนี้เนาะ)
หน้าตาดุดันถูกใจมาก
สิ่งที่ไม่ชอบ
พักเท้าข้างซ้าย เตี้ยมาก เวลาเข้าโค้ง ไม่ถนัด เอาซะเลยครับ
อัตราการสิ้นเปลืองวัดคราวๆนะครับ ในเมือง 13-14km/l ,เดือนทางไกลได้ราวๆ 14-17km/l ครับ(วิ่งมอเตอร์เวย์ไปบางแสน)
ของกระบะ มีเท่านี้ครับ เดี๋ยวมาต่อรถเก๋งของ ภรรยา ในคอมเม้นต์นะครับ
#### ชวนคุย, พุด, เล่าถึงรถที่สมาชิกทุกคนเคยใช้มา จนถึงคันที่ใช้อยู่กันครับ ####
กระทู้ก่อน เคยชวนคุยเรื่องมอไซค์ วันนี้ได้หยุดปีใหม่แล้ว พอมีเวลานั่งพิมพ์กระทู้ ขอชวนเพื่อนๆคุยถึงรถที่ตัวเองเคยใช้งานมา
ว่าชอบไม่ชอบ กันยังไง คุยกันสนุกๆไม่ต้องลงลายระเอียดละกันเนาะ เชิญเพื่อนๆทุกคนต่อในคอมเม้นได้เลยนะครับ
ปล.รถในส่วนที่ผมได้ใช้และกล่าวถึงเป็นรถที่ได้ใช้งาน ได้ครอบครองจริงๆครับ รถกระบะ จะเป็นของผม ส่วนรถเก๋งเป็นของภรรยา
ส่วนการดูแลรักษาผมเป็นคนจัดการทั้งหมดครับ ซึ่งเข้าศูนย์เป็นหลักครับ มีนอกศูนย์บ้างคือ ยาง, เบรก
บางคันไม่มีรูป อาจจะใช้รูปจากเน็ต ผมจะลงกำกับไว้นะครับ
ตัวผมจริงๆไม่ได้ชอบกระบะ อะไรเป็นพิเศษครับ แต่งานดอิเรก คือจักรยาน Downhill และ การขี่มอไซค์ในสนามปิด ทำให้จำเป็นต้องใช้กระบะ
คันแรก Nissan Navara D40 King cap 6MT ซื้อมือหนึ่งปี 2009
รถคันแรกในชีวิตครับ พักอยู่ชาญเมืองเลยยังคิดว่า MT ยังไหว(ตอนนี้อายุ 30 ต้นๆ) มาวันหนึ่งได้ขับกลับ ตจว.วันหยุดยาว
6ชั่วโมงพึ่งถึงสระบุรี ถึงกับปวดขากับการเหยียบคัตช์เลี้ยวกลับบ้าน กทม เลยครับ ด่าตัวเองไปทีว่าทำไมไม่เพิ่มอีก 70,000 เอา AT >_<"
สิ่งที่พอใจ
รถคันนี้ค่อนข้างพอใจในเรื่องการทรงตัว, เบรก, อ้ตราเร่งค่อนข้างดีมากครับ ไม่จุกจิก
เคยโดนเก๋งแต่งชนท้ายครั้งหนึ่ง เบาๆ กันชนท้ายรถผมมีแค่สีติดอยู่ แต่คันที่มาชน กันชนกองที่พื้น
สิ่งที่ไม่พอใจ คือ ภายในสีครีม, สีน้ำตาล มันดูไม่ดุดัน และศูนย์บริการ บางทีก็ไม่ไหวจะเคลีย
การซ่อมแซม อะไหล่ที่นอกเหนือจากการเช็คระยะ มี ลูกปืนยอยเพลากลาง เสียตอน 150,000 km รายการนี้มีดราม่ากับศูนย์
คือ เปลี่ยนลูกปืนประกอบ เพลากลางกลับแล้วสั่น เอากลับไปแก้ ไปโทษว่าโช้คเสีย ยางเสีย นั่นๆนี่ ผมแย้งไปว่าเพลากลางไม่ได้ถ่วงมา
ก็ไม่เชื่อ ลองเปลี่ยนโช้ค เปลี่ยนยางหลัง ก็ไม่หาย สุดท้ายถอดเพาลางไปถ่วง หายสนิท แน่นอน ผมให้ศูนย์ถอดยางกับโช้คคืน(ตกลงไว้ก่อนลองเปลี่ยน)
อีกรายการคือ แร็คทั้งเส้น รั่วและ หลวมตอน 180,000km จับเปลี่ยนแร็คแท้ทั้งเส้น แล้วเอารถกลับไปให้ที่ ตจว ใช้งานต่อรวมเวลาที่อยู่กับผม
ใช้งานไป 11ปี 180,000 km อัตราการสิ้นเปลืองวัดคราวๆนะครับ ในเมือง 9-10km/l , เดือนทางไกลได้ราวๆ 11-13km/l ครับ
คันที่สอง D-max 2.5 vgs z-prestige Hi-lander AT Model ปี2012
กระบะคันที่สองพอดีรถญาติจะขาย ประกอบกับอยากเปลี่ยนเป็นรถเกียร์ออโต้ เลยซื้อต่อมาครับ
ตอนที่รับมาปี 2020 (ระยะทาง78,000km) ใช้ไปถึงปี 2024 วิ่งถึง 113,000km เวลาที่ไมใช้ไป 4ปี ระยะทาง 35,000km
คันนี้ขอพูดถึงสิ่งที่ไม่ชอบก่อนละกันครับ
รถนิ่ม ย้วย ย้วยยังคันเร่ง แรกๆออกจากซอย ไม่ชินจังหวะคันเร่งเกือบโดนชนไปสองครั้ง รับกับควมย้วยไม่ได้จริงๆ
ส่วนของคันเร่ง ใส่กล่องคันเร่ง ดีขึ้นนิดหน่อย แต่ไปเสียการควบคุมช่วงกลางคั่นเร่งซะงั้น เลยปรับที่คนขับละกัน >_<"
แหนบหลังชอบแตกแถว เข้าศูนย์ช่างก็เดินมาเอาฆ้อนปอนด์หวดเข้าที่ ออกไปใช้ไม่ถึง100km ก็เป็นอีก เลยช่างมันคง
ที่สำคัญ วิ่งบูรภาวิถี หรือ มอเตอร์เวย์ ถ้ามีลมพัดเฉียงมาจะเกิดเสียงวู้ววววดังที่แถวๆใบปัดน้ำฝนด้านซ้ายค่อนข้างที่จะทำลายสมาธิการขับรถพอสมควร
การซ่อมแซม อะไหล่ที่นอกเหนือจากการเช็คระยะคือ กระจกมองข้างเฟืองรูด(รื้อจะเปลี่ยนเฟือง แต่ ซีลกันน้ำกรอบ เลยต้องเปลี่ยนทั้งชุดกระจก)
ผ้าเบรคหน้าครับ ของติดรถมา ผุ ร่อนแล้ว เบรกเสียงดัง ตั้งแต่ปีแรกที่ได้รถมา
และมีแกนกลางเทอร์โบรั่ว น้ำมันเครื่องเยิ้ม ควันเริ่มขาว (Navara เกือบสองแสนกม. ยังไม่เป็นไรแฮะ)
คันนี้มีประวิติการเช็คระยะจากเจ้าของ ย้อนกลับไปดูพบว่าใช้กึ่งสังเคราะห์มาโดยตลอด รวมทั้ง กรองอากาศ กรองน้ำมันเครื่อง กรองดีเซล
จะเป็นอะไหล่เกรดทดแทน ไม่ใช่ของ Original จาก Isuzu Motors ทุกครั้งที่เข้าศูนย์ จะเสนอด้วยอะไหล่แบบนี้ครับ
พอถึงตอนที่ผมเข้ารับบริการ ผมเลยสั่งให้ใช้ของ Isuzu Motors ทั้งหมด รวมถึงน้ำมันเครื่องเปลี่ยนเป็นสังเคราะห์
ก็เป็นอีกข้อสังเกตุนะครับ ไม่รู้ว่ามันจะเกี่ยวกันไหมกับการรั่วของเทอร์โบ
คันนี้เนื่องจากทำยังไงก็ขับไม่ชินสักที มีโอกาศเห็นมือสองรุ่นที่เล็งไว้ ไมล์น้อย สภาพดี เลยเอาไปเทิร์นคือคันถัดไปครับ
สิ่งที่ชอบ
คันนี้เรียนตามตรงว่าใม่ค่อยประทับใจครับ มีแค่ความประหยัด อัตราการสิ้นเปลืองวัดคราวๆนะครับ ในเมือง 11-12km/l ,
เดือนทางไกลได้ราวๆ 13-14km/l ครับ
คันที่สาม Nissan Navara Pro 2X รถโมเดล 2020 ซื้อจดทะเบียนปี 2022 ไมล์ตอนที่ผมซื้อมา 28700km
ด้วยความที่ติดใจ Nissan เลยเอาวะ กลับมานิสสันละกัน หาอยู่สักพักเจอคันนี้อยู่ที่ทางผ่านที่จะไปเที่ยว เลยแวะไปดู
รถสภาพสวยมาก สีไม่ได้เก็บมาเลย ร่องรอยขูดขีดจากเจ้าของเดิมยังอยู่ ภายในเนี๊ยมาก ช่วงล่าง ดูหลายๆจุดมั่นใจเลยมัดจำทันที
อาทิตย์ถัดมาก็ทำเรื่องเอา D-Max เทิร์น จ่ายส่วนต่างเงินสด รับรถกลับบ้าน ใช้งานมาได้ราวๆ 1 อาทิตย์ถ้วนครับ
สิ่งที่ชอบ
คันนี้ บาลานซ์ของราคา กับสภาพรถ รวมถึงสมรรถนะ โอเคเลยครับ ทั้งช่วงล่าง การทรงตัว ภายใน ดีถูกใจมาก
ระบบช่วยเหลือ ทัศนวิสัย ความเงียบของห้องโดยสาร ดีกว่า D-Max , D40 เยอะ (รถคนละยุคกันมันก็ควรจะเป็นแบบนี้เนาะ)
หน้าตาดุดันถูกใจมาก
สิ่งที่ไม่ชอบ
พักเท้าข้างซ้าย เตี้ยมาก เวลาเข้าโค้ง ไม่ถนัด เอาซะเลยครับ
อัตราการสิ้นเปลืองวัดคราวๆนะครับ ในเมือง 13-14km/l ,เดือนทางไกลได้ราวๆ 14-17km/l ครับ(วิ่งมอเตอร์เวย์ไปบางแสน)
ของกระบะ มีเท่านี้ครับ เดี๋ยวมาต่อรถเก๋งของ ภรรยา ในคอมเม้นต์นะครับ