[CR] แชร์ประสบการณ์ลองผิดลองถูก กับการรักษา โรคนอนกรน (ภาวะหยุดหายใจ) โดยใช้ aveotsd และ CPAP

กระทู้รีวิว
ผมเองอยากแชร์ประสบการณ์ กับการลองผิดลองถูก เพื่อรักษาโรคนอนกรน (ภาวะหยุดหายใจ) ตั้งแต่เริ่มวิเคราะห์หา

สาเหตุว่าตัวเองเป็นโรคอะไร จนถึงขั้นการใช้เครื่อง CPAP โดยขอแบ่งตอนดังนี้นะครับ

1.ก็แค่กรนอย่าคิดมาก ?

เท่าที่ผมจำความได้ตั้งแต่รุ่นอากง เวลาแกนอนนี้ไม่ต้องห่วงครับ ได้ยินทะลุมาอีกห้องสบายๆ ใกล้ตัวเข้ามาหน่อยก็คือคุณพ่อ

ก็เท่าที่ผมโตมาจำความได้ ก็รู้สึกว่าได้ยินเสียงพ่อกรนมาตั้งแต่เด็กๆ จนเลยคิดว่าการกรนก็เป็นเรื่องปกติในชีวิตลูกผู้ชายที่ใครๆ(ส่วนใหญ่)

เขาก็เป็นกัน ก็เลยรู้สึกว่าเรื่องการกรนก็แค่เป็นสภาวะหนึ่งที่แค่ทำให้คนรอบข้างอาจจะน่าเพียงแค่เกิดความลำคาญ พอมาถึงตัวเองบ้าง

ไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเองนอนกรนตั้งแต่เมื่อไร  แต่ที่รู้ว่าตัวเองเริ่มกรนก็คือตอนที่ได้นอนกับแฟนตั้งแต่อายุประมาณ ๒๕ ตอนนั้นจำได้ว่า

กลางคืน แฟนจะโมโหมากผมมากเพราะเธอนอนไม่ค่อยหลับ โดยวิธีการตอบโต้ของเธอก็จะใช้วิธี ดันหน้าเราหนีบ้าง บ่นเสียงดังให้เราตื่นบ้าง

หรือ ใช้หมอนอุดปากบ้าง โดยแต่ละวิธีการก็ทำให้ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาทุกครั้ง แล้วก็หลับต่อไป โดยที่ตอนนั้นก็คิดว่า ใครๆเขาก็กรนกัน แต่หลังจาก

ที่เรื่องนี้ผ่านไปมานั่งย้อนคิดกลับ บางทีเราละเลยเรื่องเล็กๆน้อยๆ คือเราไม่ได้ยินเสียงกรนของเรา เราก็จะคิดว่ามันคงเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่ถ้าวัน

หนึ่งเราเป็นคนที่ต้องทนนอนกรนกับเสียงแฟนเราข้างๆ เราคงจะแย่ไม่น้อยเหมือนกัน

2.การกรนอันตรายกว่าที่คิด

ย้อนกลับไปตอนที่กรนตั้งแต่อายุ ๒๕ จนถึง ๓๐ ตอนนั้นความรู้สึกของตัวเองก็ไม่ได้รู้สึกผิดปกติอะไร ร่างกายก็แข็งแรงเหมือนเดิม ไม่มีอะไรผิดปกติ

แต่ความเปลี่ยนแปลงเริ่มขึ้นตั้งแต่ตอนอายุ ๓๑ พอเลข ๓ มาผมก็เริ่มเห็นความผิดปกติของร่างกายหลายอย่างเริ่มตั้งแต่ระดับเบา

จนถึงขั้นรุนแรง เช่น

2.1 หมดแรงเร็วกว่าสมัยก่อน คือปกติ  จขกท เป็นคนที่ออกกำลังกาย ตอนเย็น สมัยก่อน  ๔ ทุ่มยังรู้สึกไม่เหนื่อยหล้า มีแรงยกเวทสบายๆ

แต่มาระยะหลังๆ เริ่มรู้สึกว่าตัวเอง แค่ ๒ ทุ่มก็เริ่มจะไม่ค่อยมีแรงออกกำลังกาย ตอนนั้นยังคิดว่าสงสัยตัวเองจะแก่ขึ้น

2.2 คนเริ่มทักว่า "ตื่น ๆ" เราก็งงว่า เฮ้ยเราก็ตื่นอยู่ไม่ได้รู้สึก ง่วงอะไรนี้ แต่สภาพร่างกายมันฟ้องครับว่า ร่างกายต้องการพักผ่อน หนังตามันหยอน

ตาปรื้อๆ เราเองไม่รู้หรอกครับบางครั้ง คนอื่นข้างๆตัวเราจะเห็นชัดกว่าตัวเราเอง

2.3 ตื่นนอนมาไม่สดชื่นเหมือนในอดีต ตอนนั้นก็คิดไปต่างๆนาๆครับว่า สงสัยอายุมากขึ้น,ห้องฝุ่นเยอะ,ทานอาหารดึก, บลาๆๆ คือต้องบอกว่าเวลาคนเรา

ตื่นนอนมาแล้วมันไม่สดชื่น มันแย่นะครับ เพราะเราต้องใช้ชีวิต ทำงานอีกหลาย ชั่วโมงถ้าเริ่มต้น ไม่สดชื่นแล้วทั้งวันนี้ไม่อยากทำอะไรเลย

ตอนนั้นผมเองหลงทางมากครับไม่เคยคิดว่าตัวเองจะเป็นโรค ภาวะหยุดหายใจ ก็โทษเรื่องโน้นเรื่องนี้

2.4 เริ่มหาววันละหลายรอบ จำได้ว่าบางวันหาว มากกว่า ๑๕ ครั้งทั้งๆที่ นอนไม่ดึก ตอนแรกคิดว่าตัวเองนอนดึกก็ค่อยๆขยับนอน ๕ ทุ่ม เป็นเร็วสุด

๓ ทุ่มก็ยังหาว และรู้สึกง่วงตลอดวันเหมือนเดิม

2.5 อันนี้หนักสุดครับ ตื่นมาแล้วมึนหัว อันนี้ละครับ เป็นจุดเปลี่ยนของผมที่คิดว่าเรื่องการนอนแบบไม่มีประสิทธิภาพแบบนี้ถ้าปล่อยทิ้งไว้ ชีวิตแย่แน่ครับ

จำได้ว่า moment นั้นตื่นมาทำงาน มันมึนหัวไม่อยากคุยกับใคร ไปทำงานก็เบลอ คิดอะไรไม่ออก ตอนเที่ยงแอบหนีมานอนที่บ้าน แล้วไปทำงานต่อ

ตอนนั้นสภาพชีวิตแย่มากครับ เลยคิดว่าถึงเวลาแล้วที่ต้องรักษา

3.รักษาแบบลองผิดลองถูก

หลังจากที่ตัวเองลองพยายามค้นหาสาเหตุเอง จนมาถึงวันนี้ ผมแนะนำเลยครับ ปรึกษาหมอเฉพาะทางดีที่สุดครับ ด้วยความที่ตอนนั้น

ก็อย่างที่บอกครับลองผิดลองถูก เริ่มตั้งแต่ ไปซื้อเครื่องฟอกอากาศ เพราะคิดว่านอนไม่ค่อยดีเพราะฝุ่น ซื้อมาแล้วเหมือนเดิม จากนั้น

ไปซื้อวิตามินมากิน เอาแบบที่ให้ร่างกายสดชื่น ผมกินมาหลายตัวละครับ สุดท้าย ได้ผลแป้บเดียว แล้วก็เพลียต่อ ลองนอนเร็วขึ้น

เริ่มตั้งแต่ ๓ ทุ่มตื่น ๗โมงเช้า ตื่นมาเพลียเหมือนเดิม ลองไม่กินน้ำก่อนนอนเพราะคิดว่าตื่นมากลางดึกอาจะทำให้นอนไม่ดี สุดท้ายเหมือนเดิม

ลองสวดมนต์ ไหว้พระ ,กินยานอนหลับ ,ยาคลาดเครียด,วิ่งออกกำลังกาย ฯลฯ ลองมันทุกสิ่ง สุดท้ายไม่ได้ช่วยอะไรมาก จนเริ่มเอะใจว่า

เป็นเพราะนอนกรนแน่เลย อย่างนั้นต้องรักษาการนอนกรน เริ่มจากหาข้อมูลว่าควรทำอย่างไร ได้ข้อมูลใน pantip นี้ละครับว่าให้ลองออกกำลังกาย

กล้ามเนื้อบริเวณคอ http://ppantip.com/topic/33563048  <<< ลองดูครับผมเคย review ไว้ถามว่าเสียงเบาลงไหม บอกเลยครับว่า เบาลง แต่

ถามว่าช่วยการหยุดหายใจไหม บอกเลยครับว่าอาจไม่ได้ช่วยอะไรมาก จากนั้นก็ไปหาข้อมูลในเน็ตต่อ ไปเจอคลิปของโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์

https://www.youtube.com/watch?v=BtxIzr4gIbI คลิปนี้ ก็ทำให้ผมเริ่มสงสัยตัวเองแล้วว่า เราต้องเป็นโรคภาวะหยุดหายใจแน่นอนเลย

เพราะอาการที่คุณหมอบอกมามีหลายอย่างที่ตรงกันเปะเลย

4.เริ่มการรักษาด้วยตนเอง

จริงๆลืมเล่าไปนิดหนึ่งครับว่า ก่อนที่จะคิดว่าตัวเองเป็นโรคหยุดหายใจนั้น ผมเองก็ได้ไปตรวจสุขภาพเจาะเลือดเพื่อดูว่าตัวเองเป็นโรคอะไรหรือเปล่า

แต่ปรากฎว่าทุกอย่างปกติหมด กลับมาเรื่องของการรักษาครับ ตอนที่ผมดูคลิปของโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ก็เห็นตอนคุณหมอ แนะนำเรื่องการใช้

อุปกรณ์กรณีคนที่ปฎิเสธการผ่าตัด ที่เห็นในคลิปก็จะมี Aveotsd กับเครื่อง CPAP ตอนนั้นคิดในใจว่า โห้จะบ้าหรอให้เรามาใส่เครื่องเหมือนคนป่วย

ICU เลย รับไม่ได้หรอก แถมแพงด้วยเครื่องที่เป็น Auto ราคา ๓ หมื่นอับ ก็เลยสนใจ Aveotsd เพราะราคาไม่แพงมาก เลยตัดสินใจลองติดต่อ

บริษัทที่ขาย AVEOTSD พี่เขาน่ารักมากครับ แนะนำดี ให้ผมเอาไปทดลองใช้ก่อน เพราะตอนที่คุยกันพี่เขา พี่เขาบอกว่าอาการผมน่าจะหนักพอควร

Aveo อาจจะเอาไม่อยู่ เพราะ Aveo เหมาะกับคนที่มีภาวะหยุดหายใจ น้อยกว่า ๑๕ ครั้ง/ชั่วโมง หลังจากขับรถไปรับของด้วยตนเอง พี่เขาบอกว่า

แรกๆทนมารหน่อยนะ เพราะร่างกายยังไม่คุ้น พอได้ของปุ๊บก็ทดลองใส่ตอนขับรถกลับมาถึงบ้าน เพื่อให้ร่างกายคุ้นเคย คิดในใจว่าคืนนี้คงสบายละ



ร่างกายปรับตัวเรียบร้อยละ แต่ที่ไหนได้ตอนนอนจริงๆ จำได้ว่าคืนแรก นอนไม่ได้เลย ทรมารมาก มันเหมือนมีแรงกด บริเวณฝีปาก รู้สึกเจ็บและร็สึกตัว

ตลอดทั้งคืน แต่ตอนเช้าความรู้สึกเริ่มเปลี่ยนไป รู้สึกอาการมึนหัวหายไป คืนที่สอง เอาใหม่คร่าวนี้ใส่ลิ้นเข้าไปไม่ลึกมากมันจะได้ไม่เจ็บ  ซึ่งมันก็ไม่ค่อย

เจ็บจริงๆ แต่ปัญหาคือมันจะหลุดง่าย คืนนั้นแทบจะหลุดทั้งคืน ตอนนั้นจำความรู้สึกตัวเองได้ว่า ไม่อยากให้ถึงเวลานอนเลย เพราะเวลาทรมานกำลังจะมา

ถึง แต่ก็พยายามปลอบใจตัวเองว่า ถ้าไม่ทนตอนนี้ ตื่นมาแล้วรู้สึกเพลียทั้งวัน มันแย่กว่าเจ็บแบบนี้อีกหลายเท่า

คร่าวนี้บางท่านอาจจะยังไม่ทราบว่ามันทำงานอย่างไร เจ้า Aveo มันทำหน้าที่ดันลิ้น ของเราไม่ให้ไหลไปบังช่องทางเดินหายใจเรานั้นเอง

อายุมากขึ้น กล้ามเนื้อเรามันจะหย่อนคล้อย ยิ่งถ้าอ้วนยิ่งไปกันใหญ่ จะมีไขมันไปพอกบริเวณ ทางเดินหายใจทำให้ ทางเดินหายใจแคบลง



กลับมาเรื่องการใช้งานต่อครับ หลังจากที่ผมได้ "ทน" ต้องบอกจริงๆว่า ทน ครับ เพราะแน่นอนอยู่ดีเอาอะไรมาดูดลิ้นร่างกายเราคงไม่ Happy แน่นอน

พอเข้าวันที่ ๔ ร่างกายเริ่มชินครับ ผมก็ค่อยๆเริ่มขยับใส่ลิ้นให้ลึกขึ้น เพราะเห็นเว็บต่างประเทศ ฝรั่งเขาใส่กันแทบลิ้นชนตรงปลายเลยเหมือนในรูป



ผมก็เลยเอาบ้างครับ ปรากฎว่าสิ่งที่เห็นความแตกต่างคือ อาการหลุดน้อยลง เสียงกรน จากตอนแรกมีบ้าง หลังๆแทบไม่ได้ยินเลย รู้สึกสดชื่นขึ้นกว่า

แต่ก่อน แต่ถามว่ามี side effect ไหมอย่างแรกที่เห็นเลย คือ ถ้าเรานอนตะแครง น้ำลายจะไหลออกมา เยอะมาก คอแห้งเวลาตื่นนอนมา เท่าที่เห็น

ก็จะมี เท่านี้
ชื่อสินค้า:   aveotsd CPAP
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่