พึ่งได้ฟังใจของเธอผ่านยูทูป จนได้ยินเสียงเธอตอนนั้นจริงๆ จึงมาเขียน

เริ่มบรรทัดแรก ผมแค่เก็บไว้ในใจมานาน แต่สำหรับคนในพันทิพนี้ผมขอแชร์เป็นประสบการณ์ที่..(นั่งนิ่งอยู่ครู่นึง)..ผมไม่เคยรู้สึกดี
เพื่อหวังเล็กๆว่า สิ่งที่ผมระบายออกไปมันจะช่วยให้คนบางคนที่กำลังเจอและสับสนอยู่ ลองสู้กับมันและอย่า "อ่อนแอเหมือนผม"
(วรรคห่วยเตือนเลย)

บทที่ 1 เกริ่นนำหน่อยนะ

เรื่องมันเริ่มที่ 3ปีที่แล้ว(ค.ศ.2011) สมัยตอนผมอยู่ปี2 กำลังให้ใกล้จะขึ้นปีสาม ..ต้องบอกก่อนว่า เรื่องมันสั้น แต่ความรู้สึกมันยาว
ยาวจนผมไม่คิดว่ามันจะยาวเรื่อยมาขนาดนี้ จนกลายเป็นผมที่ยังรู้สึกคิดถึงเขาอยู่ฝ่ายเดียว จนถึงนาทีนี้ก็ยังคิด และก็คงแอบคิดไปเรื่อยๆ

บทที่ 2 ส่อง

ผมเจอกับเธอผ่านการไปส่องหาสาวผ่านเฟสของเพื่อนผู้หญิงของผม จนมาจ๊ะกับเธอเข้าให้ แบบว่า เห้ยคนนี้โดนวะ
แต่ผมก็แค่ถามเพื่อนว่า คนนี้ใครวะอะไรแบบนั้นไป แต่เพื่อนก็ตอบมาแนวๆให้ผมเลิกหวังเถอะ ประมาณว่าผมต่ำต้อยอะไรอย่างงั้น

แต่ก็เกือบจะเป็นแบบนั้นจริงๆ เพราะเธอไม่รับแอดผมครับ 555 ผมก็เลยเริ่มคิดๆละว่าจะแห้วตั้งแต่ยังไม่เริ่มใช่มั้ยวะเนี่ย
จนกลับมาคิดใหม่อีกทีว่าจะทำไง จะทักแชทหรือจะยังไง สุดท้ายก็เลยไปนิ่งๆเนี่ยแหละ ...แอดไปอีกที
และแล้ว เธอก็รับจนได้ ตอนนั้นแบบยังจำได้ว่า เห้ย รับแล้ว ก็ดีใจนะ แต่ก็ไม่รู้จะเริ่มคุยยังไงต่อ แต่สุดท้ายแล้วก็เหมือนจะมีตัวช่วยเข้ามา

บทที่ 3 คุย

ตัวเสมือนจะช่วยนั่นก็คือ เพื่อนผู้หญิงที่ผมพูดถึงไปนั่นละครับ เหมือนไอ้เพื่อนคนนี้จะไปบอกว่าผมมันคนกวนตีน ชอบกวนตีน ใช่เลย
ตอนทักไปครั้งแรกๆ เธอเลยสวนกลับมาในท่าทีที่ค่อนข้างกวนตีนใส่ผม ซึ่งเอาจริงๆ คือใช่เลย 555555 โคตชอบผู้หญิงแนวๆนี้
ผมก็กวนตีนกลับไปดิ จนมาถึงช่วงนึงที่เริ่มคุยกันค่อนข้างดีขึ้นในเวลาต่อมา เพราะเธอพูดมาว่า "คุยกันดีๆสักนิดไม่ได้หรอไง"
..นั่นละ จบ ผมยอม.. (ก่อนหน้านี้ผมไม่เคยยอม ขนาดเล่นหมากฮอสผ่านคอมยังไม่ยอมแพ้เลย)

บทที่ 4 ได้เจอ

หลังจากนั้นเราเริ่มแลกเปลี่ยน สิ่งที่เราเป็น ให้อีกฝ่ายรับรู้ตัวตน เธอเริ่มส่งเพลง ผมก็เริ่มส่งเพลง เล่าอะไรต่อมิอะไรให้กันฟังทั่วไป
และได้มาเจอกันครั้งแรก ซึ่งผมไม่มั่นใจในตัวเองเท่าไหร่ เพราะผมผอมสูงและขาเล็ก (55555 จุดด้อยจริงๆ)
แต่เธอตัวสูงกว่าที่ผมคิดไว้นะ สูงพอกันเลย ขายาว ผมยาว ดูเกร็งๆ ผมคิดในใจนะว่า เธอยังอยากจะเดินกับผมอยู่ป่าววะ 55
รู้สึกวันนั้นจะเป็นวันพ่อนะ นั่นละ ที่ที่ผมวิ่งแข่งกับเธอครั้งแรก (ผมก็ไม่ยอมแพ้เธออีก กลัวเสียเชิงนักวิ่งเก่า)
พอเที่ยวเสร็จ ผมก็กลับมาใช้ชีวิตที่หอพักเหมือนเดิม ผมก็นิ่งๆเหมือนเดิมตามสไตล์ปกติทั่วไป จนวันนึงเหมือนเธอคิดมากมั้ง

เธอส่งข้อความมาประมาณว่า ผมอยากคุยหรือไม่อยากคุยกับเธอต่อ . . . ครู่นึงผมก็เลยส่งเพลง ถามจันทร์ ไปให้ และคิดเข้าข้างตัวเองว่า
เธอน่าจะยังอยากคุยกับผมอยู่หละมั้ง แต่สำหรับเพลงถามจันทร์ เป็นเพลงที่ตอนนั้นผมคิดได้ไงวะ 555 (ยังถามตัวเองอยู่นะตอนนี้อะ)
นั่นละ หลังจากนั่นผมเลยขอเทอเป็นแฟนผ่านจอนี่ละ ง่ายๆเลย ไม่ได้มีอะไรซับซ้อน ใจสั่งก็ทำ
แต่ก็คิดแหละว่า ยิ้มไม่ซึ้งเลย แฟนคนแรกซะป่าว (แฟนคนแรกจริงๆแหละ คนก่อนๆหน้าไม่เคยได้ลงเอยอะไรแบบนี้หรอก)

สำหรับนิสัยน่ารักของเธอ ผมจะบอกคร่าวๆว่า เธอแมนนะ แมนในที่นี้คือ เธออดทนเก่ง ดูอดทนเก่งกว่าผมอีก
เธอมักจะชอบทำของกุ๊กกิ๊กหรือไม่ก็ซื้อของให้ในวันสำคัญหรือไม่ก็ตามที่เธอจะนึกถึงผม เช่น การ์ดรูป ตุ๊กตานกฮูก(ยังอยู่) โกโก้ สร้อย(ยังอยู่) ไม้ไอติมพร้อมข้อความที่เธอรู้สึกไว้บนไม้นั่น ประมาณนั้น ที่เขียนว่ายังอยู่เพราะมีครั้งนึงที่เรามีปัญหากันจนของบางอย่าง แม่ผมเก็บทิ้งไปเฉยเลย

ส่วนนิสัยผม สิ่งที่ผมทำ เรื่องดีๆผมขอไม่พิมพ์นะ เอาสิ่งแย่ๆไปอ่านนั่นละ (ขำแห้งให้ตัวเอง)

บทที่ 5 สั่นคลอน

ต่อนะ ..ต่อมาก็เริ่มเจอกันมากขึ้น แต่ก็มีบ้างที่เธอต้องไปงานรร.เก่า พวกงานเลี้ยงรุ่นอะ เธอก็ต้องไปเจอแฟนเก่า หรือบางทีนั่งๆแท็กซี่แฟนเก่าโทรมา ซึ่งผมก็หึงละพึ่งรู้ว่าขี้หึงมาก และเมื่อพึ่งรู้ การทำความเข้าใจอารมณ์แบบนี้มันก็ยังไม่ดีเท่าไหร่ จนงี่เง่ากับเธอไปเยอะมาก เรื่องแฟนเก่านี่ไม่ได้อะ แต่ด้วยความบ้าอะไรนักหนาละ ผมชอบชวนเธอทะเลาะบ่อยมากโดยเฉพาะเรื่องหึง จนตั้งแต่ไม่เจอกันก็ยังคิดเรื่องนี้บ้าง
ปล.ผมเป็นคนปากร้ายแต่ใจดี ใจดีเลยละ (อย่าคิดเถียงเลยนะ ผมมั่นใจว่าผมเป็นงี้จริง จบออกมาทำธุรกิจยังโดนโกงไปเพราะใจดีเกิน)

............................แต่สุดท้ายเราเลิกกันไป แต่ไม่ใช่เพราะทะเลาะอะไรกันหรอก........................

บทที่ 6 สั่นจริง (อย่าคิดถึงสั่นในเกมส์ซิมนะเว้ยย)

ผมมารู้ตอนไหนก็จำไม่ได้นะ ว่าพ่อแม่เธอ หวง หวง หวง หวง หวง หวง เธอมาาาากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
ซึ่งผมเคยบอกกับเธอนะ ว่าผมต้องไปบอกกับพ่อแม่เธอ ว่าผมจะขอคบ ซึ่งตอนนั้นปี 2-3 จะเอาอะไรไปค้ำคอตัวเองวะ
ผมไม่ชอบการแอบไปหา แอบไปเที่ยว แล้วแม่เธอก็ต้องคอยโทรมาเช็คตลอด ขนาดดูหนังอยู่ยังดูไม่รู้เรื่องเลย
สุดท้ายต้องจบด้วยการผมสนับสนุนให้เธอโกหกไปทุกที ยิ้มแย่จริง ...ผมไม่ชอบงี้เลย แต่ถ้าบอกไปต้องจบแน่ๆ ไม่ได้เจอกันแน่ๆ
แต่ก็หวังว่า กูต้องบอกสักวันวะ กล้าๆหน่อย

จนมาความแตก ..โดยเริ่มจากก่อนที่ผมจะได้ไม้ไอติมจากเธอในวันสงกรานต์ ผมไปจังหวัดเลยกับที่บ้านหนะ
ไปเล่นสงกรานต์แล้วก็แวบขอกลับก่อนเพื่อนั่งรถมาหาเธอ หลังจากนั้นก็เลยได้มีไม้ไอติมเป็นโหลๆอะ
และบนไม้ไอติมจะมีข้อความอะไรเขียนไว้ทุกแท่ง ลายมือเธอทั้งนั้น เธอยิ้มน่ารักดีวะ 555
แต่แม่ผมทิ้งไปละ อย่างที่บอก โครตพีควันนั้น จะคุ้ยถังขยะใต้หอก็ไม่เจอ แม่ผมเอาไปทิ้งที่ไหนวะเนี่ย (เสียดายวะ)

ต่อๆ หลังจากนั้นไม่นาน ผมก็ได้รับโทรศัพท์จากเธอ โทรมาแต่วันเลย เธอร้องไห้ ..
และบอกว่า "แม่เรารู้แล้ว" และเธอก็ร้องไห้ต่อ ส่วนผมหรอ ตอนนั้นลุกเดินไปเดินมา เด็กกากๆก็ทำได้แค่นั้นละ เดินไปคิดไปทำไงต่อวะ

เย็นวันนั้นผมโทรไปหาเธอ แต่ผมก็ได้ยินเสียงที่ไม่คุ้นหู แม่เธอครับ เสียงแบบพร้อมกินผมเข้าไป แล้วคลายทิ้งออกมา
โครตนิ่ง และรู้เลยว่าดุมากอะ ผมก็พูดไปว่า ขอสาย*ชื่อเธอ*ได้มั้ยครับ เสียงตอบมาแบบ
" อย่ามายุ่งกับลูกสาวชั้น เลิกคุย เลิกติดต่อเลยนะตั้งแต่วันนี้ " ผมนี่ช็อกสัส นิ่ง มึน คิดในใจว่า มันจบแล้วหรอวะ (ดูเด็กกากมันคิด)
" ทำได้มั้ย สัญญาลูกผู้ชายมั้ยว่าจะไม่มายุ่งกับลูกสาวชั้นอีก " ผมก็ครับ  ครับ . . .  ..  ครับ . . . .. . จนจบอะ ไม่ได้ตอบไรยาวกว่านี้

อีกวันต่อๆมา ในเมล์ที่ผมไว้คุยกับเธอ มีเมล์ของพ่อเธอส่งมาประมาณว่า " คุณไม่ได้รักลูกสาวผมจริงหรอก ผมไม่เชื่อคนอย่างคุณ "
...ตอนนั้นคิดว่า ทำไมดูกูเป็นผู้ร้ายกันเหลือเกิน แต่ก็อีกบรรทัดนึงนะให้ความหวังว่า
" ถ้ารักลูกสาวผมจริงเรียนจบค่อยมาหา  แต่ผมไม่เชื่อว่าคุณรักลูกผมจริงหรอก เลิกยุ่งกับลูกสาวผมเถอะ "
...................................................................นั่นหละ...........................................................

บทที่ 7 สั่นบรรลัย

หลังจากนั้น ทำไงหรอ ผมก็สับสนสิวะ ..
แต่ผมยังไม่อึดอัดอะไรเท่าไหร่ ก็ยังพยามเจอ แอบเจอ เธอไปทัศนศึกษาดูงานกับมหาลัยผมก็ไปด้วย 555

จนรู้สึกว่าพอกลับมาที่บ้าน มันจะมีปัญหาที่ลุกลามมากกว่าแค่ที่เกิดขึ้น
นั่นก็คือ แม่ผมและพ่อผมถามขึ้นมาเกี่ยวกับแม่ของเธอและครอบครัว ทำนองว่ามีปัญหาอะไร
และทำไม แม่ของเขาถึงมาด่าว่าแม่ผม โดยสุดท้าย ที่ผมรู้คือแม่เขาทักแชทเฟสมาด่าว่ากันกับแม่ผมนี่เอง

ตอนนี้ผมเริ่มรั่วละ ใจรั่ว เริ่มอยากจะถอย มันหนักอะ คือด่าผมได้แต่ครอบครัวผมเขาไม่เกี่ยว ไม่ควรมาดูถูก มายุ่ง
แต่พ่อเธอก็ดีแหละ พ่อของเธอไม่ได้สนับสนุนการกระทำของแม่เธอ ซึ่งผมก็โอเค ที่รู้แบบนั้น

ซึ่งมันทำให้ผมเปลี่ยนไปมากกว่าเดิมมาก จากเหตุการณ์นี้ที่เกิดขึ้น

บทที่ 8 หายสั่น แต่เย็นชายิ่งกว่าตู้เย็น

ผมเปลี่ยนตัวเอง เปลี่ยนแบบที่ตั้งใจเหมือนหนังช่อง7อะ ทำตัว เ หี้ ยๆ พยามห่างออกมาในเวลาที่ ผญ เขาไม่ทันได้ตั้งตัวอะ
ผมไม่รับโทรศัพท์ ไม่ไปส่งเธอแถวบ้านอย่างที่เคยทำ ไม่มองหน้าหรือคุยกับเพื่อนๆของเธอ ไม่เป็นมิตร ไม่เป็นมิตรกับลูกพี่ลูกน้องของเธอ ผมไม่อะไรทั้งนั้น แต่ผมรับรองเถอะว่า ถึงผมจะดูหยิ่งจากภายนอกเพราะผมนิ่งๆ แต่ผมคุยได้ ผมชอบคุย เดินทางคนเดียวผมก็คุยง่าย คุยกับทุกคนได้แม้จะไม่รู้จักมาก่อน แต่ผมกลายเป็นอีกคนเมื่อเธอเข้ามาใกล้ หรือพยามจะเข้ามาใกล้

เพราะผมรู้สึกว่ามันไม่มีความหมายที่จะทำความรู้จัก เพราะผมกับเธออาจไม่ได้ไปกันต่อ

ผมสับสนแต่ก็ตัดสินใจตัวเอง ในระว่างที่สับสนนั่นละ ว่าจะเลิก และสุดท้ายผมก็เลิกกับเทอ
ตอนอยู่ต่อหน้า ผมไม่พูดจาร้ายๆกับเธอหรอก ผมไม่เคย ผมยืนยันผมไม่เคย เพราะผมทำไม่ลง
ผมยังจำน้ำตาเธอได้ ในวันที่ผมบอกเลิก (รู้มั้ยว่าผมพิมพ์ไปยังรู้สึกถึงน้ำตาตัวเอง)

แต่ผมร้ายในการพิมพ์คุย เราทะเลาะกันมากในโลกโซเชียล ผมพิมแรง จนเธอเคยถามว่า รู้มั้ยว่าเสียใจอยู่ รู้มั้ยว่าร้องไห้อยู่
ไอ้ เ**ย ..นี่ผมด่าตัวเองนะ ผมไปทำร้ายเธอทำไมวะ ทำร้ายทางจิตใจ เวลาก็น้อยแล้วที่จะเจอกัน หรืออาจจะไม่ได้เจออีก
ผมไปจีบผู้หญิงคนอื่นด้วยนะ จีบกดไลค์ในยูทูปเพราะผมรู้ว่าเธอมีล็อกอินของผม แต่ก็มีการไปส่งของให้ทีห้องผญคนนั้นด้วย
แต่อันนี้ผมยอมรับว่า อยากจีบจริงๆจริงจังหรือเปล่า ไม่อะ ผมเหงา ตอนนั้นอ่อน เ*ยปะละ และเธอก็รู้ด้วย สืบเก่งมาก

สงสารเธอ.. แต่เข้าใจผมมั้ยละ ว่าผมก็ตัน ทำดีให้รักกัน ก็ทรมาน ทำชั่วให้เกลียดมันดีกว่าละ (ในตอนนั้นนะ)
เพราะผมแบ่งเวลา อารมณ์ส่วนตัว กับงานไมได้ด้วยละ งานเสียหมดเลย โดดเรียนนอนเฉยๆก็มี
เกรดปี 3 เทอม1 แย่สัสอะ ผมเลยคิดแบบข้างต้นละว่า ถ้าจะยื้อเรื่องนี้ต่อไปผมก็ อ่อน เกินจะทำไรต่อไหว
ทำตัวแย่ต่อไปนั่นละ ร้อน ฉุนเฉียว ไม่ต้องไรเลย ตอนนั้นไฟเต็มตัว พร้อมเสมอ

(พักอารมณ์แปบ)

นั่นละ ผมมาคิดได้ทีหลังละว่า คนเรารักกัน เราควรจะทำดีต่อกัน ให้สุดทางไปเลย อย่ายอม
แต่ในตอนนั้นผมคิดแค่ว่า รีบตัดให้จบ เพราะมันน่าจะเป็นทางที่ดี ไม่ต้องมีอะไรดีๆให้จำค้างคากัน นึกถึงกัน
ให้เธอเกลียดผมไปเลย ซึ่งผมว่าเธอน่าจะเกลียดผมไปแล้วหละมั้ง ได้ผลมั้ง
เวลาเธอนึกย้อนถึงผมกลับมา จะได้เจอแต่เรื่องไม่ดีจะได้ไม่อยากนึกถึงผม
แต่ตอนนี้(หมายถึงเวลาปัจจุบันเนี่ย)ได้ข่าวว่า เธอมีแฟนใหม่แล้ว แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นในกระทู้นี้หรอก

บทที่ 9 ย้อน

หลังจากที่ผมทำตัวไม่ดี ไม่รู้จะมาจากสันดานหรืออะไรนักหนานะ แล้วแต่พวกคุณจะมอง
ผมก็เริ่มฝึกงาน คือตอนนี้จบปีสามละนะ ผมนั่งทำงานไปแต่ก็ยังคิดถึงเธออยู่นั่นแหละ
ผมไม่ได้คุยกับเธอมา8-9เดือนละ ตั้งแต่ เธอแอบเอาเค้กมาให้ผมในวันเกิด (ดูดิ ขนาดทะเลาะหนัก เธอยังเอาเค้กมาให้)

ผมก็ทักไปหา แต่ผมขอตัดจบบทที่8 นี้ง่ายๆด้วยการจะเขียนว่า ก่อนไปฝึกงาน1วัน คืนนั้นผมคุยคล้ายๆอยากกลับไปละ
และเขาก็บอกเลิกยุ่งกับเขาเถอะ อะไรแบบนั้น น้ำตาไหลเลย ไหลอยู่หน้าคอมนั่นละ 555 สะใจมั้ยแสส เขาลืมแล้ว
แม่ผมอยู่ด้วยละตอนนั้น ก็เลยโมโห+รำคาญเรื่องผมกับเธอ ระหว่างผมเข้าไปอาบน้ำ แม่ผมก็หยิบของที่เธอทำให้ทิ้งเกือบหมด
แล้วบอกให้เลิกยุ่งได้ละ พร้อมกับให้กินยาช่วยให้หลับ เพราะคืนนั้นผมยอมรับว่านอนไม่หลับเลย เสียใจ

แต่เช้ามาเธอก็ส่งข้อความขอโทดกลับมา

บทที่ 10 ย้อนไปหาอีก

ในวันจบ วันที่เธอเรียนจบ เธอได้จัดนิทรรศการทีสิสอยู่เซนทรัลเวิล ซึ่งตอนแรกผมไม่คิดจะไปหรอก จำไม่ได้ว่าเธอชวนรึเปล่า
ไม่ได้ชวนมั้ง ผมไม่น่าจะสำคัญอะไรแล้วในตอนนั้น (ช่างมัน) แต่มาวันนึงน่าจะวันท้ายๆละ ผมนั่งรถเมย์ว่าจะนั่งไปลงที่อนุสาวรีย์
และต่อรถตู้กลับบ้าน แต่ยิ้มอะไรไม่รู้ ผมนึกถึงเธอและแบบอยากเจอหวะ อยากไปดูงานของเธอ ที่เธอทำ อยากเจอ

พอจบคำว่าอยากเจอผมน้ำตาไหลอยู่ในรถเมย์อะ 555 เชี่ยยย คนในรถเขาจะคิดว่าผมบ้าปะวะ
(ปัจจุบันผมก็ยังฝันถึงอยู่เลยแต่น้อยลงนะ) นั่นละ ..พอผมลงรถเมย์ ผมต่อบีทีเอสไปเซนทัลเวิลทันทีเลย

..แต่สุดท้ายผมก็เห็นงานของเธอ ผมนั่งอยู่ชั้นลอยมองลงมาที่โถง คอยมองว่าเมื่อไหร่เธอจะมาสักที หรือวันนี้เธอไม่มา

(เด่วมีต่อนะ มาแน่)
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่