"เป่ยจิง" ในความทรงจำ

สวัสดีครับทุกคน 大家好
วันนี้ผมอยากจะเอาภาพถ่ายตอนสมัยที่ผมเรียนอยู่ที่ปักกิ่งเมื่อช่วงปี 2013-2014 มาให้ดู


ผมมีโอกาสไปแลกเปลี่ยนตามหลักสูตรของมหาวิทยาลัยเป็นเวลา 1 ปี
ผมมักใช้เวลาช่วงเสาร์-อาทิตย์ไปตามสถานที่ต่างๆ ในเมืองปักกิ่ง(หรือบางครั้งก็เมืองอื่นบ้างเมื่อมีโอกาสในวันหยุดยาว)
กระทู้นี้อาจจะไม่ได้มีรูปสถานที่แลนมาร์คมากมายหรืออาจเป็นมุมที่พบเห็นได้บ่อยแล้ว
ขอใช้ความรู้ประวัติศาสตร์กับภาษาจีนงูๆ ปลาๆ ในการอธิบายบางภาพนะครับ ผิดตรงไหนก็ช่วยกันแก้ได้ครับ
เอาเป็นว่าเล่าเรื่องด้วยภาพประกอบกับเรื่องราวเล็กๆ น้อยๆ แล้วกันนะครับ

กล้องที่ใช้ถ่ายก็ Nikon D90+lens kit 18-105 ซึ่งปัจจุบันผมก็ขายไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
แต่ยังอยู่ในค่ายเหมือนเดิมแค่ขยับขึ้นไปรุ่นใหญ่กว่า
รูปบางรูปก็เอามาจาก facebook ของผมเอง ซึ่งต้นฉบับรูปหายไปแล้วกับแล็ปท็อบที่โดนขโมยตอนไปเที่ยวรัสเซีย TT

ขอเปิดด้วยรูปนี้แล้วกันนะครับ

หอฟ้าเทียนถาน (天坛公园 Tiāntán gōngyuán)

ภาษาจีนวันละหลายๆ คำนะครับ
天 เทียน แปลว่า ฟ้า(หรือแปลว่าวัน เช่น 1วัน 2 วัน 3วัน)
坛 ถาน แปลว่า แท่นดินหรือแท่นบูชา
公园 กงหยวน(จริงๆ ต้องออกเสียงเอวี๋ยน เขียนหยวนละกันง่ายดี) แปลว่า สวนสาธารณะ

ในอดีตหอฟ้าเทียนถานเป็นสถานที่ๆ ฮ่องเต้ต้องมาสักการะฟ้าดินในทุกๆ ปี
ปัจจุบันก็เป็นสถานที่ท่องเที่ยวและพื้นที่ให้อาโกวอาม่ามารำไท้เก๊ก ออกกำลังกายกันเรียบร้อยไปแล้ว


สนามกีฬารังนก (鸟巢 Niǎocháo)

鸟 เหนี่ยว แปลว่า นก
巢 เฉา แปลว่า รังของสัตว์ปีกหรือแมลง

เป็นสนามกีฬาที่สร้างไว้ในการแข่งขันโอลิมปิคฤดูร้อนปี 2008 ที่จัดขึ้นที่ปักกิ่ง
และหลังจากการจัดโอลิมปิค ก็ทำให้ค่าครองชีพของเมืองปักกิ่งทะยานพุ่งขึ้นไปอย่างรวดเร็วอย่างน่าตกใจ
(ให้นึกภาพเคยกินข้าวผัดหมูจานละ 6 หยวน แล้วกลายเป็น 12 หยวนหลังโอลิมปิคตามนะครับ T T)


วัดลามะ (雍和宫 Yōnghé gōng)



เป็นสถานที่ๆ ผมชอบไปไหว้พระเวลาที่ผมไม่สบายใจ
เนื่องจากวัดในที่ปักกิ่งที่ผมรู้จักก็มีแค่วัดนี้วัดเดียว จะบนอะไรจะขออะไรก็ไปที่วัดนี้แหละ
ปล.แถวๆ นั้นมีร้านอาหารชื่อ 金鼎轩(จินติ่งเซวียน) อร่อยมาก (เอาชื่อไปหาในกูเกิ้ลได้นะ)

พระราชวังฤดูร้อน (颐和园 Yíhéyuán)



อี๋เหอเยวี๋ยน นั่นแหละครับตามชื่อเป็น พระราชวังฤดูร้อน (ขออภัยรูปขาวดำ ไฟล์ต้นฉบับหายครับ T T)

ทะเลสาบในนี้เกิดจากการใช้แรงงานคน ขุดดินขึ้นไปถมเป็นเนินเขา สำหรับสร้างพระตำหนัก
เรื่องเล่าว่าพระนางซูสีไทเฮา เคยไปที่คุนหมิงแล้วเห็นทะเลสาบคุนหมิง ซึ่งสวยงามถูกใจถูกพระทัยมาก
ก็เลยอยากจะมีเป็นของตัวเอง จะให้ยกทะเลสาบจากคุนหมิงขึ้นมาปักกิ่งมันก็คงจะเป็นไปไม่ได้
เอาอย่างนี้ละกัน ขุดทะเลสาบเอง แล้วก็ตั้งชื่อทะเลสาบคุนหมิงซะเลย ส่วนของจริงที่คุนหมิงก็ให้เปลี่ยนเป็นชื่ออื่นไปซะ
เท่านี้ก็ได้ ทะเลคุนหมิง มาอยู่ที่ปักกิ่งแล้ว ฮ่าๆๆ

ปัจจุบันก็เหมือนที่หอฟ้าเทียนถานครับ เป็นที่ท่องเที่ยวและสถานที่ให้อาโกวอาม่ามาทำกิจกรรมกัน







ภาพวาดของเจ้าของโครงการก่อสร้าง เอ๊ย พระนางซูสีไทเฮา(慈禧太后)



พระราชวังต้องห้าม (故宫 Gùgōng)


กู้กง เป็นพระราชวังของฮ่องเต้ครับ


สร้างในสมัยราชวงศ์หมิง หลังจากที่พวกแมนจูยึดอำนาจและตั้งราชวงศ์ชิง ก็ได้ยึดวังของราชวงศ์หมิงมาเป็นวังของตัวเองเลย


ราชวงศ์ชิงเป็นราชวงศ์สุดท้ายของจีนครับ ก่อนจะถูกการปฏิวัติซินไฮ่(辛亥革命)
ในปี 1911 เปลี่ยนระบอบการปกครองมาเป็นระบอบสาธารณรัฐโดย ดร.ซุนยัดเซ็น
มีฮ่องเต้คนสุดท้ายของจีนที่เรารู้จักกันดีจากเรื่อง The Last Emperor คือ "ปูยี" หรือ ชื่อจริง "อ้ายซินเจี๋ยโหล ปูยี"
หลังปฏิวัติสู่ยุคสาธารณรัฐ ปูยีถูกกักบริเวณให้อยู่ในพระราชวังต้องห้าม เขากลายเป็นตัวแทนของโลกเก่าในยุคระบอบกษัตริย์


นั่นก็ไม่ได้ทำให้เขาเดือดร้อนเท่าไหร่ จนฟางเส้นสุดท้ายขาดลง
เมื่อ เจียงไคเช็ก ระเบิดสุสานของซูสีไทเฮา แล้วเอาไข่มุกในปากพระศพซูสีไทเฮามาประดับรองเท้าให้นางซ่งชิงหลิงภรรยาของเขา
ประจวบกับสงครามโลกครั้งที่ 2 ระเบิดขึ้น เขาจึงไม่ลังเลที่จะเข้าร่วมกับญี่ปุ่นและก่อตั้งประเทศแมนจูเรีย โดยกลายเป็นหุ่นเชิดให้กับญี่ปุ่น
สงครามจบลงญี่ปุ่นเป็นฝ่ายแพ้ ระบอบสาธารณรัฐของเจียงไคเช็กก็พ่ายแพ้ให้กับกองทัพแดงของเหมาเจ๋อตุงเช่นกัน ประเทศจีนก็ได้เปลี่ยนการปกครองอีกครั้งในปี 1949 เป็น "สาธารณรัฐประชาชนจีน" ในปัจจุบัน


ระเบียงที่อยู่เหนือรูปเหมาเจ๋อตุง เป็น ที่ๆ ในวันที่ 1 ตุลาคม 1949 เขาขึ้นไปยืนและประกาศอย่างเป็นทางการว่าต่อจากนี้ไปเราคือ "สาธารณรัฐประชาชนจีน"


ปูยี กำลังจะขึ้นเครื่องบินหนีไปญี่ปุ่น แต่เขาถูกจับได้เสียก่อน ในยุคเหมาเจ๋อตุง ปูยี กลายเป็นเครื่องมือโฆษณาชวนเชื่อให้กับพรรคในทันที
เขากลายเป็นคนสวนทำงานตามระบอบสังคมนิยมเหมือนคนในยุคนั้น
และเขาไม่สามารถกลับไปอยู่ที่วังได้อีก (นึกภาพมีบ้าน แต่บ้านโดนยึดไปแล้ว แถมอำนาจที่เคยมีก็หายไป ต้องกลายมาเป็นคนสวนอีก มันเศร้านะครับ)
ผมไม่เล่าเรื่องปูยีต่อแล้วเพราะยาวมาก ไปหาอ่านกันต่อดูนะครับ เขาเป็นคนที่น่าสงสารมาก


สวนสัตว์ปักกิ่ง (北京动物园 Běijīng dòngwùyuán)

พักเรื่องสาระเยอะๆ เมื่อกี้แล้วมาพักผ่อนสายตากันก่อนครับ
และแน่นอนสัตว์ประจำชาติจีนคือ 熊猫(Xióngmāo) ซย๋งเมา หรือ หมีแพนด้านั่นเอง
熊 สง(หรือซย๋งถ้าจะอ่านให้ถูกสำเนียง) แปลว่า หมี
猫 เมา แปลว่า แมว
熊猫 หมีกับแมวสองคำรวมกันจึงกลายเป็น หมีแมว นั่นเอง ส่วนมันกลายเป็นคำว่า แพนด้า ได้ยังไงอันนี้วานผู้รู้ชี้แจงทีครับ จะว่าไปมันก็หน้าตาคล้ายๆ แมวอยู่นะ ในสวนสัตว์ปักกิ่งมีหมีแพนด้าเยอะมากๆ ครับ 5 ตัวขึ้นไปเท่าที่ตาผมเห็นและมีบางตัวไม่ได้ออกมารับลม

หย่อนก้นแพพนะนอนท่าเดิมนานๆ แล้วเมื่อย


ผมมีเรื่องเล่าเรื่องนึงคือ วันที่ผมไปถ่ายรูปเจ้าหมีสองตัวนี้ ผมก็เดินเที่ยวๆ ไป กำลังจะกดชัตเตอร์ถ่ายหมีแพนด้านี่แหละ
มีคนจีนครับ พาลูกเล็กๆ มาเที่ยวสวนสัตว์ แล้วอยากจะถ่ายรูปคู่กับหมีแพนด้า
แต่หมีแพนด้าไม่ยอมหันหน้ามาทางเขา มันก็นอนหลับไปตามประสามัน รู้ไหมครับพ่อคนจีนคนนั้นทำอะไร
ด้วยความที่เป็นกรงเปิด เขาหยิบหินครับ ฟังไม่ผิดหรอกครับ หินนี่แหละครับ ก้อนก็ใหญ่อยู่เหมือนกัน ขว้างไปที่หมีแพนด้า
หมีแพนด้าตกใจเกือบตกลงมา แล้วลูกก็หัวเราะยิ้มร่าเริงไปตามประสาเด็ก เป็นการกระทำที่แย่มากๆ ครับ ผมเห็นแล้วผมโกรธมากๆ
แต่ไม่อยากต่อล้อต่อเถียงกับคนจีน มันไม่มีประโยชน์แล้วก็เสียสุขภาพจิตด้วย แล้วแถวนั้นไม่มีพนักงานสวนสัตว์ให้ผมแจ้งอีก
ไม่พอไปถึงกรงลิง กรงหมาป่า กรงอะไรที่เป็นกระจก คุณพ่อคนจีนคนนี้แกเคาะหมดครับ
แล้วไม่ได้เคาะเบาๆ นะ เคาะดังปังๆๆ จนสัตว์ในกรงสะดุ้งตกใจ เป็นสิ่งที่ผมรู้สึกแย่มาก
ได้แต่หวังว่าเด็กรุ่นใหม่ๆ ของเมืองจีนที่โตมาจะไม่มีพฤติกรรมแบบนี้นะครับ

บ่นเยอะแล้ว มาดูน้องหมากันดีกว่าครับ





งูก็มีนะ...



ขอปิดกระทู้ด้วยที่สถานที่สุดท้ายนะครับ

ภูเขาเซียงซาน (香山公园 Xiāngshān gōngyuán)


สถานที่ชมใบไม้เปลี่ยนสียอดฮิตของชาวปักกิ่ง ในช่วงที่ใบไม้เปลี่ยนสีคนจะเยอะมากๆ ครับ

แต่ผมไปตอนมันใกล้ฤดูหนาวแล้ว ฤดูใบไม้ร่วงของปักกิ่งช่างผ่านไปได้รวดเร็วเหลือเกิน





ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านเรื่องราวความทรงจำของผมนะครับ

และสวัสดีปีใหม่ขอให้ทุกคนโชคดีตลอดปีครับ ยิ้ม

祝大家新年快乐!
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่