สวัสดีค่า กลับมาเจอกันอีกแล้ว ฮี่ฮี่ นี่ไม่ใช่กระทู้แรกของเรา แต่แต่แต่!! เราก็ตั้งใจทำกระทู้นี้มากกก
ปิดเทอมทั้งที หลังจากผ่านไฟนอลอันแสนทรหด มีหรือจะไม่ไปเที่ยว
ช่วงนี้เรารู้สึกคนไปเที่ยวเชียงใหม่เยอะมากกก ในไทม์ไลน์นี่ใครๆก็ไปเชียงใหม่ และช่วงสิ้นปีนี้ก็ดูมีคนกำลังจะไปเยอะเหมือนกัน
ช่วงก่อนหน้าที่เราจะไปเราก็พยายามหาข้อมูลจากกระทู้และเว็บต่างๆเยอะพอสมควร เราเลยอยากตั้งกระทู้นี้ขึ้นมา เพื่อที่จะได้เป็นข้อมูลให้เพื่อนๆพี่ๆน้องๆ ได้ไปตามรอยกันและจะได้ไม่โดนหลอกกันค่ะ
แต่ขอบอกไว้ก่อนว่าทริปนี้ค่อนข้างเป็นทริปโง่ (ที่บอกว่าโง่เพราะเสียค่าโง่ไปเยอะมากและดวงค่อนข้างซวย)
เราไปเชียงใหม่ วันที่ 18-21 ค่ะ นอนบนรถไฟ 1 คืนและที่เชียงใหม่ 2 คืน
วิธีการเดินทางไปเชียงใหม่
1. เครื่องบิน : วิธีนี้เร็วสุดค่ะ มีหลายสายการบินให้เลือก ยิ่งถ้าดวงดีจะได้ตั๋วถูกๆ ราคาพอๆกับ ไปรถทัวร์หรือรถไฟเลยค่ะ
2. รถไฟ : มีทั้งตู้นอนและแบบนั่ง หรือจะรถไฟฟรีก็ประหยัดดีค่ะ
-รถไฟฟรี จะออกจากหัวลำโพงเวลาประมาณบ่ายโมงค่ะ ถึงเชียงใหม่ประมาณตีสี่ของอีกวันนึง
-รถไฟปกติ มีหลายขบวนค่ะที่ไปเชียงใหม่ แต่ฮิตสุดคือ ด่วนพิเศษ ขบวนที่ 1 ออกจากหัวลำโพง 18.10 ด่วนพิเศษขบวนที่ 14 ออกจากหัวลำโพง 19.35 มีทั้งตู้นอนชั้น 2 ละชั้น 1 ค่ะ จะถึงเชียงใหม่ตอนเช้าค่ะ
3. รถทัวร์ : ส่วนใหญ่จะนิยมของ นครชัยแอร์กับสมบัติทัวร์ ค่ะ สองบริษัทนี้ทำเวลาพอๆกัน แล้วแต่ความชอบของแต่ละคนเลยค่ะ เราชอบของนครชัยแอร์ตรงที่ไม่จอดพักยิงยาวไปเชียงใหม่เลย แต่เราชอบเบาะของสมบัติทัวร์ค่ะ เราว่านั่งสบายกว่า
4. ขับรถไปเอง : วิธีนี้จะสะดวกไปอีกแบบค่ะ ไม่ต้องไปลำบากหาเช่ารถหรือโบกรถแดง แต่เรารู้สึกว่าในตัวเมืองรถค่อนข้างติดค่ะ แทบไม่ต่างจากกทม. ช่วงวันหยุดยาวคงแน่นน่าดู
18.12.2558 : ออกเดินทาง
เราไปกับเพื่อน ทริปนี้รวมแล้วมี 5 คนค่ะ ไปรถไฟกันทั้งหมด มีทั้งทีมที่ไปรถฟรีและรถไฟนอนค่ะ ตอนแรกเราอยากไปเครื่องบิน แต่ดูจากราคาตั๋วช่วงนี้เราไม่สู้ค่ะ เราเลยตัดสินใจองรถไฟตู้นอนชั้น2 ปรับอากาศ กับเพื่อนอีกคนค่ะ เลือกเป็นเลดี้โบกี้ ค่ะ จะได้นอนได้อย่างสบายใจ
-
ทีมรถไฟฟรี เพื่อนเราไปเอาตั๋วฟรีกันตั้งแต่ 9โมงค่ะ กลัวไม่ได้นั่ง ตอนไปเอาเห็นบอกว่าเหลือไม่กี่ที่แล้วค่ะ ใครที่จะไปรถไฟฟรีต้องกะเวลาดีๆนะคะ เอาตั๋วนั่งไม่ทันแล้วได้ตั๋วยืนนี่ไม่ตลกแน่
ค่าโง่แรกเกิดขึ้นที่นี่แหละค่ะ งงสิคะว่าอ้าวถึงหัวลำโพงแล้วก็น่าจะได้ไปกันอย่างชิวๆ แต่แต่ความแอดแวนเจอร์นี้เกิดขึ้นเมื่อทุกคนพร้อมใจกันเล่นเกมส์เศรษฐีกันเพลินจนลืมดูเวลา ก้าวขาไปชานชาลารถไฟก็ออกไปต่อหน้าต่อตาเลยค่ะ วิ่งยังไงก็ไม่ทันแล้ว นะจุดนี้ต้องพี่วินเลยค่ะ โดนกันไปคนละ 250 สำหรับค่าวิ่งตามรถไฟแล้วไปขึ้นที่บางซื่อ
-ทีมรถนอน ทีมนี้ก็มีค่าโง่ค่ะ ออกจากบ้านมาขึ้นแท็กซี่ไปหัวลำโพง บอกจะไปทางปกติ แท็กซี่ดันพาไปอีกทางค่ะ ขึ้นสาทรแล้วจะวนไปสามย่าน รถติดบรรลัยมากๆ ค่ามิเตอร์พุ่งไป 180 กว่าๆ หงุดหงิดมากค่ะปกตินั่งไปทางปกติ ร้อยนิดๆไปถึงหัวลำโพงเกือบหกโมง เรากับเพื่อนวิ่งขึ้นรถไฟแทบไม่ทันเลยค่ะ
เรากับเพื่อนได้เตียงบนทั้งคู่ค่ะ เนื่องจากเตียงล่างเต็ม (เราจองตั๋วล่วงหน้าสามอาทิตย์ค่ะ ) เตียงบนราคา 791 บาทค่ะ ส่วนเตียงล่าง 881 บาทค่ะ ที่เตียงล่างแพงกว่าเพราะเตียงกว้างกว่าแล้วก็จะนอนสบายกว่าค่ะ
รถไฟออกจากหัวลำโพงตรงเวลาค่ะ ตอนแรกจะให้นั่งไปก่อนค่ะ พอดึกๆแล้วประมาน 2-3 ทุ่มถึงจะมีเจ้าหน้าที่มาปูเตียงให้ค่ะ
ปูเตียงเสร็จแล้วก็หิ้วร่างตัวเองปีนขึ้นไปข้างบนค่ะ ตอนนี้ทำไรไม่ได้นอกจากนอนค่ะ จะนั่งก็หัวติดเพดาน หลับไปหลับมารู้สึกตัวตอนตีห้า รถไฟก็ถึงลำปางแล้วค่ะ ไหนๆก็ตื่นแล้ว เลยเดินมาหาที่นั่งแถวตู้เสบียงจิบกาโอวันตินรอเขาเก็บเตียงค่ะ
ขอตัดกลับไปที่ทีมรถฟรีนินึง5555
ในขณะที่เราอยู่ลำปางตอนนี้พวกที่ไปรถไฟฟรีถึงเชียงใหม่แล้วค่ะ กำลังหาที่เช่ารถมอไซค์อยู่ เดินออกไปจากสถานรถไฟ ถามรถแดงว่าไป bikky ที่ห้วยแก้วเท่าไหร่ เขาบอกมาว่า 500 (เหมาสามคน) โอ้โหหหห ลมแทบจับ เลยเปลี่ยนแพลนไปเช่าที่สาขาอาเขตแทน ถามรถแดงคันใหม่ว่าไปอาเขตเท่าไหร่ ตกลงราคาได้คนละ 50 บาท ก็เลยตกลงไป
ส่วนเรานั่งไปนั่งมา มองนาฬิกา 7โมงกว่าๆก็ถึงเชียงใหม่แล้วค่ะ เราแปลกใจเล็กน้อยที่รถไฟแทบไม่เลทเลย ถือว่าโชคดีไป5555 ลงจากรถไฟเราก็นั่งรอเพื่อนทีมรถไฟฟรีที่ถึงกันตั้งแต่เช้ามืด ที่ไปทำเรื่องเช่ารถเรียบร้อนวนมารับค่ะ พอเพื่อนวนมาแล้วถึงแว้นกันไปที่พักค่ะ ไปฝากกระเป๋าไว้ก่อน เพราะยังไม่ถึงเวลาเช็คอิน
เราพักกันในคูเมืองค่ะ เสียดายไม่ได้ถ่ายรูปที่พักมา เราจองเป็นห้องสำหรับหกคนไปคืนละ 1500 บาท หารกันแล้วถูกดีค่ะ
แอบแปะลิ้งไว้ละกัน พี่เจ้าของน่ารักมากก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://www.agoda.com/th-th/sirikamsan-house/hotel/chiang-mai-th.html
พอฝากกระเป๋าเรียบร้อยแล้ว มองนาฬิกาก็เกือบจะ 11 โมง เราเลยไปแวะทานข้าวกันก่อนค่ะที่
ต๋องเต็มโต๊ะ นิมมาน ซอย 13
คนส่วนใหญ่ที่ทานมักจะต้องรอคิว แต่เราเลือกที่จะมารอร้านเปิดค่ะ รอแปปเดียวก็ได้เข้าไปนั่งสั่งอาหารแล้ว
อาหารที่นี่จะเป็นอาหารพื้นเมืองค่ะ รสชาติดีทีเดียวค่ะ ไม่แปลกใจทำไมช่วงเย็นคิวถึงยาวมากๆ
ออเดิร์ฟเมืองค่ะ มีน้ำพริกหนุ่มกับน้ำพริกอ่อง แล้วก็เครื่องเคียง
อันนี้คือลาบหมูคั่ว เราชอบจานนี้เป็นการส่วนตัวตัวค่ะ
ค่าเสียหายทั้งหมดหกร้อยกว่าบาทค่ะ สำหรับ 5 คน อาหารอร่อยดีค่ะ แต่เรารู้สึกว่าเผ็ดไปนิดนึงหรือเพราะเราไม่ทานเผ็ดมากก็ไม่รู้555555
พออิ่มท้องก็ได้เวลาออกแว้นไปเที่ยวกันค่ะ เย้
ก่อนจะไปแว้นก็จะต้องศึกษาเส้นทางก่อน จะได้ไม่ย้อนไปย้อนมา
ต้องขอบคุณภาพนี้จากพี่ๆในพันทิปค่ะ จำไม่ได้แล้วจริงๆว่าแคปมาจากกระทู้ไหน แต่เราว่ารูปนี้มีประโยชน์มากค่ะ
พร้อมแล้วก็ออกแว้นค่ะ วันนี้จะลองออกไปเส้นแม่ริมดู
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ อ่านแล้วกด + ให้กันหน่อยเน้อ อุส่าห์นั่งทำรูปอยู่หลายวัน
[CR] ฉลองปิดเทอมกับทริปโง่ ปล่อยเนื้อปล่อยตัวปล่อยใจกันที่เชียงใหม่
สวัสดีค่า กลับมาเจอกันอีกแล้ว ฮี่ฮี่ นี่ไม่ใช่กระทู้แรกของเรา แต่แต่แต่!! เราก็ตั้งใจทำกระทู้นี้มากกก
ปิดเทอมทั้งที หลังจากผ่านไฟนอลอันแสนทรหด มีหรือจะไม่ไปเที่ยว
ช่วงนี้เรารู้สึกคนไปเที่ยวเชียงใหม่เยอะมากกก ในไทม์ไลน์นี่ใครๆก็ไปเชียงใหม่ และช่วงสิ้นปีนี้ก็ดูมีคนกำลังจะไปเยอะเหมือนกัน
ช่วงก่อนหน้าที่เราจะไปเราก็พยายามหาข้อมูลจากกระทู้และเว็บต่างๆเยอะพอสมควร เราเลยอยากตั้งกระทู้นี้ขึ้นมา เพื่อที่จะได้เป็นข้อมูลให้เพื่อนๆพี่ๆน้องๆ ได้ไปตามรอยกันและจะได้ไม่โดนหลอกกันค่ะ
แต่ขอบอกไว้ก่อนว่าทริปนี้ค่อนข้างเป็นทริปโง่ (ที่บอกว่าโง่เพราะเสียค่าโง่ไปเยอะมากและดวงค่อนข้างซวย)
เราไปเชียงใหม่ วันที่ 18-21 ค่ะ นอนบนรถไฟ 1 คืนและที่เชียงใหม่ 2 คืน
วิธีการเดินทางไปเชียงใหม่
1. เครื่องบิน : วิธีนี้เร็วสุดค่ะ มีหลายสายการบินให้เลือก ยิ่งถ้าดวงดีจะได้ตั๋วถูกๆ ราคาพอๆกับ ไปรถทัวร์หรือรถไฟเลยค่ะ
2. รถไฟ : มีทั้งตู้นอนและแบบนั่ง หรือจะรถไฟฟรีก็ประหยัดดีค่ะ
-รถไฟฟรี จะออกจากหัวลำโพงเวลาประมาณบ่ายโมงค่ะ ถึงเชียงใหม่ประมาณตีสี่ของอีกวันนึง
-รถไฟปกติ มีหลายขบวนค่ะที่ไปเชียงใหม่ แต่ฮิตสุดคือ ด่วนพิเศษ ขบวนที่ 1 ออกจากหัวลำโพง 18.10 ด่วนพิเศษขบวนที่ 14 ออกจากหัวลำโพง 19.35 มีทั้งตู้นอนชั้น 2 ละชั้น 1 ค่ะ จะถึงเชียงใหม่ตอนเช้าค่ะ
3. รถทัวร์ : ส่วนใหญ่จะนิยมของ นครชัยแอร์กับสมบัติทัวร์ ค่ะ สองบริษัทนี้ทำเวลาพอๆกัน แล้วแต่ความชอบของแต่ละคนเลยค่ะ เราชอบของนครชัยแอร์ตรงที่ไม่จอดพักยิงยาวไปเชียงใหม่เลย แต่เราชอบเบาะของสมบัติทัวร์ค่ะ เราว่านั่งสบายกว่า
4. ขับรถไปเอง : วิธีนี้จะสะดวกไปอีกแบบค่ะ ไม่ต้องไปลำบากหาเช่ารถหรือโบกรถแดง แต่เรารู้สึกว่าในตัวเมืองรถค่อนข้างติดค่ะ แทบไม่ต่างจากกทม. ช่วงวันหยุดยาวคงแน่นน่าดู
เราไปกับเพื่อน ทริปนี้รวมแล้วมี 5 คนค่ะ ไปรถไฟกันทั้งหมด มีทั้งทีมที่ไปรถฟรีและรถไฟนอนค่ะ ตอนแรกเราอยากไปเครื่องบิน แต่ดูจากราคาตั๋วช่วงนี้เราไม่สู้ค่ะ เราเลยตัดสินใจองรถไฟตู้นอนชั้น2 ปรับอากาศ กับเพื่อนอีกคนค่ะ เลือกเป็นเลดี้โบกี้ ค่ะ จะได้นอนได้อย่างสบายใจ
-ทีมรถไฟฟรี เพื่อนเราไปเอาตั๋วฟรีกันตั้งแต่ 9โมงค่ะ กลัวไม่ได้นั่ง ตอนไปเอาเห็นบอกว่าเหลือไม่กี่ที่แล้วค่ะ ใครที่จะไปรถไฟฟรีต้องกะเวลาดีๆนะคะ เอาตั๋วนั่งไม่ทันแล้วได้ตั๋วยืนนี่ไม่ตลกแน่
ค่าโง่แรกเกิดขึ้นที่นี่แหละค่ะ งงสิคะว่าอ้าวถึงหัวลำโพงแล้วก็น่าจะได้ไปกันอย่างชิวๆ แต่แต่ความแอดแวนเจอร์นี้เกิดขึ้นเมื่อทุกคนพร้อมใจกันเล่นเกมส์เศรษฐีกันเพลินจนลืมดูเวลา ก้าวขาไปชานชาลารถไฟก็ออกไปต่อหน้าต่อตาเลยค่ะ วิ่งยังไงก็ไม่ทันแล้ว นะจุดนี้ต้องพี่วินเลยค่ะ โดนกันไปคนละ 250 สำหรับค่าวิ่งตามรถไฟแล้วไปขึ้นที่บางซื่อ
-ทีมรถนอน ทีมนี้ก็มีค่าโง่ค่ะ ออกจากบ้านมาขึ้นแท็กซี่ไปหัวลำโพง บอกจะไปทางปกติ แท็กซี่ดันพาไปอีกทางค่ะ ขึ้นสาทรแล้วจะวนไปสามย่าน รถติดบรรลัยมากๆ ค่ามิเตอร์พุ่งไป 180 กว่าๆ หงุดหงิดมากค่ะปกตินั่งไปทางปกติ ร้อยนิดๆไปถึงหัวลำโพงเกือบหกโมง เรากับเพื่อนวิ่งขึ้นรถไฟแทบไม่ทันเลยค่ะ
เรากับเพื่อนได้เตียงบนทั้งคู่ค่ะ เนื่องจากเตียงล่างเต็ม (เราจองตั๋วล่วงหน้าสามอาทิตย์ค่ะ ) เตียงบนราคา 791 บาทค่ะ ส่วนเตียงล่าง 881 บาทค่ะ ที่เตียงล่างแพงกว่าเพราะเตียงกว้างกว่าแล้วก็จะนอนสบายกว่าค่ะ
รถไฟออกจากหัวลำโพงตรงเวลาค่ะ ตอนแรกจะให้นั่งไปก่อนค่ะ พอดึกๆแล้วประมาน 2-3 ทุ่มถึงจะมีเจ้าหน้าที่มาปูเตียงให้ค่ะ
ปูเตียงเสร็จแล้วก็หิ้วร่างตัวเองปีนขึ้นไปข้างบนค่ะ ตอนนี้ทำไรไม่ได้นอกจากนอนค่ะ จะนั่งก็หัวติดเพดาน หลับไปหลับมารู้สึกตัวตอนตีห้า รถไฟก็ถึงลำปางแล้วค่ะ ไหนๆก็ตื่นแล้ว เลยเดินมาหาที่นั่งแถวตู้เสบียงจิบกาโอวันตินรอเขาเก็บเตียงค่ะ
ขอตัดกลับไปที่ทีมรถฟรีนินึง5555
ในขณะที่เราอยู่ลำปางตอนนี้พวกที่ไปรถไฟฟรีถึงเชียงใหม่แล้วค่ะ กำลังหาที่เช่ารถมอไซค์อยู่ เดินออกไปจากสถานรถไฟ ถามรถแดงว่าไป bikky ที่ห้วยแก้วเท่าไหร่ เขาบอกมาว่า 500 (เหมาสามคน) โอ้โหหหห ลมแทบจับ เลยเปลี่ยนแพลนไปเช่าที่สาขาอาเขตแทน ถามรถแดงคันใหม่ว่าไปอาเขตเท่าไหร่ ตกลงราคาได้คนละ 50 บาท ก็เลยตกลงไป
ส่วนเรานั่งไปนั่งมา มองนาฬิกา 7โมงกว่าๆก็ถึงเชียงใหม่แล้วค่ะ เราแปลกใจเล็กน้อยที่รถไฟแทบไม่เลทเลย ถือว่าโชคดีไป5555 ลงจากรถไฟเราก็นั่งรอเพื่อนทีมรถไฟฟรีที่ถึงกันตั้งแต่เช้ามืด ที่ไปทำเรื่องเช่ารถเรียบร้อนวนมารับค่ะ พอเพื่อนวนมาแล้วถึงแว้นกันไปที่พักค่ะ ไปฝากกระเป๋าไว้ก่อน เพราะยังไม่ถึงเวลาเช็คอิน
เราพักกันในคูเมืองค่ะ เสียดายไม่ได้ถ่ายรูปที่พักมา เราจองเป็นห้องสำหรับหกคนไปคืนละ 1500 บาท หารกันแล้วถูกดีค่ะ
แอบแปะลิ้งไว้ละกัน พี่เจ้าของน่ารักมากก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
พอฝากกระเป๋าเรียบร้อยแล้ว มองนาฬิกาก็เกือบจะ 11 โมง เราเลยไปแวะทานข้าวกันก่อนค่ะที่
ต๋องเต็มโต๊ะ นิมมาน ซอย 13
คนส่วนใหญ่ที่ทานมักจะต้องรอคิว แต่เราเลือกที่จะมารอร้านเปิดค่ะ รอแปปเดียวก็ได้เข้าไปนั่งสั่งอาหารแล้ว
อาหารที่นี่จะเป็นอาหารพื้นเมืองค่ะ รสชาติดีทีเดียวค่ะ ไม่แปลกใจทำไมช่วงเย็นคิวถึงยาวมากๆ
ออเดิร์ฟเมืองค่ะ มีน้ำพริกหนุ่มกับน้ำพริกอ่อง แล้วก็เครื่องเคียง
อันนี้คือลาบหมูคั่ว เราชอบจานนี้เป็นการส่วนตัวตัวค่ะ
ค่าเสียหายทั้งหมดหกร้อยกว่าบาทค่ะ สำหรับ 5 คน อาหารอร่อยดีค่ะ แต่เรารู้สึกว่าเผ็ดไปนิดนึงหรือเพราะเราไม่ทานเผ็ดมากก็ไม่รู้555555
พออิ่มท้องก็ได้เวลาออกแว้นไปเที่ยวกันค่ะ เย้
ก่อนจะไปแว้นก็จะต้องศึกษาเส้นทางก่อน จะได้ไม่ย้อนไปย้อนมา
ต้องขอบคุณภาพนี้จากพี่ๆในพันทิปค่ะ จำไม่ได้แล้วจริงๆว่าแคปมาจากกระทู้ไหน แต่เราว่ารูปนี้มีประโยชน์มากค่ะ
พร้อมแล้วก็ออกแว้นค่ะ วันนี้จะลองออกไปเส้นแม่ริมดู
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น