Snap แค่ได้...คิดถึง ไปดูแล้วหนังไทยม้ามืดปีนี้ !

Snap แค่ได้...คิดถึง(ก็เป็นสุขใจ)
หนังโทนหม่น เล่าเรื่องแบบอาร์ต เนื้อหาแบบแมส

เราไปดูรอบพิเศษ Snap มาจะมาแนะนำหนังเรื่องนี้ของปีนี้ให้ฟังว่าน่าโดนมัย
Snap ว่าด้วยคนสองคน คือ บอย และ ผึ้งซึ่งสองคนนี้
เรียนอยู่โรงเรียนต่างจังหวัดแล้วผึ้งเป็นลูกครอบครัวทหาร ช่วงที่ผึ้งและบอยยังเรียนมัธยมอยู่ช่วงนั้นเป็นช่วงรัฐประหาร 49 พอดี ทำให้พึ่งต้องย้ายตามพ่อที่เป็นทหารมากรุงเทพ ผึ้งกับบอย สัญญาด้วยกันว่า บอยจะถ่ายรูปให้ เพราะไอบอยเนี่ยเป็นตากล้องประจำรุ่น ในวันที่ผึ้งมาเรียนวันสุดท้าย แต่บอยก็ไม่มาตามนัดจนเรื่องราวมาถึง Snap แต่ละคนแยกกันไปถึง 8 ปีเวลาที่ผึ้ง และ บอยต่าง เริ่มชีวิตใหม่กันไปแล้ว แต่ต้องกลับวนมาเจอกันอีกเพราะมางานแต่งเพื่อนและบอยก็รับถ่าย pre-weddding ให้ด้วย การมาเจอทั้งสองคนทำให้ความสัมพันธ์ที่ขมุกขมัว จะได้คลี่คลายสะที

ขอเล่าก่อนไอคำว่า เล่าเรื่องแบบอาร์ตแต่เนื้อหาแบบแมสนี่คืออะไร การเล่าเรื่องแบบหนังอาร์ตคือหนังจะไม่บอกทุกๆอย่างที่หนังจะสื่อแต่เป็นการโยนประเด็นให้คนดูได้คิดเองทำให้ Snap ของแต่จะแตกต่างกันไปแต่หนังก็ไม่ได้มีกรอบกว้างยังงั้น แต่หนังดีที่ทิ้งอะไรมาให้เราคิดตอนกลับบ้าน เช่น บางฉากตัวละครไม่พูดออกมาแต่สื่อออกมาทางสีหน้า หรือ symbolic ภายในฉาก

และเนื้อหาแบบแมส คือ เนื้อหาเป็นเรื่องเข้าใจง่ายๆเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นๆได้กับทุกคนว่าด้วย บอย(โทนี่ รากแก่น)ต้องจำใจลา ผึ้ง(อิ้งค์ ชิลลี่ไวค์ช็อค) ด้วยเหตุผลบางประการทำให้ไปถ่ายรูปให้ผึ้งในวันสุดท้ายก่อนที่ผึ้งจะย้ายตามพ่อไปกรุงเทพได้ จะเห็นว่าไอพลอต จำใจจากเนี้ยมันอินโครตง่ายเลย และหนังทั้งเรื่องจะมี background และแทรกเรื่องการเมืองได้แนบสนิทไปกับตัวละคา

โทนของหนังจะเป็นโทนหม่นแต่ครึ่งแรกของหนังจะเป็นความโรแมนติกของชีวิตมัธยม(โชว์แก่)หรือปล่อยมุขแซะการเมือง ฮิปสเตอร์ แซะได้แบบถึงด้วยนะและจะมาในบทพูดอย่างเนียนๆ

พวกมุขตลกจะเป็นมุขที่เหนือคาดมากคือปล่อยมานี่แบบเชี่เอางี้เลยหรอดูในโรงนี้โครตลั่นเพราะไม่คิดว่าหนังจะปล่อยมุขมายังงี้555

เขาไปดูต้นๆเรื่องจะงงๆหน่อยเพราะหนังเล่าเรื่องเป็นจิ๊กซอว์ค่อยๆ มาเฉลยเติมไปเรื่อยๆแต่พอถึงฉากพีคของหนังเป็นการเฉลยปมของ Snap แม่โครตจุกอกจริงๆมันเป็นความเศร้าที่สุดมากๆมันได้เศร้าแบบปล่อยโฮในโรงแต่พอกลับบ้านมานั่งคิดแล้วยิ่งเศร้าขึ้นเรื่อยๆๆช่วง2-3วันหลังจากดูนี่นั่งซึมไปเลย

พูดถึงเพลงประกอบของหนังคิดว่ายังไม่ค่อยดึงอารมณ์ของฉากนั้นๆออกมาได้สุดถ้าเลือกเพลงได้ดีกว่านี้หนังจะดีมากเลยฉากนั้นๆเราจะเข้าถึงโครตๆยกเว้นเพลง แค่ได้คิดถึง - Yarinda นี่เพลงขึ้นทีนี่จุกอกเลย

โดยรวมคือเป็นหนังม้ามืดเรื่องนึงควรดูนะแต่ต้องดูว่าเราชอบรึเปล่ากับการที่หนังไม่บอกทั้งหมดแต่เราต้องคิดเอาเอง หนังก็ประทับใจน่าจดจำ ส่วนตัวเกือบชอบที่สุดแต่ในปีนี้ยังฟัด กับ Freelance อยู่ถ้าโอเคกับการเล่าเรื่องแบบอาร์ตก็ไปซะเดี้ยวนีเลย รอบพิเศษทั่วกรุงเทพ 2 ทุ่มเป็นต้นไป ฉายจริง 31 ธันวาคม 2558

ใครอยากฟังบ่นต่อไปตามกันทีนี้นะ
https://goo.gl/Gkzzmi
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่