สรุปคดีเกาะ เต่า เรียงตามไทม์ไลน์

สืบเนื่องจากข่าว‪ที่ว่าคนพม่ามาประท้วงเรื่อง เกาะเต่า
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1451117121

และสื่อพม่าก็บิดเบือนค่อนข้างมาก เกี่ยวกับคดีนี้
https://www.facebook.com/IrrawaddyBurmese/?fref=ts

เลยหาที่สรุปมาแล้วให้ เผื่อจะเข้าใจดีขึ้น
เห็นมีหลายคนสับสนเรื่อง DNA อยู่
แท็กหว้ากอ เพราะตำรวจ ทหาร นักวิทย์ เยอะมาก เผื่อจะ มีรายละเอียดเพื่มเติมต่อกระทู้ในเรื่อง DNA และเรื่องการเก็บ พิสูจน์หลักฐาน ทางนิติวิทยาศาตร์
ขอแท็ก ห้องศาลาด้วยนะครับ ทนายความเยอะดี

ต้นฉบับ ผู้ย่อข้อมูล
https://www.facebook.com/Juristconsult/posts/10201044828038666?hc_location=ufi

#‎เกาะเต่าบริฟเคส‬ จำเลย ๒ คน คือ ซอลิน กับ เวพิว เลขคดี ๒๐๔๐/๒๕๕๗
อ่านฉบับเต็มได้ที่
คำพิพากษาฉบับเต็ม [http://news.coj.go.th/document/25122015170806kao%20tao.pdf]

‪#‎อัยการโจทก์ฟ้องว่า‬ (สรุปเฉพาะประเด็นข่มขืนแล้วฆ่าเพื่ออำพรางศพ)
.
๑. จำเลยทั้งสอง ร่วมกันฆ่าเดวิด ข่มขืนฮันน่าห์ อันมีลักษณะเป็นการโทรมหญิง และฆ่าเพื่อปกปิดการกระทำความผิด
.
๒. ในทางพิจารณาโจทก์นำสืบว่า สภาพศพของผู้ตายทั้งสองมีบาดแผลฉกรรจ์ โขดหินบริเวณที่พบศพฮันน่าห์มีคราบเลือด และเศษชิ้นเนื้อกระเซ็นติดอยู่เป็นจำนวนมาก ‪#‎นายแพทย์ชสิทธิ์ฯ‬ แพทย์ประจำโรงพยาบาลเกาะเต่า มาร่วมชันสูตรพลิกศพด้วย
.
๓. วัตถุพยานในที่เกิดเหตุคือ ก้นบุหรี่ ๓ ชิ้น ถุงยางอนามัยใช้แล้ว ๑ ชิ้น รองเท้าแตะ ๑ ข้าง จอบด้ามไม้เปื้อนเลือด ๑ ด้าม เจ้าหน้าที่ส่งพยานวัตถุทั้งหมด ไปตรวจ DNA ที่ กองพิสูจน์หลักฐาน สตช.
.
๔. จากการชันสูตรผู้ตายพบว่า เดวิดเสียชีวิตจากการถูกของแข็งร่วมกับจมน้ำ ฮันน่าห์เสียชีวิตจากจากบาดเจ็บรุงแรงที่ศีรษะ นอกจากนั้น ยังถูกทำร้ายทางเพศด้วยการชำเรา และทางทวารหนัก หัวนมมีรอยกัด
.
๕. เจ้าหน้าที่ทำการตรวจอสุจิจากช่องคลอด และทวารหนัก น้ำลายบริเวณหัวนม ผลออกมาว่าเป็น DNA ของบุคคลมากกว่า ๑ คน
.
๖. พฐ. ตรวจคราบเลือดจากวัตถุพยานทั้งหมด แล้วนำมาเทียบกัน พบว่า DNA ที่จอบ ตรงกับ DNA ของผู้ตายทั้งสอง DNA จากถุงยางอนามัย ตรงกับ DNA ของฮันน่าห์ และ DNA จากก้นบุหรี่ ปรากฎว่าเป็น DNA ของบุคคลมากกว่า ๑ คน
.
๗. ตำรวจเรื่มสืบสวนขยายผลจากกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้เคียงที่เกิดเหตุ DNA ของบุคคลต้องสงสัย ระบุว่าเป็นของชาวเอเชีย ผู้ต้องสงสัยที่เป็นนักท่องเที่ยวยุโรป จึงถูกตัดออกไป
.
๘. กล้องวงจรปิดบันทึกว่า ผู้ตายทั้งสองเข้าไปในร้าน และไม่ได้ออกมาอีก เชื่อได้ว่าผู้ตายออกไปทางหลังร้าน เพื่อเดินทะลุออกไปยังชายหาด บริเวณสถานที่เกิดเหตุ ตำรวจสันนิษฐานว่าเหตุฆาตกรรม น่าจะเกิดช่วง ๐๒.๑๕ น. - ๐๕.๐๐ น.
.
๙. จากการตรวจสอบช่วงเวลาก่อนเกิดเหตุ จำเลยทั้งสอง (ซอลินกับเวพิว) ซ้อนมอเตอร์ไซต์ มากับ ‪#‎นายเมา‬ ถือกีต้าร์ แวะซื้อเบียร์บุหรี่ที่เซเว่น ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่เกิดเหตุ จากนั้นก็มุ่งไปยังที่เกิดเหตุ
.
๑๐. ตำรวจเชิญตัวนายเมา มาสอบปากคำ นายเมาให้ข้อเท็จจริงว่า นายเมาและจำเลยทั้งสอง ชวนกันไปเล่นกีต้าร์และดื่มเบียร์สูบบุหรี่ขอนไม้ใต้ต้นสน ต่อมา นายเมาขอแลกเสื้อกับเวพิว และนายเมายืมมอร์เตอร์ไซต์ ขับไปบ้านเพื่อนสาว ้เมื่อนายเมากลับมาถึงที่พัก ก็เห็นจำเลยทั้งสองนอนหลับอยู่ ต่อมาตำรวจให้นายเมาพาไปหาจำเลยทั้งสองคน แต่กลับพบเพียงซอลินเพียงคนเดียว โดยตำรวจได้ยึดเสื้อผ้าของกลางเอาไว้ โดยมีการพูดคุยสอบถามถึงพฤติการณ์หลบหนีเข้าเมืองจาก ‪#‎นายอูซอนล่ามชาวพม่า‬ ประกอบด้วย
.
๑๑. ตำรวจพบตัว เวพิว ช่วงเช้าวันรุ่งขึ้นในเรือโดยสาร ที่กำลังขึ้นฝั่งไปสุราษฎร์ฯ นายเมาดูรูปถ่ายของเวพิว ที่ตำรวจเอาให้ดู และนายเมา ได้ยืนยันว่าเป็น เวพิว จริง พร้อมยืนยันว่าเป็นคนที่ร่วมวงกันในคืนเกิดเหตุ
.
๑๒. ตำรวจควบคุมตัวเวพิว ในข้อหาหลบหนีเข้าเมือง ผ่านการพูดคุยกับล่ามชาวพม่าชื่อ ‪#‎เมียจนาง‬ และขณะควบคุมตัว ได้มีการเก็บ DNA บริเวณกระพุ้งแก้ม จากเวพิวไปตรวจสอบ ในฐานะผู้ต้องสงสัย/พยาน และมีการเซ็นหนังสือยินยอมให้ตรวจ DNA เอาไว้
.
๑๓. เวพิวถูกสอบสวนข้อมูล ‪#‎เบื้องต้น‬ จากตำรวจภูธรภาค ๘ เวพิวรับสารภาพผ่านล่ามว่าร่วมกับซอลิน ฆ่าผู้ตายทั้งสอง พร้อมอธิบายขั้นตอนการลงมือ (‪#‎ทั้งๆที่ตำรวจยังไม่ได้ตั้งข้อหาฆ่าคนตาย‬)
.
๑๔. พนักงานสอบสวน สอบปากคำ เวพิว ไว้ในฐานะพยานเท่านั้น (ทั้งๆที่ยอมรับว่าฆ่าผู้ตาย) เนื่องจากตำรวจต้องรอผลตรวจ DNA จากวัตถุพยานเพื่อเอามาเปรียบเทียบเสียก่อน
.
๑๕. ต่อมาเมื่อปรากฎผลตรวจ DNA จากวัตถุพยาน ว่าตรงกับ DNA ของ ซอลิน กับ เวพิว ตำรวจจึงตั้งข้อหาผู้ต้องหาทั้งสอง ฐานร่วมกันฆ่าคนตาย ฐานข่มขืนกระทำชำเราในลักษณะโทรมหญิง พร้อมกับขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ต้องหาทั้งสองคน
.
๑๖. เมื่อจับผู้ต้องหาได้แล้ว ตำรวจแจ้งสิทธิของผู้ต้องหา ‪#‎ผ่านล่ามชาวพม่า‬ ‪#‎ต่อหน้าทนายความ‬ จำเลยทั้งสอง รับสารภาพทุกข้อหา
.
๑๗. เมื่อสอบปากคำ และผู้ต้องหารับสารภาพเรียบร้อย ตำรวจเชิญนายแพทย์ชสิทธิ์ฯ ทำการตรวจร่างกายผู้ต้องหาทั้งสองไว้ป็นหลักฐานว่าไม่ปรากฎร่องรอยการทำร้ายหรือได้รับบาดเจ็บใดๆ
.
๑๘. ต่อมาจำเลยยื่นหลังสือขอความเป็นธรรมต่อพนักงานอัยการ อ้างว่าถูกทำร้ายให้รับสารภาพ อัยการสั่งให้สอบสวนเพิ่มเติม ตำรวจสอบสวนเพิ่มเติมตามคำสั่งอัยการ จำเลยทั้งสองจึง ‪#‎กลับคำให้การ‬ เป็น ‪#‎ปฏิเสธทุกข้อหา‬
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่