รีวิวนี้ผมได้เขียนลง blog ของตัวเองและแชร์ใน FB แล้วที่

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://www.facebook.com/Invisiblesane-180287301982395/?ref=bookmarks

http://invisiblesane.blogspot.com/2015/11/slow-life-stand-alone.html


* ภาพที่เอามารีวิวถ่ายจากมือถือ ความสวยงามและความคมชัดอาจจะดร็อไปบ้าง ต้องขออภัยนะครับ
** รีวิวนี้ เกิดจากไปกินจริง จ่ายจริง คหสต อาจจะไม่ถูกใทุกคนไปเสียทั้งหมด ก็ต้องขออภัยล่วงหน้านะครับ

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------


ช่วงนี้กระแสการใช้ชีวิต Slow Life กำลังมา หลายๆคนอาจจะเห่อตามกระแส แต่อีกหลายๆคนก็เป็นแบบนี้มานานแล้ว นั่นคือการออกไปนั่งร้านกาแฟบรรยากาศดี พร้อมกับหนังสือโปรดสักเล่ม เพื่อนที่รู้ใจสักคน กาแฟหอมกรุ่น แค่นี้ก็สามารถดื่มด่ำกับชีวิต Slow Life ได้ทั้งวัน




ผมก็เป็นคนหนึ่งที่(อาจจะ)ตามกระแส เมื่อย้อนไปเมื่อ 5-6 ปีก่อนนั้น ลิ้นของผมไม่สามารถทนกับความขมและขื่นของกาแฟได้เลย แต่ยิ่งนานไปบวกกับความง่วงงันของบรรยากาศการทำงานทำให้ลิ้นของผมเริ่มปรับสภาพได้ เริ่มต้นจากกาแฟชงที่พี่แม่บ้านชงมาให้ หวานๆหนักครีม จนมาถึงกาแฟแบบทรีอินวันไต่ระดับมาจนถึงลาเต้ และตอนนี้ อเมริกาโน่เย็นไม่ต้องเติมน้ำเชื่อมแล้ว

นี่แหละ เขาถึงบอก เวลาเปลี่ยนคนเปลี่ยน จากสมัยก่อนวันเสาร์อาทิตย์หาเรื่องไปเดินห้าง ดูหนัง กินบุฟเฟ่ต์หรือต้องออกไปเผชิญโลกกว้างต่างจังหวัด ตอนนี้กลับหาเวลาออกไปนั่งสบายๆกับแลปท็อปสักเครื่อง กาแฟสักแก้ว ปล่อยใจปล่อยอารมณ์ไปกับบรรยากาศ จนเป็นที่มาของการเสาะแสวงหาร้านกาแฟน่านั่งชิลของผม

ขออนุญาตเกริ่นก่อนว่า ผมเพิ่งเริ่มต้นออกไปเสาะหาร้านกาแฟนั่ง ประสบการณ์ด้านนี้อาจจะยังน้อย การรีวิวข้อมูลอาจไม่ครบถ้วน รูปที่ถ่ายมาอาจจะยังไม่ใช่ทั้งหมดที่เขามี และคะแนนที่ได้อาจจะ bias แต่ถึงอย่างไร ก็ขอฝากรีวิวนี้ด้วยนะครับ ขอประเดิมร้านกาแฟน่านั่งร้านแรก ได้แก่ Stand Alone ถ.วิภาวดี ซ.20 หลังการบินไทยครับ






ก่อนเดินเข้าร้าน ผมไม่ได้มาจากถนนวิภาวดีนะครับ แต่ทะลุมาจากถนนลาดพร้าว ซ.18 ขี่มอเตอร์ไซค์กับเพื่อนมาแบบงงๆหลงๆเพราะเป็นครั้งแรกที่ได้มาแถวนี้ มาถึงหน้าร้านเป็นแบบคาเฟ่บวกกับร้านนวดสปา ร้านจะอยู่ขวามือและสปาจะอยู่ติดกันที่ฝั่งซ้าย ที่ถนนเห็นป้าย Stand Alone ชัดเจน ประตูหน้าร้านเป็นแบบกระจกบานใหญ่ เปิดเข้าไปมองตรงจะเป็นบาร์ที่บาริสต้าใช้ทำกาแฟ มีอุปกรณ์ชงกาแฟวางเรียงราย และยังมีเค้กและขนมปังวางยั่วน้ำลายอยู่ ที่บาร์มีเก้าอี้สำหรับลูกค้าที่มาคนเดียวได้นั่งสนทนากับบาริสต้าแบบใกล้ชิดอีกด้วย










แต่ถ้าใครไม่อยากนั่งติดบาร์ ก็เดินเข้าไปในร้านแค่ก้าวเดียวด้านว้ายมือจะมีโต๊ะไม้ยาวแทบจรดผนังตั้งตระหง่านอยู่ สามารถนั่งได้ ถ้าเป็นช่วงกลางวัน ด้านนี้จะเป็นด้านที่โดนแสงแดดพอสมควร




วันนี้ผมเลือกฝั่งด้านในร้าน เดินไปสามก้าวเป็นร้านสปา มีแค่ประตูเลื่อนบานใหญ่กั้นไว้ มุมที่ผมนั่งแอร์ตกพอดี หนาวมาก ก่อนเข้าไปนั่งก็สั่งเครื่องดื่มกันก่อน วันนี้ผมสั่งอเมริกาโน่เย็น (ราคา 85 บาท) เอามาชิมรสชาติ กาแฟไม่เข้มมาก มีรสเปรี้ยว(ซึ่งเป็นราชาติที่แท้จริงของกาแฟ) แต่ผมกลับไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ เพราะติดรสชาติที่ว่า กาแฟต้องมีรสขม แก้วนี้เลยให้คะแนนไป 7/10 ครับ จะสั่งแต่กาแฟก็กระไรอยู่ เดินไปสำรวจเจอขนมน่ากิน เลยจัดมาชิ้นนึง Cinnamon Roll ชิ้นนี้ 85 บาท รสชาติดีถึงดีมาก กินยากไปหน่อยเพราะแอบเหนียว ให้คะแนนไปที่ 9/10 ครับ




ในด้านการตกแต่ง ทางร้านตกแต่งได้โอเคนะครับ เรียบๆแต่ก็ไม่ได้โล่งมากมาย ผมไม่มีความรู้ด้านนี้ ขอข้ามไปเลยละกันนะครับ แต่บรรยากาศโดยรวมของร้านทำได้ดีครับ ให้ 8.5/10 ที่ตัดคะแนนไปเพราะที่นั่งแบบโซฟ้ามันแข็งไป นั่งนานๆแล้วปวดตูด และโต๊ะนั่งที่หนักมาก เลื่อนไปมาได้ แต่ไม่สามารถยก ไม่กล้าเรียกคนในร้านมาช่วย เลยนั่งปวดหลังไปเล่นคอมไป แถมโซนที่ผมนั่ง แอร์กระหน่ำมาก เหมือนนั่งดูแม่คะนิ้งที่ยอดดอยอินทนนท์ หนาวจนสั่น อาจจะเป็นเพราะเป็นที่ตรงข้ามกับแอร์ด้วย ที่ต้องเปิดให้ความเย็นทั้งร้าน ผลพวงเลยตกมาที่ผมเต็มๆ ตัวสั่นมือเย็นเจี๊ยบ คะแนนพิศวาสเลยหายไปหน่อยนึง





สำหรับคนที่อยากหาร้านทำงาน ผมแนะนำร้านนี้นะครับมีครบทั้ง wifi และ ปลั๊กสำหรับชาร์จไฟมือถือหรือคอมพิวเตอร์ นอกจากนั้นทางร้านยังมี options อื่นๆอีก นั่นก็คือ อาหาร สลัด ไส้กรอก เค้กช็อคโกแล็ตลาวา สปา เป็นต้น แถมบาริสต้าและพนักงานยังเป็นมิตร เป็นกันเองสุดๆ ตรงจุดนี้ผมให้คะแนนเต็ม 10 ไปเลยครับ





สำหรับใครที่ชอบแบบ open air ทางร้านก็มีโซนด้านนอกไว้บริการด้วยนะครับ มีที่เขี่ยบุหรี่สำหรับนักสูบอีกต่างหาก ผมว่าเขาใส่ใจลูกค้าดีนะครับ



อ้อ สำหรับใครที่นั่งนาน เครื่องดื่มหมด ทางร้านยังมีน้ำเปล่าไว้บริการท่านฟรีด้วยนะครับ ร้านแบบนี้ จะพลาดได้ไง เนอะ!





เอาเป็นว่า สำหรับคอกาแฟที่หาร้านน่ารักๆบรรยากาศดีๆ มี wifi แรงๆและปลั๊กไฟสำหรับนั่งเล่นคอม ผมว่าร้านนี้ตอบโจทย์นะครับ คนที่ไม่มีรถยนต์ส่วนตัวอาจจะไปลำบากนิดหน่อย แต่คนมีรถไปได้ไม่ยากแน่ๆครับ แต่ที่ร้านอาจจะหาที่จอดยากหน่อย เพราะหน้าร้านไม่ได้กว้างมากเท่าไรนักนะครับ

วันหยุดหน้า ถ้าใครไม่มีแผนไปไหน ไปเจอกันที่ร้าน Stand Alone ได้นะครับ



สำหรับวันนี้ ขอบคุณที่ติดตามครับผม ^_^


FB ของร้าน : https://www.facebook.com/Standalonecoffee/?fref=ts