ความเหมือนโดยบังเอิญ
เคล็ดลับการจัดบ้านสองกูรู



หลักการจัดระเบียบบ้านของ Marie Kondo
“The Life Changing Magic of Tidying Up”
หรือที่คนไทยรู้จักในหนังสือแปลขายดีที่ชื่อ
ชีวิตดีขึ้นทุกๆด้าน ด้วยการจัดบ้านแค่ครั้งเดียว

หนังสือเล่มนี้ให้แนวคิดเกี่ยวกับการจัดบ้าน
ในแบบที่เหมาะสมกับคนทุกๆ คน
ที่อยากได้พื้นที่ส่วนตัวที่เต็มไป
ด้วยความสุข และผ่อนคลาย

สอดคล้องกับแนวคิดของ
Julie Morgenstern
ผู้เขียนหนังสือ ซึ่งเป็นหนังสือขายดี
New York Times bestseller :
Organizing from the Inside Out
(มีแปลเป็นภาษาไทยนานมากแล้ว)
คุณ Julie แนะนำคล้ายๆกันว่า

การจัดระเบียบเป็นกระบวนการ
ของการสร้างสิ่งแวดล้อมภายในบ้าน
ที่ทำให้เราสามารถอาศัยอยู่ได้ ทำงานได้
และผ่อนคลายได้มากอย่างที่เราต้องการ
=============================

1.) จัดบ้านทีเดียวให้เสร็จทั้งหมด อย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้

สองขั้นตอนหลักในการเก็บบ้านแบบ KonMari
คือการคัดของออกและการจัดเก็บของเข้าที่

สาเหตุหลักที่บ้านเรารก ไม่เป็นระเบียบ
ก็เพราะเรามีของเยอะเกินไป
ไม่ใช่เพราะเรามีพื้นที่จัดเก็บน้อยเกินไป

วิธีจัดการสิ่งของด้วยการเลือกของที่เก็บ
กับคัดสิ่งของที่ไม่ใช้ออก ต่างกันมากค่ะ

เราควรเลือกด้วยวิธี เลือกสิ่งที่เราจะเก็บ

วิธีการคัดของควรจะเรียงตามนี้
คือเริ่มจากเสื้อผ้า ต่อด้วยหนังสือ
ตามด้วยเอกสาร ต่อด้วยของจิปาถะ
และจบท้ายด้วยของที่มีคุณค่าทางจิตใจ
เช่นจดหมายหรืออัลบั้มรูป
ที่เก็บของที่มีคุณค่าไว้สุดท้าย
เพราะมันจะเสียเวลานั่งคิดมากกว่าทุกสิ่ง

สามารถอ่านเพิ่มเติมได้จากหนังสือ
มีรายละเอียดมากมายจริงๆ แนะนำว่า
ห้ามพลาดเลยค่ะ ควรซื้อมาอ่านเป็นอย่างยิ่ง

ถ้าเป็นแนวคิดของ คุณ Julie
จะชี้ให้เห็นถึงสาเหตุของข้อผิดพลาด
ที่ทำให้เราๆ จัดระเบียบบ้านไม่ได้เสียที

ถ้าได้อ่านหนังสือสองเล่มนี้
จะได้เห็นความแตกต่าง ของวัฒนธรรม
จากสองซีกโลก ตะวันออก ตะวันตก

แม้จะกล่าวถึงในเรื่องเดียวกันคือ จัดบ้าน
แต่ใช้วิธีการที่มีรายละเอียดแตกต่างกัน

และน่าแปลกที่เมื่ออ่านจบทั้งสองเล่ม
จะรู้สึกว่า แตกต่างแบบไม่แตกต่าง
=============================

2.) จัดบ้านตาม “หมวดหมู่” ไม่ใช่ “ตำแหน่ง”

ข้อนี้คล้ายกับหลักการจัดสิ่งของแบบ
โรงเรียนอนุบาลของ Julie Morgenstern
ซึ่งมีเคล็ดลับง่ายๆ คือ
กิจกรรม + ของใช้ + ที่เก็บสิ่งของ

==============================

3.) จงเลือกของโดยอยู่บนแนวคิดที่ว่า
“มันทำให้เรามีความสุขรึเปล่า?”

เวลาเลือกให้ถือมันขึ้นมาแล้วตั้งสมาธิกับมัน
ลองดูว่า ร่างกายเรารู้สึกตื่นเต้น
รู้สึกดีที่มีของสิ่งนี้มั้ย และเคล็ดลับคือ
เราต้องได้สัมผัสของสิ่งนั้นก่อนตัดสินใจเสมอ

เป็นวิธีที่ง่ายและได้ผลในการเลือกเก็บของ
และอย่าคิดว่า " เก็บไว้เผื่อใช้วันหน้า "
เพราะมันทำให้ไม่สามารถทิ้งของอะไรได้เลย

แนวคิด แบบ KonMari จะสอนให้เห็นถึง
ความสำคัญของสิ่งของแต่ละชิ้น
มีเรื่องราว มีประเด็นที่เราไม่เคยคิดถึง

แต่ของคุณ Julie จะออกแนว How to เลย
ใช้การวิเคราะห์จัดการสิ่งของที่มีอยู่

ด้วยกฏ 5 ข้อในการวิเคราะห์คือ
1 อะไรที่ยังใช้ได้
2 อะไรที่ใช้ไม่ได้
3 อะไรคือสิ่งที่จำเป็นที่สุดสำหรับคุณ
4 ทำไมถึงต้องจัดระเบียบ
5 อะไรคือสาเหตุของปัญหา

สำหรับแอนการใช้ใจ ใช้ความรู้สึก
ตามแนวทางของคุณ Marie Kondo
ใช้ร่วมกับการวิเคราะห์ 5 ข้อนี้ด้วย
รับรองได้ว่า คุณแม่หรือสาวๆทุกท่าน
จะจัดของได้เรียบร้อยและง่ายขึ้นแน่นอน
==============================

4.) จัดลำดับในการจัดบ้านตามหมวดหมู่ดังต่อไปนี้

คุณ Marie Kondo แนะนำให้แบ่งหมวดสิ่งของ
- เสื้อผ้า
- หนังสือ
- เอกสาร
- ของจิปาถะอื่นๆ
- ของที่มีคุณค่าทางจิตใจ

แต่ของคุณ Julie จะไม่ได้ระบุหมวดหมู่
เธอเน้นให้จัดตามกิจกรรมเลย
ซึ่งต้องไม่ลืมว่า หลักคิดคือ
คนใช้ ต้องหยิบใช้และเก็บได้สะดวก
ในเวลาที่ต้องใช้สิ่งเหล่านั้น

มีหลัก 5 ข้อในการจัดสิ่งของลงพื้นที่
1 การจัดแยกประเภทสิ่งของ
2 การกำจัดของที่ไม่ใช้แล้ว
3 การกำหนดพื้นที่จัดวาง
4 การบรรจุของลงในพื้นที่
5 การรักษาสภาพ
(จัดเวลาที่จะจัดเก็บของเป็นประจำ)
===============================
ทั้งสองเล่มนี้มีแนวคิดที่สุดยอด
สำหรับแม่บ้าน ไม่ว่าจะเป็นคุณแม่
หรือคุณพ่อ สาวโสด หนุ่มโสด
การจัดระเบียบบ้าน = การจัดระเบียบชีวิต
คนเก่งที่ไม่มีเวลา = คนไม่เก่ง
เพราะฉะนั้นเรามาจัดบ้าน จัดระเบียบชีวิต
เพื่อจะได้มีเวลาทำในสิ่งที่เราสนใจ
เพื่อจะได้เริ่มทำสิ่งที่อยากทำจริงๆ
เพื่อเติมเต็มความฝันกันดีกว่าค่ะ
===============================
อ่านแนวคิดการจัดบ้านของคุณ Julie
จากหนังสือจัดระเบียบจากภายในสู่ภายนอก
Organizing from the Inside Out
ได้ที่ http://on.fb.me/1Qt8Hiw

หวังว่าเพื่อนๆจะได้ประโยชน์จากบทความนี้กันนะคะ
ติดตามเพจของแอนได้ที่เพจ รวยเพื่อลูก
www.facebook.com/BenyaratBlog