การแช่ตัวในออนเซ็นเริ่มเป็นที่นิยมในกลุ่มนักท่องเที่ยวไทยที่มาเที่ยวญี่ปุ่น จขกท.ผู้เป็นแม่บ้านไทยเมืองเซนได ได้เขียนเทคนิคและขั้นตอนการเตรียมตัวก่อนลงแช่ออนเซ็นไว้ที่
http://ppantip.com/topic/34551743/comment23-1 กระทู้นี้จะขอต่อจากคราวที่แล้วค่ะ
หลังจากที่ได้ถอดทุกสิ่งทุกอย่างที่นุ่งมาหมดแล้ว ก็ถึงเวลาที่จะเดินหน้าเข้าห้องอาบน้ำรวมกันล่ะนะคะ เนื่องจากในห้องอาบน้ำของโรงแรมจะมีสบู่ แชมพู ครีมนวดให้เป็นมาตรฐานแล้ว จึงไม่ต้องเอาอะไรติดตัวไป นอกจากให้ถือผ้าเช็ดตัวผืนเล็กๆไปด้วย เพื่อที่เอาไว้แก้เขิน ผ้าผืนนี้จะใช้ประโยชน์ได้สารพัดระหว่างการอาบ
1. เดินตรงไปยังห้องอาบน้ำ เปิดประตูเข้าไป แล้วอย่าลืมปิดประตูด้วยทุกครั้ง สังเกตุได้ว่าไม่ว่าจะเป็นห้องน้ำหรือห้องอะไรก็ตามที่ญี่ปุ่น ประตูจะถูกปิดไว้เสมอค่ะ ยิ่งห้องอาบน้ำด้วยแล้ว มิฉะนั้นควันน้ำร้อนจะทะลักออกมาข้างนอก (ในห้องอาบน้ำส่วนตัวบนห้องพักของโรงแรม จะเขียนเตือนไว้ที่ประตูเลย ว่าเวลาอาบน้ำให้ปิดประตูเสมอ แม้อยู่คนเดียว ไม่งั้นควันน้ำร้อนอาจจะทำให้ fire alarm เข้าใจผิด ส่งเสียงลั่นเตือนได้)
(ภาพบ่อน้ำร้อน Togatta จ.มิยะกิ)
2. เข้าไปแล้วยังไม่ลงบ่อเลยค่ะ ให้ไปที่ม้านั่งตรงฝักบัวเพื่อขัดสีฉวีร่างให้สะอาดก่อน จขกท.เคยเห็นบางที่มีป้ายเขียนกำกับว่า”อย่าลืมล้างก้น”ด้วย !
เนื่องจากเราจะต้องวางก้นเปล่าเปลือยลงไปบนม้านั่ง แนะนำให้เอาฝักบัวฉีดล้างก่อนหย่อนก้นลงไปค่ะ ผ้าขนหนูที่เราถือติดตัวมาให้ใส่ไว้ในกะละมังเล็กๆที่จะมีวางใกล้ๆคู่กับม้านั่ง ถ้าลองมองดูคนญี่ปุ่นรอบๆตัว จะเห็นว่าเขาแช่ๆซักๆผ้าขนหนูในกะละมัง บิดน้ำแล้วใช้ผ้าขัดถูหลัง ถูตัว เราก็ทำตามเขาไปอย่างนั้นก็ได้ค่ะ
( ภาพห้องอาบน้ำโรงแรม Miyagi Zao Royal Hotel เมือง Togatta จ.มิยะกิ)
3. การนั่งอาบติดๆกันกับคนอื่นต้องระวังด้วยค่ะว่าไม่ให้น้ำจากฝักบัวของเรากระเซ็นไปโดนคนอื่น ดูทิศทางฝักบัวดีๆด้วย และอย่ายืนอาบในขณะที่มีคนนั่งอยู่ข้างๆ เมื่อล้างตัวเสร็จแล้ว เลื่อนม้านั่งเก็บเข้าที่ ฉีดน้ำล้างกะละมังที่เราใช้แล้ววางคว่ำให้เรียบร้อย
( ภาพห้องอาบน้ำโรงแรม Miyagi Zao Royal Hotel เมือง Togatta จ.มิยะกิ)
4. ก่อนจะก้าวเดินไปที่บ่อ ผู้ที่ผมยาวรวบผมขึ้นด้วยค่ะ ไม่ให้ผมสยายลงแช่น้ำ ผ้าเช็ดตัวเล็กๆที่มีติดมาด้วยก็ใช้ห่อรวบผมได้ในตอนนี้เลย ผ้าผืนนี้เราถือไปด้วยแต่จะไม่เอาไปลงไปแช่ในน้ำเป็นอันขาดค่ะ คนที่ผมสั้นไม่ต้องโพกก็อาจพับทบให้เล็กๆแล้ววางบนศีรษะ บางคนวางไว้ที่ขอบบ่อ
5. เวลาจะลงบ่อ อย่ารีบค่ะ เพราะน้ำร้อน ค่อยๆลง ให้ร่างกายคุ้นเคยกับอุณหภูมิทีละน้อยเสียก่อน แล้วอย่าแช่นานในตอนแรกๆ ไม่ควรเกิน 5 นาที แล้วขึ้นมาพักเสียหน่อย โดยขึ้นมานั่งที่ขอบบ่อ หรือเดินไปลงบ่ออื่นๆ หรือกลับไปนั่งขัดตัวที่ม้านั่งอีกซึ่งคราวนี้พวกขี้ไคลต่างๆจะหลุดออกมาได้อย่างง่ายดาย เพราะการแช่น้ำร้อนสักพักทำให้ผิวนุ่มขึ้นขัดขี้ไคลได้ง่ายขึ้น
6. ที่สำคัญคือเวลาขึ้นจากน้ำร้อนอย่างพรวดพลาด ให้ค่อยๆขึ้น เพราะมิฉะนั้นอาจจะมีอาการเหมือนจะเป็นลม (โนะโบะเซะ) เนื่องจากความร้อนของน้ำระหว่างแช่ทำให้เส้นเลือดในร่างกายขยายตัวอย่างมาก หากลุกออกมาอย่างกระทันหัน เส้นเลือดเกิดการหดตัวอย่างรวดเร็ว เป็นสาเหตุทำให้วิงเวียน หมดสติได้
7. เมื่อออกมาจากบ่อน้ำแร่แล้ว มีคำถามว่าจะต้องล้างตัวอีกทีไหม คำตอบคือแล้วแต่ผู้อาบค่ะ
แร่ธาตุจากน้ำแร่ใช้เวลาในการซึมซาบเข้าผิวหนัง จึงไม่ควรล้างทิ้ง แต่เนื่องจากเป็นน้ำที่อาบรวมกับคนอื่น บางคนก็นิยมล้างตัวหลังขึ้น ส่วนจขกท.มีหลักเฉพาะตัวดังนี้คือถ้าบ่อน้ำร้อนเป็นแบบ คะเคะนะงะชิ(かけ流し) คือมีน้ำใหม่ไหลเข้าอยู่ตลอดเวลา ก็จะไม่ล้างตัวหลังขึ้น แต่จะใช้ผ้าขนหนูเล็กๆซับน้ำที่ตัวเบาๆก่อนเดินออกจากห้องอาบน้ำ แต่ถ้าเป็นบ่อแบบทั่วๆไป (ไม่ใช่”คะเคะนะงะชิ” )ก็จะล้างตัวทุกครั้ง
8. เมื่อออกมาจากห้องอาบน้ำแล้วให้ดื่มน้ำเยอะๆไว้ค่ะ เพราะเราเสียน้ำในร่างกายไปไม่น้อยด้วยความร้อนในห้องอาบน้ำ หากชั่งน้ำหนักดูจะรู้ว่าก่อนเข้าและหลังเข้า น้ำหนักมักจะต่างกันถึงราวๆ 200-300 กรัม
เป็นอันเสร็จสิ้นการอาบออนเซ็นในห้องอาบน้ำรวมของญี่ปุ่นค่ะ ใครที่ลองเป็นครั้งแรก ตอนนี้ล่ะจะเป็นช่วงเวลาภูมิใจว่าตัวเองฝ่าผ่านอุปสรรคความเขินอายของตัวเองได้ ต่อไปก็จะค่อยๆชอบและอยากผจญภัยลองอาบที่ต่อไปอีก ออนเซ็นนี่มีประโยชน์มากมาย และมีบ่อแบบต่างๆให้ผู้อาบได้รับประโยชน์จากน้ำแร่ในรูปแบบต่างๆกัน ขอเก็บไว้เล่าในกระทู้ต่อไปค่ะ
หมายเหตุ ตามห้องอาบน้ำของโรงแรมนอกจะมีสบู่ แชมพู คอนดิชั่นเนอร์ให้แล้ว มักมีผลิตภัณฑ์อื่นๆให้ลองใช้อีกด้วย เช่น เจลลอกหน้า ครีมขัดเท้า ฯลณ ถ้าชอบใจสามารถซื้อได้ที่ร้านค้าของโรงแรม แต่ถ้าเป็นบ่อน้ำร้อนแบบสาธารณะ (共同浴場、銭湯) นั้นจะไม่มีอะไรให้เลยค่ะ ต้องเอาไปเองหมดทุกอย่าง หรือซื้อที่ตู้กดก่อนเข้า
อ่านต่อเรื่อง ทำไมคนญี่ปุ่นถึงคลั่งไคล้การอาบออนเซ็นกันนัก สังเกตุการณ์ของแม่บ้านไทยเมืองเซนได ได้ที่นี่ค่ะ
http://ppantip.com/topic/34579446
แม่บ้านไทยเมืองเซนได แนะเคล็ดลับการอาบออนเซ็น ประเทศญี่ปุ่น (ตอน 2)
หลังจากที่ได้ถอดทุกสิ่งทุกอย่างที่นุ่งมาหมดแล้ว ก็ถึงเวลาที่จะเดินหน้าเข้าห้องอาบน้ำรวมกันล่ะนะคะ เนื่องจากในห้องอาบน้ำของโรงแรมจะมีสบู่ แชมพู ครีมนวดให้เป็นมาตรฐานแล้ว จึงไม่ต้องเอาอะไรติดตัวไป นอกจากให้ถือผ้าเช็ดตัวผืนเล็กๆไปด้วย เพื่อที่เอาไว้แก้เขิน ผ้าผืนนี้จะใช้ประโยชน์ได้สารพัดระหว่างการอาบ
1. เดินตรงไปยังห้องอาบน้ำ เปิดประตูเข้าไป แล้วอย่าลืมปิดประตูด้วยทุกครั้ง สังเกตุได้ว่าไม่ว่าจะเป็นห้องน้ำหรือห้องอะไรก็ตามที่ญี่ปุ่น ประตูจะถูกปิดไว้เสมอค่ะ ยิ่งห้องอาบน้ำด้วยแล้ว มิฉะนั้นควันน้ำร้อนจะทะลักออกมาข้างนอก (ในห้องอาบน้ำส่วนตัวบนห้องพักของโรงแรม จะเขียนเตือนไว้ที่ประตูเลย ว่าเวลาอาบน้ำให้ปิดประตูเสมอ แม้อยู่คนเดียว ไม่งั้นควันน้ำร้อนอาจจะทำให้ fire alarm เข้าใจผิด ส่งเสียงลั่นเตือนได้)
(ภาพบ่อน้ำร้อน Togatta จ.มิยะกิ)
2. เข้าไปแล้วยังไม่ลงบ่อเลยค่ะ ให้ไปที่ม้านั่งตรงฝักบัวเพื่อขัดสีฉวีร่างให้สะอาดก่อน จขกท.เคยเห็นบางที่มีป้ายเขียนกำกับว่า”อย่าลืมล้างก้น”ด้วย !
เนื่องจากเราจะต้องวางก้นเปล่าเปลือยลงไปบนม้านั่ง แนะนำให้เอาฝักบัวฉีดล้างก่อนหย่อนก้นลงไปค่ะ ผ้าขนหนูที่เราถือติดตัวมาให้ใส่ไว้ในกะละมังเล็กๆที่จะมีวางใกล้ๆคู่กับม้านั่ง ถ้าลองมองดูคนญี่ปุ่นรอบๆตัว จะเห็นว่าเขาแช่ๆซักๆผ้าขนหนูในกะละมัง บิดน้ำแล้วใช้ผ้าขัดถูหลัง ถูตัว เราก็ทำตามเขาไปอย่างนั้นก็ได้ค่ะ
( ภาพห้องอาบน้ำโรงแรม Miyagi Zao Royal Hotel เมือง Togatta จ.มิยะกิ)
3. การนั่งอาบติดๆกันกับคนอื่นต้องระวังด้วยค่ะว่าไม่ให้น้ำจากฝักบัวของเรากระเซ็นไปโดนคนอื่น ดูทิศทางฝักบัวดีๆด้วย และอย่ายืนอาบในขณะที่มีคนนั่งอยู่ข้างๆ เมื่อล้างตัวเสร็จแล้ว เลื่อนม้านั่งเก็บเข้าที่ ฉีดน้ำล้างกะละมังที่เราใช้แล้ววางคว่ำให้เรียบร้อย
( ภาพห้องอาบน้ำโรงแรม Miyagi Zao Royal Hotel เมือง Togatta จ.มิยะกิ)
4. ก่อนจะก้าวเดินไปที่บ่อ ผู้ที่ผมยาวรวบผมขึ้นด้วยค่ะ ไม่ให้ผมสยายลงแช่น้ำ ผ้าเช็ดตัวเล็กๆที่มีติดมาด้วยก็ใช้ห่อรวบผมได้ในตอนนี้เลย ผ้าผืนนี้เราถือไปด้วยแต่จะไม่เอาไปลงไปแช่ในน้ำเป็นอันขาดค่ะ คนที่ผมสั้นไม่ต้องโพกก็อาจพับทบให้เล็กๆแล้ววางบนศีรษะ บางคนวางไว้ที่ขอบบ่อ
5. เวลาจะลงบ่อ อย่ารีบค่ะ เพราะน้ำร้อน ค่อยๆลง ให้ร่างกายคุ้นเคยกับอุณหภูมิทีละน้อยเสียก่อน แล้วอย่าแช่นานในตอนแรกๆ ไม่ควรเกิน 5 นาที แล้วขึ้นมาพักเสียหน่อย โดยขึ้นมานั่งที่ขอบบ่อ หรือเดินไปลงบ่ออื่นๆ หรือกลับไปนั่งขัดตัวที่ม้านั่งอีกซึ่งคราวนี้พวกขี้ไคลต่างๆจะหลุดออกมาได้อย่างง่ายดาย เพราะการแช่น้ำร้อนสักพักทำให้ผิวนุ่มขึ้นขัดขี้ไคลได้ง่ายขึ้น
6. ที่สำคัญคือเวลาขึ้นจากน้ำร้อนอย่างพรวดพลาด ให้ค่อยๆขึ้น เพราะมิฉะนั้นอาจจะมีอาการเหมือนจะเป็นลม (โนะโบะเซะ) เนื่องจากความร้อนของน้ำระหว่างแช่ทำให้เส้นเลือดในร่างกายขยายตัวอย่างมาก หากลุกออกมาอย่างกระทันหัน เส้นเลือดเกิดการหดตัวอย่างรวดเร็ว เป็นสาเหตุทำให้วิงเวียน หมดสติได้
7. เมื่อออกมาจากบ่อน้ำแร่แล้ว มีคำถามว่าจะต้องล้างตัวอีกทีไหม คำตอบคือแล้วแต่ผู้อาบค่ะ
แร่ธาตุจากน้ำแร่ใช้เวลาในการซึมซาบเข้าผิวหนัง จึงไม่ควรล้างทิ้ง แต่เนื่องจากเป็นน้ำที่อาบรวมกับคนอื่น บางคนก็นิยมล้างตัวหลังขึ้น ส่วนจขกท.มีหลักเฉพาะตัวดังนี้คือถ้าบ่อน้ำร้อนเป็นแบบ คะเคะนะงะชิ(かけ流し) คือมีน้ำใหม่ไหลเข้าอยู่ตลอดเวลา ก็จะไม่ล้างตัวหลังขึ้น แต่จะใช้ผ้าขนหนูเล็กๆซับน้ำที่ตัวเบาๆก่อนเดินออกจากห้องอาบน้ำ แต่ถ้าเป็นบ่อแบบทั่วๆไป (ไม่ใช่”คะเคะนะงะชิ” )ก็จะล้างตัวทุกครั้ง
8. เมื่อออกมาจากห้องอาบน้ำแล้วให้ดื่มน้ำเยอะๆไว้ค่ะ เพราะเราเสียน้ำในร่างกายไปไม่น้อยด้วยความร้อนในห้องอาบน้ำ หากชั่งน้ำหนักดูจะรู้ว่าก่อนเข้าและหลังเข้า น้ำหนักมักจะต่างกันถึงราวๆ 200-300 กรัม
เป็นอันเสร็จสิ้นการอาบออนเซ็นในห้องอาบน้ำรวมของญี่ปุ่นค่ะ ใครที่ลองเป็นครั้งแรก ตอนนี้ล่ะจะเป็นช่วงเวลาภูมิใจว่าตัวเองฝ่าผ่านอุปสรรคความเขินอายของตัวเองได้ ต่อไปก็จะค่อยๆชอบและอยากผจญภัยลองอาบที่ต่อไปอีก ออนเซ็นนี่มีประโยชน์มากมาย และมีบ่อแบบต่างๆให้ผู้อาบได้รับประโยชน์จากน้ำแร่ในรูปแบบต่างๆกัน ขอเก็บไว้เล่าในกระทู้ต่อไปค่ะ
หมายเหตุ ตามห้องอาบน้ำของโรงแรมนอกจะมีสบู่ แชมพู คอนดิชั่นเนอร์ให้แล้ว มักมีผลิตภัณฑ์อื่นๆให้ลองใช้อีกด้วย เช่น เจลลอกหน้า ครีมขัดเท้า ฯลณ ถ้าชอบใจสามารถซื้อได้ที่ร้านค้าของโรงแรม แต่ถ้าเป็นบ่อน้ำร้อนแบบสาธารณะ (共同浴場、銭湯) นั้นจะไม่มีอะไรให้เลยค่ะ ต้องเอาไปเองหมดทุกอย่าง หรือซื้อที่ตู้กดก่อนเข้า
อ่านต่อเรื่อง ทำไมคนญี่ปุ่นถึงคลั่งไคล้การอาบออนเซ็นกันนัก สังเกตุการณ์ของแม่บ้านไทยเมืองเซนได ได้ที่นี่ค่ะ http://ppantip.com/topic/34579446