ผมเดินทางมาแบคแพคกับเพื่อนที่ญี่ปุ่นครั้งแรก โดยเราลงที่สนามบินคันไซ โอซาก้า แล้วต่อรถไฟ JR Train มายังเมืองเกียวโตถึงที่เกียวโตช่วงเย็นๆ เดินลากกระเป๋าเข้าพักที่โรงแรม El Inn Kyoto(รร.อยู่ใกล้สถานี้รถไฟครับสะดวกดี)
ที่เลือกจองโรงแรมนี้เพราะใกล้สถานีรถไฟ และที่สำคัญมีบ่ออาบน้ำหรือที่เรียกว่า..ออนเซ็นที่ผมอยากมาลองหาประสบการณ์ใหม่ๆในต่างแดน(เพื่อนๆที่เคยมาญี่ปุ่นแล้วแช่ออนเซ็นต่างบอกว่ามันดี คือมาแล้วต้องจัด)

หลังจากเชคอินเรียบร้อยทางโรงแรมแจ้งว่ามีออนเซนให้บริการถึง ตี 1 ผมและเพื่อนจึงไปเดินหาราเม็งอร่อยๆมื้อเย็นแก้หนาวกันก่อน หลังจากซัดบะหมี่ร้อนๆ เรียบร้อยกลับมาถึง โรงแรมประมาณสามทุ่ม นอนเล่นสักพักเลยชวนเพื่อนลงไปออนเซน แต่เพื่อนบ่นว่เหนื่อยจากการเดินทางขอนอนอยู่ที่ห้อง
เฮ้ย!! ผมต้องลงไปลองออนเซนครั้งแรกคนเดียว แต่เอาวะ มาแล้วต้องขอลองซะหน่อย ทางโรงแรมมีผ้าเช็ดตัวผืนเล็กแพคเตรียมไว้ให้สำหรับลงไปแช่ออนเซน ผมลงลิฟท์มาที่ชั้น 2 ซึ่งบ่อแช่ออนเซนของโรงแรมอยู่ที่ชั้นนี้ เมื่อเดินมาถึงด้านหน้าออนเซน จะมีห้อง ชาย หญิง แยกเป็นสัดส่วน เมื่อผมเดินเข้ามาที่ห้องจะเจอกับตู้วางรองเท้าเตี้ย เราก็เอารองเท้าแตะของโรงแรมถอดวางไว้ที่ตู้เรียบร้อย ต่อจากนั้นเดินเข้ามาจะเจอตู้ล๊อกเกอร์ อยู่ตรงข้ามกับกระจกบานใหญ่ที่มีเค้าเตอร์ที่นั่งพร้อมอ่างล้างหน้า ไดร์เป่าผม เซรั่มบำรุงผม ครีมทาหลังโกนหนวด ที่โกนหนวด หวี ไม้แคะหู จัดเตรียมไว้ ทางโรงแรมยังเตรียมตู้น้ำดื่ม ร้อน เย็น ไว้ให้บริการด้วย(ในใจนึกช่างครบครันดีจัง)

ผมยืนเก้ๆ กังๆ อยู่หน้าตู้ล๊อกเกอร์ อืมๆ มันจะต้องทำไงต่อ เพราะไม่เห็นเขียนป้ายภาษาอังกฤษบอกไว้ มีแต่ภาษาญี่ปุ่นเต็มไปหมด ทันใดนั้น เจ้าหน้าที่โรงแรมเดินเข้ามา(เหมือนฟ้ามาโปรด) ผมเลยถามเค้า พี่เค้าก็พอพูดอังกฤษได้บ้าง ผมจับใจความได้ว่าให้ถอดเสื้อผ้าทั้งหมดไว้ที่ตู้ล๊อกเกอร์(ห๊า ถอดทั้งหมด) พี่เค้าบอกว่าให้เอาไปได้แค่ผ้าเช็ดตัวที่ทางโรงแรมแพคไว้ให้ ผมลองแกะแพคผ้าเช็ดตัวออกมาคลี่ดู
อั้ยยะ!! นี่ผ้าเช็ดตัวหรือผ้าเตี่ยว ทำไมมันผืนเล็กจิ๊ดเดียว อืม แล้วตรูจะปิดไงล่ะเนี่ย ลองเอามาปิดตรงนั้นดู ปรากฏว่า ตูดโผล่ค๊าบ มันปิดได้ครึ่งเดียว(คิดว่าเค้าคงให้เลือกว่าจะปิดด้านหน้า หรือปิดก้น)หรือถ้าอายมาก คงเอาผ้ามาปิดหน้าแทนแน่ๆ พอเก็บของเรียบร้อย แก้ผ้าเหลือแต่ชุดวันเกิด ผมก็เดินเอาผ้าผิดๆด้านหน้า ไปเปิดประตูเข้าไปยังบ่อออนเซน พอก้าวเข้าไปรู้สึกทันที่ว่ามันมีไอน้ำร้อนๆ ในห้อง จะเห็นเป็นที่อาบน้ำ แบบนั่งอาบมีฉากกั้น แบบล๊อกใครล๊อกมัน มีเก้าอี้นั่งอาบน้ำ กระจกด้านตรงหน้า พร้อม กะละมัง ครีมอาบน้ำ แชมพูสระผม และครีมนวดผมเตรียมไว้ให้(เอาล่ะคราวนี้ผมได้กะละมังมาปิดแทนผ้าล่ะ 😁😁😁)

พี่เจ้าหน้าที่บอกผมว่าก่อนลงบ่อทุกครั้งต้องอาบน้ำสระผมให้เรียบร้อย(เค้าคงกลัวบ่อสกปรก)

ขณะอาบน้ำผมมองไปรอบๆ เห็นคนทีานั่งอาบน้ำเอาผ้าเช็ดตัวผืนจิ๋วมาขัดตัว ที่บ่ออาบน้ำเห็นมี แขกของโรงแรมแช่อยู่ในบ่อประมาณ 10 คน เห็นเค้าเอาผ้ามาวางบนหัว ขณะนั่งแช่น้ำร้อนในบ่อ(อ้อผ้ามันเอาไว้ใช้ประโยชน์แบบนี้เอง)
หลังจากผมอาบน้ำเสร็จเรียบร้อยก็ค่อยๆ เดินลงไปที่บ่อออนเซน เมื่อเอาขาจุ่มลงไปในน้ำ ผมต้องร้อง จ๊าก!! ทำไมน้ำมันร้อนขนาดลวกไข่สุกแบบนี้ (ดีที่ไม่โดดลงไปไม่งั้น..สุก) หลังจากจุ่มเท้าอยู่ 5 นาที ผมค่อยๆหย่อนตัวลงไปในบ่อ รู้สึกถึงความร้อนในน้ำค่อยๆ ไล่มาตั้งแต่ขาถึงคอเลยครับ ผมก็เอาผ้าแปะหัวแบบที่คนอื่นทำ ลองนั่งดูได้ประมาณ 2 นาที ไม่ไหวแล้ว ร่างจะสุก ผมเดินขึ้นมาจากบ่อ แขกคนอื่นๆที่แช่ก่อนหน้าคงงง ว่านี่มันมาแช่หรือจุ่ม.. ผมขึ้นมานั่งทำใจเดินไปกินน้ำ ให้ร่างกายรู้สึกเย็นขึ้น นั่งพัก 10 นาที เลยตัดใจเอาวะ ลองลงไปใหม่ ผมค่อยๆเดินลงไปในบ่ออีกครั้ง หย่อนตัวนั่งลงไป คราวนี้ทนความร้อนจากน้ำในบ่อได้ดีขึ้น คราวนี้นั่งได้ 5 นาที(ที่รู้เพราะดูจากนาฬิกาติดผนังอยู่ข้างบ่อ) แต่ที่ผมสังเกตคือเมื่อคนอื่นๆขึ้นมาจากบ่อน้ำร้อนเค้าจะเดินไปตักน้ำจากบ่อเล็กๆอีกบ่อราดตัว ครั้งนี้ผมเลยเอาบ้าง เมื่อนั่งไปได้ 5 นาที ผมเดินขึ้นมาเดินตรงไปที่บ่อเล็ก เอาขันตักน้ำรีบมาราดตัว ห๊า... สิ้นสติไป 3 วิ ทำไมน้ำมันเย็นเหมือนเพิ่งออกมาจากตู้เย็นเลย(มารู้ตอนหลังเค้าบอกเป็นการปิดรูขุมขน เมื่ออาบน้ำร้อนแล้วต้องตามด้วยน้ำเย็น)

หลังจากนั้นผมดื่มน้ำ นั่งพัก 20 นาทีแล้วลงไปแช่อีกรอบ ประมาณ 10 นาที ก็ขึ้นมาอาบน้ำ สระผม แล้วเอาผ้าผื่นจิ๋ว ค่อยๆเช็ดตัว ออกมาจากห้องอาบน้ำ มาไดร์ผมให้แห้งลองเอาเซรั่มที่เค้าจัดไว้ให้ชโลมใส่ผม แล้วกลับไปที่ตู้ล๊อกเกอร์ใส่เสื้อผ้าเรียบร้อย แล้วกลับขึ้นห้อง....
ปรากฏว่าคืนนั้น...หลับง่าย เหมือนตายไปทั้งคืน ตื่นมาสดชื่นมากครับ

ผมถึงว่า..เพื่อนๆที่มาญี่ปุ่นบอกให้ลองแช่ออนเซน มันดีแบบนี้เอง นอกจากคลายหนาว ยังช่วยคลายกล้ามเนื้อ ความเมื่อยล้าจากการเดินทาง แล้วยังช่วยให้หลับสบาย เหมือนตายแล้วฟื้นเลยครับ
😆😆😆😆😆