http://www.moneychannel.co.th/news_detail/7450
เมียนมาพร้อมเปิดตลาดหุ้นวันนี้
เมียนมาพร้อมเปิดตลาดหลักทรัพย์ซึ่งเป็นก้าวสำคัญของการพัฒนาฟื้นประเทศในช่วงที่นักลงทุนต่างชาติพากันสนใจเข้าไปลงทุนและประเทศจะมีรัฐบาลใหม่ที่เอื้อต่อธุรกิจเอกชน
เมียนมา ซึ่งเคยตกต่ำล้าหลังนานหลายสิบปี กำลังพร้อมจะเปิดตลาดหลักทรัพย์ของตนในวันพุธนี้ อันเป็นก้าวสำคัญของการพัฒนาฟื้นประเทศในช่วงที่นักลงทุนต่างชาติพากันสนใจเข้าไปลงทุนและประเทศจะมีรัฐบาลใหม่ที่เอื้อต่อธุรกิจเอกชน
ตลาดหลักทรัพย์ย่างกุ้ง (Yangon Stock Exchange – YSX) ได้จัดตั้งขึ้นมาด้วยเงินลงทุนประมาณ 24 ล้านดอลลาร์ โดยเป็นการร่วมมือกันระหว่างธนาคารเศรษฐกิจแห่งเมียนมา บริษัทหลักทรัพย์ไดวา และ Japan Exchange Group ซึ่งเป็นบริษัทที่บริหารตลาดหุ้นโตเกียว
การเปิดปฐมฤกษ์ของตลาดหลักทรัพย์ถือเป็นก้าวสำคัญของการพัฒนาเมียนมาให้ทันสมัยขึ้นมาอย่างรวดเร็ว หลังจากที่ประเทศนี้เพิ่งได้เปิดประตูเศรษฐกิจที่ก่อนหน้านี้ได้ปิดตัวเองจากโลกภายนอกนานหลายสิบปีภายใต้การปกครองของทหาร ซึ่งเปลี่ยนไปหลังจากที่ประเทศโลกตะวันตกยกเลิกการคว่ำบาตรต่อเมียนมาในปี 2013
ยอดตัวเลขการลงทุนโดยตรงของต่างชาติได้พุ่งขึ้นสูงเป็นประวัติการณ์ถึง 8,000 ล้านดอลลาร์ในปีงบประมาณ 2014/2015 โดยบริษัทข้ามชาติใหญ่ๆอย่าง Coca-Cola, Telenor, Colgate Palmolive และ Mitsubishi ต่างอยากมีส่วนร่วมในตลาดผู้บริโภคแห่งใหม่ที่ขยายตัวแรงอย่างรวดเร็ว
บริษัทที่ปรึกษา Boston Cunsulting Group คาดว่าจำนวนคนชั้นกลางที่มีรายได้มากขึ้นในเมียนมาจะมีเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัวจาก 5.3 ล้านคนในปี 2012 มาเป็น 10.3 ล้านคนในปี 2020
นอกจากนั้นผลการเลือกตั้งเสรีทั่วไปที่ผ่านไปในเดือน พ.ย. ได้ทำให้คณะทหารที่ปกครองประเทศได้ออกมายอมรับชัยชนะของพรรคสันนิบาตประชาธิปไตยแห่งชาติ (National League for Democracy - NLD) ซึ่งเป็นการเปิดทางให้กับการปรับโครงสร้างของภาคการผลิตและโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ
ในการเลือกตั้งเสรีในปี 1990 พรรค NLD ของนางอองซาน ซูจี ได้รับชัยชนะอย่างท่วมท้นเหมือนกัน แต่ฝ่ายทหารในครั้งนั้นไม่ยอมรับผลการเลือกตั้ง
นายเฟตเตอร์ เฟอร์เบิร์ก ผู้บริหารของ Telenor Myanmar กล่าวกับ CNBC ว่าเขาหวังงว่าในระยะยาวตลาดหลักทรัพย์ที่กำลังจะเปิดจะนำไปสู่การพัฒนาตลาดทุนและตลาตราสารหนี้ซึ่งคงจะเป็นที่สนใจของบริษัทต่างชาติ
นอกจากนี้ตลาดหุ้นยังจะช่วยยกระดับคุณภาพของบริษัทท้องถิ่นซึ่งในอนาคตจะช่วยดึงดูดชาวเมียนมาที่มีความรู้ความสามารถแต่ทำงานในต่างประเทศให้กลับมาช่วยรับใช้ชาติ
อย่างไรก็ตาม ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าความมั่นใจที่เพิ่มขึ้นจะช่วยเสริมสร้างตลาดหลักทรัพย์ในช่วงเริ่มต้นได้ขนาดไหน
นายอะดาม จาซิก หัวหน้าฝ่ายเอเชียแปซิกฟิกของบริษัทที่ปรึกษาด้านกลยุทธ์ธุรกิจ Frontier Strategy Group กล่าวว่าการเปิดตลาด YSX ไม่ถือเป็นก้าวสำคัญอันยิ่งใหญ่สำหรับอนาคต แต่เป็นเพียงก้าวเล็กๆที่ไปได้ถูกทาง
จาซิกกล่าวว่าการที่ตลาดหุ้นจะมีบทบาทที่เป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจ กฎระเบียบข้อบังคับต่างๆของตลาดจะต้องมีพร้อมที่จะใช้ แต่หลายส่วนของตลาดในเมียนมายังคลุมเครือไม่ชัดเจน เช่นยังไม่มีกฎเกณฑ์เรื่องการเปิดเผยข้อมูล รวมทั้งกฎระเบียบเรื่องสิทธิ์การออกเสียงและการประชุมประจำปีของผู้ถือหุ้น
นอกจากนี้ กฎเกณฑ์และระเบียบการออกหุ้นใหม่ที่เสนอขายให้กับประชาชน (IPO) กลับดูเข้มงวดเกินไปสำหรับตลาดที่เพิ่งเปิดหลังจากที่ได้อยู่ภายใต้การปกครองแบบเผด็จการมานานนับสิบปี
พม่าเปิดตลาดหุ้นแล้วนะ รู้ยัง?
เมียนมาพร้อมเปิดตลาดหุ้นวันนี้
เมียนมาพร้อมเปิดตลาดหลักทรัพย์ซึ่งเป็นก้าวสำคัญของการพัฒนาฟื้นประเทศในช่วงที่นักลงทุนต่างชาติพากันสนใจเข้าไปลงทุนและประเทศจะมีรัฐบาลใหม่ที่เอื้อต่อธุรกิจเอกชน
เมียนมา ซึ่งเคยตกต่ำล้าหลังนานหลายสิบปี กำลังพร้อมจะเปิดตลาดหลักทรัพย์ของตนในวันพุธนี้ อันเป็นก้าวสำคัญของการพัฒนาฟื้นประเทศในช่วงที่นักลงทุนต่างชาติพากันสนใจเข้าไปลงทุนและประเทศจะมีรัฐบาลใหม่ที่เอื้อต่อธุรกิจเอกชน
ตลาดหลักทรัพย์ย่างกุ้ง (Yangon Stock Exchange – YSX) ได้จัดตั้งขึ้นมาด้วยเงินลงทุนประมาณ 24 ล้านดอลลาร์ โดยเป็นการร่วมมือกันระหว่างธนาคารเศรษฐกิจแห่งเมียนมา บริษัทหลักทรัพย์ไดวา และ Japan Exchange Group ซึ่งเป็นบริษัทที่บริหารตลาดหุ้นโตเกียว
การเปิดปฐมฤกษ์ของตลาดหลักทรัพย์ถือเป็นก้าวสำคัญของการพัฒนาเมียนมาให้ทันสมัยขึ้นมาอย่างรวดเร็ว หลังจากที่ประเทศนี้เพิ่งได้เปิดประตูเศรษฐกิจที่ก่อนหน้านี้ได้ปิดตัวเองจากโลกภายนอกนานหลายสิบปีภายใต้การปกครองของทหาร ซึ่งเปลี่ยนไปหลังจากที่ประเทศโลกตะวันตกยกเลิกการคว่ำบาตรต่อเมียนมาในปี 2013
ยอดตัวเลขการลงทุนโดยตรงของต่างชาติได้พุ่งขึ้นสูงเป็นประวัติการณ์ถึง 8,000 ล้านดอลลาร์ในปีงบประมาณ 2014/2015 โดยบริษัทข้ามชาติใหญ่ๆอย่าง Coca-Cola, Telenor, Colgate Palmolive และ Mitsubishi ต่างอยากมีส่วนร่วมในตลาดผู้บริโภคแห่งใหม่ที่ขยายตัวแรงอย่างรวดเร็ว
บริษัทที่ปรึกษา Boston Cunsulting Group คาดว่าจำนวนคนชั้นกลางที่มีรายได้มากขึ้นในเมียนมาจะมีเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัวจาก 5.3 ล้านคนในปี 2012 มาเป็น 10.3 ล้านคนในปี 2020
นอกจากนั้นผลการเลือกตั้งเสรีทั่วไปที่ผ่านไปในเดือน พ.ย. ได้ทำให้คณะทหารที่ปกครองประเทศได้ออกมายอมรับชัยชนะของพรรคสันนิบาตประชาธิปไตยแห่งชาติ (National League for Democracy - NLD) ซึ่งเป็นการเปิดทางให้กับการปรับโครงสร้างของภาคการผลิตและโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ
ในการเลือกตั้งเสรีในปี 1990 พรรค NLD ของนางอองซาน ซูจี ได้รับชัยชนะอย่างท่วมท้นเหมือนกัน แต่ฝ่ายทหารในครั้งนั้นไม่ยอมรับผลการเลือกตั้ง
นายเฟตเตอร์ เฟอร์เบิร์ก ผู้บริหารของ Telenor Myanmar กล่าวกับ CNBC ว่าเขาหวังงว่าในระยะยาวตลาดหลักทรัพย์ที่กำลังจะเปิดจะนำไปสู่การพัฒนาตลาดทุนและตลาตราสารหนี้ซึ่งคงจะเป็นที่สนใจของบริษัทต่างชาติ
นอกจากนี้ตลาดหุ้นยังจะช่วยยกระดับคุณภาพของบริษัทท้องถิ่นซึ่งในอนาคตจะช่วยดึงดูดชาวเมียนมาที่มีความรู้ความสามารถแต่ทำงานในต่างประเทศให้กลับมาช่วยรับใช้ชาติ
อย่างไรก็ตาม ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าความมั่นใจที่เพิ่มขึ้นจะช่วยเสริมสร้างตลาดหลักทรัพย์ในช่วงเริ่มต้นได้ขนาดไหน
นายอะดาม จาซิก หัวหน้าฝ่ายเอเชียแปซิกฟิกของบริษัทที่ปรึกษาด้านกลยุทธ์ธุรกิจ Frontier Strategy Group กล่าวว่าการเปิดตลาด YSX ไม่ถือเป็นก้าวสำคัญอันยิ่งใหญ่สำหรับอนาคต แต่เป็นเพียงก้าวเล็กๆที่ไปได้ถูกทาง
จาซิกกล่าวว่าการที่ตลาดหุ้นจะมีบทบาทที่เป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจ กฎระเบียบข้อบังคับต่างๆของตลาดจะต้องมีพร้อมที่จะใช้ แต่หลายส่วนของตลาดในเมียนมายังคลุมเครือไม่ชัดเจน เช่นยังไม่มีกฎเกณฑ์เรื่องการเปิดเผยข้อมูล รวมทั้งกฎระเบียบเรื่องสิทธิ์การออกเสียงและการประชุมประจำปีของผู้ถือหุ้น
นอกจากนี้ กฎเกณฑ์และระเบียบการออกหุ้นใหม่ที่เสนอขายให้กับประชาชน (IPO) กลับดูเข้มงวดเกินไปสำหรับตลาดที่เพิ่งเปิดหลังจากที่ได้อยู่ภายใต้การปกครองแบบเผด็จการมานานนับสิบปี