ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
บล.เอเซีย พลัส คัดหุ้นเด่น สู้ภาวะตลาดผันผวนหวัง "แคปิตอล เกน" ลำบาก ชู 6 บจ. ปันผลเกิน 4% สถิติย้อนหลัง 7 ปี จ่ายเป็นเงินสดตลอด แนะกลยุทธ์ลงทุน ซื้อก่อนขึ้นเครื่องมือ XD 2 เดือน ขายหลัง XD 2 เดือน ฟาก บล. ดีบีเอสฯ แนะกองทุนติดโบปันผล 6-7%
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซีย พลัส เปิดเผยว่า ในภาวะที่ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ (SET) ผันผวน การลงทุนที่คาดหวังกำไรจากการขาย (Capital Gain) ค่อนข้างลำบาก ดังนั้นจึงจำเป็นต้องเลือกหุ้นเป็นรายตัวที่มีพื้นฐานแข็งแกร่ง และมีแนวโน้มผลดำเนินงานเติบโต และในช่วงนี้ ถือเป็นโอกาสของนักลงทุนระยะกลาง-ยาว ที่จะทยอยเข้าสะสมหุ้นและถือข้ามปี
เนื่องจากแนวโน้มเศรษฐกิจในประเทศและผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) โดยรวมน่าจะผ่านพ้นช่วงต่ำสุดไปแล้ว ประกอบกับช่วงต้นปี 2559 ในช่วงเดือน ก.พ.-มี.ค. จะมีหลายบริษัทขึ้นเครื่องหมาย XD (ไม่ได้สิทธิรับเงินปันผล) และเตรียมประกาศจ่ายเงินปันผล
ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัย บล.เอเซีย พลัส ได้วิเคราะห์เชิงปริมาณ โดยคัดเลือกหุ้นจาก 162 บริษัท ที่สามารถคาดหวังผลตอบแทนเป็นเงินปันผล (Dividend Yield) ในระดับสูงกว่า 4% มีสถิติการจ่ายปันผลเป็นเงินสดสม่ำเสมอในรอบ 7 ปีหลังสุด และมีความน่าจะเป็นสูงที่ราคาหุ้นจะปรับเพิ่มขึ้นก่อนขึ้นเครื่องหมาย XD จำนวน 6 บจ. ได้แก่ บมจ.อินทัช โฮลดิ้งส์ (INTUCH) บมจ.เอเซียเสริมกิจ ลีสซิ่ง (ASK) บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) บมจ.เอ็ม.ซี.เอส.สตีล (MCS) บมจ.ศุภาลัย (SPALI) และ บมจ.จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก (EASTW) (ดูตาราง)
"กลยุทธ์การลงทุนแนะนำให้ซื้อหุ้นก่อนขึ้นเครื่องหมาย XD ราว 2 เดือน และขายหลัง XD ราว 2 เดือน ซึ่งมีความน่าจะเป็นสูงที่ราคาหุ้นจะปรับขึ้นและมีผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงสุด" นักวิเคราะห์กล่าว
นางสาวอาภาภรณ์ แสวงพรรค ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) กล่าวว่า ปกติมักพบนักลงทุนเริ่มเข้ามาทยอยซื้อหุ้นกลุ่มปันผลช่วงรอยต่อของปี เดือน ธ.ค.- ม.ค. เพราะเป็นช่วงใกล้ปิดงวดผลประกอบการประจำปี และจะมีหลักทรัพย์จำนวนมากที่ใกล้ประกาศจ่ายเงินปันผลสำหรับงวดครึ่งปีหลังหรือทั้งปี ประกอบกับในช่วงที่ตลาดหุ้นผันผวนสูง กลุ่มหุ้นปันผลสูงถือเป็นเป้าหมายของนักลงทุน
สำหรับหุ้นที่คาดว่าจะจ่ายเงินปันผลเฉลี่ยสูง 5 - 7% ได้แก่ กลุ่มสื่อสาร ADVANC, INTUCH กลุ่มก่อสร้าง บมจ.ไดนาสตี้เซรามิค (DCC) กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ SPALI, บมจ.ควอลิตี้เฮ้าส์ (QH), บมจ.แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ (LPN) กลุ่มแบงก์ บมจ.ทุนธนชาต (TCAP) และหุ้นขนาดเล็ก บมจ.โมเดอร์นฟอร์มกรุ๊ป (MODERN)
นอกจากนี้ ยังมีกองทุนที่คาดว่าจะจ่ายปันผลสูง ในระดับ 6-7% ได้แก่ กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานระบบขนส่งมวลชนทางรางบีทีเอสโกรท (BTSGIF), กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ซีพีเอ็นรีเทลโกรท (CPNRF) และกองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์สนามบินสมุย (SPF) เป็นต้น
โบรกชี้6หุ้นปันผล4%ซื้อถือข้ามปี มีลุ้นราคาเด้ง"INTUCH-ASK-ADVANC-MCS-ศุภาลัย"
บล.เอเซีย พลัส คัดหุ้นเด่น สู้ภาวะตลาดผันผวนหวัง "แคปิตอล เกน" ลำบาก ชู 6 บจ. ปันผลเกิน 4% สถิติย้อนหลัง 7 ปี จ่ายเป็นเงินสดตลอด แนะกลยุทธ์ลงทุน ซื้อก่อนขึ้นเครื่องมือ XD 2 เดือน ขายหลัง XD 2 เดือน ฟาก บล. ดีบีเอสฯ แนะกองทุนติดโบปันผล 6-7%
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซีย พลัส เปิดเผยว่า ในภาวะที่ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ (SET) ผันผวน การลงทุนที่คาดหวังกำไรจากการขาย (Capital Gain) ค่อนข้างลำบาก ดังนั้นจึงจำเป็นต้องเลือกหุ้นเป็นรายตัวที่มีพื้นฐานแข็งแกร่ง และมีแนวโน้มผลดำเนินงานเติบโต และในช่วงนี้ ถือเป็นโอกาสของนักลงทุนระยะกลาง-ยาว ที่จะทยอยเข้าสะสมหุ้นและถือข้ามปี
เนื่องจากแนวโน้มเศรษฐกิจในประเทศและผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) โดยรวมน่าจะผ่านพ้นช่วงต่ำสุดไปแล้ว ประกอบกับช่วงต้นปี 2559 ในช่วงเดือน ก.พ.-มี.ค. จะมีหลายบริษัทขึ้นเครื่องหมาย XD (ไม่ได้สิทธิรับเงินปันผล) และเตรียมประกาศจ่ายเงินปันผล
ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัย บล.เอเซีย พลัส ได้วิเคราะห์เชิงปริมาณ โดยคัดเลือกหุ้นจาก 162 บริษัท ที่สามารถคาดหวังผลตอบแทนเป็นเงินปันผล (Dividend Yield) ในระดับสูงกว่า 4% มีสถิติการจ่ายปันผลเป็นเงินสดสม่ำเสมอในรอบ 7 ปีหลังสุด และมีความน่าจะเป็นสูงที่ราคาหุ้นจะปรับเพิ่มขึ้นก่อนขึ้นเครื่องหมาย XD จำนวน 6 บจ. ได้แก่ บมจ.อินทัช โฮลดิ้งส์ (INTUCH) บมจ.เอเซียเสริมกิจ ลีสซิ่ง (ASK) บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) บมจ.เอ็ม.ซี.เอส.สตีล (MCS) บมจ.ศุภาลัย (SPALI) และ บมจ.จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก (EASTW) (ดูตาราง)
"กลยุทธ์การลงทุนแนะนำให้ซื้อหุ้นก่อนขึ้นเครื่องหมาย XD ราว 2 เดือน และขายหลัง XD ราว 2 เดือน ซึ่งมีความน่าจะเป็นสูงที่ราคาหุ้นจะปรับขึ้นและมีผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงสุด" นักวิเคราะห์กล่าว
นางสาวอาภาภรณ์ แสวงพรรค ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) กล่าวว่า ปกติมักพบนักลงทุนเริ่มเข้ามาทยอยซื้อหุ้นกลุ่มปันผลช่วงรอยต่อของปี เดือน ธ.ค.- ม.ค. เพราะเป็นช่วงใกล้ปิดงวดผลประกอบการประจำปี และจะมีหลักทรัพย์จำนวนมากที่ใกล้ประกาศจ่ายเงินปันผลสำหรับงวดครึ่งปีหลังหรือทั้งปี ประกอบกับในช่วงที่ตลาดหุ้นผันผวนสูง กลุ่มหุ้นปันผลสูงถือเป็นเป้าหมายของนักลงทุน
สำหรับหุ้นที่คาดว่าจะจ่ายเงินปันผลเฉลี่ยสูง 5 - 7% ได้แก่ กลุ่มสื่อสาร ADVANC, INTUCH กลุ่มก่อสร้าง บมจ.ไดนาสตี้เซรามิค (DCC) กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ SPALI, บมจ.ควอลิตี้เฮ้าส์ (QH), บมจ.แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ (LPN) กลุ่มแบงก์ บมจ.ทุนธนชาต (TCAP) และหุ้นขนาดเล็ก บมจ.โมเดอร์นฟอร์มกรุ๊ป (MODERN)
นอกจากนี้ ยังมีกองทุนที่คาดว่าจะจ่ายปันผลสูง ในระดับ 6-7% ได้แก่ กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานระบบขนส่งมวลชนทางรางบีทีเอสโกรท (BTSGIF), กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ซีพีเอ็นรีเทลโกรท (CPNRF) และกองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์สนามบินสมุย (SPF) เป็นต้น