เมื่อประมาณยี่สิบปีก่อน ยายเราซื้อบ้านให้แม่เรา แต่เนื่องด้วยตอนนั้น แม่เราจดทะเบียนสมรสกับพ่อ แล้วพ่อเรามีเมียน้อยและลูกกับเมียน้อยด้วย แม่เลยกลัวว่าพ่อจะมีสิทธิในบ้านพาใครเข้ามาอยู่ก็ได้ แม่เราเลยใส่ชื่อพี่สาวเราสองคนลงในโฉนดที่ดินบ้าน แม่บอกไว้อีกหน่อยเราโตค่อยมาใส่ชื่อเพิ่ม(ตอนนั้นเราอายุประมาณ 10 ปี) พอหลังจากที่เราโตแล้วและพ่อเราเสียชีวิต เราก็บอกแม่ว่า ให้แม่ไปคุยกับพี่สาว ว่าให้โอนกรรมสิทธิบ้านกลับมาเป็นของแม่ดีกว่า กันมีปัญหาเพราะถ้าโอนมาเป็นชื่อแม่ หากวันนึงเกิดอะไรขึ้นกับแม่ ลูกๆก็จะได้แบ่งบ้านเท่าเทียมกัน แม่เราก็บอกจะไปคุยกับพี่ พี่บอกจะไปเสียค่าโอนทำไม ยังไงถ้าแม่เป็นอะไร พี่ก็ต้องแบ่งให้น้องอยู่แล้ว แม่เรารักพี่สาวคนโตมาก พี่เราพูดอะไรแม่ก็เชื่อไปหมดทุกอย่าง ตอนหลังพี่สาวพาแม่ไปโอนชื่อเป็นเจ้าบ้านในทะเบียนบ้าน แล้วก็บอกแม่ว่าแม่มีกรรมสิทธิแล้วนะ แม่เราก็คิดว่าแม่มีสิทธิในบ้านเหมือนพี่แล้ว (แม่กลับมาบอกเราว่าเรียบร้อยแล้วนะ)
แต่เมื่อประมาณสองอาทิตย์ที่ผ่านมา แม่พึ่งมาบอกเรา มาถามเราว่า มีเงินหนึ่งแสนบาทให้ยืมมั้ย เราตกใจมาก ถามแม่..แม่จะเอาเงินไปทำอะไร ปกติแม่เราไม่ใช่คนฟุ่มเฟือยเลย เราก็ให้เงินแม่ตลอด แม่บอกว่า ..พี่สาวคนที่สองเราไปติดเงินกู้นอกระบบ แล้วก็รายย่อยๆอีกหลายเจ้า รวมๆแล้วสามแสนกว่าบาท แต่ที่เป็นเงินด่วนแล้วมีพวกทวงหนี้มาขู่จะยิงประมาณหนึ่งแสนบาทต้นๆ เรางงมาก พี่เราขายเสื้อผ้าอยู่ตามตลาดนัด ทำไมถึงมีคนกล้าให้ยืมเงินขนาดนี้ เราก็ตั้งสติถามแม่ แม่ไปตะลอนๆหยิบยืมเงินจากญาติมาใช่มั้ย แม่รู้ได้ยังไงว่าเรื่องที่พี่เล่าเป็นเรื่องจริง ถ้ายืมเงินได้พี่สาวจะคืนยังไง เราตกใจมากขึ้นไปอีกตอนที่แม่เราบอกว่า พี่เราจะเอาโฉนดบ้านไปจำนอง บ้านหลังนี้เรากับแม่อยู่ แต่พี่เราอยู่บ้านหลังอื่น เราบอกแม่ว่า.. แม่ขนาดเงินที่ไปกู้มายังไม่มีไปจ่ายเค้าเลย จะเอาที่ไหนมาผ่อนจำนอง ถ้าแม่ยอมแม่ก็เตรียมใจเสียบ้านไว้ได้เลย เราบอกแม่ไม่ได้เรื่องละ ชวนแม่ไปปรึกษาน้ากันก่อนดีกว่า น้าอาจช่วยได้ เรากับแม่ไปคุยกับน้า ระหว่างที่คุยพี่สาวเราโทรหาแม่ตลอด บอกแม่ .."ได้เงินยัง เค้าจะมายิงลูกยิงหลานแล้วเนี่ย แม่..เร็วๆ " แม่เราก็ถามเค้าจะเอาเท่าไหร่ แม่ก็หาอยู่ ใครเค้าจะให้ยืมเงินง่ายๆ พี่เราก็บอกตั้งแต่ แสนนึง เก้าหมื่น แปดหมื่น เจ็ดหมื่นห้า จนมาสุดที่หกหมื่นบาท บอกแม่ให้แม่หามาก่อน เรากับน้าและลูกชายน้าก็งง คือตกลงเงินกู้นอกระบบเค้าลดให้ได้ด้วยเหรอ แม่เราก็ร้องไห้ตลอด ปากก็บ่นด่าพี่สาวว่าทำไมไปหาเรื่องอย่างนี้ สรุปน้าเราทนไม่ไหวสงสารแม่ เลยตกลงจะให้พี่สาวยืมที่หกหมื่นบาท ใช้คืนเดือนละแปดพันบาท ไม่คิดดอกเบี้ย มีข้อแม้อย่างเดียว ให้โอนโฉนดมาเป็นชื่อแม่เพียงคนเดียว ตัดปัญหาคราวหน้าเผื่อพี่แอบเอาโฉนดไปกู้เงินหรือสร้างหนี้สินอีก
พอได้เรื่องแล้วเรากับแม่ก็รีบไปบอกพี่ ปัญหามันเริ่มจากตรงนี้แหละ พี่เราบอก..ไม่โอน!!!.. พี่จะเอาโฉนดไปจำนองธนาคาร ได้เงินเยอะหลายแสน นอกจากใช้หนี้แล้ว พี่สาวเราสองคนก็จะแบ่งเงินที่เหลือจากกู้มาอีกคนละหนึ่งแสน เอาไปทำทุนขายของ เรากับแม่ไม่ยอม บอกเรากับแม่ก็มีสิทธิในบ้านหลังนี้ แล้วจริงๆสิทธิทั้งหมดในบ้านก็เป็นของแม่ เพราะแม่ยังไม่ตาย พี่สาวเรากับพี่เขยอ้างเหตุผลสารพัดมาบอกว่า บ้านไม่มีทางหลุดจำนอง เค้ามีเงินผ่อนอย่างนั้นอย่างนี้ พูดเกลี้ยกล่อมสารพัดให้แม่เราเอาโฉนดให้เค้า แม่ไม่ช่วยลูกเหรอ... แม่ไม่กลัวเค้ามายิงเหรอ นี่ลูกแม่ทั้งคนนะ แม่กับเราบอกยังไงก็ไม่อนุญาตให้ขายบ้านหรือจำนองบ้านเด็ดขาด ยังไงก็ไม่ยอม พี่เขยเราโมโหมาก ตะคอกใส่แม่ใส่เรา ยืนด่าสารพัด สุดท้ายพี่เขยเราบอกว่า เค้าไม่สนเพราะพี่เรามีชื่อในโฉนด สิทธิเป็นของพี่เรา จะทำอะไรก็ได้ ที่สำคัญ พูดใส่หน้าแม่เราว่า ถ้าอย่างนี้เค้าไม่เอาแม่นะ แม่ไปอยู่ที่อื่นละกัน เค้าไม่เลี้ยง
เรานี่โมโหมาก คือมันกล้าพูดว่าเลี้ยงแม่ แม่เราไปอยู่กับมัน มันแทบไม่เคยให้เงินเลย กินอดๆอยากๆ เราชวนแม่มาอยู่กับเรา แม่ก็ไม่ยอม บอกจะอยู่กับพี่เพราะสงสารหลาน อยู่ช่วยเลี้ยงหลาน พี่สาวเรามีลูก 4 คน ในบรรดาลูกแม่ แทบจะมีแต่เราที่ให้เงินแม่ มีมากให้มาก มีน้อยให้น้อย แต่ไม่มีที่ไม่เคยให้ เติมเงินโทรศัพท์แม่ก็เราเติมให้ แถมบางครั้งแม่มาเล่าว่าหลานอดๆอยากๆ เราก็สงสาร ซื้อไข่ ซื้อข้าวสาร ให้เงินหลานไว้กินขนม เราบอกแม่ ตรงไหนที่มันบอกมันเลี้ยงดูแม่เป็นอย่างดี
เราอยากถามผู้รู้หน่อยค่ะ
1. เรากับแม่คงไม่มีกรรมสิทธิในบ้านแล้วใช่มั้ยคะ เพราะด้านหลังโฉนดเป็นชื่อพี่สาวเราสองคน ซื้อต่อจากคนขายเลย
2. เรากับแม่ หรือแม่เพียงคนเดียว สามารถฟ้องร้องอะไรได้บ้างไหมคะ
3. หากแม่เราอยากเสนอเงินเพื่อซื้อบ้านต่อจากพี่ เหมือนขอซื้อสิทธิส่วนของพี่ ควรจะเสนอประมาณเท่าไหร่ดีคะ บ้านทาวเฮ้าส์ 2 ชั้น อายุบ้าน 25 ปี ราคาประเมินจากกรมที่ดินตอนนี้ 740,000 บาท ส่วนต่อเติมด้านหลังบ้านก็ทรุดแยกออกจากตัวบ้านด้วยค่ะ
4. หากพี่เราดำเนินการฟ้องขับไล่เรากับแม่ เราจะสามารถยื้อเวลาพักอาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้ได้อีกนานเท่าไหร่คะ
กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกที่ตั้ง หากเขียนอ่านยาก หรือแท็กผิดห้อง ขออภัยด้วยนะคะ
ขอคำแนะนำจากทุกๆคนด้วยนะคะ ขอบพระคุณมากค่ะ..
!!ช่วยด้วยค่ะ..ใครเคยเจอประสบการณ์แบบนี้บ้างคะ
แต่เมื่อประมาณสองอาทิตย์ที่ผ่านมา แม่พึ่งมาบอกเรา มาถามเราว่า มีเงินหนึ่งแสนบาทให้ยืมมั้ย เราตกใจมาก ถามแม่..แม่จะเอาเงินไปทำอะไร ปกติแม่เราไม่ใช่คนฟุ่มเฟือยเลย เราก็ให้เงินแม่ตลอด แม่บอกว่า ..พี่สาวคนที่สองเราไปติดเงินกู้นอกระบบ แล้วก็รายย่อยๆอีกหลายเจ้า รวมๆแล้วสามแสนกว่าบาท แต่ที่เป็นเงินด่วนแล้วมีพวกทวงหนี้มาขู่จะยิงประมาณหนึ่งแสนบาทต้นๆ เรางงมาก พี่เราขายเสื้อผ้าอยู่ตามตลาดนัด ทำไมถึงมีคนกล้าให้ยืมเงินขนาดนี้ เราก็ตั้งสติถามแม่ แม่ไปตะลอนๆหยิบยืมเงินจากญาติมาใช่มั้ย แม่รู้ได้ยังไงว่าเรื่องที่พี่เล่าเป็นเรื่องจริง ถ้ายืมเงินได้พี่สาวจะคืนยังไง เราตกใจมากขึ้นไปอีกตอนที่แม่เราบอกว่า พี่เราจะเอาโฉนดบ้านไปจำนอง บ้านหลังนี้เรากับแม่อยู่ แต่พี่เราอยู่บ้านหลังอื่น เราบอกแม่ว่า.. แม่ขนาดเงินที่ไปกู้มายังไม่มีไปจ่ายเค้าเลย จะเอาที่ไหนมาผ่อนจำนอง ถ้าแม่ยอมแม่ก็เตรียมใจเสียบ้านไว้ได้เลย เราบอกแม่ไม่ได้เรื่องละ ชวนแม่ไปปรึกษาน้ากันก่อนดีกว่า น้าอาจช่วยได้ เรากับแม่ไปคุยกับน้า ระหว่างที่คุยพี่สาวเราโทรหาแม่ตลอด บอกแม่ .."ได้เงินยัง เค้าจะมายิงลูกยิงหลานแล้วเนี่ย แม่..เร็วๆ " แม่เราก็ถามเค้าจะเอาเท่าไหร่ แม่ก็หาอยู่ ใครเค้าจะให้ยืมเงินง่ายๆ พี่เราก็บอกตั้งแต่ แสนนึง เก้าหมื่น แปดหมื่น เจ็ดหมื่นห้า จนมาสุดที่หกหมื่นบาท บอกแม่ให้แม่หามาก่อน เรากับน้าและลูกชายน้าก็งง คือตกลงเงินกู้นอกระบบเค้าลดให้ได้ด้วยเหรอ แม่เราก็ร้องไห้ตลอด ปากก็บ่นด่าพี่สาวว่าทำไมไปหาเรื่องอย่างนี้ สรุปน้าเราทนไม่ไหวสงสารแม่ เลยตกลงจะให้พี่สาวยืมที่หกหมื่นบาท ใช้คืนเดือนละแปดพันบาท ไม่คิดดอกเบี้ย มีข้อแม้อย่างเดียว ให้โอนโฉนดมาเป็นชื่อแม่เพียงคนเดียว ตัดปัญหาคราวหน้าเผื่อพี่แอบเอาโฉนดไปกู้เงินหรือสร้างหนี้สินอีก
พอได้เรื่องแล้วเรากับแม่ก็รีบไปบอกพี่ ปัญหามันเริ่มจากตรงนี้แหละ พี่เราบอก..ไม่โอน!!!.. พี่จะเอาโฉนดไปจำนองธนาคาร ได้เงินเยอะหลายแสน นอกจากใช้หนี้แล้ว พี่สาวเราสองคนก็จะแบ่งเงินที่เหลือจากกู้มาอีกคนละหนึ่งแสน เอาไปทำทุนขายของ เรากับแม่ไม่ยอม บอกเรากับแม่ก็มีสิทธิในบ้านหลังนี้ แล้วจริงๆสิทธิทั้งหมดในบ้านก็เป็นของแม่ เพราะแม่ยังไม่ตาย พี่สาวเรากับพี่เขยอ้างเหตุผลสารพัดมาบอกว่า บ้านไม่มีทางหลุดจำนอง เค้ามีเงินผ่อนอย่างนั้นอย่างนี้ พูดเกลี้ยกล่อมสารพัดให้แม่เราเอาโฉนดให้เค้า แม่ไม่ช่วยลูกเหรอ... แม่ไม่กลัวเค้ามายิงเหรอ นี่ลูกแม่ทั้งคนนะ แม่กับเราบอกยังไงก็ไม่อนุญาตให้ขายบ้านหรือจำนองบ้านเด็ดขาด ยังไงก็ไม่ยอม พี่เขยเราโมโหมาก ตะคอกใส่แม่ใส่เรา ยืนด่าสารพัด สุดท้ายพี่เขยเราบอกว่า เค้าไม่สนเพราะพี่เรามีชื่อในโฉนด สิทธิเป็นของพี่เรา จะทำอะไรก็ได้ ที่สำคัญ พูดใส่หน้าแม่เราว่า ถ้าอย่างนี้เค้าไม่เอาแม่นะ แม่ไปอยู่ที่อื่นละกัน เค้าไม่เลี้ยง
เรานี่โมโหมาก คือมันกล้าพูดว่าเลี้ยงแม่ แม่เราไปอยู่กับมัน มันแทบไม่เคยให้เงินเลย กินอดๆอยากๆ เราชวนแม่มาอยู่กับเรา แม่ก็ไม่ยอม บอกจะอยู่กับพี่เพราะสงสารหลาน อยู่ช่วยเลี้ยงหลาน พี่สาวเรามีลูก 4 คน ในบรรดาลูกแม่ แทบจะมีแต่เราที่ให้เงินแม่ มีมากให้มาก มีน้อยให้น้อย แต่ไม่มีที่ไม่เคยให้ เติมเงินโทรศัพท์แม่ก็เราเติมให้ แถมบางครั้งแม่มาเล่าว่าหลานอดๆอยากๆ เราก็สงสาร ซื้อไข่ ซื้อข้าวสาร ให้เงินหลานไว้กินขนม เราบอกแม่ ตรงไหนที่มันบอกมันเลี้ยงดูแม่เป็นอย่างดี
เราอยากถามผู้รู้หน่อยค่ะ
1. เรากับแม่คงไม่มีกรรมสิทธิในบ้านแล้วใช่มั้ยคะ เพราะด้านหลังโฉนดเป็นชื่อพี่สาวเราสองคน ซื้อต่อจากคนขายเลย
2. เรากับแม่ หรือแม่เพียงคนเดียว สามารถฟ้องร้องอะไรได้บ้างไหมคะ
3. หากแม่เราอยากเสนอเงินเพื่อซื้อบ้านต่อจากพี่ เหมือนขอซื้อสิทธิส่วนของพี่ ควรจะเสนอประมาณเท่าไหร่ดีคะ บ้านทาวเฮ้าส์ 2 ชั้น อายุบ้าน 25 ปี ราคาประเมินจากกรมที่ดินตอนนี้ 740,000 บาท ส่วนต่อเติมด้านหลังบ้านก็ทรุดแยกออกจากตัวบ้านด้วยค่ะ
4. หากพี่เราดำเนินการฟ้องขับไล่เรากับแม่ เราจะสามารถยื้อเวลาพักอาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้ได้อีกนานเท่าไหร่คะ
กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกที่ตั้ง หากเขียนอ่านยาก หรือแท็กผิดห้อง ขออภัยด้วยนะคะ
ขอคำแนะนำจากทุกๆคนด้วยนะคะ ขอบพระคุณมากค่ะ..