เชื่อว่าทุกคนคงเคยจินตนาการถึงโลกสมัยก่อน ที่ชีวิตความเป็นอยู่ยังไม่ล้ำสมัยอย่างทุกวันนี้
แต่โลกแห่งการแพทย์และการเจ็บไข้ได้ป่วย ในสมัยที่คนยังบูชาผีสางนางฟ้า นั้นโหดร้ายมาก
สมัยก่อน ระหว่างรักษา และไม่รักษา ผลลัพธ์ไม่ค่อยแตกต่างกันเท่าไร
พูดง่ายๆคือเป็นตายเท่ากัน
โดยเฉพาะโรคเบาหวาน ที่ใครได้เป็นแล้ว ชีวิตจะสั้นลงมาก
และเคยสงสัยมั้ยครับ ว่ายาแต่ละชนิดที่ช่วยผู้คน เป็นพันๆล้านคนได้ มันมีที่มายังไง
เบาหวานเป็นโรคหนึ่งที่มีประวัติศาสตร์มายาวนาน ตั้งแต่สมัยอียิปต์โบราณ
ลักษณะของคนเป็นโรคนี้คือ ช่วงแรกเวลาฉี่จะมีมดตามมากิน สักพักเท้าจะเริ่มเน่า พยาธิชอนไช ตาจะพร่ามัวทั้งสองข้างจนบอด และเสียชีวิตในไม่ถึง 5 ปี
การรักษาก็คือการอดมื้อกินมื้อ เพื่อลดน้ำตาลลง แต่ก็มันก็ยื้อไปได้อีกแค่ไม่กี่ปี แลกกับความทรมานจากการอดอาหารแล้ว บางคนจึงยอมกินตามปกติแล้วตายดีกว่า
เวลาล่วงผ่านมาเป็นพันปี ที่เราพยายามหาสาเหตุของโรค มันเกิดขึ้นได้อย่างไร แต่ก็ไม่มีคำตอบชัดเจน
จนเมื่อปี 1889 นี้เอง คุณลุง Oskar Minkowski และ Joseph von Mering เขาได้พบว่า
สุนัขที่ถูกผ่าตัดเอาตับอ่อนออก จะมีอาการปัสสาวะบ่อย ปัสสาวะแล้วมดมากิน น้ำหนักลด เหมือนคนที่เป็นเบาหวาน
เขาเริ่มสงสัยแล้วว่า เจ้าตับอ่อนนี่ ต้องเกี่ยวข้องกับโรคเบาหวานแน่ๆ
งานวิจัยส่งต่อมาที่ปี 1910 คุณลุง Edward Albert ซึ่งเป็น Physiologist ชาวอังกฤษ
เขาได้ทดลอง ทดลองตัดตับอ่อนทีละส่วนของสัตว์ทดลอง พบว่า แค่ชิ้นส่วนเล็กๆที่เขาตัดออกไปนั้น ก็สามารถทำให้สุนัขเกิดโรคเบาหวานได้แล้ว เขาจึงสรุปว่า น่าจะมีสารเพียงแค่ชนิดเดียวเท่านั้น ที่เมื่อขาดไปแล้วทำให้เกิดโรค
เขาเรียกชิ้นส่วนเล็กๆนี่ว่า Insula มาจากคำว่า Island ที่แปลว่า เกาะ และเรียกสารที่หลั่งออกว่า "Insulin"
เขาตั้งสมมติฐานว่า "ถ้าฉีด Insulin เข้าไปในสุนัขเบาหวานที่ถูกตัดตับอ่อนออกไป เบาหวานจะดีขึ้น"
ดังนั้นสิ่งต่อไปก็คือ การสกัดเอา Insulin บริสุทธิ์ออกมาให้ได้นั่นเอง
ต่อมาในปี 1921 Frederick Banting และ Charles best สามารถสกัดสารนี้ออกมาจากตับอ่อนสำเร็จ และลองเอาไปฉีดให้ หมาที่ถูกตัดตับอ่อนออกไป พบว่า หมาพวกนี้กลับมามีอาการดีขึ้นชัดเจนเร็วมาก
นั่นทำให้ Banting มั่นใจว่า Insulin นี่เองคือสารที่สามารถรักษาเบาหวานได้
ในมกราคมปี 1922 เด็กชาย Leonard Thompson อายุ 14 ปีที่กำลังป่วยด้วยโรคเบาหวานรุนแรง จนมีภาวะเลือดเป็นกรด (Diabetic ketoacidosis)
นอนอยู่ใน ICU และใกล้จะเสียชีวิต เป็นเด็กที่อาสาขอรับการทดลองยา Insulin ครั้งแรกในมนุษย์
ผลก็คือ ภายในไม่ถึง 24 ชั่วโมง ระดับน้ำตาลในเลือดก็กลับมาเป็นปกติ รอดจากภาวะวิกฤต กลับมาเป็นปกติได้อย่างรวดเร็ว
ภายในไม่กี่เดือน ข่าวการรักษาครั่งนี้ก็แพร่กระจายไปทั่วโลก และ Banting และ Best ก็ได้รับรางวัลโนเบลในปีถัดมา
มีบริษัทมากมายติดต่อ Banting และ Best ในการจดสิทธิบัตรผูกขาด Insulin
แต่เขาทั้งสองก็ได้ปฏิเสธไป
ปล่อยให้อุตสาหกรรมการแพทย์ ผลิต Insulin ได้อย่างเสรี เมื่อหลายบริษัทผลิตมากเข้า ราคาอินซูลินก็ถูกลงเรื่อยๆ ตามกลไกตลาด
ผลคือคนที่เป็นเบาหวานทั่วโลกสามารถเข้าถึงได้ในเวลาไม่กี่ปี และลดการเสียชีวิตของผู้คนได้นับล้านคน
ตั้งแต่นั้นมา Insulin ก็ปูทางไปสู่การพัฒนายาเบาหวานรุ่นต่อๆมา ทำให้คนไข้เบาหวานกลับมามีชีวิตใหม่ได้
Frederick Benting, Charles Best และหนูน้อย Marjorie ผู้ช่วยชีวิตคนไข้เบาหวานบนโลกใบนี้ครับ
3000 ปีแห่งเบาหวาน และ การมาถึงของ "Insulin"
แต่โลกแห่งการแพทย์และการเจ็บไข้ได้ป่วย ในสมัยที่คนยังบูชาผีสางนางฟ้า นั้นโหดร้ายมาก
สมัยก่อน ระหว่างรักษา และไม่รักษา ผลลัพธ์ไม่ค่อยแตกต่างกันเท่าไร
พูดง่ายๆคือเป็นตายเท่ากัน
โดยเฉพาะโรคเบาหวาน ที่ใครได้เป็นแล้ว ชีวิตจะสั้นลงมาก
และเคยสงสัยมั้ยครับ ว่ายาแต่ละชนิดที่ช่วยผู้คน เป็นพันๆล้านคนได้ มันมีที่มายังไง
เบาหวานเป็นโรคหนึ่งที่มีประวัติศาสตร์มายาวนาน ตั้งแต่สมัยอียิปต์โบราณ
ลักษณะของคนเป็นโรคนี้คือ ช่วงแรกเวลาฉี่จะมีมดตามมากิน สักพักเท้าจะเริ่มเน่า พยาธิชอนไช ตาจะพร่ามัวทั้งสองข้างจนบอด และเสียชีวิตในไม่ถึง 5 ปี
การรักษาก็คือการอดมื้อกินมื้อ เพื่อลดน้ำตาลลง แต่ก็มันก็ยื้อไปได้อีกแค่ไม่กี่ปี แลกกับความทรมานจากการอดอาหารแล้ว บางคนจึงยอมกินตามปกติแล้วตายดีกว่า
เวลาล่วงผ่านมาเป็นพันปี ที่เราพยายามหาสาเหตุของโรค มันเกิดขึ้นได้อย่างไร แต่ก็ไม่มีคำตอบชัดเจน
จนเมื่อปี 1889 นี้เอง คุณลุง Oskar Minkowski และ Joseph von Mering เขาได้พบว่า
สุนัขที่ถูกผ่าตัดเอาตับอ่อนออก จะมีอาการปัสสาวะบ่อย ปัสสาวะแล้วมดมากิน น้ำหนักลด เหมือนคนที่เป็นเบาหวาน
เขาเริ่มสงสัยแล้วว่า เจ้าตับอ่อนนี่ ต้องเกี่ยวข้องกับโรคเบาหวานแน่ๆ
งานวิจัยส่งต่อมาที่ปี 1910 คุณลุง Edward Albert ซึ่งเป็น Physiologist ชาวอังกฤษ
เขาได้ทดลอง ทดลองตัดตับอ่อนทีละส่วนของสัตว์ทดลอง พบว่า แค่ชิ้นส่วนเล็กๆที่เขาตัดออกไปนั้น ก็สามารถทำให้สุนัขเกิดโรคเบาหวานได้แล้ว เขาจึงสรุปว่า น่าจะมีสารเพียงแค่ชนิดเดียวเท่านั้น ที่เมื่อขาดไปแล้วทำให้เกิดโรค
เขาเรียกชิ้นส่วนเล็กๆนี่ว่า Insula มาจากคำว่า Island ที่แปลว่า เกาะ และเรียกสารที่หลั่งออกว่า "Insulin"
เขาตั้งสมมติฐานว่า "ถ้าฉีด Insulin เข้าไปในสุนัขเบาหวานที่ถูกตัดตับอ่อนออกไป เบาหวานจะดีขึ้น"
ดังนั้นสิ่งต่อไปก็คือ การสกัดเอา Insulin บริสุทธิ์ออกมาให้ได้นั่นเอง
ต่อมาในปี 1921 Frederick Banting และ Charles best สามารถสกัดสารนี้ออกมาจากตับอ่อนสำเร็จ และลองเอาไปฉีดให้ หมาที่ถูกตัดตับอ่อนออกไป พบว่า หมาพวกนี้กลับมามีอาการดีขึ้นชัดเจนเร็วมาก
นั่นทำให้ Banting มั่นใจว่า Insulin นี่เองคือสารที่สามารถรักษาเบาหวานได้
ในมกราคมปี 1922 เด็กชาย Leonard Thompson อายุ 14 ปีที่กำลังป่วยด้วยโรคเบาหวานรุนแรง จนมีภาวะเลือดเป็นกรด (Diabetic ketoacidosis)
นอนอยู่ใน ICU และใกล้จะเสียชีวิต เป็นเด็กที่อาสาขอรับการทดลองยา Insulin ครั้งแรกในมนุษย์
ผลก็คือ ภายในไม่ถึง 24 ชั่วโมง ระดับน้ำตาลในเลือดก็กลับมาเป็นปกติ รอดจากภาวะวิกฤต กลับมาเป็นปกติได้อย่างรวดเร็ว
ภายในไม่กี่เดือน ข่าวการรักษาครั่งนี้ก็แพร่กระจายไปทั่วโลก และ Banting และ Best ก็ได้รับรางวัลโนเบลในปีถัดมา
มีบริษัทมากมายติดต่อ Banting และ Best ในการจดสิทธิบัตรผูกขาด Insulin
แต่เขาทั้งสองก็ได้ปฏิเสธไป
ปล่อยให้อุตสาหกรรมการแพทย์ ผลิต Insulin ได้อย่างเสรี เมื่อหลายบริษัทผลิตมากเข้า ราคาอินซูลินก็ถูกลงเรื่อยๆ ตามกลไกตลาด
ผลคือคนที่เป็นเบาหวานทั่วโลกสามารถเข้าถึงได้ในเวลาไม่กี่ปี และลดการเสียชีวิตของผู้คนได้นับล้านคน
ตั้งแต่นั้นมา Insulin ก็ปูทางไปสู่การพัฒนายาเบาหวานรุ่นต่อๆมา ทำให้คนไข้เบาหวานกลับมามีชีวิตใหม่ได้
Frederick Benting, Charles Best และหนูน้อย Marjorie ผู้ช่วยชีวิตคนไข้เบาหวานบนโลกใบนี้ครับ