ขออนุญาตรีวิวที่พักที่เคยอยากรีวิวและได้ไปพักเมื่อปลายปีที่แล้ว
ที่รีวิวไม่ได้เนื่องจากตอนนั้นยังไม่ได้ลงทะเบียนกับพันทิป

เรื่องมีอยู่ว่าปลายปีที่แล้ว
เราอยากไปเที่ยวและพักผ่อนที่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ และได้ไปพบกับโรงแรม Bangkok Tree House สมุทรปราการ
เฮ๊ยยย! ใช่เลย ที่นี่เป็นโรงแรมที่คอนเซ็ป แปลก ไม่ค่อยเหมือนใคร และที่สำคัญเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เราและเพื่อนได้จองห้อง แบบ Family nest ซึ่งสามารถพักได้ 4 คน




พวกเราขับรถไปจอดที่วัดบางนานอก ตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่โรงแรม
เมื่อมาถึงวัด ได้ถามเจ้าหน้าวัดที่โบกรถว่า "ที่นี่รับปากรถรึเปล่าค่ะ"
เจ้าหน้าที่ของวัดบอกว่า "ไม่รับฝากรถ" และจริงๆแล้วทางเจ้าหน้าที่ของวัดบอกว่าที่นี่ไม่อนุญาตให้จอดรถข้ามคืน อีกทั้งมีป้ายภายในวัดติดไว้ว่า "ห้ามจอดรถค้างคืน คำสั่งเจ้าอาวาส" ทำเอาพวกเราใจหายกัน ว่ารถพวกเราจะปลอดภัยไหม

และเราก็ได้นั่งเรือข้ามฝากมาฝั่งวัดบางน้ำผึ้งนอก ในที่สุดก็ถึงโรงแรม

พวกเราเช็คอินเข้าพักตามปกติ ตอนประมาณ 4 โมงเย็น
เจ้าหน้าที่โรงแรมนำ welcome drink มาเสิร์ฟ 4 คน 4 แก้ว 4 น้ำสมุนไพร
พร้อมกับเอากระดาษมาให้กรอกว่าจะทานอะไรกันเย็นนี้และจะรับอาหารเช้าอะไรในวันรุ่งขึ้น

ถึงเวลาเข้าที่พักแล้ว
มีพนักงานผู้หญิงนำเข้าห้องพัก Family Nest ซึ่งเป็นห้องแรก ที่อยู่ถัดมาจาก Lobby โรงแรม



ชั้นล่างของห้อง Family เป็น
1. ที่จอดรถจักรยาน ซึ่งจอดค่อนข้างเกะกะทางเดินเข้าออกห้อง
2. ตู้เย็นรวม ของแขกทุกคน เนื่องจากที่พักที่นี้มีนโยบายรักษ์โลก แต่ละห้องไม่มีตู้เย็น น้ำดื่มต่างๆต้องมาเอาที่ตู้เย็นนี้
3. ห้องน้ำ ของโรงแรม สำหรับแขกภายนอกที่เข้ามาทานอาหาร
4. ห้องสมุด ของโรงแรม
5. ครัวของโรงแรม ซึ่งจะอยู่ติดกับห้องน้ำรวม

พนักงานได้พาแนะนำทีละห้อง
ห้องที่ 1 คือ ห้องนั่งเล่น - มีโต๊ะเล็กๆ 1 ตัว โซฟาเล็กๆ 1 ตัว แอร์ 1 เครื่อง คอม 1 เครื่อง
ห้องที่ 2 คือ ห้องน้ำ
ห้องที่ 3 คือ ห้องนอน - มีคอม 1 ตัว แอร์ 1 ตัว ที่นอน 6 ฟุต 1 ฟูก และเบาะรองนอนบางๆ 3 - 3.5 ฟุต 1 แผ่นที่วางติดกับเตียงใหญ่



ทีมงานโรงแรมได้วาง welcome drink ไว้ในห้องนั่งเล่นเป็น น้ำมะพร้าวน้ำหอม เย็นชื้นใจจจจจจ

แต่ก็ไม่อาจดับอารมณ์ที่ร้อนของพวกเราได้ ในเรื่องที่กำลังจะเราข้างล่าง

เรื่องที่เราอึ้งที่สุดคือ เตียง 1 king & 1 queen และห้องนอนเล็กใหญ่ที่แยกกันตามที่โฆษณาในเว็บโรงแรม
เบาะรองนอนบางๆกว้าง 3 - 3.5 ฟุต เค้าไม่ได้เรียกว่า queen size นะ เข้าใจอะไรผิดไปรึป่าว

สุดท้ายก็แจ้งพนักงานว่า พวกเราไม่โอเค
พนักงานผู้ชาย (น่าจะเป็นผู้จัดการที่นี้) ก็ได้ประสานกับเจ้าของโรงแรมว่าจะทำอย่างไร รออยู่นานมาก
บอกตามตรง ณ ความรู้สึกตอนนั้น อยากกลับมาก รู้สึกว่าไม่มีความคุ้มค่า

รอจนประมาณ 6 โมงเย็น
ในที่สุดทางโรงแรมก็ยอมเปิดห้อง Tree Top Nest ให้อีก 1 ห้อง เป็นห้องหมายเลข 5 ซึ่งอยู่ห่างกับ Family Nest 5 ห้อง
พวกเราก็รู้สึกไม่ค่อยโอเค เพราะเราตั้งใจจอง Family Nest เพราะต้องการอยู่ด้วยกัน แต่ต้องมาแยกกัน ก็เลยถามว่าขอเปิด Tree Top Nest 2 ห้องติดกันได้ไหม ซึ่งทางโรงแรมก็ไม่ยอม บอกว่าเราจอง Family มา ถ้าเค้าเปิด Tree Top จะทำให้เค้าเสียโอกาส และถ้าจะเปิดเทอม ต้องจ่ายค่าห้อง Tree Top อีก 3,900 บาท!

มันทำให้เรารู้สึกแย่มาก เพราะความจริงทางโรงแรมมีห้องว่างเหลืออีก และสิ่งที่โรงแรมเสียก็แค่ค่าทำความสะอาดห้อง
หลังจากนั้นก็รีบเปลี่ยนชุด ออกไปปั่นจักรยานชมวิว ก่อนจะมืด และกลับมาทานอาหารค่ำที่โรงแรมตอน 19.00 น.
20.00 น. ก็ไปทัวร์ชมหิ่งห้อยของโรงแรม ฟรี! สำหรับแขกทุกคนที่มาพัก
หลังจากจบทัวร์หิ่งห้อยตอน 21.00 น. พวกเราก็ไปรวมตัวกันที่ห้องนั่งเล่น ไปนั่งฟังเพลง เล่นไพ่ เล่นอูโนกันจนถึงตี 1 ก็ได้เวลาเข้านอน