[CR] Italy Switzerland Vatican : หนาวนี้ที่ยุโรป [ 10 วัน 9 คืน ]


Ciao ! Italy & Switzerland Day Trip ค่ะ การเดินทางครั้งนี้อาสาพาทุกคนพาไปเที่ยว Grand Italy Vatican และ Switzerland แบบกรุบกริบ 1 วันค่ะ เส้นทาง Rome Vatican Florence Pisa Milan Aosta และ Turin ช่วงเวลาที่เดินทางคือปลายเดือนธันวาคมถึงต้นเดือนมกราคม เป็นช่วงที่อากาศหนาว พระอาทิตย์ตกไว บนเขาหิมะแน่นๆ เหมาะกับการไปเล่นสกี ไว้พาไปเที่ยวสกีรีสอร์ตในทริปนะคะ ... ก่อนไปเที่ยวขอเล่าข้อมูลคร่าวๆ Update ล่าสุดก่อนเดินทางค่ะ 

Exchange Rate 
เงินยูโร 1 EUR เท่ากับ 35.5 บาท
เงินสวิส 1 CHF เท่ากับ 37.5 บาท
ตลอดทริปใช้ Cashless Prepaid Travel Card 100% ติดเงินสดไปไว้แต่ไม่ได้ใช้เลยค่ะ

Safety First 
อิตาลีขึ้นชื่อเรื่องโดนล้วงกระเป๋าค่ะ Passport , เงิน , บัตร , กระเป๋าเดินทาง ต้องดูแลให้ดีปลอดภัยไว้ก่อน ลองหาเสื้อ Coat ที่มีกระเป๋าซ้อนในตัวไว้ หรือซ้อนกระเป๋าบางๆไว้ใส่เสื้อกันหนาวอีกที เก็บของมีค่า Passport และบัตร ส่วนกระเป๋าเดินทางควรพกสายคล้อง Lock กุญแจไว้ เราซื้อที่ Lock จักรยานมาจากร้าน 20 บาท มีไว้ช่วยได้เยอะกรณีที่วางกระเป๋าใกล้ตัวคุณเต็ม อย่างน้อย Lock ไว้กับเสาก็อุ่นใจระดับนึงว่ากระเป๋าจะไม่ได้ถูกยกออกไปง่ายๆค่ะ

Schengen Visa 
ของเรามีวีซ่า Schengen 5 ปีค่ะ ทำให้ไม่ต้องทำใหม่ ส่วนของที่เหลือขอ Schengen Visa จากประเทศอิตาลีค่ะ ได้มาคนละ 1-3 เดือน รอประมาณ 14 วันทำการ Passport ส่งถึงที่บ้านค่ะ

Airlines 
บินตรง Italy ปัจจุบันมีการบินไทยลง Milan ค่ะ สายการบินอื่นๆ ต่อเครื่องของเราบินช่วง 27 ธันวาคมถึง 5 มกราคม เป็นช่วงปีใหม่จองของ Air China ต่อเครื่อง Beijing ขากลับ Hangzhou ได้มาอยู่ที่ 20,000 บาท รวมโหลดกระเป๋า 1 ใบน้ำหนักคนละ 23 กิโลกรัมค่ะ

Hotels 
ปีใหม่โรงแรมแพงมากๆค่ะ ราคาอัพเหมือนกันทุกที่ทั่วโลก เราจองโรงแรมล่วงหน้า 3 เดือน เฉลี่ยต่อคืนต่อห้องถูกสุดตั้งแต่ 60 € ถึง 100 € ค่ะ เป็นโรงแรมระดับ 2-3 ดาว เน้นโรงแรมที่เดินทางสะดวกมีขนส่งสาธารณะใกล้ๆ ค่ะ ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม คือ City Tax ที่ต้องไปจ่ายกับโรงแรม ไม่รวมกับค่าห้องพักนะคะ

Public Transportation 
การเดินทางในยุโรปของเราใช้ขนส่งสาธารณะเป็นหลักค่ะ เดินทางเชื่อมระหว่างเมืองและข้ามประเทศ

1.รถไฟ Switzerland
ใช้ Application SBB ซื้อ Swiss Saver Pass แบบ 1 วัน ราคา 55 CHF ผ่าน SBB Application ค่ะ

2.รถไฟ Italy
ใช้ Rail Planner
ซื้อ Italy Rail Pass 4 วันแบบไม่ต่อเนื่อง ผ่านทาง KKDay ได้ลด 25% บวก Top Up Code บัตรเครดิตอีก 10% ใช้เดินทางช่วงหยุดยาวเทศกาลปีใหม่คุ้มมากๆค่ะ เส้นทาง

Rome - Florence
Florence - Pisa
Florence - Milan
Aosta - Turin
Turin - Rome

วิธีนำ Pass มาเชื่อมกับ Application Rail Planner Add รอบรถไฟและ Slide Active จะได้ QR Code ผ่าน App โชว์เจ้าหน้าที่ ง่ายและสะดวก สามารถเปลี่ยนแผนได้ตลอดเวลาค่ะ แถม Refund ได้ 90 % กรณีเปลี่ยนใจไม่เดินแค่กด Inactive Pass ค่ะ สำหรับรอบรถไฟที่เดินทางด้วย High Speed ต้องจองที่นั่งด้วย ค่าจองที่นั่งต่อที่ ราคา 15 € เป็นค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมค่ะ
3.รถบัส Flixbus : ใช้เดินทางข้ามประเทศ ข้ามเมืองได้สะดวก ราคาสบายกระเป๋า ของเราใช้เดินทางเส้น Milan - Aosta

Taxi Application 
เรียกรถที่ใช้ใน Italy หลักๆมี 2 เจ้าคือ Freenow และ Uber ค่ะ ราคาค่อนข้างสูง เราลองใช้บริการจากที่พักไปสถานี Milano Central ตอนเช้ารถไม่ติด เดินทางประมาณ 10 นาที เสียค่าบริการไป 22.5 € ระยะทาง 4.3 กิโลเมตร สำหรับขนส่งสาธารณะในเมืองส่วนมากใช้ Metro , Bus , Tram ใช้บัตรเครดิตได้ทุกเมืองที่ไปมา หรือจะใช้ One Day Pass ก็คุ้มเหมือนกันค่ะ ขึ้นอยู่กับว่าเราขึ้นรถถี่แค่ไหน ถ้าเน้น City Walk แตะเป็นรอบๆก็ไม่แพงเช่นกันค่ะ

eSIM 
ใช้ eSIM ยุโรปจาก KLOOK แบบ 20 GB ซื้อจากหมวด eSIM หน้า Application KLOOK นะคะ ชอบตรงที่เราดูได้ตลอดว่าเราใช้ไปเหลือกี่ GB แล้ว ใช้แล้วประทับใจ สัญญาณแรงดีไม่มีสะดุด

Travel Insurance
ทำ Schengen Visa บังคับต้องมีประกันเดินทางอยู่แล้วค่ะ ของเราใช้ประกันเดินทางรายปี ครบจบไปเลย เราเดินทางบ่อยคุ้มครองรายปีคุ้มกว่า ถึงแม้ว่าจะราคาเบี้ยค่อนข้างสูง แต่มีไว้อุ่นใจค่ะ

พร้อมเจอกับความหรรษาของทริปนี้แล้ว
ไปลุยกันนนน ~

tripnote001

บันทึกการเดินทางวันที่ 1 : วันเดินทางไป

Air China check in ที่ Row F ประตู 3 ค่ะ ไม่มีแยกแถว Check in online นะคะ ต่อแถวเดียวกันหมด แยกแค่ Business Class , First Class และ Member ค่ะ ความพีคของเราคือ ขากลับโดนยกเลิกไฟท์ทำให้ตั๋วขากลับเปลี่ยนใบ เจ้าหน้าที่ออกตั๋ว Boarding Pass เลข PNR ใบเก่าให้ ขอให้เจ้าหน้าที่เปลี่ยนตั๋วให้ รอตั้งแต่ก่อน Boarding จนได้ขึ้นเครื่องคนสุดท้าย ดีที่เราดูไม่งั้นขากลับเราจะมีปัญหาค่ะ

(Oman Air Lounge & Breakfast on Board)

ขากรุงเทพไปแวะต่อเครื่องที่ปักกิ่ง ใช้เครื่องบิน Airbus A330-300 จัดที่นั่ง 2-4-2 ไม่มีจอส่วนตัว ให้ใช้ WiFi บนเครื่องดูผ่านมือถือตัวเองแทนค่ะ อาหารที่เสิร์ฟเป็นมื้อเช้า มีให้เลือกเป็นออมเลตและโจ๊ก แนะนำว่าให้นั่งหน้าๆและเลือกออมเลต เพราะว่าถ้านั่งหลังจะไม่ได้เลือก ได้โจ๊กเปล่าอารมณ์ข้าวต้มกุ้ย ไม่มีเครื่องค่ะ เศร้าเลยนะ ของเราเป็น on request เลยรอดไปค่ะ

(Beijing Capital International Terminal 3)

มาถึงปักกิ่งแล้วค่ะ ขานี้เราไม่ได้ออกข้างนอกมีเวลาต่อเครื่อง 6 ชั่วโมง เดินตรงมาที่ Transit Area ผ่าน Security และ Check Boarding Pass

(Dimsum from BGS VIP Lounge)

6 ชั่วโมง แบ่งเป็นนั่ง Lounge 2 ที่ และร้านกาแฟ แปบเดียวหมดเวลาค่ะ นั่งทำงานไปด้วย

ที่แรกที่เราไป BGS VIP Lounge Terminal 3E ใกล้ Gate 19 ถ้าไม่มีบัตร Priority Pass ค่า Lounge 380 Yuan ต่อคน อยู่ได้ 3 ชั่วโมง มีห้องอาบน้ำและอุปกรณ์อาบน้ำให้ อาหารดีกว่าที่สองค่ะ ชอบขนมจีบกุ้งของที่นี่มาก เด้งสู้ฟัน แน่นๆเต็มค่ำ อร่อยยย มีไม่ต่ำกว่า 6 ลูก อิอิ

(Hourly Lounge Terminal 3)
(Lemon Tea)

Lounge ต่อมาเป็น Lounge ที่กดจองฟรีจาก App สายการบิน ชื่อว่า Hourly Lounge Terminal 3 ใกล้ Gate 10 มีมาม่าและเครื่องดื่ม ห้องนอน Sofa และห้องอาบน้ำพร้อมอุปกรณ์อาบน้ำให้ด้วย

(Starbucks and COSTA)

ปิดท้ายด้วย Starbucks และ COSTA นอกนั้นก็มี KFC และ Pizza Hut อีกสองร้านที่รู้จักค่ะ เดินเล่นดูของ พวกแบรนด์เนมก็เยอะนะ

(Boeing 777-300ER)

ขึ้นเครื่องแล้วค่ะไฟท์ถัดมาปักกิ่งไปโรม ใช้เครื่องบินแบบ Boeing 777-300ER เจ้านกยักษ์ลำนี้แหละจะพาเราไปโรม

(On Board Boeing 777-300ER)

ขึ้นมาบนเครื่อง ที่นั่ง 3-3-3 ส่วนใหญ่ผู้โดยสารเป็นชาวต่างชาติ 70% ที่เหลือ 30% เป็นคนจีนและเอเชียค่ะ

(อาหารกลางวัน Seafood On Request)
(อาหารเย็น Seafood On Request)

Beijing - Rome ใช้เวลาบิน 13 ชั่วโมง 
เสิร์ฟอาหาร 2 มื้อ เป็นมื้อกลางวันและมื้อเย็นค่ะ อาหาร Seafood Meal โอเคทั้งสองมื้อเลยนะ เป็นพาสต้าปลากระพงและผัดหมี่โปะกุ้งนึ่งค่ะ

(ฺDuring Flight)

เวลาบนเครื่องหมดไปกับการอ่านหนังสือและนอน เผลอแปบเดียวเครื่องลงจอดที่อิตาลีแล้ว ลงจากเครื่องมาพร้อมกัน 3 ลำ แถวตม.ยาวแบบยืนขาแข็ง 2 ชั่วโมงเต็มๆ นานที่สุดตั้งแต่รอตมที่ยุโรปมาค่ะ ทุกคนตั้งใจมา Countdown ปีใหม่แหละ วันเทศกาลเนอะ ผ่านตม. รับกระเป๋าเดินทาง ประสบการณ์ใหม่กระเป๋าพี่แตกทั้งใบค่ะดีที่มีสายรัดคล้องไว้ ทำเรื่องเคลมกระเป๋าเดินทาง ที่ยุโรปเขาจะไม่ได้มีกระเป๋าสำรองให้ ต้องเอาเอกสารไปเคลมเอง พรุ่งนี้ค่อยไปซื้อกระเป๋าใบใหม่ค่ะ

(Train Ticket ตั๋วรถไฟเข้าเมืองจากสนามบิน)

ได้เอกสารเรียบร้อย ไปโรงแรมด้วยรถไฟ ลงสถานี Rome Trastevere Station ค่ารถไฟคนละ 8 €  ซื้อกับเจ้าหน้าที่หรือซื้อผ่านตู้ KIOSK ก็ได้เช่นกันค่ะ ราคาเท่ากัน กรณีมี QR Code แล้วไม่ต้อง Validate ตั๋วผ่านตู้ KIOSK ค่ะ

เดินจากสถานี 350 เมตรก็ถึงทางขึ้นโรงแรม ความพีคคือ ทางขึ้นบันไดและกระเป๋าเดินทาง อ๊ากกก สูงมากแม่ ฉันจะทำยังไงดี ค่อยๆยกซิค่ะ คนอินเดียตรงบันไดเห็นฉันทุลักทุเลไม่ไหว เขามา I will help you และช่วยยกขึ้นไปข้างบน ตอนแรกพี่ฉันบอก No กลัวมิจ ฮ่า สภาพฉันคือเอาไปเถอะถ้าจะขนาดนี้ หนักมากกก 0 องศาแต่เหงื่อออกได้ รอดแล้วค่ะ ขอบคุณนะคะ

(Triple Room Hotel Villa Rosa)

เราพักที่ Hotel Villa Rosa 2 คืน ห้องเราได้ห้องใหม่เพิ่ง Renovate ห้องโอเค ห้องน้ำกว้าง แยก 2 โถ ไปอิตาลีไม่ต้องแปลกใจทำไมมี 2 โถ โถแรกปัสสาวะปกติ อีกโถไว้ล้างน้องของเราอารมณ์บ้านเราก็สายฉีด วิธีต้องยกตัวย้ายมาล้างอีกที่ ชอบนะไม่แห้งดี แรกๆอาจจะไม่ชิน ถ้าไปประเทศอื่นในยุโรปไม่มีโถล้างแบบนี้ ทิชชูเท่านั้นค่ะ 
ชื่อสินค้า:   Italy, Aosta , Rome , Florence , Pisa , Milan , Vatican , Switzerland, Stoos , Luzern
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่