พิจารณาตนเอง ว่าเรานี้เป็นคนพาล หรือบัณฑิต

กระทู้สนทนา
สวัสดีเช้าวันอาทิตย์ค่ะ
พิจารณาธรรมร่วมกันนะคะ  อันตัวเรานั้น มีทั้งฝ่ายพาล
คือฝ่ายกิเลส โลภ โกรธ หลง และฝ่ายบัณฑิต คือ ศีล สมาธิ
ปัญญา  การปฏิบัติธรรม การฝึกตนนั้น  ต้องรู้ทันกิเลส ต้อง
ต้องพัฒนาฝ่ายบัณฑิต ให้มีความคล่องแคล่ว เฉียบคม ตาม
กิเลสได้ทัน
เวลาที่เราพบเจอการกระทำของใคร ที่เป็นไปในแบบของ
คนพาล  ให้สะท้อนกับมาดูตัวเอง ว่าเราเป็นแบบนั้นหรือไม่
หากพบเจอบัณฑิต เหมือนเจอขุมทรัพย์ อย่าพลาดโอกาส
ที่จะสนทนากับท่านเหล่านั้น
การเจรจาแบบคนพาลนั้น  จะส่อไปในทางลบ ทางรุนแรง
ผู้เป็นบัณฑิต  บางครั้งหากพิจารณาแล้วว่า ยังไม่พร้อมต่อ
คำแนะนำ ท่านจะเว้นไว้ก่อน ให้สงบก่อน แล้วค่อยชี้แจง
แนะนำทางที่ถูก ทางที่ชอบให้
ขอเล่าเหตุการณ์สำคัญล่าสุด
จขกท.ทำงานที่ต้องเจอผู้คนมากมาย หลากหลายอาชีพ
วัย ฐานะ  วันหนึ่ง ได้คุยกับคุณยายท่านหนึ่ง ท่านดูเป็นคน
ใจดี สงบงาม แต่มีโรคประจำตัว แล้วต้องดูแลตัวเอง คนใน
ครอบครัวไม่เข้ามาดูแล คุณยายใช้คำว่าเค้าไม่สนใจ
เราก็ให้กำลังใจ ให้พึ่งตัวเอง ส่งความเมตตาออกไปตาม
ปกติที่ฝึกตนมา  แต่กลับสัมผัสได้ถึงกระแสต้านของคุณยาย
ที่เรียกว่าศักดิ์ศรี อัตตา อีโก้  แล้วแต่จะเรียก  ที่ปฏิเสธ
กระแสเมตตานั้น
เราสะท้อนกลับมาที่ตัวเอง เออนะ  ศักดิ์ของคนนี่ แม้แต่
เมตตา มันยังห้ามไม่ให้รับ เกิดกนะบวนการพิจารณาตัวเอง
ว่าที่ผ่านมา เราก็เป็นเช่นนี้เอง สร้างศักดิ์ศรีต่าง สร้างอัตตา
ขึ้นมา  แล้วไปหลงกับมันเข้า เรียกว่าหลงตัวเองขั้นละเอียด
มันแจ้งกระจ่างในใจขึ้นมา  ... ต้องขอบคุณคุณยายท่านนั้น
ที่เป็นกระจกเงาสะท้อนให้เราเห็นธรรม...
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่