ความหมายของคำว่า "บัณฑิต"

กระทู้สนทนา
บางท่านอาจจะเข้าใจว่า บัณฑิตคือคนที่เรียนจบปริญญา หรือเป็นผู้มีความรู้สูงๆ  แต่แท้ที่จริงแล้ว ไม่ได้เป็นเช่นนั้น

คำว่า บัณฑิต มาจากภาษาบาลีว่า ปัณฑิตา ซึ่งแปลว่า ผู้ดำเนินชีวิตด้วยปัญญา  
ซึ่งตรงข้ามกับคำว่า พาล ( พาลา พาโล)  ที่แปลว่าคนโง่ หรือคนที่จะดำเนินชีวิตด้วยตัณหา ดำเดินชีวิตด้วยความหลง

สังคมไทย เต็มไปด้วยคนจบปริญญา ได้เป็นบัณฑิตเพียงแต่ในนาม ตามที่สังคมอุปโลกน์ขึ้นเท่านั้น  

- คนจบปริญญา แต่ถ้าท่านยังเหยียดหยามคนไม่มีความรู้ ก็คือคนพาล หรือคนโง่
- คนจบปริญญา ถ้าดูถูกคนบ้านนอก คอกนา  ก็คือคนพาล หรือคนโง่
- คนจบปริญญา ถ้ายังเป็นผีพนัน ยังลุ่มหลงในโลกีย์อบาย ก็คือคนพาล หรือคนโง่
- คนเป็นส.ส.สอบตก ถ้ายังดูถูกคนอื่นอยู่ ก็คือคนพาล หรือคนโง่ (อันนี้ผมสมมุติ)
- คนที่เติบโตมากับการกินข้าวไทย แต่กลับดูถูกชาวนา ดูถูกข้าวตัวเอง หันไปชื่นชมข้าวอินเดีย ข้าวเวียตนามแทน ทั้งที่ตัวเองไม่เคยได้ลิ้มรส  ก็คือคนพาล หรือคนโง่ (สมมุติอีกเช่นกัน)

แล้วคนที่ดำเนินชีวิต้วยปัญญาเป็นอย่างไร
- รู้สิ่งใดควรทำ สิ่งใดไม่ควรทำ
- รู้จักปล่อยวาง
- รู้กฎแห่งไตรลักษณ์ คือ อนิจจัง   ทุกขัง  อนัตตา
- รู้จักการให้คุณค่า และศักดิ์ศรีของแต่ละคน เพราะไม่มีใครเลือกเกิดได้
- รู้จักหาความสุขจากการแบ่งปัน
- รู้จักมองโลกแง่ดี
- รู้จักเหตุแห่งทุกข์ และวิธีดับทุกข์
- รู้จักบุญคุณ
-  เข้าใจกฎธรรมชาติ ที่เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป หรือเปลี่ยนแปลงไป
ฯลฯ

คุณย่าของผมอายุเกือบ 90 ปี หูยังดี ตายังดี สติยังสมบูรณ์ เพราะท่านมีแต่ความสุข
- สุขที่ได้จากสวดมนต์
- สุขที่ได้จากการภาวนา
- สุขที่ได้จากการมองโลกแง่ดี
- สุขที่จากการเข้าวัด ใส่บาตร ฟังธรรม
- สุขที่ได้จากการให้อภัย
- สุขที่ได้จากการแบ่งปัน
- สุขที่ได้จากการให้เกียรติคนอื่น

แม้คุณย่าท่านไม่ได้เรียนหนังสือ แต่ท่านเป็นบัณฑิต คือดำเนินชีวิตด้วยปัญญา  ท่านจึงเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุขเสมอ


ดังที่กล่าวมานี้ สรุปได้ว่า

บัณฑิต คือ คนที่ดำเนินชีวิตด้วยปัญญา คือรู้จักแยกแยะ สิ่งใดควร สิ่งใดไม่ควร

พาล หรือพาโล หรือ คนโง่   คือคนที่ดำเนินชีวิตด้วยความตัณหา หลงตน อวดตน ทะนงตน



จึงอยากใ้ห้สาธุชนพิจารณา

เอวัง ก็มีด้วยประการ ฉะนี้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่