สวัสดีค่ะ เล่นพันทิปไม่กี่ครั้ง หากผิดพลาดประการใดต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย ถ้าแท็กห้องผิดดิฉันขออภัย แท็กผิดๆถูกๆมีหลายห้องเหลือเกิน
ต้องขอเกริ่นก่อนว่า ดิฉันเป็นลูกสาวคนเดียวของพ่อกับแม่ แม่ของดิฉันเสียตั้งแต่ดิฉัน 7 ขวบ ดิฉันจึงอยู่กับพ่อเรื่อยมา พ่อจึงเปรียบสเหมือนทุกอย่างของดิฉัน เป็นทั้งพ่อและแม่ เป็นเพื่อน เป็นที่ปรึกษา ดิฉันสนิทกับพ่อมาก ดิฉันอยู่ม.6 ก็ยังนอนห้องเดียวกับพ่ออยู่ เนื่องจากว่าดิฉันกลัวผีและกลัวการอยู่คนเดียว ถึงจะไม่มีแม่แต่เราสองคนพ่อลูกก็อยู่กันปกติสุขดี พ่อก็เคยถามดิฉันหลายครั้งว่าถ้าไม่มีพ่อแล้วจะทำยังไง ดิฉันก็คิดในใจว่าจะตายตามพ่อไง แต่ปากก็บอกพ่อไปว่า”พ่อยังต้องอยู่กับหนูอีกนาน พ่อต้องอยู่รับปริญญาหนูก่อนสิ รอให้หนูมีครอบครัวก่อน พ่อจะรีบไปไหนล่ะ” ตอนนั้นดิฉันก็พอเข้าใจว่าพ่ออยู่คนเดียวมานานอาจจะอยากมีคู่คิด คู่ชีวิตไว้เป็นเพื่อน ฉันจึงไม่ห้ามหากพ่อจะมีแม่เลี้ยง แต่พ่อดิฉันก็บอกว่าไว้ให้ดิฉันเรียนจบก่อนแล้วค่อยว่ากัน จนกระทั่งจะเปิดเทอมม.6 พ่อของดิฉันก็มาด่วนจากฉันไปอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว ดิฉันเสียใจอย่างมาก กินไม่ได้ นอนไม่หลับ และเมื่อรู้ว่าพ่อจะจากดิฉันไปแล้วจริงๆ ฉันจึงหาทุกวิถีทางที่จะทำให้ตัวเองตาย ต้องยอมรับว่าตอนนั้นหน้ามืดตามัวและโง่มากๆ แต่ความที่ไม่เหลือใครทำให้ฉันอยากจะตายๆไปซะ เพราะคิดว่าจะได้ไปอยู่กับพ่อกับแม่ซะเลย แต่เพื่อนและคนอื่นก็พยายามห้ามฉัน แต่ฉันก็ยังทำร้ายตัวเองด้วยวิธีทางวิทยาศาสตร์ทั้งฉีดXXX ทั้งกินXXXและออกไปขับรถ คือตอนนั้นดิฉันมีความคิดอยากตายมากๆแต่ก็ยังมีความกลัว คือเลือกวิธีที่จะทำให้ตายและเจ็บน้อยที่สุด ตอนแรกคิดจะกระโดดตึกแต่กลัวเจ็บแถมถ้าไม่ตายแต่พิการนี่ไม่ดีแน่ๆ จะกินยาล้างห้องน้ำก็ทรมานและถ้าไม่ตายหลอดอาหาร กระเพาะอาหารก็ไหม้พังหมด จะใช้มีดตัดเส้นเลือดใหญ่ตัวเองดิฉันก็
กลัว จึงเลือกวิธีที่กล่าวมาข้างต้นเพราะดิฉันคิดว่าน่าจะเป็นวิธีฆ่าตัวตายที่เจ็บและทรมานน้อยที่สุด แต่ก็ยังไม่ตาย ณ ตอนนั้นมันทรมานมากๆเหมือนตายทั้งเป็น ทรมานทั้งกายที่ทำร้ายตัวเองแต่ไม่ตาย ทรมานทั้งใจที่เสียคนที่เรารัก ตั้งแต่นั้นดิฉันก็อธิษฐานว่าจะไม่ทำร้ายตัวเองอีก เพราะมันทรมานมากจริงๆ มันปวดแสบปวดร้อนไปหมด เจ็บทั้งกายและใจ และเมื่อดิฉันรักษาตัวจนหายก็คิดได้ทีหลังว่าการฆ่าตัวตายมันไม่ดี ถึงเราจะตัวคนเดียวแต่เราก็เป็นสมบัติเป็นตัวแทนของพ่อและแม่ เมื่อคิดได้ดังนั้น ดิฉันจึงพยายามใช้ชีวิตให้ดำเนินต่อไป อย่างยากลำบาก แต่ละวันตอนนั้นกว่าจะผ่านไปได้มันสาหัสมาก การใช้ชีวิตคนเดียวมันเหงา และโดดเดี่ยวมากจริงๆ คือดิฉันไม่ค่อยมีเพื่อนเท่าไหร่ ด้วยความเป็นคนที่ไม่ค่อยพูด เก็บตัว ไม่ค่อยเข้าสังคม หรือคนอื่นไม่ชอบนิสัยส่วนตัวนี่ดิฉันก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน และถึงดิฉันจะมีญาติก็ขอนับว่าไม่มีละกันเพราะว่ามีก็เหมือนไม่มี ดิฉันจึงอยากบอกเล่าประสบการณ์ที่ไม่ค่อยดีของดิฉันไว้เป็นอุธาหรณ์สำหรับคนที่หมดหวัง หมดกำลังใจและคิดจะทำร้ายตัวเอง การทำร้ายคนอื่นนั้นบาปแล้ว การทำร้ายตัวเองนั้นบาปกว่า เพราะเราทำร้ายชีวิตตัวเอง สิ่งที่พ่อแม่สร้างมาด้วยความรัก ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม มันเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำเป็นอย่างยิ่ง เพราะหากคุณทำสำเร็จคุณจะต้องชดใช้กรรมตายแล้วเกิดใหม่แล้วทำแบบนี้ไปเรื่อยๆจนกว่าคุณจะชดใช้จนหมด และหากทำไม่สำเร็จ อาจจะพิการ หรือส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาว และอาจเป็นตราบาปไปชั่วชีวิต ดิฉันจึงขอแนะนำว่าอย่าให้มีความคิดแบบนี้มาอยู่ในหัวเลยจะดีกว่า เพราะมันไม่มีอะไรดีเลยจริงๆ
ประสบการณ์ตรงจากเจ้าของกระทู้
ผิดพลาดประการใดต้องขออภัยด้วย
ประสบการณ์จริงฆ่าตัวตาย คิดจนตัวตาย ถ้าย้อนเวลาได้ก็คงไม่ทำ
ต้องขอเกริ่นก่อนว่า ดิฉันเป็นลูกสาวคนเดียวของพ่อกับแม่ แม่ของดิฉันเสียตั้งแต่ดิฉัน 7 ขวบ ดิฉันจึงอยู่กับพ่อเรื่อยมา พ่อจึงเปรียบสเหมือนทุกอย่างของดิฉัน เป็นทั้งพ่อและแม่ เป็นเพื่อน เป็นที่ปรึกษา ดิฉันสนิทกับพ่อมาก ดิฉันอยู่ม.6 ก็ยังนอนห้องเดียวกับพ่ออยู่ เนื่องจากว่าดิฉันกลัวผีและกลัวการอยู่คนเดียว ถึงจะไม่มีแม่แต่เราสองคนพ่อลูกก็อยู่กันปกติสุขดี พ่อก็เคยถามดิฉันหลายครั้งว่าถ้าไม่มีพ่อแล้วจะทำยังไง ดิฉันก็คิดในใจว่าจะตายตามพ่อไง แต่ปากก็บอกพ่อไปว่า”พ่อยังต้องอยู่กับหนูอีกนาน พ่อต้องอยู่รับปริญญาหนูก่อนสิ รอให้หนูมีครอบครัวก่อน พ่อจะรีบไปไหนล่ะ” ตอนนั้นดิฉันก็พอเข้าใจว่าพ่ออยู่คนเดียวมานานอาจจะอยากมีคู่คิด คู่ชีวิตไว้เป็นเพื่อน ฉันจึงไม่ห้ามหากพ่อจะมีแม่เลี้ยง แต่พ่อดิฉันก็บอกว่าไว้ให้ดิฉันเรียนจบก่อนแล้วค่อยว่ากัน จนกระทั่งจะเปิดเทอมม.6 พ่อของดิฉันก็มาด่วนจากฉันไปอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว ดิฉันเสียใจอย่างมาก กินไม่ได้ นอนไม่หลับ และเมื่อรู้ว่าพ่อจะจากดิฉันไปแล้วจริงๆ ฉันจึงหาทุกวิถีทางที่จะทำให้ตัวเองตาย ต้องยอมรับว่าตอนนั้นหน้ามืดตามัวและโง่มากๆ แต่ความที่ไม่เหลือใครทำให้ฉันอยากจะตายๆไปซะ เพราะคิดว่าจะได้ไปอยู่กับพ่อกับแม่ซะเลย แต่เพื่อนและคนอื่นก็พยายามห้ามฉัน แต่ฉันก็ยังทำร้ายตัวเองด้วยวิธีทางวิทยาศาสตร์ทั้งฉีดXXX ทั้งกินXXXและออกไปขับรถ คือตอนนั้นดิฉันมีความคิดอยากตายมากๆแต่ก็ยังมีความกลัว คือเลือกวิธีที่จะทำให้ตายและเจ็บน้อยที่สุด ตอนแรกคิดจะกระโดดตึกแต่กลัวเจ็บแถมถ้าไม่ตายแต่พิการนี่ไม่ดีแน่ๆ จะกินยาล้างห้องน้ำก็ทรมานและถ้าไม่ตายหลอดอาหาร กระเพาะอาหารก็ไหม้พังหมด จะใช้มีดตัดเส้นเลือดใหญ่ตัวเองดิฉันก็กลัว จึงเลือกวิธีที่กล่าวมาข้างต้นเพราะดิฉันคิดว่าน่าจะเป็นวิธีฆ่าตัวตายที่เจ็บและทรมานน้อยที่สุด แต่ก็ยังไม่ตาย ณ ตอนนั้นมันทรมานมากๆเหมือนตายทั้งเป็น ทรมานทั้งกายที่ทำร้ายตัวเองแต่ไม่ตาย ทรมานทั้งใจที่เสียคนที่เรารัก ตั้งแต่นั้นดิฉันก็อธิษฐานว่าจะไม่ทำร้ายตัวเองอีก เพราะมันทรมานมากจริงๆ มันปวดแสบปวดร้อนไปหมด เจ็บทั้งกายและใจ และเมื่อดิฉันรักษาตัวจนหายก็คิดได้ทีหลังว่าการฆ่าตัวตายมันไม่ดี ถึงเราจะตัวคนเดียวแต่เราก็เป็นสมบัติเป็นตัวแทนของพ่อและแม่ เมื่อคิดได้ดังนั้น ดิฉันจึงพยายามใช้ชีวิตให้ดำเนินต่อไป อย่างยากลำบาก แต่ละวันตอนนั้นกว่าจะผ่านไปได้มันสาหัสมาก การใช้ชีวิตคนเดียวมันเหงา และโดดเดี่ยวมากจริงๆ คือดิฉันไม่ค่อยมีเพื่อนเท่าไหร่ ด้วยความเป็นคนที่ไม่ค่อยพูด เก็บตัว ไม่ค่อยเข้าสังคม หรือคนอื่นไม่ชอบนิสัยส่วนตัวนี่ดิฉันก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน และถึงดิฉันจะมีญาติก็ขอนับว่าไม่มีละกันเพราะว่ามีก็เหมือนไม่มี ดิฉันจึงอยากบอกเล่าประสบการณ์ที่ไม่ค่อยดีของดิฉันไว้เป็นอุธาหรณ์สำหรับคนที่หมดหวัง หมดกำลังใจและคิดจะทำร้ายตัวเอง การทำร้ายคนอื่นนั้นบาปแล้ว การทำร้ายตัวเองนั้นบาปกว่า เพราะเราทำร้ายชีวิตตัวเอง สิ่งที่พ่อแม่สร้างมาด้วยความรัก ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม มันเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำเป็นอย่างยิ่ง เพราะหากคุณทำสำเร็จคุณจะต้องชดใช้กรรมตายแล้วเกิดใหม่แล้วทำแบบนี้ไปเรื่อยๆจนกว่าคุณจะชดใช้จนหมด และหากทำไม่สำเร็จ อาจจะพิการ หรือส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาว และอาจเป็นตราบาปไปชั่วชีวิต ดิฉันจึงขอแนะนำว่าอย่าให้มีความคิดแบบนี้มาอยู่ในหัวเลยจะดีกว่า เพราะมันไม่มีอะไรดีเลยจริงๆ
ประสบการณ์ตรงจากเจ้าของกระทู้
ผิดพลาดประการใดต้องขออภัยด้วย