สวัสดีค่ะ นี่เป็นรีวิวแรกที่ได้เขียนเลย..ตื่นเต้นจัง..อิอิ มาเริ่มเรื่องกันเลยดีกว่า สืบเนื่องด้วยไม่เคยคิดมาจะได้ไปเดินป่า ถึกๆ ย้ำนะค่ะว่าถึกๆ ถึกจิงๆค่ะ เป็นการเดินที่โหดมากในชีวิตเลย และนี่ก็เป็นจุดเริ่มต้นค่ะที่ทำให้ได้รู้และเข้าใจว่า แท้ที่จริงแล้วชอบการเดินป่าแบบลุยๆเป็นชีวิตจิตใจ ทริปนี้ใช้เวลาในการเดินจิงๆติดต่อกันเป็นเวลานานถึง 9-10 วัน (โอ้วแม่เจ้า) ระหว่างทางที่เดินเพื่อไปถึงจุดหมาย ได้เรียนรู้อะไรต่างๆระหว่างทางมากมายเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็น ธรรมชาติ ชีวิตความเป็นอยู่ วัฒนธรรม สภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงในทุกๆวัน เรียนรู้ที่จะปรับตัว และที่สำคัญ "มิตรภาพ" ระหว่างทางที่เราเดินไปสู่จุดหมาย ถ้าให้พูดคงยาวค่ะ 555+ เอาเป็นว่าขอเล่าเรื่องด้วยภาพแล้วกันนะค่ะ
....และนี่ก็เป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวค่ะ ^^....
**รูปถ่ายทั้งหมดใช้ iphone 5 ค่ะ** (เนื่องจากรูปส่วนใหญ่อยู่ในกล้องใหญ่ค่ะ55)
เรื่องราวทั้งหมดมันเกิดจากความบังเอิญที่ไม่บังเอิญค่ะ....อิอิ คือ เมื่อวันนั้นเองได้เจอเพื่อนด้วยความบังเอิญ เพื่อนก็เอ่ยปากชวนว่าสนใจไปเทรกกิ้ง ABC ไหม เราก็งง มันคืออะไรไอ้เทรกกิ้งๆๆ...เนี่ย ตอนนั้นก็ยังไม่ได้สนใจเท่าไหร่ เพราะกะว่าจะกลับมาหาข้อมูลในเว็บก่อน
ปรากฎว่าอะไรดลใจไม่รู้สิ เลยตอบตกลงไป ประกอบกับช่วงนั้นน้องโบนัสออกพอดี ก็เลยจัดเลยจ้า ^^ ทริปนี้ใช้เวลาเดินทาง 13 วัน เดินทางโดยสายการบินไทย ข้อมูลอย่างเดียวที่มีคือแผนที่การเดินทางที่เพื่อนส่งให้55555555++ขำยาวๆ
...และนี่คือเส้นทางที่เราจะเดินกันไปยังจุดหมาย....
พอใกล้ถึงวันเดินทางเราก็เริ่มหาข้อมูลต้องใช้ต้องจัดเตรียมอะไรมั้ง สรุปค่ะ ของที่เราขนไปเยอะมากพอสมควร และนี่คือกระเป๋าเดินทางของเราค๊าาาาา ใหญ่มาก ของเยอะมาก เตรียมไปทุกอย่าง ยา อาหารแห้ง เนื่องจากกลัวค่ะกลัวกินอาหารที่นั่นไม่ได้ ก็ไปตั้งหลายวันนิ บลาๆๆๆ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ต้องขอบคุณเจ้าของกระเป๋าผู้ใจดีที่ให้เราหยิบยืมกระเป๋าใบนี้เลย admin web ทัวร์ออนไทยค่า ตบมือรัวๆๆ (อาของเราเองจ้า)
เรานั่งสายการบินของการบินไทยค่ะ ไปลงสนามบินที่ กาฐมาณฑุ เมืองหลวงของประเทศเนปาลค่ะ พอถึงเราก็เข้าที่พัก แล้วทำการสำรวจเมืองโดยรอบค่ะ
เราพักที่นี่1 คืนค่ะ พอวันรุ่งขึ้นเราก็ออกจากเมือง กาฐมาณทุเพื่อไปยังเมือง โพคารา โดยรถซิตี้ทัวร์ พอถึงเมืองโพคารา ก็ทำการเก็บสัมภาระ แล้วออกไปช้อปอุปกรณ์ที่จำเป็นในการเทรกกิ้งค่ะ อ่อ..วันนี้เราพักที่โพคารา 1 คืนค่ะ เพื่อที่เช้าวันรุ่งขึ้นจะเดินทางไปต่อยังเมือง นายาพู ซึ่งเป็นทางเปิดไปยังการผจญภัยเทรกกิ้งของเราค่ะ
...บรรยากาศเมืองโพคาราค่ะ อากาศดีมาก มองเห็นภูเขาหิมะหางปลาด้วยค๊าาา นั่งจิบเบียริมทะเลสาบฟินสุดๆ....
เมื่อนั่งรถมาถึงเมือง นายาพู จะรออะไร เริ่มเทรคกิ้งกันเลยจ้า........เอ้าๆๆจ้ำๆเดินเข้าไปเลย เมื่อข้ามสะพานนี้เข้าไปก็จะเป็นจุดตรวจพลาสปอร์ตและทำพลาสปอร์ตเพื่อสำรวจและยืนยันตัวตนในการเทรกกิ้งตลอดระยะเวลาการเดินทางเพื่อกันคนสูญหายอะไรประมาณนี้อะค่ะ ไม่ค่อยชัวร์5555555555
ทางเดินเป็นทางราบลูกรังยาวมาตลอดทางค่ะ ดินอ้อมเขาไปเรื่อยๆ และมีสะพานข้ามแม่น้ำอยู่บ้าง อากาศร้อนมากค่ะ อยากพักอยู่ทุกขณะ แต่ก็ต้องบังคับตัวเองให้เดินต่อไป รูปนี้เป็นคณะเราเองค่ะ มีลูกหาบ 2 คนและ ไกด์อีก 1 คน
คืนแรกหลังหลังจากเริ่มเดินเทรคกิ้ง เราพักกันที่นี่ค่ะหมู่บ้านเล็กๆกลางหุบเขา จำชื่อไม่ได้เหมือนกัน55+ หลังจากเก็บของก็ออกมานั่งรับลมดูวิว กินข้าว และก็พูดคุยสนทนากันร็อย่างเดียวในหัวตอนนี้คือ เดินเยอะมากกกกกกกก...หลายกิโลอยู่ เราว่าเกิน 15 กิโล แล้วก็จิงตามที่เราคิดไว้ เมื่อพี่อีกคนกะซิบบอก แถมยังมีแหยบๆว่าเส้นทางวันนี้ยังเด็กๆ วันต่อๆไปโหดกว่านี้เยอะ
..คิดในใจ นี่ยังไม่โหดอีกหรอ!!
วัดถัดมาเราก็เดินๆๆๆและเดินต่อไปจุดหมายหลักในทริปนี้มี 2 ที่ และ 1 ในนั้นคือ "Poon Hill"
วันนี้เริ่มเดินหนักมากขึ้น ขึ้นลงบันไดหลายขั้น เริ่มมีป่าสีเขียวๆเข้ามาให้เราพอชื่นใจและคลายร้อน ตลอดสองข้างท้างก็เจอเพื่อนร่วมเดินทางที่มาจากเส้นทางอื่น ต่างเชื่อชาติ ต่างภาษา แต่ทุกคนเมื่อเจอหน้ากันสิ่งที่ทำเหมือนกันทุกคนคือ รอยยิ้ม และพูดคำว่า "นมัสเต"
ไกด์ทั้งสองคนที่อยู่ด้านหลังเราคือสุดยอดไกด์ที่พาเราไปร่วมทริปนี้จนจบครบสมบูรณ์แบบค่ะ ไกด์ส่วนตัวคือไกด์เสื้อเขียวค่ะ (ชื่อราม) ส่วนซ้ายมือ คือไกด์คนไทยอีกกรุ๊ปหนึ่งที่บังเอิญเจอระหว่างเทรคกิ้งครั้งนี้ค่ะ (ชื่อดิบัค)
ระหว่างเทรคกิ้งเราก็ผ่านหลายหมู่บ้านในหุบเขา....บ้างก็แวะทานข้าวกลางวัน แวะดื่มน้ำแก้กระหาย หรือแวะถ่ายรูป ขอบอกว่าที่นี่มีที่ให้ถ่ายรูปทุกมุมจริงๆมองไปทางไหนก็สวยไปหมด ทุกอย่างล้วนถูกสร้างสรรโดยธรรมชาติไว้หมดแล้ว จะรออะไรละครัชช กดชัตเตอร์รัวๆ555+
....ภาพนี้คือหมู่บ้านระหว่างทางที่เดินบังเอิญเจอน้องๆเค้ากำลังเล่นอะไรอยู่แบบสนุกสนานเราก็เลย ขอไปแจมด้วยเลย...อิอิ.....
เมื่อเบื่องหน้าคือจุดหมาย....เราก็ไม่ควรพลาด"ระหว่างทางที่เราเดิน"
ความสวยงามที่เราอาจมีโอกาสได้มาเยือนเพียงครั้งเดียวใน "ชีวิต"
ถ้าเราพลาดแล้ว ก็คือพลาดเลย จิงมั้ย??
ดังนั้นเราจึงพยายามเก็บภาพทุกมุม รอยยิ้มทุกรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ และความทรงจำทุกๆความทรงจำที่เกิดขึ้นให้มากที่สุด
ก่อนขึ้นไปชมจุดชมวิวเราพักกันที่ โกลาปานี เราพักกันที่นี่ 1 คืน เพื่อที่ตอนเช้าจะไปดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ poo hill
หลังจากเก็บสัมพาระทำธุระส่วนตัวเราก็ลงไปสำรวจหมู่บ้านรอบๆ แล้วก็เจอกลุ่มคนไทยที่มาดูพระอาทิตย์เฉกเช่นเดียวกับเรา
พี่ๆชื่ออะไรกันมั้งเราจำไม่ค่อยได้ แต่ก็นั่งคุยกับพี่ๆเค้าอยู่สักพักพอจับใจความได้ว่าพี่เค้ามาจากอีกเส้นทางนึง
อ๋อๆๆ พี่เค้าแนะนำด้วยว่าจะไป ABC ต้องเตรียมตัวให้พร้อมและฟิตมากกว่านี้นะ เพราะที่นั้นสูงกว่าที่นี่อีก...แอบกลัวเล็กๆ
....เมื่อวันพ้นคืน คืนพ้นวันเราก็มาถึงจุดหมายที่แรกของเราจนได้ "Poo hill"....
ที่ poo hill ขึ้นชื่อว่าเป็นจุดชมวิวที่สวยติดอันดับหนึ่งในสิบของโลก สูงจากระดับน้ำทะเลที่ความสูง 3210 M ความรู้สึกตอนเดินขึ้นไปเหนื่อยง่ายมาก เราลุกจากที่นอนตอนตีสี่ เพื่อเดินขึ้นไปดูพระอาทิตย์ขึ้นบนจุดชมวิว อากาศข้างบนความกดอากาศเริ่มต่ำลง หายใจเริ่มยากขึ้นแต่เราก็สู้ค่ะ เราใช้เวลาเดินทางขึ้นไปประมาน 40 นาที....ในมี่สุดก็มาถึงสักที...เย้ๆๆๆๆ
หลังจากเก็บเกี่ยวภาพความประทับใจเสร็จ เราก็เดินทางต่อ เพื่อมุ่งหน้าไปยังจุดหมายต่อไป นั่น คือ ABC...
ระหว่างที่เดินทางจากหมู่บ้าน โกราปานี มีต้นกุหลาบพันปีเยอะมาก มีตลอดสองข้างทางเดินเลยก็ว่าได้ บางที่เป็นซุ้มต้นกุหลาบเลยจ้า
..นี่หรอที่เค้าว่ากันว่า เดินบนเส้นทางที่โรยไปด้วยกลีบกุหลาบ5555+ (ที่จิงรูปเราเยอะกว่านี้นะ แต่อยู่ที่กล้องใหญ่
)
....เมื่อเดินมาสักพักก็เจอกับวิวสวยๆเยอะมากๆๆๆๆ.....
เดินต่อไปเรื่อยๆ ขึ้นๆลงๆตามระดับภูเขา บ้างก็วื่งหนีฝน บ้างก็วิ่งหนีพายุลูกเห็บ 555+ ประสบการณ์เลยนะนั้น เดินทั้งวันแต่เราไม่รู้สึกร้อนทั้งๆที่แดดแรงมากกก....เพราะอากาศที่นี่เย็นมาก
.... และแล้วก็เดินมาถึง หมู่บ้าน chomrong เป็นหมู่บ้านที่มีน้ำพุร้อนด้วยนะ ไกด์บอกว่าที่นี่ มีที่อาบน้ำพุร้อนด้วยละ....
....และนี่คือบ่อน้ำพุร้อนของที่นี่55+อยู่ข้างน้ำตกเลยค๊าาา บรรยากาศดีฝุดๆ....
เมื่อมองไปทางด้านขวาจะเป็นน้ำตกค่ะ แอบติดนายแบบมาด้วย...อิอิ
ระหว่างที่เดินออกจากตัวหมู่บ้าน chomrong เดินไปสักเมฆเริ่มเยอะเหมือนฝนจะตก
แล้วก็เจอกับลุงคนนึงกำลังเฝ้าม้าแล้วก็เล่นกับหลานๆอยู่ เราก็เลยเนียนๆขอถ่ายรูปด้วยซะงั้น ลุงน่ารักมาก ถึงแม้ว่าเราสองคนจะคุยกันไม่รู้เรื่องก็ตาม แแต่คำพูดคำเดียวที่เราฟังออกคือ " นมัสเต "
....ขอเนียนๆไปนั้งถ่ายรูปทำมิวสิคกับม้าสักรูป55+แต่ดันมีแขกไม่รับเชิญติดมาด้วยสิ....
เมื่อหลายวันพ้นผ่านไป...เริ่มเข้าใกล้จุดหมายขึ้นเรื่อยๆ เราเริ่มสนิทกับลูกหาบและไกด์มากขึ้น เริ่มแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม และภาษาบางภาษาที่เป็นคำพูดเฉพาะของเนปาล เวลาเหนื่อยเราก็หยุดพัก บางครั้งลูกหาบก็ร้องเพลงพื้นเมืองให้เราฟัง ก็ฟังเพลินๆไปอีกแบบ
.....หมู่บ้านหิมาลายา ที่เราพักในวันถัดๆไปค่ะ.....
เมื่อเวลาผ่านไป...เราเริ่มเข้าใกล้ภูเขาหิมะมากขึ้นสภาพแวดล้อมรอบข้างก็เริ่มเปลี่ยน
จากที่เป็นสีเขียวๆก็กลายเป็นสีของความหนาวเย็นเข้ามาแทน....
เมื่อเข้าใกล้ถึงจุดหมาย วันนั้นเป็นวันคล้ายวันปีใหม่ของที่นั่นพอดี ไกด์ชวนเราฉลองปาร์ตี้ด้วยการดื่ม RUM
คนที่นี่นิยมดื่ม RUM เพราะเค้าว่ากันว่าจะช่วยแก้หนาวได้ดีทีเดียวเลยละ...เอ้าจะรออะไร ชนนนนน!!!
วันถัดมาเราเดินเข้าหาจุดหมาย ABC แต่ก่อนที่จะไปถึง เราต้องผ่านหุบเขาที่ชื่อ MBC ก่อน และหิมะก็ยิ่งมากขึ้น แล้วก็หนาวขึ้น ร่างกายปรับสภาพแทบไม่ทัน MBC อยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 3700 M
[CR] เทรคกิ้ง ABC & Poo Hill เนปาล ไปมาแบบ งงๆ##
**รูปถ่ายทั้งหมดใช้ iphone 5 ค่ะ** (เนื่องจากรูปส่วนใหญ่อยู่ในกล้องใหญ่ค่ะ55)
เรื่องราวทั้งหมดมันเกิดจากความบังเอิญที่ไม่บังเอิญค่ะ....อิอิ คือ เมื่อวันนั้นเองได้เจอเพื่อนด้วยความบังเอิญ เพื่อนก็เอ่ยปากชวนว่าสนใจไปเทรกกิ้ง ABC ไหม เราก็งง มันคืออะไรไอ้เทรกกิ้งๆๆ...เนี่ย ตอนนั้นก็ยังไม่ได้สนใจเท่าไหร่ เพราะกะว่าจะกลับมาหาข้อมูลในเว็บก่อน
ปรากฎว่าอะไรดลใจไม่รู้สิ เลยตอบตกลงไป ประกอบกับช่วงนั้นน้องโบนัสออกพอดี ก็เลยจัดเลยจ้า ^^ ทริปนี้ใช้เวลาเดินทาง 13 วัน เดินทางโดยสายการบินไทย ข้อมูลอย่างเดียวที่มีคือแผนที่การเดินทางที่เพื่อนส่งให้55555555++ขำยาวๆ
พอใกล้ถึงวันเดินทางเราก็เริ่มหาข้อมูลต้องใช้ต้องจัดเตรียมอะไรมั้ง สรุปค่ะ ของที่เราขนไปเยอะมากพอสมควร และนี่คือกระเป๋าเดินทางของเราค๊าาาาา ใหญ่มาก ของเยอะมาก เตรียมไปทุกอย่าง ยา อาหารแห้ง เนื่องจากกลัวค่ะกลัวกินอาหารที่นั่นไม่ได้ ก็ไปตั้งหลายวันนิ บลาๆๆๆ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เรานั่งสายการบินของการบินไทยค่ะ ไปลงสนามบินที่ กาฐมาณฑุ เมืองหลวงของประเทศเนปาลค่ะ พอถึงเราก็เข้าที่พัก แล้วทำการสำรวจเมืองโดยรอบค่ะ
เราพักที่นี่1 คืนค่ะ พอวันรุ่งขึ้นเราก็ออกจากเมือง กาฐมาณทุเพื่อไปยังเมือง โพคารา โดยรถซิตี้ทัวร์ พอถึงเมืองโพคารา ก็ทำการเก็บสัมภาระ แล้วออกไปช้อปอุปกรณ์ที่จำเป็นในการเทรกกิ้งค่ะ อ่อ..วันนี้เราพักที่โพคารา 1 คืนค่ะ เพื่อที่เช้าวันรุ่งขึ้นจะเดินทางไปต่อยังเมือง นายาพู ซึ่งเป็นทางเปิดไปยังการผจญภัยเทรกกิ้งของเราค่ะ
...บรรยากาศเมืองโพคาราค่ะ อากาศดีมาก มองเห็นภูเขาหิมะหางปลาด้วยค๊าาา นั่งจิบเบียริมทะเลสาบฟินสุดๆ....
เมื่อนั่งรถมาถึงเมือง นายาพู จะรออะไร เริ่มเทรคกิ้งกันเลยจ้า........เอ้าๆๆจ้ำๆเดินเข้าไปเลย เมื่อข้ามสะพานนี้เข้าไปก็จะเป็นจุดตรวจพลาสปอร์ตและทำพลาสปอร์ตเพื่อสำรวจและยืนยันตัวตนในการเทรกกิ้งตลอดระยะเวลาการเดินทางเพื่อกันคนสูญหายอะไรประมาณนี้อะค่ะ ไม่ค่อยชัวร์5555555555
ทางเดินเป็นทางราบลูกรังยาวมาตลอดทางค่ะ ดินอ้อมเขาไปเรื่อยๆ และมีสะพานข้ามแม่น้ำอยู่บ้าง อากาศร้อนมากค่ะ อยากพักอยู่ทุกขณะ แต่ก็ต้องบังคับตัวเองให้เดินต่อไป รูปนี้เป็นคณะเราเองค่ะ มีลูกหาบ 2 คนและ ไกด์อีก 1 คน
คืนแรกหลังหลังจากเริ่มเดินเทรคกิ้ง เราพักกันที่นี่ค่ะหมู่บ้านเล็กๆกลางหุบเขา จำชื่อไม่ได้เหมือนกัน55+ หลังจากเก็บของก็ออกมานั่งรับลมดูวิว กินข้าว และก็พูดคุยสนทนากันร็อย่างเดียวในหัวตอนนี้คือ เดินเยอะมากกกกกกกก...หลายกิโลอยู่ เราว่าเกิน 15 กิโล แล้วก็จิงตามที่เราคิดไว้ เมื่อพี่อีกคนกะซิบบอก แถมยังมีแหยบๆว่าเส้นทางวันนี้ยังเด็กๆ วันต่อๆไปโหดกว่านี้เยอะ
..คิดในใจ นี่ยังไม่โหดอีกหรอ!!
วัดถัดมาเราก็เดินๆๆๆและเดินต่อไปจุดหมายหลักในทริปนี้มี 2 ที่ และ 1 ในนั้นคือ "Poon Hill"
วันนี้เริ่มเดินหนักมากขึ้น ขึ้นลงบันไดหลายขั้น เริ่มมีป่าสีเขียวๆเข้ามาให้เราพอชื่นใจและคลายร้อน ตลอดสองข้างท้างก็เจอเพื่อนร่วมเดินทางที่มาจากเส้นทางอื่น ต่างเชื่อชาติ ต่างภาษา แต่ทุกคนเมื่อเจอหน้ากันสิ่งที่ทำเหมือนกันทุกคนคือ รอยยิ้ม และพูดคำว่า "นมัสเต"
ไกด์ทั้งสองคนที่อยู่ด้านหลังเราคือสุดยอดไกด์ที่พาเราไปร่วมทริปนี้จนจบครบสมบูรณ์แบบค่ะ ไกด์ส่วนตัวคือไกด์เสื้อเขียวค่ะ (ชื่อราม) ส่วนซ้ายมือ คือไกด์คนไทยอีกกรุ๊ปหนึ่งที่บังเอิญเจอระหว่างเทรคกิ้งครั้งนี้ค่ะ (ชื่อดิบัค)
ระหว่างเทรคกิ้งเราก็ผ่านหลายหมู่บ้านในหุบเขา....บ้างก็แวะทานข้าวกลางวัน แวะดื่มน้ำแก้กระหาย หรือแวะถ่ายรูป ขอบอกว่าที่นี่มีที่ให้ถ่ายรูปทุกมุมจริงๆมองไปทางไหนก็สวยไปหมด ทุกอย่างล้วนถูกสร้างสรรโดยธรรมชาติไว้หมดแล้ว จะรออะไรละครัชช กดชัตเตอร์รัวๆ555+
เมื่อเบื่องหน้าคือจุดหมาย....เราก็ไม่ควรพลาด"ระหว่างทางที่เราเดิน"
ความสวยงามที่เราอาจมีโอกาสได้มาเยือนเพียงครั้งเดียวใน "ชีวิต"
ถ้าเราพลาดแล้ว ก็คือพลาดเลย จิงมั้ย??
ดังนั้นเราจึงพยายามเก็บภาพทุกมุม รอยยิ้มทุกรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ และความทรงจำทุกๆความทรงจำที่เกิดขึ้นให้มากที่สุด
ก่อนขึ้นไปชมจุดชมวิวเราพักกันที่ โกลาปานี เราพักกันที่นี่ 1 คืน เพื่อที่ตอนเช้าจะไปดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ poo hill
หลังจากเก็บสัมพาระทำธุระส่วนตัวเราก็ลงไปสำรวจหมู่บ้านรอบๆ แล้วก็เจอกลุ่มคนไทยที่มาดูพระอาทิตย์เฉกเช่นเดียวกับเรา
พี่ๆชื่ออะไรกันมั้งเราจำไม่ค่อยได้ แต่ก็นั่งคุยกับพี่ๆเค้าอยู่สักพักพอจับใจความได้ว่าพี่เค้ามาจากอีกเส้นทางนึง
อ๋อๆๆ พี่เค้าแนะนำด้วยว่าจะไป ABC ต้องเตรียมตัวให้พร้อมและฟิตมากกว่านี้นะ เพราะที่นั้นสูงกว่าที่นี่อีก...แอบกลัวเล็กๆ
ที่ poo hill ขึ้นชื่อว่าเป็นจุดชมวิวที่สวยติดอันดับหนึ่งในสิบของโลก สูงจากระดับน้ำทะเลที่ความสูง 3210 M ความรู้สึกตอนเดินขึ้นไปเหนื่อยง่ายมาก เราลุกจากที่นอนตอนตีสี่ เพื่อเดินขึ้นไปดูพระอาทิตย์ขึ้นบนจุดชมวิว อากาศข้างบนความกดอากาศเริ่มต่ำลง หายใจเริ่มยากขึ้นแต่เราก็สู้ค่ะ เราใช้เวลาเดินทางขึ้นไปประมาน 40 นาที....ในมี่สุดก็มาถึงสักที...เย้ๆๆๆๆ
หลังจากเก็บเกี่ยวภาพความประทับใจเสร็จ เราก็เดินทางต่อ เพื่อมุ่งหน้าไปยังจุดหมายต่อไป นั่น คือ ABC...
ระหว่างที่เดินทางจากหมู่บ้าน โกราปานี มีต้นกุหลาบพันปีเยอะมาก มีตลอดสองข้างทางเดินเลยก็ว่าได้ บางที่เป็นซุ้มต้นกุหลาบเลยจ้า
..นี่หรอที่เค้าว่ากันว่า เดินบนเส้นทางที่โรยไปด้วยกลีบกุหลาบ5555+ (ที่จิงรูปเราเยอะกว่านี้นะ แต่อยู่ที่กล้องใหญ่ )
....เมื่อเดินมาสักพักก็เจอกับวิวสวยๆเยอะมากๆๆๆๆ.....
เดินต่อไปเรื่อยๆ ขึ้นๆลงๆตามระดับภูเขา บ้างก็วื่งหนีฝน บ้างก็วิ่งหนีพายุลูกเห็บ 555+ ประสบการณ์เลยนะนั้น เดินทั้งวันแต่เราไม่รู้สึกร้อนทั้งๆที่แดดแรงมากกก....เพราะอากาศที่นี่เย็นมาก
เมื่อมองไปทางด้านขวาจะเป็นน้ำตกค่ะ แอบติดนายแบบมาด้วย...อิอิ
ระหว่างที่เดินออกจากตัวหมู่บ้าน chomrong เดินไปสักเมฆเริ่มเยอะเหมือนฝนจะตก
แล้วก็เจอกับลุงคนนึงกำลังเฝ้าม้าแล้วก็เล่นกับหลานๆอยู่ เราก็เลยเนียนๆขอถ่ายรูปด้วยซะงั้น ลุงน่ารักมาก ถึงแม้ว่าเราสองคนจะคุยกันไม่รู้เรื่องก็ตาม แแต่คำพูดคำเดียวที่เราฟังออกคือ " นมัสเต "
....ขอเนียนๆไปนั้งถ่ายรูปทำมิวสิคกับม้าสักรูป55+แต่ดันมีแขกไม่รับเชิญติดมาด้วยสิ....
เมื่อหลายวันพ้นผ่านไป...เริ่มเข้าใกล้จุดหมายขึ้นเรื่อยๆ เราเริ่มสนิทกับลูกหาบและไกด์มากขึ้น เริ่มแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม และภาษาบางภาษาที่เป็นคำพูดเฉพาะของเนปาล เวลาเหนื่อยเราก็หยุดพัก บางครั้งลูกหาบก็ร้องเพลงพื้นเมืองให้เราฟัง ก็ฟังเพลินๆไปอีกแบบ
.....หมู่บ้านหิมาลายา ที่เราพักในวันถัดๆไปค่ะ.....
เมื่อเวลาผ่านไป...เราเริ่มเข้าใกล้ภูเขาหิมะมากขึ้นสภาพแวดล้อมรอบข้างก็เริ่มเปลี่ยน
จากที่เป็นสีเขียวๆก็กลายเป็นสีของความหนาวเย็นเข้ามาแทน....
เมื่อเข้าใกล้ถึงจุดหมาย วันนั้นเป็นวันคล้ายวันปีใหม่ของที่นั่นพอดี ไกด์ชวนเราฉลองปาร์ตี้ด้วยการดื่ม RUM
คนที่นี่นิยมดื่ม RUM เพราะเค้าว่ากันว่าจะช่วยแก้หนาวได้ดีทีเดียวเลยละ...เอ้าจะรออะไร ชนนนนน!!!
วันถัดมาเราเดินเข้าหาจุดหมาย ABC แต่ก่อนที่จะไปถึง เราต้องผ่านหุบเขาที่ชื่อ MBC ก่อน และหิมะก็ยิ่งมากขึ้น แล้วก็หนาวขึ้น ร่างกายปรับสภาพแทบไม่ทัน MBC อยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 3700 M