"เทือกเขาหิมาลัย" คำที่ได้ยินมาตั้งแต่เด็กๆ ซึ่งมาคู่ๆกับชื่อยอดเขาที่สูงที่สุดในโลกที่ถูกขนานนามว่าหลังคาโลกอย่าง "เอเวอเรสต์" ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงผูกพันกับคำๆนี้มานาน และก็อยากที่จะไปให้ถึง หรือขอแค่ให้ได้ไปอยู่ท่ามกลางเทือกเขาหิมาลัยสักครั้งก็ยังดี แล้วก็ผ่านมา 30 กว่าปีเต็ม มันก็ถึงเวลาก้าวไปสู่อ้อมกอดของเทือกเขาหิมาลัย 1 ใน Dream destination เสียที กับที่นี่ Annapurna base camp หรือ ABC บนเส้นทางแห่งหิมาลัย...
ไป ABC กันไหมพี่ !
หมอจิ๊บ เภสัชกรสาว โทรมาชวนผมขณะที่ผมกำลังนั่งสังสรรค์อยู่กับกลุ่มเพื่อน ทำเอาผมไม่ทันตั้งตัว ปัญหาโลกแตกของมนุษย์เงินเดือนมาเยี่ยมเยือนเราเข้าให้แล้ว แต่เมื่อหนึ่งในความฝันที่ผมตั้งใจอยากทำในชีวิตนี้ ก็คือการไปค้นหาตัวเองด้วยการแบกเป้ เดินเทรคกิ้ง ABC ที่มีภูเขาหิมาลัยโอบล้อม ผมจึงตกลงรับปากกับหมอจิ๊บไป ทั้งที่ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าต้องลางานได้หรือไม่ เพราะไปเดินเทรคที่นี้มันใช้เวลาพอสมควร ทริปนี้เราเดินทางกันทั้งหมด 11 วัน
นอกจากนี้แล้วหมอจิ๊บยังบอกว่าจะลองชวนเพื่อนๆในกลุ่มดู เผื่อว่าจะมีใครสนใจอยากไปลุยกับพวกเรา หลังจากวันนั้นก็ได้ข้อสรุปมีไปด้วยกันทั้งหมด 4 คน เราจึงตั้งกลุ่มไลน์เพื่อคุยเรื่องการเดินทาง เราเตรียมตัวกันนานมากทั้งเรื่องฟิตร่างกาย ทั้งเรื่องการจัดอุปกรณ์ ทำวีซ่า และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นต่างๆ แต่พอถึงอีกไม่กี่เดือนก่อนออกเดินทาง เรามีจำนวนผู้ร่วมทริปเหลือแค่ 3 คน ซึ่งรุ่นพี่อีกคนที่จะไปด้วยนั้นประสบอุบัติเหตุเลยไปร่วมทริปกับพวกเราไม่ได้ ผมแอบชักจะกังวลขึ้นมาที่สมาชิกเริ่มน้อยลง แต่เอาวะ ! เหลือกันแค่ 3 คน ไงก็ต้องลุย มากันขนาดนี้แล้ว
กรุงเทพ - เนปาล
ตี๊ดด..ตี๊ดด..ตี๊ดดดดดด เสียงนาฬิกาปลุกจากโทรศัพท์มือถือดังขึ้น เป็นสัญญาณบอกเวลาที่ผมตั้งไว้ รีบลุกขึ้นมาแบบรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้นอนสักเท่าไหร่เลย ผมรีบอาบน้ำแต่งตัว ท้องฟ้าสีส้มเริ่มสว่าง ผมมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิได้พบกับคุนลุง และหมอจิ๊บที่มาถึงเมื่อครู่ พวกเรารีบเช็คอินและโหลดกระเป๋าเดินทาง
เสียงประกาศจากแอร์โฮสเตสแจ้งให้ผู้โดยสารทุกคนทราบว่า ตอนนี้เครื่องบินกำลังลดระดับเพื่อลงจอดที่สนามบินตรีภูวัน ที่เมืองกาฐมาณฑุ ประเทศเนปาล
วันนี้พวกเราพักกันที่โรงแรมทาเมล พรุ่งนี้เช้าจะต้องออกแต่เช้าไปขึ้นเครื่องบินต่อไปยังเมือง Pokhara ไกด์หนุ่มของเรามีชื่อว่า Prakash อธิบายแผนที่เส้นทางการเดินทางของพวกเรา
เช้าตรู่วันนี้เราจะต้องขึ้นเครื่องบินลำเล็กต่อไปยังเมือง Pokhara เค้าว่ากันว่าใครที่อยากเห็นวิวเทือกเขาหิมาลัยให้นั่งฝั่งขวาของเครื่องบิน ผมโชคดีมากที่ได้นั่งฝั่งนั้นวิวสวยอลังการมากๆคับภูเขาหิมาลัยโอบล้อมด้วยปุยเมฆ ความรู้สึกเหมือนกำลังเดินเข้าสู่ดินแดนแห่งเทพนิยาย
DAY 1
เมื่อถึง Pokhara พวกเราต้องนั่งรถจิ๊ป ใช้เวลา 2 ชม. ต่อเข้าไปที่ Nayapul ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้น พวกเราเดินจากหมู่บ้านเล็กๆไปอีกหมู่บ้าน อากาศค่อนข้างร้อน วิวข้างทางจะเต็มไปด้วยต้นไม้ แม่น้ำลำธาร
Nayapul 1070 m - Ulleri 2010
จุดเริ่มต้น ถนนสู่ ABC ต่อไปนี้ชีวิตจะมีแต่ขึ้นกับขึ้นเท่านั้น บันไดสูงและชันที่ทำให้กล้ามเนื้อต้องกรีดร้องขอชีวิต บันไดที่ทำให้ปอดยื่นจดหมายลาออก ดูจากสภาพหน้าแต่ละคนได้ 555
เราเดินกันมาเกือบ 5 ชั่วโมงก็ถึงที่พัก นี่คือวิวจากระเบียงที่พักของเรา ที่เห็นไกลๆสีขาวๆอยู่นั่นคือยอด Annapurna South Side
DAY 2
Ullrei 2010 m - Ghorepani 2860 m
เช้าวันนี้เราต้องตื่นกันตั้งแต่ 6 โมงเช้า ทำภาระกิจส่วนตัวแล้วลงมารับประทานอาหารเช้า ก่อนเริ่มออกเดินตอนประมาณ 8 โมง
เริ่มขึ้นที่สูง เริ่มจะเห็นยอดหิมะไกลๆ แต่สภาพอากาศไม่ค่อยเป็นใจ แถมต้องมาลุ้นสภาพอากาศตอนขึ้น Poon Hill พรุ่งนี้เช้าว่าฟ้าจะเปิดให้เราได้เห็นยอด Fish tail อีกไหมน๊าาาา ลุ้นๆๆ
DAY 3
Ghorepani 2860 m - Poon Hill 3210 m
วันนี้พวกเราตื่นกันตั้งแต่เช้ามืด เสียงฝนกระหน่ำหลังคาเมื่อคืนเหมือนจะทะลุออกมาจากหลังคาให้ได้ เรานอนขดตัวอยู่ในผ้าห่มนอนรอให้ฝนหยุดจนเกือบจะสว่างถึงได้เริ่มออกเดิน มุ่งสู่ Poon Hill
บนยอดเนิน Poon Hill แห่งนี้ เป็นจุดชมความสวยงามของเทือกเขา Annapurna ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่ง เราสามารถสัมผัสกับวิวเทือกเขาหิมาลัยได้แบบกว้างไกล ในแบบ Panorama เลยก็ว่าได้ แต่เสียดายที่วันนี้อากาศไม่เป็นใจให้พวกเรา
Poon Hill 3210 m -Ghorepani 2860 m - Tadapadi 2630 m
วันนี้เราต้องเดินขึ้นจากหมู่บ้าน Ghore Pani ที่ความสูง 2860 m จากระดับน้ำทะเล ลัดเลาะไหล่เขาเพื่อไปให้ถึงหมู่บ้าน Tadapadi ซึ่งจะเป็นจุดพักค้างแรมของเราในคืนนี้ โดยจะใช้เวลาเดินประมาณ 7- 8 ชั่วโมง
Tadapadi 2630 m
ในที่สุดเราก็มาถึงที่พักในหมู่บ้าน Tadapadi เราเดินกันมาถึงช่วงเย็น อากาศค่อนข้างหนาว นี่คือวิวจากห้องพักของเราที่สามารถเห็นยอด Machhapuchhre หรือยอดเขาหางปลา หมอกลอยมาปกคลุมสลับไปมาจนมองไม่เห็นอะไรเลย
DAY 4
Tadapadi 2630 m - Chomrong 2170 m - Sinuwa 2360 m
วันนี้เราจะเดินกันไปที่หมู่บ้าน Chomrong แต่เราจะต้องเดินลงไปจากจุดนี้แล้วก็ขึ้นไปอีก 6 - 7 ชั่วโมง ตลอดทางจะเป็นสีเขียว สวยงามมาก รวมถึงวิวด้านข้างของเราจะเห็นทั้งยอด Machhapuchhre Annapurna South ชัดขึ้นเรื่อยๆ
หลังจากนี้เราจะขึ้น ขึ้น ขึ้น ขึ้นอย่างเดียวแล้วคับ วันนี้ถึงเส้นทางจะไม่ยากลำบากมากมาย แต่อุปสรรคสำคัญที่เราเจอก็คือแดดแล้วก็ฝน บวกกับที่ต้องเดินขึ้น แล้วก็ลงเขาลูกแล้วลูกเล่าทำให้เรียวแรงอ่อนล้าไปไม่น้อย
หมู่บ้าน Chomrong เป็นเมื่องที่อยู่กลางหุบเขาเราสามารถสัมผัสวิวความสวยงามและยิ่งใหญ่ของเทือกเขาหิมาลัยอันขาวโพลนได้อย่างใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น สำหรับที่ที่เราจะพักวันนี้คือหมู่บ้าน Sinuwa ไปคับขึ้นกันต่อ 55
DAY 5
Sinuwa 2360 m - Bamboo 2335 m - Dovan 2870 m- Himalaya 3270 m - Deurali 3230 m
สัมภาระที่ไม่จำเป็นจะถูกแยกไว้ที่ Sinuwa ไกด์บอกให้เราคัดเอาเฉพาะของที่จำเป็นขึ้นไป เส้นทางในการเดินทางของพวกเราในวันนี้ ถือว่าเป็นวันที่ถ้าทายของพวกเรามาก จะเรียกว่าวันนี้เป็นวันที่โหดสุดเลยก็ว่าได้ เพราะต้องไต่ระดับความสูงขึ้นไปยังหมู่บ้าน Deurali ที่ความสูง 3230 m
เราเริ่มใกล้ภูเขาที่เราจะไปมากขึ้นทุกทีสังเกตจากด้านหลัง ภูเขาจะเริ่มมีน้ำแข็งเกาะ รวมถึงสภาพอากาศเริ่มที่จะเย็น
ใกล้ถึง Deurali เมฆหมอกเริ่มลงมาปิดบังเส้นทาง อากาศหนาวจัดเลยคับ เหมือนพายุกำลังจะมา ผมเดินรั้งท้ายสุด พยายามเดินให้เร็วขึ้นเพื่อจะได้ถึงที่พักก่อนฝนตก แต่ก็ไม่รอดคับฝนกระหน่ำลงมาจนได้
DAY 6
Deurali 3230 m - MBC 3700 m - ABC 4130 m
วันนี้เป็นวันที่เราจะไปถึงที่หมาย วันนี้เราจะเดินขึ้นความสูงไปยัง ABC ที่ 4130 m ต้องเดินไต่ภูเขาลุยหมอกขาวๆตั้งแต่ MBC ไปจนถึง ABC ลุยๆ
สภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงโดยฉับพลันในเกือบทุกๆ 1 ชั่วโมง อาจจะเป็นหนึ่งสัญญาณที่แสดงให้เราได้รู้ว่าพวกเราเริ่มเข้าใกล้อ้อมกอดแห่งหิมาลัยเข้าไปทุกที
ตลอดเส้นทาง ABC หรือ Annapurna base camp เวลาที่เราเดินไป เราก็จะพบกับเพื่อนนักเดินทางเต็มไปหมด นักเทรคกิ้งก็จะเดินไปเดินมาแล้วก็มักจะทักทายกันด้วยคำว่า นะ มัส สเต Hello Hi ถือว่าเป็นมิตรภาพที่น่ารักๆระหว่างการเดินทาง เป็นบรรยากาศที่อบอุ่น
MBC 3700 m - ABC 4130 m
ถึงแล้วคับ Machhapuchhre base camp หรือ MBC อยู่ข้างหน้าแล้ว เหนื่อยมากๆคับ
สภาพอากาศเริ่มเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน จากที่เคยมีแสงแดด ตอนนี้ท้องฟ้าปิดแล้ว หมอกเริ่มหนาขึ้นเรื่อยๆ จนแทบมองไม่เห็นเส้นทางข้างหน้า
เส้นทางตั้งแต่ MBC ไปจนถึง ABC ใช้เวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมง เส้นทางในช่วงนี้ถือว่าเป็น highlight นี่นักเดินทางทุกคนรอคอย เพราะว่าภูมิประเทศจะเริ่มเปลี่ยนแปลงไปจากช่วงเช้าอย่างสิ้นเชิง โดยเราจะเดินทางไปบนพื้นที่ที่เต็มไปด้วยหิมะ หมอก
มันรู้สึกภูมิใจมากๆที่ได้มายืนอยู่ตรงนี้ เพราะผมไม่ได้นั่งรถไฟฟ้าหรือขึ้นลิฟท์มาเพื่อจะมาถึงตรงนี้ได้ แต่ผมเดินจนมาถึงตรงนี้
นั่งดูหมอก มองดูหิมะ ชื่นชมกับความสำเร็จที่ตัวเองได้ทำมาทั้งหมด 6 วัน พรุ่งเช้าพวกเราจะยอมตื่นขึ้นมาตี 5 มารอภาพที่เรายอมเดินเหนื่อยขึ้นมาเพื่อมาดูภาพนี้ เทือกเขาหิมาลัย Annapurna ล้อมรอบเราอยู่แล้วมีพระอาทิตย์ขึ้นตรงหน้า แล้วก็หวังว่าพรุ่งนี้เช้าฟ้าคงจะเปิดให้เรา
DAY 7
เช้าตรู่ของวันที่ 7 ของการเดินทาง แสงแดดเริ่มสาดส่องพาดมาที่ยอด Annapurna อันขาวโพลนทีละยอดๆ เป็นภาพสวยงามไร้คำบรรยายจริงๆ
เป้าหมายของความสำเร็จของแต่ละคนนั้นมีแตกต่างกันออกไป ซึ่งความสำเร็จในครั้งนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้น และถือเป็นก้าวที่สำคัญที่จะสร้างแรงผลักดันให้ผมต้องไปให้ถึง dream list ต่อไป ที่มีความสวยงามและท้าทายมากกว่าเดิม ..... ( ตามตะวัน )
ABC บนเส้นทางแห่งหิมาลัย...1 ใน Dream destination
ไป ABC กันไหมพี่ !
หมอจิ๊บ เภสัชกรสาว โทรมาชวนผมขณะที่ผมกำลังนั่งสังสรรค์อยู่กับกลุ่มเพื่อน ทำเอาผมไม่ทันตั้งตัว ปัญหาโลกแตกของมนุษย์เงินเดือนมาเยี่ยมเยือนเราเข้าให้แล้ว แต่เมื่อหนึ่งในความฝันที่ผมตั้งใจอยากทำในชีวิตนี้ ก็คือการไปค้นหาตัวเองด้วยการแบกเป้ เดินเทรคกิ้ง ABC ที่มีภูเขาหิมาลัยโอบล้อม ผมจึงตกลงรับปากกับหมอจิ๊บไป ทั้งที่ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าต้องลางานได้หรือไม่ เพราะไปเดินเทรคที่นี้มันใช้เวลาพอสมควร ทริปนี้เราเดินทางกันทั้งหมด 11 วัน
นอกจากนี้แล้วหมอจิ๊บยังบอกว่าจะลองชวนเพื่อนๆในกลุ่มดู เผื่อว่าจะมีใครสนใจอยากไปลุยกับพวกเรา หลังจากวันนั้นก็ได้ข้อสรุปมีไปด้วยกันทั้งหมด 4 คน เราจึงตั้งกลุ่มไลน์เพื่อคุยเรื่องการเดินทาง เราเตรียมตัวกันนานมากทั้งเรื่องฟิตร่างกาย ทั้งเรื่องการจัดอุปกรณ์ ทำวีซ่า และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นต่างๆ แต่พอถึงอีกไม่กี่เดือนก่อนออกเดินทาง เรามีจำนวนผู้ร่วมทริปเหลือแค่ 3 คน ซึ่งรุ่นพี่อีกคนที่จะไปด้วยนั้นประสบอุบัติเหตุเลยไปร่วมทริปกับพวกเราไม่ได้ ผมแอบชักจะกังวลขึ้นมาที่สมาชิกเริ่มน้อยลง แต่เอาวะ ! เหลือกันแค่ 3 คน ไงก็ต้องลุย มากันขนาดนี้แล้ว
กรุงเทพ - เนปาล
ตี๊ดด..ตี๊ดด..ตี๊ดดดดดด เสียงนาฬิกาปลุกจากโทรศัพท์มือถือดังขึ้น เป็นสัญญาณบอกเวลาที่ผมตั้งไว้ รีบลุกขึ้นมาแบบรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้นอนสักเท่าไหร่เลย ผมรีบอาบน้ำแต่งตัว ท้องฟ้าสีส้มเริ่มสว่าง ผมมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิได้พบกับคุนลุง และหมอจิ๊บที่มาถึงเมื่อครู่ พวกเรารีบเช็คอินและโหลดกระเป๋าเดินทาง
เสียงประกาศจากแอร์โฮสเตสแจ้งให้ผู้โดยสารทุกคนทราบว่า ตอนนี้เครื่องบินกำลังลดระดับเพื่อลงจอดที่สนามบินตรีภูวัน ที่เมืองกาฐมาณฑุ ประเทศเนปาล
วันนี้พวกเราพักกันที่โรงแรมทาเมล พรุ่งนี้เช้าจะต้องออกแต่เช้าไปขึ้นเครื่องบินต่อไปยังเมือง Pokhara ไกด์หนุ่มของเรามีชื่อว่า Prakash อธิบายแผนที่เส้นทางการเดินทางของพวกเรา
เช้าตรู่วันนี้เราจะต้องขึ้นเครื่องบินลำเล็กต่อไปยังเมือง Pokhara เค้าว่ากันว่าใครที่อยากเห็นวิวเทือกเขาหิมาลัยให้นั่งฝั่งขวาของเครื่องบิน ผมโชคดีมากที่ได้นั่งฝั่งนั้นวิวสวยอลังการมากๆคับภูเขาหิมาลัยโอบล้อมด้วยปุยเมฆ ความรู้สึกเหมือนกำลังเดินเข้าสู่ดินแดนแห่งเทพนิยาย
DAY 1
เมื่อถึง Pokhara พวกเราต้องนั่งรถจิ๊ป ใช้เวลา 2 ชม. ต่อเข้าไปที่ Nayapul ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้น พวกเราเดินจากหมู่บ้านเล็กๆไปอีกหมู่บ้าน อากาศค่อนข้างร้อน วิวข้างทางจะเต็มไปด้วยต้นไม้ แม่น้ำลำธาร
Nayapul 1070 m - Ulleri 2010
จุดเริ่มต้น ถนนสู่ ABC ต่อไปนี้ชีวิตจะมีแต่ขึ้นกับขึ้นเท่านั้น บันไดสูงและชันที่ทำให้กล้ามเนื้อต้องกรีดร้องขอชีวิต บันไดที่ทำให้ปอดยื่นจดหมายลาออก ดูจากสภาพหน้าแต่ละคนได้ 555
เราเดินกันมาเกือบ 5 ชั่วโมงก็ถึงที่พัก นี่คือวิวจากระเบียงที่พักของเรา ที่เห็นไกลๆสีขาวๆอยู่นั่นคือยอด Annapurna South Side
DAY 2
Ullrei 2010 m - Ghorepani 2860 m
เช้าวันนี้เราต้องตื่นกันตั้งแต่ 6 โมงเช้า ทำภาระกิจส่วนตัวแล้วลงมารับประทานอาหารเช้า ก่อนเริ่มออกเดินตอนประมาณ 8 โมง
เริ่มขึ้นที่สูง เริ่มจะเห็นยอดหิมะไกลๆ แต่สภาพอากาศไม่ค่อยเป็นใจ แถมต้องมาลุ้นสภาพอากาศตอนขึ้น Poon Hill พรุ่งนี้เช้าว่าฟ้าจะเปิดให้เราได้เห็นยอด Fish tail อีกไหมน๊าาาา ลุ้นๆๆ
DAY 3
Ghorepani 2860 m - Poon Hill 3210 m
วันนี้พวกเราตื่นกันตั้งแต่เช้ามืด เสียงฝนกระหน่ำหลังคาเมื่อคืนเหมือนจะทะลุออกมาจากหลังคาให้ได้ เรานอนขดตัวอยู่ในผ้าห่มนอนรอให้ฝนหยุดจนเกือบจะสว่างถึงได้เริ่มออกเดิน มุ่งสู่ Poon Hill
บนยอดเนิน Poon Hill แห่งนี้ เป็นจุดชมความสวยงามของเทือกเขา Annapurna ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่ง เราสามารถสัมผัสกับวิวเทือกเขาหิมาลัยได้แบบกว้างไกล ในแบบ Panorama เลยก็ว่าได้ แต่เสียดายที่วันนี้อากาศไม่เป็นใจให้พวกเรา
Poon Hill 3210 m -Ghorepani 2860 m - Tadapadi 2630 m
วันนี้เราต้องเดินขึ้นจากหมู่บ้าน Ghore Pani ที่ความสูง 2860 m จากระดับน้ำทะเล ลัดเลาะไหล่เขาเพื่อไปให้ถึงหมู่บ้าน Tadapadi ซึ่งจะเป็นจุดพักค้างแรมของเราในคืนนี้ โดยจะใช้เวลาเดินประมาณ 7- 8 ชั่วโมง
Tadapadi 2630 m
ในที่สุดเราก็มาถึงที่พักในหมู่บ้าน Tadapadi เราเดินกันมาถึงช่วงเย็น อากาศค่อนข้างหนาว นี่คือวิวจากห้องพักของเราที่สามารถเห็นยอด Machhapuchhre หรือยอดเขาหางปลา หมอกลอยมาปกคลุมสลับไปมาจนมองไม่เห็นอะไรเลย
DAY 4
Tadapadi 2630 m - Chomrong 2170 m - Sinuwa 2360 m
วันนี้เราจะเดินกันไปที่หมู่บ้าน Chomrong แต่เราจะต้องเดินลงไปจากจุดนี้แล้วก็ขึ้นไปอีก 6 - 7 ชั่วโมง ตลอดทางจะเป็นสีเขียว สวยงามมาก รวมถึงวิวด้านข้างของเราจะเห็นทั้งยอด Machhapuchhre Annapurna South ชัดขึ้นเรื่อยๆ
หลังจากนี้เราจะขึ้น ขึ้น ขึ้น ขึ้นอย่างเดียวแล้วคับ วันนี้ถึงเส้นทางจะไม่ยากลำบากมากมาย แต่อุปสรรคสำคัญที่เราเจอก็คือแดดแล้วก็ฝน บวกกับที่ต้องเดินขึ้น แล้วก็ลงเขาลูกแล้วลูกเล่าทำให้เรียวแรงอ่อนล้าไปไม่น้อย
หมู่บ้าน Chomrong เป็นเมื่องที่อยู่กลางหุบเขาเราสามารถสัมผัสวิวความสวยงามและยิ่งใหญ่ของเทือกเขาหิมาลัยอันขาวโพลนได้อย่างใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น สำหรับที่ที่เราจะพักวันนี้คือหมู่บ้าน Sinuwa ไปคับขึ้นกันต่อ 55
DAY 5
Sinuwa 2360 m - Bamboo 2335 m - Dovan 2870 m- Himalaya 3270 m - Deurali 3230 m
สัมภาระที่ไม่จำเป็นจะถูกแยกไว้ที่ Sinuwa ไกด์บอกให้เราคัดเอาเฉพาะของที่จำเป็นขึ้นไป เส้นทางในการเดินทางของพวกเราในวันนี้ ถือว่าเป็นวันที่ถ้าทายของพวกเรามาก จะเรียกว่าวันนี้เป็นวันที่โหดสุดเลยก็ว่าได้ เพราะต้องไต่ระดับความสูงขึ้นไปยังหมู่บ้าน Deurali ที่ความสูง 3230 m
เราเริ่มใกล้ภูเขาที่เราจะไปมากขึ้นทุกทีสังเกตจากด้านหลัง ภูเขาจะเริ่มมีน้ำแข็งเกาะ รวมถึงสภาพอากาศเริ่มที่จะเย็น
ใกล้ถึง Deurali เมฆหมอกเริ่มลงมาปิดบังเส้นทาง อากาศหนาวจัดเลยคับ เหมือนพายุกำลังจะมา ผมเดินรั้งท้ายสุด พยายามเดินให้เร็วขึ้นเพื่อจะได้ถึงที่พักก่อนฝนตก แต่ก็ไม่รอดคับฝนกระหน่ำลงมาจนได้
DAY 6
Deurali 3230 m - MBC 3700 m - ABC 4130 m
วันนี้เป็นวันที่เราจะไปถึงที่หมาย วันนี้เราจะเดินขึ้นความสูงไปยัง ABC ที่ 4130 m ต้องเดินไต่ภูเขาลุยหมอกขาวๆตั้งแต่ MBC ไปจนถึง ABC ลุยๆ
สภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงโดยฉับพลันในเกือบทุกๆ 1 ชั่วโมง อาจจะเป็นหนึ่งสัญญาณที่แสดงให้เราได้รู้ว่าพวกเราเริ่มเข้าใกล้อ้อมกอดแห่งหิมาลัยเข้าไปทุกที
ตลอดเส้นทาง ABC หรือ Annapurna base camp เวลาที่เราเดินไป เราก็จะพบกับเพื่อนนักเดินทางเต็มไปหมด นักเทรคกิ้งก็จะเดินไปเดินมาแล้วก็มักจะทักทายกันด้วยคำว่า นะ มัส สเต Hello Hi ถือว่าเป็นมิตรภาพที่น่ารักๆระหว่างการเดินทาง เป็นบรรยากาศที่อบอุ่น
MBC 3700 m - ABC 4130 m
ถึงแล้วคับ Machhapuchhre base camp หรือ MBC อยู่ข้างหน้าแล้ว เหนื่อยมากๆคับ
สภาพอากาศเริ่มเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน จากที่เคยมีแสงแดด ตอนนี้ท้องฟ้าปิดแล้ว หมอกเริ่มหนาขึ้นเรื่อยๆ จนแทบมองไม่เห็นเส้นทางข้างหน้า
เส้นทางตั้งแต่ MBC ไปจนถึง ABC ใช้เวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมง เส้นทางในช่วงนี้ถือว่าเป็น highlight นี่นักเดินทางทุกคนรอคอย เพราะว่าภูมิประเทศจะเริ่มเปลี่ยนแปลงไปจากช่วงเช้าอย่างสิ้นเชิง โดยเราจะเดินทางไปบนพื้นที่ที่เต็มไปด้วยหิมะ หมอก
มันรู้สึกภูมิใจมากๆที่ได้มายืนอยู่ตรงนี้ เพราะผมไม่ได้นั่งรถไฟฟ้าหรือขึ้นลิฟท์มาเพื่อจะมาถึงตรงนี้ได้ แต่ผมเดินจนมาถึงตรงนี้
นั่งดูหมอก มองดูหิมะ ชื่นชมกับความสำเร็จที่ตัวเองได้ทำมาทั้งหมด 6 วัน พรุ่งเช้าพวกเราจะยอมตื่นขึ้นมาตี 5 มารอภาพที่เรายอมเดินเหนื่อยขึ้นมาเพื่อมาดูภาพนี้ เทือกเขาหิมาลัย Annapurna ล้อมรอบเราอยู่แล้วมีพระอาทิตย์ขึ้นตรงหน้า แล้วก็หวังว่าพรุ่งนี้เช้าฟ้าคงจะเปิดให้เรา
DAY 7
เช้าตรู่ของวันที่ 7 ของการเดินทาง แสงแดดเริ่มสาดส่องพาดมาที่ยอด Annapurna อันขาวโพลนทีละยอดๆ เป็นภาพสวยงามไร้คำบรรยายจริงๆ
เป้าหมายของความสำเร็จของแต่ละคนนั้นมีแตกต่างกันออกไป ซึ่งความสำเร็จในครั้งนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้น และถือเป็นก้าวที่สำคัญที่จะสร้างแรงผลักดันให้ผมต้องไปให้ถึง dream list ต่อไป ที่มีความสวยงามและท้าทายมากกว่าเดิม ..... ( ตามตะวัน )