ขอความกรุณาท่านผู้อ่าน อ่านให้จบ จะได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน
เป็นความเห็นของเด็ก อายุ20ปีกว่าๆ
ตายแล้วจะรู้ตัว?
คุณจะทราบได้อย่างไร ว่าคุณยังไม่ตาย เพราะเวลาคุณเกิดมา คุณมาคนเดียว เวลาคุณท่องเทียวไปในแต่ละภพ คุณก็ไปคนเดียว แล้วคุณจะรู้ตัวหรือ ว่าตอนนี้คุณตายหรือยัง เพราะมิติของภพแต่ละภพมันซ้อนทับกันอยู่ จนคุณอาจจะคิดว่าเราไม่เคยตายเลย ก็เป็นได้ เพราะเมื่อเสวยอารมณ์หนึ่ง ก็เป็นมิติหนึ่ง แล้วเมื่ออารมณ์นั้นดับไป ก็เสวยอารมณ์ใหม่ต่อ สืบต่อไม่รู้จบ จิตเป็นได้ทุกอย่างสารพัด จนหลงผิดคิดว่าตนไม่เคยเกิดไม่เคยดับเลย เพราะมันสืบต่อไปเรื่อยๆ บางครั้งเราเห็นคนตาย คนที่ตายเขาจะรู้ตัวหรือว่าเขาตายแล้ว เขาอาจจะท่องเที่ยวอยู่อีกมิติก็เป็นได้ ส่วนเราก็ท่องเที่ยวอยู่ในมิติที่ได้เรียนรู้ว่ามีคนตาย สิ่งทั้งปวงเหมือนเป็นส่วนประกอบของชีวิต เพราะไม่สามารถเอาสิ่งใดไปได้เลย เวลาเกิดก็มาคนเดียว เวลาตายจะรู้ตัวหรือว่าตาย เวลาท่องเที่ยวก็ท่องเที่ยวไปแต่ผู้เดียว มนุษย์ นรก สวรรค์ พรม ก็เวียนเกิด เวียนตาย แต่ผู้เดียว เวลานิพพาน ก็นิพพานเฉพาะตน สิ่งทั้งปวงเป็นแค่ส่วนประกอบ ให้จิตแต่ละดวงได้เรียนรู้
ฝันหรือตื่นอยู่กันแน่?
คุณจะทราบได้อย่างไร ว่าคุณฝันอยู่หรือตื่นอยู่ เอาอะไรมาเป็นตัววัด เพราะเท่าที่สังเกตจะวัดกันตรงที่ เวลานอนหลับท่องเที่ยวอยู่ในมิติภพต่างๆ ในคณะที่ท่องเที่ยวก็ไม่มีไครทราบได้ว่าฝันอยู่ เพราะเหตุการณ์มันเหมือนจริงทุกประการ แล้วเวลาตื่นขึ้นมาจึงเข้าใจว่าเหตุการณ์เมื่อกี้คือฝัน คุณจะแน่ใจได้อย่างไรว่าคุณตื่นแล้วจริงๆ ในเมื่อโลกที่คุณตื่นมา มันก็ยังเป็นสมมุติ ไม่จีรังยังยืน เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป หรือคุณอาจจะฝันสืบต่อเป็นกรรมไม่รู้จบก็เป็นได้
มิติการเวลาไม่มีอยู่จริง?
การเวลาเป็นเพียงความรู้สึก แล้วเวลาของแต่ละคนไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับจิตที่เสวยอารมณ์ความรู้สึก เหมือนคนตกนรก เขาจะรู้ตัวไหมว่าเขากำลังเสวยอารมณ์ความรู้สึกที่เป็นอกุศลอยู่ เขาจะรู้ตัวไหมที่มันต้องทนทุกข์ในนรกอย่างยาวนาน เพราะจิตเขายึดติดความรู้สึกนั้นไม่ยอมละไม่ยอมปล่อย ต่อเมื่อความรู้สึกนั้นดับไป อารมณ์ความรู้สึกใหม่ก็สืบต่อไปเกิดในภพอื่นๆต่อไป แล้วเขาไม่รู้ตัวเลยหรือ ว่าแต่ละภพ แต่ละมิติ มันไม่เที่ยง ไม่จีรังยั่งยืน แต่บางท่านเวลาตกนรกอยู่ เป็นเปรตอยู่ เสวยอารมณ์ที่เป็นอกุศลอยู่ ไปเจอพระธุดงธ์พระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบแผ่เมตตาให้ ส่งกระแสความรู้สึกที่สงบให้ จิตรับรู้ความรู้สึกใหม่ ความรู้สึกที่เป็นอกุศลแห่งความเป็นเปรตดับไป เสวยอารมณ์ความรู้สึกอันสงบต่อ ส่งผลให้ไปบังเกิดในภพอื่นต่อไป การเวลาแต่ละภพจึงไม่มีอยู่จริง จะนานหรือช้า ขึ้นอยู่กับจิตปล่อยวางอารมรณ์ความรู้สึกจะช้าหรือเร็วเท่านั้นนะหรือ?
ธรรมชาติหมุนเวียนไม่รู้จบ?
ธรรมชาติมีสิ่งหลากหลายมากมาย จิตสามารถเรียนรู้และเข้าใจในธรรมชาตินั้นๆ แล้วก็มีตัวมีตนเข้าไปอยู่ในธรรมชาตินั้นๆ จากธรรมชาติหนึ่ง ไปสู่อีกธรรมชาติหนึ่ง แต่มันก็เป็นธรรมชาติอันเดียวกันนั้นละ เพียงแต่มันละเอียดซับซ้อนต่างกัน? แล้วแต่ละธรรมชาติ มันก็เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป? ถ้าจิตยึดมั่นมีตัวมีตนในธรรมชาติอยู่ จิตก็เวียนเกิดเวียนตายในธรรมชาติไม่รู้จบใช่ไหม? ถ้าจิตหมดความยึดมั่นในตัวตนแล้ว ก็ไม่มีตัวไม่มีตนเวียนเกิดเวียนตายแล้วละซิ คงเป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบานเลย ตัดกระแสวังวนเสียได้
ทั้งหมดนี้ ค้นหาความจริงได้จาก พระพุทธศาสนา
ตายแล้วจะรู้ตัว? ฝันหรือตื่นอยู่กันแน่? มิติการเวลาไม่มีอยู่จริง? ธรรมชาติหมุนเวียนไม่รู้จบ?
เป็นความเห็นของเด็ก อายุ20ปีกว่าๆ
ตายแล้วจะรู้ตัว?
คุณจะทราบได้อย่างไร ว่าคุณยังไม่ตาย เพราะเวลาคุณเกิดมา คุณมาคนเดียว เวลาคุณท่องเทียวไปในแต่ละภพ คุณก็ไปคนเดียว แล้วคุณจะรู้ตัวหรือ ว่าตอนนี้คุณตายหรือยัง เพราะมิติของภพแต่ละภพมันซ้อนทับกันอยู่ จนคุณอาจจะคิดว่าเราไม่เคยตายเลย ก็เป็นได้ เพราะเมื่อเสวยอารมณ์หนึ่ง ก็เป็นมิติหนึ่ง แล้วเมื่ออารมณ์นั้นดับไป ก็เสวยอารมณ์ใหม่ต่อ สืบต่อไม่รู้จบ จิตเป็นได้ทุกอย่างสารพัด จนหลงผิดคิดว่าตนไม่เคยเกิดไม่เคยดับเลย เพราะมันสืบต่อไปเรื่อยๆ บางครั้งเราเห็นคนตาย คนที่ตายเขาจะรู้ตัวหรือว่าเขาตายแล้ว เขาอาจจะท่องเที่ยวอยู่อีกมิติก็เป็นได้ ส่วนเราก็ท่องเที่ยวอยู่ในมิติที่ได้เรียนรู้ว่ามีคนตาย สิ่งทั้งปวงเหมือนเป็นส่วนประกอบของชีวิต เพราะไม่สามารถเอาสิ่งใดไปได้เลย เวลาเกิดก็มาคนเดียว เวลาตายจะรู้ตัวหรือว่าตาย เวลาท่องเที่ยวก็ท่องเที่ยวไปแต่ผู้เดียว มนุษย์ นรก สวรรค์ พรม ก็เวียนเกิด เวียนตาย แต่ผู้เดียว เวลานิพพาน ก็นิพพานเฉพาะตน สิ่งทั้งปวงเป็นแค่ส่วนประกอบ ให้จิตแต่ละดวงได้เรียนรู้
ฝันหรือตื่นอยู่กันแน่?
คุณจะทราบได้อย่างไร ว่าคุณฝันอยู่หรือตื่นอยู่ เอาอะไรมาเป็นตัววัด เพราะเท่าที่สังเกตจะวัดกันตรงที่ เวลานอนหลับท่องเที่ยวอยู่ในมิติภพต่างๆ ในคณะที่ท่องเที่ยวก็ไม่มีไครทราบได้ว่าฝันอยู่ เพราะเหตุการณ์มันเหมือนจริงทุกประการ แล้วเวลาตื่นขึ้นมาจึงเข้าใจว่าเหตุการณ์เมื่อกี้คือฝัน คุณจะแน่ใจได้อย่างไรว่าคุณตื่นแล้วจริงๆ ในเมื่อโลกที่คุณตื่นมา มันก็ยังเป็นสมมุติ ไม่จีรังยังยืน เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป หรือคุณอาจจะฝันสืบต่อเป็นกรรมไม่รู้จบก็เป็นได้
มิติการเวลาไม่มีอยู่จริง?
การเวลาเป็นเพียงความรู้สึก แล้วเวลาของแต่ละคนไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับจิตที่เสวยอารมณ์ความรู้สึก เหมือนคนตกนรก เขาจะรู้ตัวไหมว่าเขากำลังเสวยอารมณ์ความรู้สึกที่เป็นอกุศลอยู่ เขาจะรู้ตัวไหมที่มันต้องทนทุกข์ในนรกอย่างยาวนาน เพราะจิตเขายึดติดความรู้สึกนั้นไม่ยอมละไม่ยอมปล่อย ต่อเมื่อความรู้สึกนั้นดับไป อารมณ์ความรู้สึกใหม่ก็สืบต่อไปเกิดในภพอื่นๆต่อไป แล้วเขาไม่รู้ตัวเลยหรือ ว่าแต่ละภพ แต่ละมิติ มันไม่เที่ยง ไม่จีรังยั่งยืน แต่บางท่านเวลาตกนรกอยู่ เป็นเปรตอยู่ เสวยอารมณ์ที่เป็นอกุศลอยู่ ไปเจอพระธุดงธ์พระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบแผ่เมตตาให้ ส่งกระแสความรู้สึกที่สงบให้ จิตรับรู้ความรู้สึกใหม่ ความรู้สึกที่เป็นอกุศลแห่งความเป็นเปรตดับไป เสวยอารมณ์ความรู้สึกอันสงบต่อ ส่งผลให้ไปบังเกิดในภพอื่นต่อไป การเวลาแต่ละภพจึงไม่มีอยู่จริง จะนานหรือช้า ขึ้นอยู่กับจิตปล่อยวางอารมรณ์ความรู้สึกจะช้าหรือเร็วเท่านั้นนะหรือ?
ธรรมชาติหมุนเวียนไม่รู้จบ?
ธรรมชาติมีสิ่งหลากหลายมากมาย จิตสามารถเรียนรู้และเข้าใจในธรรมชาตินั้นๆ แล้วก็มีตัวมีตนเข้าไปอยู่ในธรรมชาตินั้นๆ จากธรรมชาติหนึ่ง ไปสู่อีกธรรมชาติหนึ่ง แต่มันก็เป็นธรรมชาติอันเดียวกันนั้นละ เพียงแต่มันละเอียดซับซ้อนต่างกัน? แล้วแต่ละธรรมชาติ มันก็เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป? ถ้าจิตยึดมั่นมีตัวมีตนในธรรมชาติอยู่ จิตก็เวียนเกิดเวียนตายในธรรมชาติไม่รู้จบใช่ไหม? ถ้าจิตหมดความยึดมั่นในตัวตนแล้ว ก็ไม่มีตัวไม่มีตนเวียนเกิดเวียนตายแล้วละซิ คงเป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบานเลย ตัดกระแสวังวนเสียได้
ทั้งหมดนี้ ค้นหาความจริงได้จาก พระพุทธศาสนา