เพื่อนๆที่เป็นมนุษย์เงินเดือน ช่วงวันที่เงินเดือนออกจะนำเงินบางส่วนไปออมและลงทุน แต่การลงทุนมีหลายแบบหลายสไตล์ แต่ที่นิยมมี 2 แบบ
1.วิธีลงทุนแบบ DCA (Dollar Cost Average)
ลักษณะทั่วไป
-ลงทุนเป็นประจำ ตามความถี่ที่กำหนดไว้ล่วงหน้า
-ความถี่สามารถกำหนดได้ตั้งแต่ รายสัปดาห์ รายเดือน รายไตรมาส รายปี และความถี่อื่นๆขึ้นอยู่กับกระแสเงินของนักลงทุนเป็นหลัก
-ลงทุนในวันที่กำหนดไว้ล่วงหน้า โดยไม่คาดการณ์ภาวะตลาด
-ลงทุนด้วยเงินเท่ากันทุกงวด
ลักษณะพิเศษ
-ปรับเพิ่มยอดได้ เมื่อรายได้เพิ่มขึ้น
2. วิธีลงทุนแบบ VA (Value Averaging)
ลักษณะทั่วไป
-ลงทุนเป็นประจำ ตามความถี่ที่กำหนดไว้ล่วงหน้า
-ความถี่สามารถกำหนดได้หลากหลาย เช่น รายสัปดาห์ รายเดือน รายไตรมาส รายปี
-ลงทุนในวันที่กำหนดไว้ล่วงหน้า โดยไม่คาดการณ์ภาวะตลาด
-เพิ่ม/ลด เงินลงทุนให้"แตกต่างกันไปในแต่ละงวด" เพื่อให้เงินลงทุนเติบโตไปตาม"แผนการลงทุน"ที่กำหนดไว้ล่วงหน้า
-กรณีที่พอร์ตการลงทุนเติบโตไปเกินตามแผนที่วางไว้ จะมี"การลดเงินลงทุนหรือมีการขายสินทรัพย์"เพื่อพักไว้ในตราสารหนี้/เงินฝาก/เงินสด
ลักษณะพิเศษ
-มักมีการสำรองเงินบางส่วนไว้ในตราสารหนี้/เงินฝาก/เงินสด เพื่อให้สามารถใช้ไปเพิ่มการลงทุนได้ ในช่วงที่สินทรัพย์ที่ลงทุนอยู่ในทิศทางขาลง
-อาจมีการกำหนดข้อจำกัด เช่น ยอดซื้อลงทุนสูงสุดต่องวด
เพื่อนๆที่เห็นในกระทู้โพลนี้ คิดว่าตัวเองเหมาะกับการลงทุนแบบไหนครับ
*** ปิดโหวต วันที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ.2558 เวลา 01:48:19 น.
2. เพื่อนๆมักลงทุนอะไรบ้างครับ
3. ความถี่การลงทุนของเพื่อนๆที่กล่าวมาทั้ง 2 วิธี
คุณลืมตอบคำถามที่ * จำเป็นต้องตอบ
วิธีลงทุนของมนุษย์เงินเดือน
1.วิธีลงทุนแบบ DCA (Dollar Cost Average)
ลักษณะทั่วไป
-ลงทุนเป็นประจำ ตามความถี่ที่กำหนดไว้ล่วงหน้า
-ความถี่สามารถกำหนดได้ตั้งแต่ รายสัปดาห์ รายเดือน รายไตรมาส รายปี และความถี่อื่นๆขึ้นอยู่กับกระแสเงินของนักลงทุนเป็นหลัก
-ลงทุนในวันที่กำหนดไว้ล่วงหน้า โดยไม่คาดการณ์ภาวะตลาด
-ลงทุนด้วยเงินเท่ากันทุกงวด
ลักษณะพิเศษ
-ปรับเพิ่มยอดได้ เมื่อรายได้เพิ่มขึ้น
2. วิธีลงทุนแบบ VA (Value Averaging)
ลักษณะทั่วไป
-ลงทุนเป็นประจำ ตามความถี่ที่กำหนดไว้ล่วงหน้า
-ความถี่สามารถกำหนดได้หลากหลาย เช่น รายสัปดาห์ รายเดือน รายไตรมาส รายปี
-ลงทุนในวันที่กำหนดไว้ล่วงหน้า โดยไม่คาดการณ์ภาวะตลาด
-เพิ่ม/ลด เงินลงทุนให้"แตกต่างกันไปในแต่ละงวด" เพื่อให้เงินลงทุนเติบโตไปตาม"แผนการลงทุน"ที่กำหนดไว้ล่วงหน้า
-กรณีที่พอร์ตการลงทุนเติบโตไปเกินตามแผนที่วางไว้ จะมี"การลดเงินลงทุนหรือมีการขายสินทรัพย์"เพื่อพักไว้ในตราสารหนี้/เงินฝาก/เงินสด
ลักษณะพิเศษ
-มักมีการสำรองเงินบางส่วนไว้ในตราสารหนี้/เงินฝาก/เงินสด เพื่อให้สามารถใช้ไปเพิ่มการลงทุนได้ ในช่วงที่สินทรัพย์ที่ลงทุนอยู่ในทิศทางขาลง
-อาจมีการกำหนดข้อจำกัด เช่น ยอดซื้อลงทุนสูงสุดต่องวด
เพื่อนๆที่เห็นในกระทู้โพลนี้ คิดว่าตัวเองเหมาะกับการลงทุนแบบไหนครับ