Dollar Cost Averaging หรือที่เราเคยได้ยินกัน แบบสั้นๆว่า DCA คือ การทยอยการลงทุนอย่าง สม่ำเสมอ ด้วยเงินจำนวนเท่าๆ กันในสินทรัพย์ เช่น หุ้น กองทุน โดยไม่สนใจราคาหรือสภาพตลาด เพื่อ เพิ่มปริมาณของสินทรัพย์ให้มากขึ้นเรื่อยๆ และคาด หวังผลตอบแทนในระยะยาว
DCA เหมาะกับใคร?
เหมาะกับนักลงทุนมือใหม่ หรือผู้ที่ต้องการออมเงินให้ ได้ผลตอบแทนที่ดีกว่าการฝากเงิน แต่ว่ายังขาด ความชำนาญในการจับจังหวะลงทุน
* ลงทุนแบบ DCA ดีจริงมั้ย ?
1. ช่วยสร้างวินัย
ด้วยความที่ DCA เป็นการทยอยลงทุนใน “ทุกเดือน" จึงเป็นวิธีการที่ช่วยสร้างวินัยการออม การลงทุนของ เราได้เป็นอย่างดีเลย
2. ลดความเสี่ยงในการลงทุนผิดจังหวะหรือราคาที่ ซื้อสูงไป
เพราะเป็นการลงทุนโดยไม่สนราคาตลาด ถึงแม้วันที่ เราซื้อจะเป็นราคาที่สูง แต่ว่าก็มีการถัวเฉลี่ยราคา จากการซื้อทกเดือน และยังไม่ต้องนั่งดกราฟจับจังหวะในการซื้อเองอีกด้วย
3. มีเวลาไปทำอย่างอื่นมากขึ้น
ทำให้เราไม่ต้องคอยจับจังหวะการลงทุนด้วยตัวเอง เพราะเราไม่ได้โฟกัสที่ราคาของสินทรัพย์แต่เรา โฟกัสในการลงทุนต่อเนื่องทุกเดือนเพื่อสร้างความ มั่งคั่งในระยะยาว จึงทำให้เราเครียดน้อยลง ใช้ชีวิต ประจำวันแฮปปี้ตามปกติ
4. มองไกลไปถึงวัยเกษียณ มีหุ้นหรือกองทุนที่ออมไว้ตั้งแต่เริ่มทำงานในจำนวนที่ มาก จะยิ่งทำให้ได้เงินปันผลมากเช่นกัน มีเงินใช้ใน วัยเกษียณ ตามที่ตั้งเป้าหมายไว้
! แน่นอนว่าการลงทุนทุกๆเดือน ก็อาจจะทำให้เรา เจอกับความผันผวนในช่วงที่ราคาของสินทรัพย์พุ่งสูง ขึ้นได้ แต่ถ้าเทียบกับข้อดีที่ทำให้มนุษย์เงินเดือน อย่างเราๆ สามารถลงทุนได้ง่ายและต่อเนื่อง ก็ถือว่า เป็นวิธีการลงทุนที่น่าสนใจมากๆ
ลงทุนแบบ DCA คืออะไร ดีจริงมั้ย ?
DCA เหมาะกับใคร?
เหมาะกับนักลงทุนมือใหม่ หรือผู้ที่ต้องการออมเงินให้ ได้ผลตอบแทนที่ดีกว่าการฝากเงิน แต่ว่ายังขาด ความชำนาญในการจับจังหวะลงทุน
* ลงทุนแบบ DCA ดีจริงมั้ย ?
1. ช่วยสร้างวินัย
ด้วยความที่ DCA เป็นการทยอยลงทุนใน “ทุกเดือน" จึงเป็นวิธีการที่ช่วยสร้างวินัยการออม การลงทุนของ เราได้เป็นอย่างดีเลย
2. ลดความเสี่ยงในการลงทุนผิดจังหวะหรือราคาที่ ซื้อสูงไป
เพราะเป็นการลงทุนโดยไม่สนราคาตลาด ถึงแม้วันที่ เราซื้อจะเป็นราคาที่สูง แต่ว่าก็มีการถัวเฉลี่ยราคา จากการซื้อทกเดือน และยังไม่ต้องนั่งดกราฟจับจังหวะในการซื้อเองอีกด้วย
3. มีเวลาไปทำอย่างอื่นมากขึ้น
ทำให้เราไม่ต้องคอยจับจังหวะการลงทุนด้วยตัวเอง เพราะเราไม่ได้โฟกัสที่ราคาของสินทรัพย์แต่เรา โฟกัสในการลงทุนต่อเนื่องทุกเดือนเพื่อสร้างความ มั่งคั่งในระยะยาว จึงทำให้เราเครียดน้อยลง ใช้ชีวิต ประจำวันแฮปปี้ตามปกติ
4. มองไกลไปถึงวัยเกษียณ มีหุ้นหรือกองทุนที่ออมไว้ตั้งแต่เริ่มทำงานในจำนวนที่ มาก จะยิ่งทำให้ได้เงินปันผลมากเช่นกัน มีเงินใช้ใน วัยเกษียณ ตามที่ตั้งเป้าหมายไว้
! แน่นอนว่าการลงทุนทุกๆเดือน ก็อาจจะทำให้เรา เจอกับความผันผวนในช่วงที่ราคาของสินทรัพย์พุ่งสูง ขึ้นได้ แต่ถ้าเทียบกับข้อดีที่ทำให้มนุษย์เงินเดือน อย่างเราๆ สามารถลงทุนได้ง่ายและต่อเนื่อง ก็ถือว่า เป็นวิธีการลงทุนที่น่าสนใจมากๆ