ทั้งๆ ที่จังหวัดขอนแก่น เป็นจังหวัดที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 5 ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือแท้ๆ
แต่น่าแปลกใจที่ไม่ค่อยมีใครมาเล่าเรื่องเที่ยวที่ขอนแก่นกันบ้างเลย วันนี้หนูเล็กจะขออาสาพาไปก็แล้วกัน
การเดินทางครั้งนี้เกิดขึ้นก็เพราะอดหลับอดนอนจองตั๋วโปรของแอร์เอเชียข้ามปีไว้เช่นเคย
แต่ตั้งใจไว้แล้วว่าทริปนี้หนูเล็กคงจะไม่วางแผนการเดินทางอะไร เตรียมการไว้แค่จองที่พักกับเช่ารถขับเที่ยว แค่นี้ก็พอแล้ว
บางทีการเที่ยวแบบสบายๆ แบบไม่มีแผนเสียบ้าง การเที่ยวมันก็สนุกขึ้น
การเดินทางรอบนี้หนูเล็กขอแบ่งเล่าเป็นตอนๆ ให้เป็นมินิรีวิวสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ก็อย่างที่บอกค่ะว่าไม่มีการวางแผนอะไรทั้งนั้น
แต่เห็นว่าขอนแก่นมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าไปอยู่หลายแห่ง เผื่อว่าใครไปเที่ยวจะได้มีเป้าหมายไว้ในใจกันบ้าง ว่าแล้วก็ออกเดินทางไปกันดีกว่า
จากตัวเมืองขอนแก่นให้ขับรถไปตามถนนมะลิวัลย์
ขับตรงไปเรื่อยๆ ประมาณ 24 กิโลเมตรให้หาจุดกลับรถ เมื่อกลับรถแล้วให้ชิดซ้ายจะเห็นป้ายข้างทางให้เลี้ยวซ้ายเข้าไปยังหินช้างสี
เมื่อเลี้ยวเข้ามาจะเจอป้ายนี้ก่อนเลยค่ะ ถ้าเจอก็แสดงว่าเลี้ยวมาถูกแล้ว
ขับตรงต่อไปได้เลยค่ะ ระยะทางราว 24 กิโลเมตร
ทิวทัศน์ข้างทางเริ่มเปลี่ยนไป
ทางเริ่มไต่ระดับขึ้นเขา
ขับโยกซ้ายขวาแบบเบาๆ ค่ะ
สักพักก็จะถึงหน่วยพิทักษ์ที่ นพ.3 (หินช้างสี)
แวะจ่ายค่าธรรมเนียมก่อนเข้าอุทยานแห่งชาติด้วยค่ะ เพราะที่นี่เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติน้ำพอง
ขับรถต่อจากจุดนี้มาอีกไม่ไกลก็ถึงจุดที่จะต้องเดินเท้ากันต่อไปแล้ว
ตามป้ายนี้ไปเลยค่ะ
เริ่มต้นการเดินเท้า
หินช้างสี คือบริเวณที่เต็มไปด้วยกลุ่มหินขนาดใหญ่ ตั้งอยู่บนสันเขาป่าโสกแต้เหนือ ภายในที่ทำการอุทยานแห่งชาติน้ำพอง
เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะสำหรับศึกษาธรรมชาติ และความอุดมสมบูรณ์ของป่าไม้
อีกทั้งยังเป็นจุดชมวิวที่มีความสวยงามเหมาะแก่การท่องเที่ยวในวันหยุดสุดสัปดาห์
ระยะทางสำหรับการเดินเที่ยวไม่ไกลและไม่ลำบาก สามารถเดินเที่ยวได้สบายๆ โดยเฉพาะในวันที่แดดไม่แรง
เจอ "หินเต่างอย" เป็นจุดแรก รูปร่างเหมือนเต่าจริงๆ ด้วย
เดินเท้าต่อไปตามทางที่เขาทำไว้ให้แล้ว
ถึงแล้วค่ะ "หินช้างสี" เป็นจากก้อนหินที่ชะโงกยื่นออกมาจากฐาน
เหตุที่ได้ชื่อ “หินช้างสี” ก็เพราะในอดีตมีช้างป่ามาใช้ลำตัวสีกับก้อนหินขนาดใหญ่ และทิ้งร่องรอยของดินติดไว้ที่หิน
ใกล้ๆ กันมี "หินหอยนางรม"
เดินเลี้ยวโค้งมาเล็กน้อย เจอ "หินปลาวาฬ"
และแล้วเราก็มาถึงแล้วค่ะ จุดชมวิวที่สวยมว๊ากกกกก
ทัศนียภาพอันงดงามของอ่างเก็บน้ำเขื่อนอุบลรัตน์จนสุดสายตา
สามารถมองเห็นเทือกเขาภูเวียงและภูเก้าได้อย่างชัดเจน
ฟ้าใส แดดสวย ดีจริงๆ
เดินต่อไปอีกหน่อย เป็น "หินงวงช้าง" เหมือนดีจัง
"หินแมวน้ำ" ช่างเหมือนจริงๆ
สามารถเดินต่อไปยังจุดชมวิวบริเวณหินหัวกระโหลกได้อีกค่ะ
ระหว่างทางเดิน
"หินหัวกระโหลก"
บริเวณหินหัวกระโหลกเป็นลานหิน กว้างขนาดใหญ่ เป็นจุดสูงสุดสามารถเดินขึ้นไป
เพื่อมองลงมาแล้วจะเห็นหลังเขื่อนอุบลรัตน์ได้มุมแบบ 360 องศา
ด้านทิศเหนือ ทิศใต้ ทิศตะวันออกที่ถูกปูพรมด้วยผืนป่าอันเขียวขจี หรือตัวเมืองขอนแก่นที่อยู่ไกลออกไป
แต่หนูเล็กปีนขึ้นไปแล้วมองไม่เห็นค่ะ ต้นไม้ค่อนข้างเยอะ ก็เลยไม่ได้เก็บภาพมาฝาก
ยืนบนหินหัวกระโหลกร้อนได้ที่แล้วก็เลยเดินกลับ
ระหว่างทางเจอบริเวณที่เป็น “โป่งธรรมชาติ”
ดินโป่งจะเป็นดินที่สัตว์มากินเพื่อหาแร่ธาตุ คล้ายการกินอาหารเสริม เพราะสัตว์กินพืชจะไม่ได้รับแร่ธาตุเหล่านี้
นอกจากวิธีการกินดินโป่ง ซึ่งจะมี ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และโปรแตสเซียมสูง
ก่อนกลับออกจากจุดชมวิว "หินช้างสี" ขอเก็บความประทับใจไว้หน่อยแล้วกั๊นนนน
ที่หินช้างสีนี้เขาบอกว่าเป็นจุดชมวิวยามเช้าและเย็น
ในยามพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกที่เขาว่าสวยงามที่สุดของ อ.น้ำพอง
หมดเวลากับที่นี่จริงๆ แล้ว ไปก่อนค่ะ
อำลาที่นี่ไปด้วยภาพนี้
ไว้หนูเล็กจะมาพาไปเที่ยวที่อื่นของ "ขอนแก่น" อีก ส่วนจะเป็นที่ใด ไว้ตามกันต่อค่ะ
[CR] ไปเที่ยวไหนดี ที่ "ขอนแก่น" #1 จุดชมวิวหินช้างสี
ทั้งๆ ที่จังหวัดขอนแก่น เป็นจังหวัดที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 5 ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือแท้ๆ
แต่น่าแปลกใจที่ไม่ค่อยมีใครมาเล่าเรื่องเที่ยวที่ขอนแก่นกันบ้างเลย วันนี้หนูเล็กจะขออาสาพาไปก็แล้วกัน
การเดินทางครั้งนี้เกิดขึ้นก็เพราะอดหลับอดนอนจองตั๋วโปรของแอร์เอเชียข้ามปีไว้เช่นเคย
แต่ตั้งใจไว้แล้วว่าทริปนี้หนูเล็กคงจะไม่วางแผนการเดินทางอะไร เตรียมการไว้แค่จองที่พักกับเช่ารถขับเที่ยว แค่นี้ก็พอแล้ว
บางทีการเที่ยวแบบสบายๆ แบบไม่มีแผนเสียบ้าง การเที่ยวมันก็สนุกขึ้น
การเดินทางรอบนี้หนูเล็กขอแบ่งเล่าเป็นตอนๆ ให้เป็นมินิรีวิวสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ก็อย่างที่บอกค่ะว่าไม่มีการวางแผนอะไรทั้งนั้น
แต่เห็นว่าขอนแก่นมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าไปอยู่หลายแห่ง เผื่อว่าใครไปเที่ยวจะได้มีเป้าหมายไว้ในใจกันบ้าง ว่าแล้วก็ออกเดินทางไปกันดีกว่า
จากตัวเมืองขอนแก่นให้ขับรถไปตามถนนมะลิวัลย์
ขับตรงไปเรื่อยๆ ประมาณ 24 กิโลเมตรให้หาจุดกลับรถ เมื่อกลับรถแล้วให้ชิดซ้ายจะเห็นป้ายข้างทางให้เลี้ยวซ้ายเข้าไปยังหินช้างสี
เมื่อเลี้ยวเข้ามาจะเจอป้ายนี้ก่อนเลยค่ะ ถ้าเจอก็แสดงว่าเลี้ยวมาถูกแล้ว
ขับตรงต่อไปได้เลยค่ะ ระยะทางราว 24 กิโลเมตร
ทิวทัศน์ข้างทางเริ่มเปลี่ยนไป
ทางเริ่มไต่ระดับขึ้นเขา
ขับโยกซ้ายขวาแบบเบาๆ ค่ะ
สักพักก็จะถึงหน่วยพิทักษ์ที่ นพ.3 (หินช้างสี)
แวะจ่ายค่าธรรมเนียมก่อนเข้าอุทยานแห่งชาติด้วยค่ะ เพราะที่นี่เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติน้ำพอง
ขับรถต่อจากจุดนี้มาอีกไม่ไกลก็ถึงจุดที่จะต้องเดินเท้ากันต่อไปแล้ว
ตามป้ายนี้ไปเลยค่ะ
เริ่มต้นการเดินเท้า
หินช้างสี คือบริเวณที่เต็มไปด้วยกลุ่มหินขนาดใหญ่ ตั้งอยู่บนสันเขาป่าโสกแต้เหนือ ภายในที่ทำการอุทยานแห่งชาติน้ำพอง
เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะสำหรับศึกษาธรรมชาติ และความอุดมสมบูรณ์ของป่าไม้
อีกทั้งยังเป็นจุดชมวิวที่มีความสวยงามเหมาะแก่การท่องเที่ยวในวันหยุดสุดสัปดาห์
ระยะทางสำหรับการเดินเที่ยวไม่ไกลและไม่ลำบาก สามารถเดินเที่ยวได้สบายๆ โดยเฉพาะในวันที่แดดไม่แรง
เจอ "หินเต่างอย" เป็นจุดแรก รูปร่างเหมือนเต่าจริงๆ ด้วย
เดินเท้าต่อไปตามทางที่เขาทำไว้ให้แล้ว
ถึงแล้วค่ะ "หินช้างสี" เป็นจากก้อนหินที่ชะโงกยื่นออกมาจากฐาน
เหตุที่ได้ชื่อ “หินช้างสี” ก็เพราะในอดีตมีช้างป่ามาใช้ลำตัวสีกับก้อนหินขนาดใหญ่ และทิ้งร่องรอยของดินติดไว้ที่หิน
ใกล้ๆ กันมี "หินหอยนางรม"
เดินเลี้ยวโค้งมาเล็กน้อย เจอ "หินปลาวาฬ"
และแล้วเราก็มาถึงแล้วค่ะ จุดชมวิวที่สวยมว๊ากกกกก
ทัศนียภาพอันงดงามของอ่างเก็บน้ำเขื่อนอุบลรัตน์จนสุดสายตา
สามารถมองเห็นเทือกเขาภูเวียงและภูเก้าได้อย่างชัดเจน
ฟ้าใส แดดสวย ดีจริงๆ
เดินต่อไปอีกหน่อย เป็น "หินงวงช้าง" เหมือนดีจัง
"หินแมวน้ำ" ช่างเหมือนจริงๆ
สามารถเดินต่อไปยังจุดชมวิวบริเวณหินหัวกระโหลกได้อีกค่ะ
ระหว่างทางเดิน
"หินหัวกระโหลก"
บริเวณหินหัวกระโหลกเป็นลานหิน กว้างขนาดใหญ่ เป็นจุดสูงสุดสามารถเดินขึ้นไป
เพื่อมองลงมาแล้วจะเห็นหลังเขื่อนอุบลรัตน์ได้มุมแบบ 360 องศา
ด้านทิศเหนือ ทิศใต้ ทิศตะวันออกที่ถูกปูพรมด้วยผืนป่าอันเขียวขจี หรือตัวเมืองขอนแก่นที่อยู่ไกลออกไป
แต่หนูเล็กปีนขึ้นไปแล้วมองไม่เห็นค่ะ ต้นไม้ค่อนข้างเยอะ ก็เลยไม่ได้เก็บภาพมาฝาก
ยืนบนหินหัวกระโหลกร้อนได้ที่แล้วก็เลยเดินกลับ
ระหว่างทางเจอบริเวณที่เป็น “โป่งธรรมชาติ”
ดินโป่งจะเป็นดินที่สัตว์มากินเพื่อหาแร่ธาตุ คล้ายการกินอาหารเสริม เพราะสัตว์กินพืชจะไม่ได้รับแร่ธาตุเหล่านี้
นอกจากวิธีการกินดินโป่ง ซึ่งจะมี ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และโปรแตสเซียมสูง
ก่อนกลับออกจากจุดชมวิว "หินช้างสี" ขอเก็บความประทับใจไว้หน่อยแล้วกั๊นนนน
ที่หินช้างสีนี้เขาบอกว่าเป็นจุดชมวิวยามเช้าและเย็น
ในยามพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกที่เขาว่าสวยงามที่สุดของ อ.น้ำพอง
หมดเวลากับที่นี่จริงๆ แล้ว ไปก่อนค่ะ
อำลาที่นี่ไปด้วยภาพนี้
ไว้หนูเล็กจะมาพาไปเที่ยวที่อื่นของ "ขอนแก่น" อีก ส่วนจะเป็นที่ใด ไว้ตามกันต่อค่ะ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น