หลังจากไม่ได้ลงรีวิวเดินทางมานานมาก วันนี้แหละครับ ฤกษ์งามยามดีที่จะลงรีวิว และบันทึกความทรงจำของการเดินทางไปด้วยกันเลยละกันครับ
ซึ่งการเดินทางครั้งนี้เป็นการเที่ยวไม่ใกล้ไม่ไกลจากตัวจังหวัดผมมาก เพราะที่นี่คือ อุทยานแห่งชาติน้ำพอง ซึ่งเป็นอุทยานที่อยู่ใกล้ๆกับเขื่อนอุบลรัตน์มากๆ ผมขอบอกได้เลยครับว่าวิวนี่สวยใช้ได้เลยทีเดียวแหละ ซึ่ง สถานที่ที่เราจะไปนี้มีชื่อว่า " จุดชมวิวหินช้างสี " ซึ่งเป็นจุดชมวิวที่สวยงามอีจุดหนึ่งในเขื่อนอุบลรัจน์เลยก็ว่าได้ครับ และระยะทางก็ไม่ได้ใกลจากตัว เมืองขอนแก่นมากนัก  ส่วนทางบ้านผมมาถึงที่นี่ก็ประมาณ 130 กิโลซึ่งถือว่าเป็นระยะทางที่กำลังขับสนุกขับชิวได้มากเลยที่เดียวครับ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เส้นทาง130กิโลนี้คือ จาก อุดรธานี-จุดชมวิวหินช้างสี นะครับ ซึ่งขับมาทางเขาช่องชาด เลาะริมเขื่อนมาเรื่อยๆได้ทั้งวิว และบรรยากาศที่สวยงามมากครับ
---------------------***-----------------------------------------

การเดินทางครั้งนี้เดินทางด้วยรถยนต์ครับ ไม่ไหวที่จะแว๊นมาเพราะว่าฝนตกระหว่างทางบ่อยมาก ตอนขับมาก็นึกในใจอยู่ครับว่า โชคดีแล้วที่เอารถยนต์มาไม่งั้นได้เปียกกันตั้งแต่ก่อนเข้าตัวอุทยานอย่างแน่นอน
ขับขึ้นมาถึงก็ตามระเบียบการนิดหน่อยครับ ค่าเข้าค่าบำรุงสถานที่ ตามระเบียบครับ 35 บาท/คน
หน้าตาบัตรเข้าชมอุทยานก็ประมาณนี้จ้า
ที่จอดรถเหลือเฟือครับแยกจอดชัดเจนหาไม่ยากครับ
ที่นี่มีบริการกางเต้นท์ค้างคืนด้วยนะครับ ใครอยากมาชิวๆกับเพื่อนๆ ชมวิวสวยๆริมเขื่อนอุบลรัตน์ ที่นี่บอกเลยว่าไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอน ผมว่าวิวเช้าๆน่าจะสวยใช้ได้เลยทีเดียวแหละ ส่วนค่าบริการกางเต้นท์อันนี้ลืมถามครับว่า จนท.คิดยังไงบ้าง แต่คงจะเหมือนกับอุทยานทั่วไปแหละครับไม่แพง ขอแค่ค่าน้ำค่าไฟบำรุงสถานที่ให้หน่อยก็โอเคละ
ก่อนไปดูแผนที่ไกท์นำทางก่อนดีกว่า. . . .

รับรองครับว่าไม่หลงแน่นอน ป้ายเยอะ ไม่กว้างมาก เดินชมเดินเล่นกำลังสนุกครับ

หอคอยนี่ไงที่เขารีวิวกันเห็นว่าขึ้นไปชมวิวได้สวยๆเห็นเกือบทั้งเลยเด้อจะบอกให้

วิว180 องศา เห็นทั้งเขื่อนเลยครับ ข้างล่างมีร้านกาแฟ ร้านอาหาร เยอะแยะเต็มไปหมดบรรยากาศชิวมากบอกเลยครับ #ผ่าน

หอคอย และสะพานที่พร้อมที่จะพาเราไปสู่จุดหมายตื่อไป พร้อมเลยก็ออกเดินต่อกันเถอะ!!
บอกแล้วครับว่าไม่หลงแน่นอน ป้ายเยอะมาก บอกทุกๆ 50เมตรเลยมั๊ง เยอะจนคิดในใจว่ามันรกไปหน่อยนะ 555555



ภาพนี้คือ "หินแมวน้ำ" ไม่ต้องอธิบายอะไรเยอะเพราะดูจากหน้าตาหินแล้ว อุ๋งๆดีๆนี่เอง

ระหว่างเดินมาเรื่อยๆเราก็จะพบกับลานกิจกรรมอยู่กลางทาง สงสัยเอาไว้ทำกิจกรรมรอบกองไฟ ไม่ก็สันทนาการยามค่ำคืนของผู้พักแรมแน่นอน แต่วิวสวยโฮกเลย พูดแล้วอยากไปกางเต้นท์นอนสักคืนจัง


นี่คือสะพานเชื่อมหินครับเดินขึ้นไปถ่ายรูปชิกๆกับสะพานได้เลยมีมุมสวยๆให้เลือกถ่ายอยู่พอสมควร
ไอ้ตัวนี้พีคสุด อยู่ลึกในสุดของอุทยาน "น้ำในโพรงหิน" เดินเข้ามาดูถึงกับกลั้นหัวเราะไม่อยู่เลยทีเดียว "เนี่ยหรอ!!" แถวบ้านเรียกว่า น้ำขังโพรงหินนะเนี่ย โอ้ยแม่เจ้า เดินกลับทางเดิมดีกว่าวะ




หินต่างๆระหว่างทางมีการตั้งชื่อให้เหมาะสมกับลักษณะของกิน ซึ่งส่วนใหญ่นี่มีแต่สัตว์ทะเลาเยอะจัง ไอ้ก้อนหินเนี่ย แต่ก็น่ารักดี คนตั้งชื่อมีจินตนาการสูงมาก
ไฮไลท์มาละครับ นี่คือ "หินช้างสี" ซึ่งจากการหาข้อมูลดูว่าทำไมหินนี้ถึงได้ชื่อว่าหินช้างสี แล้วคำตอบที่ดูแล้วน่าจะใกล้เคียงกับชื่อนี้มากที่สุดก็เพราะว่า
"แต่ก่อนนั้นป่าแถบนั้นมีช้างอยู่เยอะเวลาช่างมันคันมันก็จะเอาลำตัวสีข้างของมันเอาไปถูกับหินก้อนนี้ จนทำให้หินมันเป็นเว้าๆแบบนั้น" เอ๊าอันนี้แหละน่าเชื่อที่สุดละ



หลังจากลงมาจากภูหินช้างสีแล้ว ผมนึกขึ้นได้ว่าเคยเห็นรีวิวนึงว่า มีร้านกาแฟชิกๆชิวๆอยู่ริมเขื่อนนี่นา เลยลองหาข้อมูลดู ก็ได้ความว่า ไอ้ร้านกาแฟนี้อยู่ตีนเขานี่เอง จะรอช้าอยู่ใยหละ ลงไปถ่ายรูปชิกๆสิครับ
ก่อนถึงร้านกาแฟที่ว่า เป็นป้ายผานี้แปลกตาดี ขอหยุดถ่ายรูปหน่อยละกันนะ ^_^

------- ถึงแล้วจ้าร้านกาแฟที่เห็นรีวิวกันเยอะ นี่คือร้านกาแฟ "ริมเขื่อน coffee" --------


บรรยากาศก็ประมาณนี้ครับ ราคาเครื่องดื่มอาหารบอกเลยว่าถูกมากกกกก บอกเลยว่าคุ้มกับบรรยากาศแย่างแน่นอน แถมมีทุ่งนาริมเขื่อนให้ได้ถ่ายรูปชิกๆอีกต่างหากครับ ถือว่าเป็นอีกจุดที่ใครมาต้องแวะอย่างแน่นอนครับ
------------ จบจากร้านกาแฟก็ได้เวลาแยกย้ายกลับบ้านกันได้แล้วจ้า รวมงบทั้งหมดทริปนี้หมดไปเบาๆครับประมาณ 400 บาท ถือว่าผ่อนคลายได้ในระดับนึงเลยแหละ --------------