สวัสดีครับผู้ที่เข้ามาอ่านกระทู้นี้ทุกท่านครับ ก่อนอื่นผมต้องขอเกริ่นนำก่อนครับ 'ชัยภูมิ' เป็นจังหวัดที่ผมมีความตั้งใจอยากจะไปท่องเที่ยวมาก ๆ ถือเป็นเมืองรองที่น่าสนใจสำหรับผมไม่น้อย และเป็นจังหวัดที่ผมและเพื่อนอยากจะไปเที่ยวสักครั้งหนึ่งในชีวิต รอบนี้ผมเลยชวนเพื่อนมาเที่ยวด้วยคน ถึงแม้สถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดโดยส่วนใหญ่แล้วจะเป็นสถานที่เที่ยวที่เน้นความเป็นธรรมชาติมากกว่า ใครที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวแนวธรรมชาติ จังหวัดชัยภูมิ ก็คือ 1 ในตัวเลือกสำหรับคุณ ผมและเพื่อน ๆ เช่นกัน จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการออกทริปครั้งใหม่ของผมและเพื่อนในครั้งนี้

ก่อนเดินทางในครั้งนี้เช่นเคยเราทำการบ้านและวางแผนการเดินทางล่วงหน้า 2 เดือน ในการเตรียมความพร้อมของการเดินทาง / จุดท่องเที่ยว / จองรถเช่า และจองที่พัก เพื่อให้ทริปของเราลงตัวและเดินทางสนุกตามแผนที่กำหนดไว้

🚗 ยานพาหนะที่ใช้ในทริปครั้งนี้
เราเลือกวิธีการ "เช่ารถขับ" ในวันที่ 2-3 ของการเดินทาง ราคาเช่าวันละ 900 บาท (+ ค่าล้างรถ 150 บาท) รวมทั้งหมด 1,050 บาท เป็นรถยี่ห้อ Toyota Yaris Ativ (มีค่ามัดจำในการเช่ารถ 1,500 บาท (ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับรุ่นรถที่เช่าด้วย) ร้านเช่ารถที่เราเลือกร้าน NANON CARRENT รถเช่าชัยภูมิ (ตามภาพที่แนบในรูปด้านบนนี้เลย) เจ้าของบริการดีมาก เอาใจใส่ลูกค้าอย่างดีครับ

🔔 คำแนะนำสำหรับทริปในครั้งนี้ 🔔
➡️ การเดินทางมายังจังหวัดชัยภูมินั้น หากเป็นกรณีเดินทางด้วยตนเอง (ไม่มีรถส่วนตัว) สามารถเดินทางได้ด้วยรถไฟ (ลงสถานีจัตุรัส) ซึ่งเป็นสถานีประจำจังหวัดชัยภูมิ และรถทัวร์ (บขส., แอร์ชัยภูมิ, เทียนไชยแอร์, ภูกระดึงทัวร์)
➡️ หากใครมีเวลาท่องเที่ยวน้อย หรือที่ทำงานหยุดวันเสาร์-อาทิตย์ ลองแพลนโปรแกรมการเดินทางทริปจังหวัดชัยภูมิ โปรแกรม 3 วัน 2 คืน หรือหากใครสะดวกแพลนโปรแกรม 2 วัน 1 คืน ก็ได้แต่เวลาเที่ยวอาจจะน้อย อาจไม่ได้ไปทุกที่ (ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับโปรแกรมและความสะดวกของแต่ละคน)
➡️ หากใครที่มาเที่ยวชัยภูมิและต้องการมีจุดหมายที่จะไปเยี่ยมความสวยงามของทุ่งดอกกระเจียว ในเทศกาลดอกกระเจียวบาน (จะมีในช่วงเดือน มิ.ย. - ส.ค. ของทุกปี) นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปเที่ยวทุ่งดอกกระเจียวได้ทั้ง 2 ที่ คือ อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม (ที่นี่มีรถรางของรัฐวิสาหกิจชุมชน คอยให้บริการรับ-ส่งนักท่องเที่ยวตามจุดต่าง ๆ ของอุทยาน) และอุทยานแห่งชาติไทรทอง โดยช่วงเวลาที่เหมาะสมกับการท่องเที่ยวชมทุ่งดอกกระเจียวมากที่สุด คือช่วงเดือนกรกฎาคม - สิงหาคม (ซึ่งในช่วงที่จขกท.ไปคือช่วงกลางเดือนกรกฎาคม ดอกกระเจียวเริ่มบานแล้ว)
➡️ ใครที่เป็นสายท่องเที่ยวธรรมชาติ จังหวัดชัยภูมิ เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งของนักท่องเที่ยวสายธรรมชาติหลาย ๆ คนเลย เพราะเนื่องจากจังหวัดชัยภูมินั้นมีอุทยานแห่งชาติทั้งหมด 4 แห่งด้วยกัน คือ อุทยานแห่งชาติภูแลนคา, อุทยานแห่งชาติตาดโตน, อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม และอุทยานแห่งชาติไทรทอง
➡️หากใครต้องการที่จะสัมผัสบรรยากาศเมฆฝน หมอก และพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้า ที่อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม แนะนำให้จองที่พักระแวกใกล้เคียงกับอุทยานแห่งชาติฯ (มีหลายที่พักให้เลือก ราคาขึ้นอยู่กับแต่ละที่พัก) และควรไปถึงอุทยานตั้งแต่ 6 โมงเช้าเป็นต้นไป (เพราะช่วงที่เราไปตอน 6 โมงเช้าคือเริ่มมีรถทยอยต่อแถว จ่ายค่าเข้าอุทยานกันแล้ว)

🚗 เตรียมการเดินทาง 🚗
เราได้จองที่พัก รถเช่า และจองที่นั่งรถทัวร์ไป-กลับ เรียบร้อยแล้ว 
👉รถทัวร์ขาไป : จองรถทัวร์ของ ภูกระดึงทัวร์ (รอบ 20:50 น.) 
👉รถทัวร์ขากลับ : จองรถทัวร์ของ เทียนไชย์แอร์ (รอบ 12:00 น.)
ลิงค์จองรถทัวร์ > https://thaiticket.in.th/?gad_source=1&gclid=EAIaIQobChMI9fDmsdmjiAMVO15IAB3YVQBCEAAYASAAEgKmyfD_BwE

👉ที่พักคืนแรก : โรงแรมเลิศนิมิต (อ.เมืองชัยภูมิ จ.ชัยภูมิ)
ลิงค์จองที่พัก > https://www.facebook.com/lertnimitrahotel/
https://www.agoda.com/lertnimitra-hotel/hotel/chaiyaphum-th.html?cid=1844104&ds=qEHFc87gIFGVFO%2Fm

👉ที่พักคืนที่สอง : ไร่ภูเงิน (อ.เทพสถิต จ.ชัยภูมิ)
ลิงค์จองที่พัก > https://www.facebook.com/phungernresort

👉รถเช่าขับตลอดทริป : ร้าน NANON CARRENT รถเช่าชัยภูมิ
ลิงค์จองรถเช่า > https://www.facebook.com/nanoncar

🚗 แพลนการเดินทาง 🚗
วันที่ 1-2
🔸เดินทางออกจากสถานีขนส่งหมอชิตใหม่ ด้วยรถทัวร์ ภูกระดึงทัวร์ (ตามกำหนดการคือ 20:50 น.) แต่เนื่องจากในวันที่เราออกเดินทางนั้นมีพายุฝน จึงทำให้รถมาเทียบชานชาลาช้า และรถออกจากสถานีขนส่งหมอชิตใหม่ในเวลา 21:50 น.


🔸นั่งรถทัวร์กับเพื่อนอีกคน ยาว ๆ มีหลับ ๆ ตื่น ๆ บ้าง บ้างก็เช็คแผนที่ว่าเราเดินทางถึงไหนกันแล้ว

🔸รถทัวร์แวะจอดพักรถที่ จุดพักรถประเดิมชัย อ.ปากช่อง (ก่อนถึงอ่างลำตะคอง) ในเวลา ตี 2 กว่า ๆ โดยตั๋วโดยสารนั้นสามารถไปแลกข้าว / อาหาร หรือถ้าหากใครไม่กินข้าว สามารถแลกน้ำดื่ม-นมได้ 1 ชุด เนื่องจากเรากินข้าวเรียบร้อยแล้ว เหลือแต่เพื่อนที่รู้สึกหิว โดยเราเลือกที่จะแลกน้ำผลไม้ 1 ขวด ส่วนเพื่อนก็แลกอาหารไป และก็กินยันจนอิ่ม


🔸เดินทางถึงจังหวัดชัยภูมิ ในเวลา ตี 3 กว่า ๆ ไม่รอช้ารีบเดินเท้าจากสถานีขนส่งไปยัง โรงแรมเลิศนิมิตร ชัยภูมิ เข้าเช็คอินที่พัก และเข้านอนอย่างเร็วไว 555

---

🔸ตื่นนอน เวลา 8 โมง พร้อมกับทำธุระส่วนตัว และนัดรับรถเช่าไว้หน้าที่พัก 9 โมง
🔸และนี่ก็คือรถเช่าของเรา สภาพใหม่เอี่ยม (เรามีการถ่ายวิดีโอระหว่างการตรวจรถทุกครั้ง) และพร้อมที่จะเดินทางกันต่อ เรากับเพื่อนเช็คเอาท์จากที่พักในเวลา 09:30 น.

🔸ออกจากที่พักมาได้ไม่ไกล มาแวะร้านกาแฟ Moon space cafe x bar เพื่อดื่มด่ำกาแฟ - ลาเต้กันก่อน บรรยากาศร้านน่านั่ง และเจ้าของร้านอัธยาศัยดี เป็นกันเองกับลูกค้า และได้ลาเต้มา 1 แก้ว ส่วนเพื่อนก็คุยกับเจ้าของร้านเพราะชื่นชอบในเรื่องของกาแฟ เพื่อแลกเปลี่ยนความเห็นกัน 

🔸ระหว่างทาง ผ่าน อนุสาวรีย์เจ้าพ่อพญาแล พ่อเมืองคนแรกของเมืองชัยภูมิ ซึ่งเป็นแลนด์มาร์กแห่งหนึ่งของจังหวัด และเป็นจุดศูนย์รวมของพี่น้องชาวชัยภูมิที่เคารพและเลื่อมใสศรัทธาท่าน

🔸มาถึงชัยภูมิแล้ว พลาดไม่ได้เลยที่จะต้องแวะไปทำบุญ + สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำจังหวัด ณ ศาลาบวงสรวง และ เสาหลักเมืองชัยภูมิ

🔸แวะทานข้าวเช้ากันก่อนที่ร้าน ครัวไทย ข้าวแกงเมืองกาญ ในตัวเมืองชัยภูมิ กับข้าวอร่อย มีกับข้าวให้เลือกมากมาย 

🔸ก่อนไปพระธาตุชัยภูมิ แวะสถานที่สำคัญของจังหวัดอีก 1 ที่ นั่นคือ ปรางค์กู่ชัยภูมิ  

🔸หลังจากอิ่มท้องกันแล้ว จุดหมายที่เรากับเพื่อนจะมุ่งหน้าต่อไปคือ วัดพระธาตุ​ชัยภูมิ​ (พระมหาธาตุเจดีย์สิริชัยภูมิ) หรือ วัดอรุณธรรมสถาน เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่นักท่องเที่ยวต่างต้องแวะเที่ยวให้ได้ ห้ามพลาดเลย

🔸น้องหมาที่วัดนี้ใจดี ขี้เล่นมาก เพื่อนไม่รอช้าเลยขอเล่นกับน้องเลย 5555

🔸ภายในวัดก็ยังมีองค์เจ้าพ่อพญาแล สูงกว่า 5 เมตร องค์ใหญ่ที่สุด ให้นักท่องเที่ยวที่เลื่อมใสศรัทธาได้สักการะเคารพบูชาท่าน

🔸ออกจากวัดพระธาตุชัยภูมิแล้ว เราไม่รอช้า มุ่งหน้าไปที่ มอหินขาว อุทยานแห่งชาติภูแลนคา ซึ่งห่างจากตัววัดพระธาตุชัยภูมิไปประมาณ 20 กิโลเมตร 
🔸ระหว่างทางก็ภาวนาไม่ให้ฝนตก เพราะถ้าฝนตก เราจะไม่ได้รูปภาพสวย ๆ กลับมาเลย 555 เพราะทริปนี้เราตั้งใจอยากจะไปสัมผัสบรรยากาศของแต่ละอุทยาน และถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึกกัน 
🔸ถึงแล้ว มอหินขาว แว๊บแรกที่รู้สึกเลยก็คือ มันสวยมาก เป็นเสาหินทรายสีขาวขนาดใหญ่ที่เรียงรายกัน (ฟีลมันจะคล้าย ๆ กับสโตนเฮนจ์ ที่ประเทศอังกฤษเลย) อากาศ ณ ตอนนั้นคือดีมาก ลมพัดมาเรื่อย ๆ สบายตัวไม่ถึงขนาดร้อนมาก

🔸ถ่ายรูปกันเสร็จแล้ว ไม่ไกลมากเราก็ขับรถมุ่งหน้าไปที่ หม่องเบิ่งตะเวน ซึ่งก่อนที่จะเข้าพื้นที่ดังกล่าว เราจะต้องเสียค่าเข้าอุทยานฯ ก่อน พอเสียค่าเข้าแล้ว ที่จอดรถก็อยู่ไม่ไกลกันมาก เรารีบหาที่จอดและลงรถถ่ายรูปเลย
🔸หม่องเบิ่งตะเวน ถือเป็นจุดชมวิวไฮไลท์จุดหนึ่งของอุทยานแห่งชาติภูแลนคา ไม่ควรพลาด เราได้เก็บภาพสวย ๆ ได้เยอะเลย มีพื้นที่และวิวในการถ่ายภาพเยอะ อีกทั้งหากใครมาช่วงเย็นก็สามารถมาชมแสงสุดท้ายได้

🔸ไม่ไกลกันมากนัก จะเจอจุดชมวิวอีกจุดหนึ่ง ซึ่งเป็นไฮไลท์ของที่นี่เช่นกัน นั่นคือ จุดชมวิวผาหัวนาค

เดี๋ยวมาต่อใน Part ต่อไปจ้า