พอดีเมื่อเช้าได้ตอบกระทู้ที่ถามว่า ถือหุ้นนาน ทำให้รวยได้หรือไม่
ได้ตอบไปดังนี้ (ได้เพิ่มข้อความ และภาพประกอบไว้ในกระทู้นี้)
ถือหุ้นทน ไม่ได้ทำให้รวย
มันทำให้จนหรือทำให้รวยก็ได้
ตัวในภาพประกอบ ถือไปอีกยี่สิบปีก็เป็นได้แค่ วอลเเปเปอร์ เก็บไว้ดูเล่น
ส่วนตัวที่เชื่อว่า ยังมีแต้มต่อให้ถือ
ตอนนี้เฉพาะเงินปันผลสะสมรับ
ก็เกินเงินต้นที่ใช้ซื้อหุ้น ไปไม่รู้กี่เท่าตัวแล้ว
ถือมาตั้งแต่ พาร์ ๑๐ บาท
จนแตกพาร์เป็น ๑ บาท
ดังนั้น ในความเชื่อของผม ถือหุ้นทน จะทำให้รวยได้
ก็ต่อเมื่อถือหุ้นที่มีแต้มต่อ เพิ่มขึ้นจากตอนที่ซื้อมากๆ
คำว่าแต้มต่อ มันเป็นคำที่นักลงทุนไทยจำนวนมาก
ดัดแปลงมาจากคำว่า Margin Of Safey หรือ MOS เพื่อให้เข้าใจง่ายๆ
และแต้มต่อจะมีมากแค่ไหน ก็แล้วแต่จะกำหนดกันเอาเองว่า
อะไรคือแต้มต่อที่จะทำให้เราซื้อตัวนั้นจำนวนเท่าไร และถือหุ้นตัวนั้นๆไว้นานแค่ไหน
ยิ่งเขื่อว่า มีแต้มต่อมาก ก็ซื้อจำนวนมาก ถือนานกว่า หุ้นที่เชื่อว่ามีแต้มต่อน้อย
หรือไม่มีแต้มต่อเลย เพียงแต่ต้องการเสี่ยงดวง ก็ซื้อในจำนวนเงินที่เรารับผิดชอบได้อย่างสบายมากๆๆ
ผมกำหนดแต้มต่อของผมตามภาพประกอบ
เพราะเชื่อว่าเหมาะกับความสามารถตามปัจจัยพื้นฐานของตัวเอง
พวกดูกราฟ ก็อาจจะกำหนดแต้มต่อจากสํญญาณกราฟว่า
สัญญาณแบบไหน ถือว่ามีแต้มต่อที่ทำให้ตัวเองได้เปรียบ
เช่น rsi < 20 แล้วราคาหุ้นเริ่มนิ่ง ไม่มี lower low เป็นต้น
๙ แล้ว ๖ ๖ แล้ว ๙ ทำไมผมไม่เคยตอบกระทู้ที่ถามว่า จะซื้อหุ้นตัวไหนดี "กะจะถือนาน...ปี"
ได้ตอบไปดังนี้ (ได้เพิ่มข้อความ และภาพประกอบไว้ในกระทู้นี้)
ถือหุ้นทน ไม่ได้ทำให้รวย
มันทำให้จนหรือทำให้รวยก็ได้
ตัวในภาพประกอบ ถือไปอีกยี่สิบปีก็เป็นได้แค่ วอลเเปเปอร์ เก็บไว้ดูเล่น
ส่วนตัวที่เชื่อว่า ยังมีแต้มต่อให้ถือ
ตอนนี้เฉพาะเงินปันผลสะสมรับ
ก็เกินเงินต้นที่ใช้ซื้อหุ้น ไปไม่รู้กี่เท่าตัวแล้ว
ถือมาตั้งแต่ พาร์ ๑๐ บาท
จนแตกพาร์เป็น ๑ บาท
ก็ต่อเมื่อถือหุ้นที่มีแต้มต่อ เพิ่มขึ้นจากตอนที่ซื้อมากๆ
คำว่าแต้มต่อ มันเป็นคำที่นักลงทุนไทยจำนวนมาก
ดัดแปลงมาจากคำว่า Margin Of Safey หรือ MOS เพื่อให้เข้าใจง่ายๆ
และแต้มต่อจะมีมากแค่ไหน ก็แล้วแต่จะกำหนดกันเอาเองว่า
อะไรคือแต้มต่อที่จะทำให้เราซื้อตัวนั้นจำนวนเท่าไร และถือหุ้นตัวนั้นๆไว้นานแค่ไหน
ยิ่งเขื่อว่า มีแต้มต่อมาก ก็ซื้อจำนวนมาก ถือนานกว่า หุ้นที่เชื่อว่ามีแต้มต่อน้อย
หรือไม่มีแต้มต่อเลย เพียงแต่ต้องการเสี่ยงดวง ก็ซื้อในจำนวนเงินที่เรารับผิดชอบได้อย่างสบายมากๆๆ
ผมกำหนดแต้มต่อของผมตามภาพประกอบ
เพราะเชื่อว่าเหมาะกับความสามารถตามปัจจัยพื้นฐานของตัวเอง
พวกดูกราฟ ก็อาจจะกำหนดแต้มต่อจากสํญญาณกราฟว่า
สัญญาณแบบไหน ถือว่ามีแต้มต่อที่ทำให้ตัวเองได้เปรียบ
เช่น rsi < 20 แล้วราคาหุ้นเริ่มนิ่ง ไม่มี lower low เป็นต้น