ที่จริง ต้องตั้งกระทู้ว่า
รางวัลออมสินออกแล้ว ค่อยบอกเบอร์ จะใกล้เคียงความจริงมากกว่า
เพราะหวยนานๆออกที ขืนแทงทุกงวด ถูกแค่ไม่กี่งวด มีโอกาสหมดตัว
แต่สลากออมสินไม่ใช่
แทงไม่ถูกซักงวด เงินต้นก็ไม่หาย ถ้าไม่ถอนก่อน ๓ เดือน หลังจากวันที่ซื้อ
แถมครบกำหนด ยังได้ดอกเบี้ยงแถมติดปลายนวม
+++++++++++++++++ๅๅ
พอดีเดือนนี้ มีหวย เอ๊ยรางวัลสลากออมสิน มาออกที่พอร์ตของเพื่อน
ซึ่งได้เซนต์มอบอำนาจในการสั่งซื้อขายให้แบบถูกต้องตามกฏหมาย
ลองดูภาพประกอบก่อน
เดี๋ยวจะมาบอกเบอร์ให้ หลังเลขออกไปแล้ว
มาว่ากันถึงเรื่อง แล้วหวยมันออกได้ไง ??
ขอไล่เป็นข้อๆ แบบว่า อะไรคือแต้มต่อ ดังนี้
๑ ทำไมถึงกล้าซื้อแบบตัวเดียว อันเดียวทั้งพอร์ต
ทั้งๆที่ผมม้กจะเน้นว่า ให้ลงทุนแบบกระจายความเสี่ยง
ลงทุนแบบสวนสัตว์เขาดิน เสือตาย ก็ยังเหลือ สิงห์ กระทิง แรด ยีราฟ ม้าลาย ฯลฯ
ไม่เหมือนสวนสัตว์เชียงใหม่ หมีแพนด้าเป็นอะไรไป ก็เตรียมเอามือก่ายหน้าผาก
คำตอบ
ที่กล้าซื้อตัวเดียว อันเดียวทั้งพอร์ตให้เพื่อนก็เพราะ
ทำสิ่งที่ไม่เกินความรู้ ความสามารถตามปัจจัยพื้นฐานของตัวเอง และเพื่อน
เงินที่เอามาซื้อหุ้นตัวเดียวทั้งพอร์ต จึงใช้เงินแต่สิบเปอร์เซนต์ ของเงินที่เคยกำไรมา
๒ ทำไมทนดู ราคาหุ้นสวิงไปสวิงมา
นับสิบๆครั้งได้แบบไม่หงุดหงิดจนทนไม่ได้ จำเป็นต้องขาย
คำตอบ
ก. เพราะ "ประสบการณ์แนวตั้ง" เป็นแต้มต่อสำคัญ
ที่ทำให้เราชาชินกับความผิดหวังได้มากขึ้นเรื่อยๆ เวลาที่เสียให้กับความผิดหวัง จะน้อยลงไปเรื่อยๆ
แม้แต่ชาชินกับความสมหวังก็เช่นกัน เวลาที่ยินดีกับความสมหวัง ก็น้อยลงเช่นกัน
เพื่อหาทางเดินต่อไปจากปัจจุบัน
ประสบการณ์แนวตั้ง ทำให้ไม่เครียดจนคนสังเกตุเห็น ไม่อารมณ์ดีจนเวอร์ คนสงสัยว่าบ้า
ข. ตั้งแต่ซื้อขายหุ้นมา ผมไม่เคยมีเป้าหมายว่า
จะถือหุ้นนานแค่ไหน มีเป้าราคาที่จะขายอยู่ตรงไหน
จึงมีแรงกดดันแค่ ตราบใดที่ได้ยีลด์ดีกว่าฝากธนาคาร ก็ถือไปเรื่อยๆ
เรียกว่า ถือนาน กับราคาหุ้นที่จะขาย
มันเป็นแค่สิ่งที่เกิดตามมา ของการเชื่อว่า
หุ้นที่ถือ ยังมีแต้มต่อให้ถือเท่านั้น
๓ แล้วเริ่มไม่สบายใจกับราคาหุ้น จนต้องหาทางลดความกดดันเมื่อไร
คำตอบ
เมื่อราคาหุ้นเริ่มขึ้นไปซื้อขายกันที่ราคาอนาคต เพื่อรอผลประกอบการในอนาคต
ยีลด์ปันผล เริ่มลดต่ำกว่าเงินฝากประจำธนาคาร
อันดับแรก ที่มักจะเลือกทำคือ ขายหุ้นบางส่วน เอาเงินต้นขึ้นมาก่อน
อย่างอื่นค่อยว่ากันทีหลัง
๔ ทำไมขายล้างพอร์ต
คำตอบ มันต่อเนื่องมาจากข้อ ๓ เอาเงินต้นคืนแล้ว
หุ้นยังไปต่ออย่างรวดเร็ว แบบคาดเดาไม่ออก
เพราะเป็นคนที่ดูอนาคตของธุรกิจไม่ค่อยเป็น จะทำได้แค่สืบจากร่องรอยของอดีต มาหาปัจจุบันเท่านั้น
ลงท้าย ผมเลือกใช้เครื่องมือในการลงทุน ที่นานๆจะใช้ที
และจะเลือกใช้เครื่องมือนี้ กับหุ้นที่มีแต้มต่อมากๆแล้วเท่านั้น
เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจจะเกิดตามมา ในกรณีที่เกิดความเสียหาย
ก่อนเปิดตลาดภาคเช้าในวันขายล้างพอร์ตให้เพื่อน
ผมได้ตัดสินใจใช้เครื่องมือนี้ในการขาย
ผลออกมาเป็น "ก้อย" เลยคีย์ขาย เอามันดื้อๆแบบนั้นเลยครับ
สาบานได้ว่า เป็นเรื่องจริง
ลืมแต้มต่อสำคัญที่สุดไปเลย
ที่ผมถือหุ้นให้เพื่อนได้นานมากเป็นปี หรือหลายๆปี
เพราะเพื่อน ไม่มีความรู้เรื่องหุ้นเลย
แล้วได้ทำข้อตกลง แบบเจนเติลเมน อกรีเม้นท์ไว้ ตั้งแต่เริ่มซื้อขายผ่านออนไลน์ให้เพื่อนว่า
"ห้ามมาถามว่า ทำไม่ไม่ซื้อแบบนั้นแบบนี้ ทำไมไม่ขาย แบบนั้นแบบนี้ ทั้งๆที่มีกำไรมากแล้ว"
ก็เลยนั่งดูหุ้นได้แบบสบายใจ
เพราะไม่ใช่เงินเรา เอ๊ย เพราะไม่มีแรงกดดัน คาดหวังต่างๆนานา จากเจ้าของพอร์ต
๙ (ก้าว) แล้ว ๖ (หกล้ม) ๖ แล้ว ๙ ถึงหวยออกค่อยมาบอกเบอร์ แต่ก็อยากจะเล่าว่า หวยมันออกได้อย่างไร
รางวัลออมสินออกแล้ว ค่อยบอกเบอร์ จะใกล้เคียงความจริงมากกว่า
เพราะหวยนานๆออกที ขืนแทงทุกงวด ถูกแค่ไม่กี่งวด มีโอกาสหมดตัว
แต่สลากออมสินไม่ใช่
แทงไม่ถูกซักงวด เงินต้นก็ไม่หาย ถ้าไม่ถอนก่อน ๓ เดือน หลังจากวันที่ซื้อ
แถมครบกำหนด ยังได้ดอกเบี้ยงแถมติดปลายนวม
+++++++++++++++++ๅๅ
พอดีเดือนนี้ มีหวย เอ๊ยรางวัลสลากออมสิน มาออกที่พอร์ตของเพื่อน
ซึ่งได้เซนต์มอบอำนาจในการสั่งซื้อขายให้แบบถูกต้องตามกฏหมาย
ลองดูภาพประกอบก่อน
เดี๋ยวจะมาบอกเบอร์ให้ หลังเลขออกไปแล้ว
มาว่ากันถึงเรื่อง แล้วหวยมันออกได้ไง ??
ขอไล่เป็นข้อๆ แบบว่า อะไรคือแต้มต่อ ดังนี้
๑ ทำไมถึงกล้าซื้อแบบตัวเดียว อันเดียวทั้งพอร์ต
ทั้งๆที่ผมม้กจะเน้นว่า ให้ลงทุนแบบกระจายความเสี่ยง
ลงทุนแบบสวนสัตว์เขาดิน เสือตาย ก็ยังเหลือ สิงห์ กระทิง แรด ยีราฟ ม้าลาย ฯลฯ
ไม่เหมือนสวนสัตว์เชียงใหม่ หมีแพนด้าเป็นอะไรไป ก็เตรียมเอามือก่ายหน้าผาก
คำตอบ
ที่กล้าซื้อตัวเดียว อันเดียวทั้งพอร์ตให้เพื่อนก็เพราะ
ทำสิ่งที่ไม่เกินความรู้ ความสามารถตามปัจจัยพื้นฐานของตัวเอง และเพื่อน
เงินที่เอามาซื้อหุ้นตัวเดียวทั้งพอร์ต จึงใช้เงินแต่สิบเปอร์เซนต์ ของเงินที่เคยกำไรมา
๒ ทำไมทนดู ราคาหุ้นสวิงไปสวิงมา
นับสิบๆครั้งได้แบบไม่หงุดหงิดจนทนไม่ได้ จำเป็นต้องขาย
คำตอบ
ก. เพราะ "ประสบการณ์แนวตั้ง" เป็นแต้มต่อสำคัญ
ที่ทำให้เราชาชินกับความผิดหวังได้มากขึ้นเรื่อยๆ เวลาที่เสียให้กับความผิดหวัง จะน้อยลงไปเรื่อยๆ
แม้แต่ชาชินกับความสมหวังก็เช่นกัน เวลาที่ยินดีกับความสมหวัง ก็น้อยลงเช่นกัน
เพื่อหาทางเดินต่อไปจากปัจจุบัน
ประสบการณ์แนวตั้ง ทำให้ไม่เครียดจนคนสังเกตุเห็น ไม่อารมณ์ดีจนเวอร์ คนสงสัยว่าบ้า
ข. ตั้งแต่ซื้อขายหุ้นมา ผมไม่เคยมีเป้าหมายว่า
จะถือหุ้นนานแค่ไหน มีเป้าราคาที่จะขายอยู่ตรงไหน
จึงมีแรงกดดันแค่ ตราบใดที่ได้ยีลด์ดีกว่าฝากธนาคาร ก็ถือไปเรื่อยๆ
เรียกว่า ถือนาน กับราคาหุ้นที่จะขาย
มันเป็นแค่สิ่งที่เกิดตามมา ของการเชื่อว่า
หุ้นที่ถือ ยังมีแต้มต่อให้ถือเท่านั้น
๓ แล้วเริ่มไม่สบายใจกับราคาหุ้น จนต้องหาทางลดความกดดันเมื่อไร
คำตอบ
เมื่อราคาหุ้นเริ่มขึ้นไปซื้อขายกันที่ราคาอนาคต เพื่อรอผลประกอบการในอนาคต
ยีลด์ปันผล เริ่มลดต่ำกว่าเงินฝากประจำธนาคาร
อันดับแรก ที่มักจะเลือกทำคือ ขายหุ้นบางส่วน เอาเงินต้นขึ้นมาก่อน
อย่างอื่นค่อยว่ากันทีหลัง
๔ ทำไมขายล้างพอร์ต
คำตอบ มันต่อเนื่องมาจากข้อ ๓ เอาเงินต้นคืนแล้ว
หุ้นยังไปต่ออย่างรวดเร็ว แบบคาดเดาไม่ออก
เพราะเป็นคนที่ดูอนาคตของธุรกิจไม่ค่อยเป็น จะทำได้แค่สืบจากร่องรอยของอดีต มาหาปัจจุบันเท่านั้น
ลงท้าย ผมเลือกใช้เครื่องมือในการลงทุน ที่นานๆจะใช้ที
และจะเลือกใช้เครื่องมือนี้ กับหุ้นที่มีแต้มต่อมากๆแล้วเท่านั้น
เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจจะเกิดตามมา ในกรณีที่เกิดความเสียหาย
ก่อนเปิดตลาดภาคเช้าในวันขายล้างพอร์ตให้เพื่อน
ผมได้ตัดสินใจใช้เครื่องมือนี้ในการขาย
ผลออกมาเป็น "ก้อย" เลยคีย์ขาย เอามันดื้อๆแบบนั้นเลยครับ
สาบานได้ว่า เป็นเรื่องจริง
ลืมแต้มต่อสำคัญที่สุดไปเลย
ที่ผมถือหุ้นให้เพื่อนได้นานมากเป็นปี หรือหลายๆปี
เพราะเพื่อน ไม่มีความรู้เรื่องหุ้นเลย
แล้วได้ทำข้อตกลง แบบเจนเติลเมน อกรีเม้นท์ไว้ ตั้งแต่เริ่มซื้อขายผ่านออนไลน์ให้เพื่อนว่า
"ห้ามมาถามว่า ทำไม่ไม่ซื้อแบบนั้นแบบนี้ ทำไมไม่ขาย แบบนั้นแบบนี้ ทั้งๆที่มีกำไรมากแล้ว"
ก็เลยนั่งดูหุ้นได้แบบสบายใจ
เพราะไม่ใช่เงินเรา เอ๊ย เพราะไม่มีแรงกดดัน คาดหวังต่างๆนานา จากเจ้าของพอร์ต