สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 3
คิดว่า ถ้ามีประเทศอื่นๆที่น่าสนใจ เปิดฟรีวีซ่า และมีโลว์คอสต์ไปลง คนไทยก็จะเลิกบ้าเห่อญี่ปุ่นไปเอง (ตามธรรมชาติของสิ่งมีชีวิตที่ถูกเรียกว่าคนไทย)
ส่วนกระแส J-POP มันเคยบูมมาก่อนที่ K-POP จะเข้ามา ช่วงนั้นยุค 90 ก็มาแต่มันประเดี๋ยวประด๋าว และเฉพาะกลุ่มากๆ เพราะ J POP ไม่ค่อยทำตลาดเมืองไทย
ซึ่งอาจจะแตกต่างจากเกาหลีที่เขาคิดว่านั่นคือ สินค้าของเขาที่เขาต้องเอามามาขาย
" ซา วาส ดี ค๊าบบบ โพม ร้าก คุ่น" เต็มไปหมด
อีกประการ คือ คนเสพงานเพลง หรือดนตรีทางญี่ปุ่น ส่วนใหญ่ค่อนข้างมีความรู้ ทางดนตรีหรือแนวเพลงเฉพาะพอสมควร ไม่ใช่ติ่งแนวลูซเซอร์ไร้สาระไปวันๆ ที่ชอบนักร้องเพราะความหล่อ
ส่วนละครญี่ปุ่น มันไม่ถูกจริตคนไทย เหมือนของเกาหลี เพราะเนื้อหาไม่มันได้มาแนว คุณชายเย็นชา กับ e-นังวุ่นวาย หรือ แม่ผัวขี้อิจฉา แบบอาจุงม่าเกาหลี พระ-นางญี่ปุ่น คือ real ไม่ต้องหล่อ สวย ผิดมนุษย์มนา เนื้อหาในเรื่องพูดถึงทำงาน การใช้ชีวิตไปมากกว่าครึ่ง คนไทยไม่ชอบบริโภคอะไรที่เป็นสาระ แต่ชอบอะไรที่เป็นเมโลดราม่า หนีจากโลกความจริง (อันโหดร้าย) ไปให้มากที่สุด
สรุปคือ คงไม่บูมไปกว่านี้อีกแล้ว
ส่วนกระแส J-POP มันเคยบูมมาก่อนที่ K-POP จะเข้ามา ช่วงนั้นยุค 90 ก็มาแต่มันประเดี๋ยวประด๋าว และเฉพาะกลุ่มากๆ เพราะ J POP ไม่ค่อยทำตลาดเมืองไทย
ซึ่งอาจจะแตกต่างจากเกาหลีที่เขาคิดว่านั่นคือ สินค้าของเขาที่เขาต้องเอามามาขาย
" ซา วาส ดี ค๊าบบบ โพม ร้าก คุ่น" เต็มไปหมด
อีกประการ คือ คนเสพงานเพลง หรือดนตรีทางญี่ปุ่น ส่วนใหญ่ค่อนข้างมีความรู้ ทางดนตรีหรือแนวเพลงเฉพาะพอสมควร ไม่ใช่ติ่งแนวลูซเซอร์ไร้สาระไปวันๆ ที่ชอบนักร้องเพราะความหล่อ
ส่วนละครญี่ปุ่น มันไม่ถูกจริตคนไทย เหมือนของเกาหลี เพราะเนื้อหาไม่มันได้มาแนว คุณชายเย็นชา กับ e-นังวุ่นวาย หรือ แม่ผัวขี้อิจฉา แบบอาจุงม่าเกาหลี พระ-นางญี่ปุ่น คือ real ไม่ต้องหล่อ สวย ผิดมนุษย์มนา เนื้อหาในเรื่องพูดถึงทำงาน การใช้ชีวิตไปมากกว่าครึ่ง คนไทยไม่ชอบบริโภคอะไรที่เป็นสาระ แต่ชอบอะไรที่เป็นเมโลดราม่า หนีจากโลกความจริง (อันโหดร้าย) ไปให้มากที่สุด
สรุปคือ คงไม่บูมไปกว่านี้อีกแล้ว
ความคิดเห็นที่ 55
ขอค้านเรื่องซีรีย์หน่อย
ใครที่บอกว่าซีรีย์เกาหลีมีแต่พวกนางเอกกับพระเอกไร้สมอง
แสดงว่าดูผ่าน ๆ จริง ๆ นะ แล้วก็ไม่ได้รู้อะไรเลย แต่อวดรู้ ข่มรสนิยมคนอื่น
จริง ๆ แล้วซีรีย์เกาหลีมีแนวอาชีพเยอะมาก
เราดูซีรีย์วงการหมอ (เราดูมาสี่เรื่อง ตั้งแต่ผ้าตัดช่องท้องสองเรื่อง ทรวงอกเรื่องหนึ่ง ผ่าตัดสมองอีกเรื่องหนึ่ง)
วงการนักข่าว วงการนักแสดง วงการโปรดิวเซอร์ทีวี และโรงละคร วงการทนาย
วงการนางงาม เกมบริษัท วงการนิตยสาร วงการการเมือง
อย่างธุรกิจการศึกษา การคอร์รัปชั่นของโรงเรียน การช่วยกันปกปิดความผิดของครูและผอ. ที่ละเมิดต่อกฏหมาย
ปัญหา ของ ๆ เด็ก ๆ ในโรงเรียน ทั้งการกลั่นแกล้ง ข่มขู่คุกคาม ที่นำไปสู่ปัญหาสังคมและการฆ่าตัวตาย
โอ๊ยยยย สาระทั้งนั้น อย่างถ้าเราไม่ดูวงการทนาย เราจะไม่รู้เลยว่าเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี สามารถกลับคำให้การในชั้นศาลได้โดยไม่ติดคุก
การสืบสวนสอบสวนของตำรวจ คือมีอาชีพไรอีกที่เกาหลียังไม่ทำ
เรานึกออกอาชีพเดียวคือนักบินอวกาศ
ถามว่าทำไมเกาหลีถึงตีตลาดได้มาก ขอพูดในกรณีเป็นแนวสายอาชีพเหมือนกัน
เพราะ
1. ละครของเขามีเรื่องการทำงานเข้ามาเกี่ยวข้อง ใครชอบสายอาชีพก็ดูได้ ความฟินของพระนางโผล่มาแว้บ ๆ บางทีแว้บมาไม่ถึง 3 นาที
2. ละครของเขามีเรื่องความรักใคร่เข้ามาเกี่ยวข้อง แม้ในตอน ๆ นั้นจะโผล่เข้ามา สองสามฉาก ฉากละสามนาที แต่ฟินแรงมาก ชนิดที่ละครไทยส่วนใหญ่เทียบไม่ติด ใครชอบแนวรักใคร่ก็ดูได้
3. ถ้าใครชอบให้ละครมีทั้งอาชีพและรักใคร่ ก็แน่นอนว่าต้องชอบ เราก็เป็นตลาดกลุ่มนี้
4. นี่ยังไม่รวมเรื่องของครอบครัว ซีรีย์เกาหลีจะมีเรื่องครอบครัวโผล่มาแว้บ ๆ อีกเหมือนกัน
แต่มันเป็นแว้บ ๆ ที่เราจะไม่กดผ่าน เราจะเห็นความมีบทบาทของตัวละครแต่ละตัวในครอบครัว ที่มันช่วยสอนเราได้ คนชอบดูจะรู้สึกอบอุ่น คนไม่ชอบดูก็ยังดูได้ เพราะมันแว้บจริง ๆ
ฉะนั้นอย่าพูดเลยว่าซีรีย์เกาหลีมีแต่แนวไร้สมอง ถ้าคุณไม่ได้ดูมันจริง ๆ
เพราะมันจะทำให้คุณดูไร้สมองด้วย ที่ไม่รู้จริงแต่ก็พ่นคำพูดไม่จริงออกมา
ใครที่บอกว่าซีรีย์เกาหลีมีแต่พวกนางเอกกับพระเอกไร้สมอง
แสดงว่าดูผ่าน ๆ จริง ๆ นะ แล้วก็ไม่ได้รู้อะไรเลย แต่อวดรู้ ข่มรสนิยมคนอื่น
จริง ๆ แล้วซีรีย์เกาหลีมีแนวอาชีพเยอะมาก
เราดูซีรีย์วงการหมอ (เราดูมาสี่เรื่อง ตั้งแต่ผ้าตัดช่องท้องสองเรื่อง ทรวงอกเรื่องหนึ่ง ผ่าตัดสมองอีกเรื่องหนึ่ง)
วงการนักข่าว วงการนักแสดง วงการโปรดิวเซอร์ทีวี และโรงละคร วงการทนาย
วงการนางงาม เกมบริษัท วงการนิตยสาร วงการการเมือง
อย่างธุรกิจการศึกษา การคอร์รัปชั่นของโรงเรียน การช่วยกันปกปิดความผิดของครูและผอ. ที่ละเมิดต่อกฏหมาย
ปัญหา ของ ๆ เด็ก ๆ ในโรงเรียน ทั้งการกลั่นแกล้ง ข่มขู่คุกคาม ที่นำไปสู่ปัญหาสังคมและการฆ่าตัวตาย
โอ๊ยยยย สาระทั้งนั้น อย่างถ้าเราไม่ดูวงการทนาย เราจะไม่รู้เลยว่าเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี สามารถกลับคำให้การในชั้นศาลได้โดยไม่ติดคุก
การสืบสวนสอบสวนของตำรวจ คือมีอาชีพไรอีกที่เกาหลียังไม่ทำ
เรานึกออกอาชีพเดียวคือนักบินอวกาศ
ถามว่าทำไมเกาหลีถึงตีตลาดได้มาก ขอพูดในกรณีเป็นแนวสายอาชีพเหมือนกัน
เพราะ
1. ละครของเขามีเรื่องการทำงานเข้ามาเกี่ยวข้อง ใครชอบสายอาชีพก็ดูได้ ความฟินของพระนางโผล่มาแว้บ ๆ บางทีแว้บมาไม่ถึง 3 นาที
2. ละครของเขามีเรื่องความรักใคร่เข้ามาเกี่ยวข้อง แม้ในตอน ๆ นั้นจะโผล่เข้ามา สองสามฉาก ฉากละสามนาที แต่ฟินแรงมาก ชนิดที่ละครไทยส่วนใหญ่เทียบไม่ติด ใครชอบแนวรักใคร่ก็ดูได้
3. ถ้าใครชอบให้ละครมีทั้งอาชีพและรักใคร่ ก็แน่นอนว่าต้องชอบ เราก็เป็นตลาดกลุ่มนี้
4. นี่ยังไม่รวมเรื่องของครอบครัว ซีรีย์เกาหลีจะมีเรื่องครอบครัวโผล่มาแว้บ ๆ อีกเหมือนกัน
แต่มันเป็นแว้บ ๆ ที่เราจะไม่กดผ่าน เราจะเห็นความมีบทบาทของตัวละครแต่ละตัวในครอบครัว ที่มันช่วยสอนเราได้ คนชอบดูจะรู้สึกอบอุ่น คนไม่ชอบดูก็ยังดูได้ เพราะมันแว้บจริง ๆ
ฉะนั้นอย่าพูดเลยว่าซีรีย์เกาหลีมีแต่แนวไร้สมอง ถ้าคุณไม่ได้ดูมันจริง ๆ
เพราะมันจะทำให้คุณดูไร้สมองด้วย ที่ไม่รู้จริงแต่ก็พ่นคำพูดไม่จริงออกมา
ความคิดเห็นที่ 6
จริงๆ กระแสญี่ปุ่นเข้ามาไทย 20 กว่าปีแล้ว เข้ามาก่อนกระแสเกาหลีนานมากกกกกกกกกกกกกกกกกก และก็ยังคงปักหลักแน่นหนาอยู่จนถึงปัจจุบัน
- ด้านวงการเพลง ผมว่าในไทย กระแสเกาหลีมาแรงกว่า เพราะเพลงเกาหลี K-Pop จะแดนซ์ได้มันกว่า ญี่ปุ่นที่ค่อนข้างเป็นเอกลักษณ์ (แต่ J-Rock ญี่ปุ่น มันกว่า แต่ไม่ค่อยดังในไทย ผมชอบมากอย่าง One OK Rock เพลงญี่ปุ่นที่เมกัน จ๋ามาก)
--- ด้านละครและภาพยนต์ ผมว่าคนไทยบ้าซีรีส์เกาหลี ไต้หวันที่ค่อนข้างน้ำเน่า เหมาะกับคนไทยมากกว่าญี่ปุ่นที่ชอบสร้างเรื่องอาชีพ ชีวิตจริง ซึ่งนั่นแหล่ะ ผมชอบแบบบญี่ปุ่นมาก มัน real ดี ไม่เพ้อเจ้อ เบื่อความน้ำเน่าของไทยพอ ไม่อยากไปหาของเกาหลี หรือไต้หวันเพิ่ม
- ด้านการท่องเที่ยว อันนี้ เริ่มบูมถึงขีดสุด ตอนที่ญี่ปุ่นยกเลิกวีซ่าให้ไทย ประกอบกับค่าเงินเยนลดลง ทำให้การไปเที่ยวญี่ปุ่นถูกลงมากกกกกกกกกก ใครๆ ก็ไปญี่ปุ่นได้ แม้จะมีเงินเดือนแค่ 12,000 บาท ก็ยังไปได้เลย รีวิวญี่ปุ่นก็มีมากสุดแล้วในพันทิป จนเห็นแล้วเริ่มชินชา ดูไม่ Exotic สำหรับผมเท่าไหร่แล้ว เพราะใครๆก็ไปได้ แต่เชื่อว่า กระแสคนไทยแห่ไปญี่ปุ่น ยังอีกนานนนนนนนนนนนน หรืออาจจะตลอดไป เพราะใกล้ ราคาไม่แพง ที่เที่ยวมีครบ ประกอบกับไทยเราเป็นอาณานิคมทางวัฒนธรรมของญี่ปุ่นมานาน ทั้งสิ่งของ เครื่องใช้ รถยนต์ อาหาร การ์ตูน เกมส์ ฯลฯ ที่เรารับมาจากญี่ปุ่น มันเลยซึมลึกเข้าไปในสมองโดยไม่รู้ตัวแล้ว ดังนั้นคนไทยไปญี่ปุ่น คราวใด ก็ฟินทุกครั้ง ซึ่งชาติอื่นอย่าง ฝรั่ง คงไม่ฟินญี่ปุ่นเท่าไทยอย่างแน่นอน (เวลาไปงาน ไทยเที่ยวไทย ไปทั่วโลก ซุ้มญี่ปุ่นจะมีมากสุดเสมอ ประมาณ 70% ของงานเลย)
--- ด้านอาหาร ด้านมังงะ ด้านเทคโลยี เรื่องอาหาร พูดเลย คนไทยกินอาหารญี่ปุ่นพร้อมกัยอาหารไทยมาตั้งแต่เกิด เลยมีความเคยชินอาหารญี่ปุ่นกันมานาน จะเห็นได้ว่า ในห้างต่างๆ ร้านอาหารญี่ปุ่นมีมากกว่าร้านอาหารไทยของเราเองซ่ะอีก เพราะ ญี่ปุ่นได้ยื่นวัฒนธรรมนี้ให้ไทยมานานแล้ว แล้วไทยก็ยินดีรับไว้ด้วยความเต็มใจ สังเกตุซิ่ เทศกาลอาหารญี่ปุ่น เวลามี คนไทยก็เข้าไปดูเยอะ หรืออย่างร้านอาหาร ที่จำลองสถานที่ในญี่ปุ่นมาไว้ ก็ขายดีในไทยมาก อย่างที่ศรีราชา
มังงะ เราดูการ์ตูนยุ่นมาตั้งแต่เด็ก วัฒนธรรมยุ่นซึมเข้าหัวคนไทยที่อายุ 30-40 ปี มามากครับ
เทคโนโลยี เรารับเทคโนโลยีของเค้ามาใช้ตั้งแต่ตู้เย็น ไมโครเวฟ ทีวี หลอดไฟ รถยนต์ เค้ากลืนเราไปนานแล้วครับ เราแค่ไม่รู้ตัว เพราะเป็นชีวิตประจำวันเราไปแล้ว
- ด้านวงการเพลง ผมว่าในไทย กระแสเกาหลีมาแรงกว่า เพราะเพลงเกาหลี K-Pop จะแดนซ์ได้มันกว่า ญี่ปุ่นที่ค่อนข้างเป็นเอกลักษณ์ (แต่ J-Rock ญี่ปุ่น มันกว่า แต่ไม่ค่อยดังในไทย ผมชอบมากอย่าง One OK Rock เพลงญี่ปุ่นที่เมกัน จ๋ามาก)
--- ด้านละครและภาพยนต์ ผมว่าคนไทยบ้าซีรีส์เกาหลี ไต้หวันที่ค่อนข้างน้ำเน่า เหมาะกับคนไทยมากกว่าญี่ปุ่นที่ชอบสร้างเรื่องอาชีพ ชีวิตจริง ซึ่งนั่นแหล่ะ ผมชอบแบบบญี่ปุ่นมาก มัน real ดี ไม่เพ้อเจ้อ เบื่อความน้ำเน่าของไทยพอ ไม่อยากไปหาของเกาหลี หรือไต้หวันเพิ่ม
- ด้านการท่องเที่ยว อันนี้ เริ่มบูมถึงขีดสุด ตอนที่ญี่ปุ่นยกเลิกวีซ่าให้ไทย ประกอบกับค่าเงินเยนลดลง ทำให้การไปเที่ยวญี่ปุ่นถูกลงมากกกกกกกกกก ใครๆ ก็ไปญี่ปุ่นได้ แม้จะมีเงินเดือนแค่ 12,000 บาท ก็ยังไปได้เลย รีวิวญี่ปุ่นก็มีมากสุดแล้วในพันทิป จนเห็นแล้วเริ่มชินชา ดูไม่ Exotic สำหรับผมเท่าไหร่แล้ว เพราะใครๆก็ไปได้ แต่เชื่อว่า กระแสคนไทยแห่ไปญี่ปุ่น ยังอีกนานนนนนนนนนนนน หรืออาจจะตลอดไป เพราะใกล้ ราคาไม่แพง ที่เที่ยวมีครบ ประกอบกับไทยเราเป็นอาณานิคมทางวัฒนธรรมของญี่ปุ่นมานาน ทั้งสิ่งของ เครื่องใช้ รถยนต์ อาหาร การ์ตูน เกมส์ ฯลฯ ที่เรารับมาจากญี่ปุ่น มันเลยซึมลึกเข้าไปในสมองโดยไม่รู้ตัวแล้ว ดังนั้นคนไทยไปญี่ปุ่น คราวใด ก็ฟินทุกครั้ง ซึ่งชาติอื่นอย่าง ฝรั่ง คงไม่ฟินญี่ปุ่นเท่าไทยอย่างแน่นอน (เวลาไปงาน ไทยเที่ยวไทย ไปทั่วโลก ซุ้มญี่ปุ่นจะมีมากสุดเสมอ ประมาณ 70% ของงานเลย)
--- ด้านอาหาร ด้านมังงะ ด้านเทคโลยี เรื่องอาหาร พูดเลย คนไทยกินอาหารญี่ปุ่นพร้อมกัยอาหารไทยมาตั้งแต่เกิด เลยมีความเคยชินอาหารญี่ปุ่นกันมานาน จะเห็นได้ว่า ในห้างต่างๆ ร้านอาหารญี่ปุ่นมีมากกว่าร้านอาหารไทยของเราเองซ่ะอีก เพราะ ญี่ปุ่นได้ยื่นวัฒนธรรมนี้ให้ไทยมานานแล้ว แล้วไทยก็ยินดีรับไว้ด้วยความเต็มใจ สังเกตุซิ่ เทศกาลอาหารญี่ปุ่น เวลามี คนไทยก็เข้าไปดูเยอะ หรืออย่างร้านอาหาร ที่จำลองสถานที่ในญี่ปุ่นมาไว้ ก็ขายดีในไทยมาก อย่างที่ศรีราชา
มังงะ เราดูการ์ตูนยุ่นมาตั้งแต่เด็ก วัฒนธรรมยุ่นซึมเข้าหัวคนไทยที่อายุ 30-40 ปี มามากครับ
เทคโนโลยี เรารับเทคโนโลยีของเค้ามาใช้ตั้งแต่ตู้เย็น ไมโครเวฟ ทีวี หลอดไฟ รถยนต์ เค้ากลืนเราไปนานแล้วครับ เราแค่ไม่รู้ตัว เพราะเป็นชีวิตประจำวันเราไปแล้ว
ความคิดเห็นที่ 9
ผมมองว่า วงการบันเทิงญ่ปุ่นสร้างสรรค์ผลงานออกมา เป้าหมายหลักคือคนญี่ปุ่นครับ ไม่ใช่เพื่อให้บูมในประเทศอื่น ...
ทั้งเพลง หนัง ซีรี่ส์ อนิเมะ วาไรตี้ต่างๆ ... สร้างโดยญี่ปุ่น สร้างแบบญี่ปุ่น โดยญี่ปุ่น เพื่อญี่ปุ่น ... เขาไม่แคร์หรอกว่าคนประเทศอื่นจะชอบมั้ย คือถ้าอยากดูก็มาซื้อไปสิ การโปรโมทต่างประเทศจึงมีให้เห็นไม่มาก โดยเฉพาะเรื่องเพลงที่แฟนเพลงญี่ปุ่นคงรู้ดีว่าอยากได้ต้องหาออนไลน์เท่านั้น ตลาดเพลงญี่ปุ่นใหญ่ขนาดนั้นจะทุ่มโปรโมทต่างประเทศให้เสียเวลาทำไม...
เพราะงั้น คนที่จะตามญี่ปุ่นจริงๆจะเป็นคนกลุ่มหนึ่งที่ชอบและเข้าใจ"ความเป็นญ่ปุ่น"ที่อยู่ในสื่อเหล่านั้นทั้งหมดครับ ... เหมือนที่จขกท บอกว่าตัวเองรู้สึกเฉยๆ คนส่วนใหญ่ก็อาจจะรู้สึกเฉยๆ มีก็ดู ไม่มีก็ไม่ตาม ต่างจากของเกาหลีที่จัดเคมเปญโหมโปรโมทอย่างต่อเนื่อง คนส่วนใหญ่เลยเข้าถึงบันเทิงเกาหลีได้ง่ายกว่า ... ส่วนคนที่ตามญี่ปุ่นก็จะเป็นคนบางกลุ่มที่ชอบมาตั้งแต่ต้น จะมีบูมขึ้นมาก็คงไม่ได้มากกว่าที่มีอยู่เท่าไหร่หรอกครับ...
ทั้งเพลง หนัง ซีรี่ส์ อนิเมะ วาไรตี้ต่างๆ ... สร้างโดยญี่ปุ่น สร้างแบบญี่ปุ่น โดยญี่ปุ่น เพื่อญี่ปุ่น ... เขาไม่แคร์หรอกว่าคนประเทศอื่นจะชอบมั้ย คือถ้าอยากดูก็มาซื้อไปสิ การโปรโมทต่างประเทศจึงมีให้เห็นไม่มาก โดยเฉพาะเรื่องเพลงที่แฟนเพลงญี่ปุ่นคงรู้ดีว่าอยากได้ต้องหาออนไลน์เท่านั้น ตลาดเพลงญี่ปุ่นใหญ่ขนาดนั้นจะทุ่มโปรโมทต่างประเทศให้เสียเวลาทำไม...
เพราะงั้น คนที่จะตามญี่ปุ่นจริงๆจะเป็นคนกลุ่มหนึ่งที่ชอบและเข้าใจ"ความเป็นญ่ปุ่น"ที่อยู่ในสื่อเหล่านั้นทั้งหมดครับ ... เหมือนที่จขกท บอกว่าตัวเองรู้สึกเฉยๆ คนส่วนใหญ่ก็อาจจะรู้สึกเฉยๆ มีก็ดู ไม่มีก็ไม่ตาม ต่างจากของเกาหลีที่จัดเคมเปญโหมโปรโมทอย่างต่อเนื่อง คนส่วนใหญ่เลยเข้าถึงบันเทิงเกาหลีได้ง่ายกว่า ... ส่วนคนที่ตามญี่ปุ่นก็จะเป็นคนบางกลุ่มที่ชอบมาตั้งแต่ต้น จะมีบูมขึ้นมาก็คงไม่ได้มากกว่าที่มีอยู่เท่าไหร่หรอกครับ...
ความคิดเห็นที่ 53
กระแสญี่ปุ่นมีมาตั้งสมัยรุ่นพ่อรุ่นแม่แล้วนะคะ ตอนนั้นสมัยแม่เรานี่ก็มีกระแสของโมโมเอะ ยามางุจิ โทโมคาสึ มิอุระ ฮิเดกิ ไซโจ้ แล้วก็ดูพวกอุลตร้าแมน ยอดมนุษย์ หน้ากากเสือกันแล้ว เห็นว่ามีละครเกี่ยวกับเทนนิสด้วย(จำไม่ได้ว่าชื่ออะไร แต่แม่เล่าให้ฟัง)
แล้วกระแสเจป็อปมันก็บูมมาก่อน ซึ่งเอาตรงๆเราว่าเราไม่อยากให้เป็นกระแสหนักหน่วงเหมือนเกาหลีอ่ะ
สมัยเจป็อปบูมนี่เราชอบญี่ปุ่นมากแต่เราก็เอียนสุดๆ อะไรก็ชาเขียว ชาเขียวเต็มไปหมด ตอนนั้นมีคนออกมาบ่นไม่แพ้กระแสเกาหลีในตอนนี้เลยนะคะ
ถ้าจะมีกระแสเจป็อป ขออะไรที่มันไม่มากเกินไป แต่อยู่ในระดับที่พาศิลปินมาได้ก็พอ(Kat-tunจ๋า ชาตินี้จะได้ดูคอนในไทยมั้ยคะะะ)
แล้วสังเกตุจากหลายคอมเม้น บางคนเข้าใจผิดเกี่ยวกับเกาหลีพอสมควรเลยนะ คือมองผิวเผินเหมือนที่ติ่งเกาหลีมองไอดอลญี่ปุ่นว่ามีดีแต่แบ๊วอะไร เต้นง้องแง้ง เพลงคิขุพวกนี้เลย
ขอทำความเข้าใจสักนิดนะคะ วงการเพลงเกาหลีก็คล้ายญี่ปุ่นนั่นแหล่ะ ตรงที่ไอดอลไม่ใช่ทุกสิ่งทุกอย่างของเขาค่ะ ในวงการเพลงเขาก็มีศิลปินมืออาชีพที่เน้นเรื่องเพลงโดยเฉพาะ เน้นขายเสียงโดยเฉพาะ และศิลปินพวกนั้นไม่ได้หน้าตาดีอะไรเลย แต่เขาเน้นขายงานเพลงของเขา ขายเพอร์ฟอร์แมนซ์ ร้องสด ต่างจากไอดอลที่พวกคุณเห็นโดยสิ้นเชิง ไม่รู้รู้กันรึเปล่าว่าศิลปินญี่ปุ่นเองก็มีให้สัมภาษณ์ว่าเขาก็ศึกษางานเพลงจากศิลปินเกาหลีเหมือนกันและชมว่าศิลปินเกาหลีเองก็ร้องเพลงดี ทำเพลงดี ทำการตลาดน่าสนใจ ย้ำว่าศิลปินนะคะไม่ใช่ไอดอล
และเกาหลีเน้นFirst Impressionว่าเป็นวงที่เต้นพร้อม เน้นเสียง แต่ในความเป็นจริง คุณลองไปถามแฟนคลับก็ได้ค่ะว่าเต้นเป๊ะร้องเป๊ะ เพอร์เฟ็คจริงไหม ซึ่งพวกเขาตอบว่าไม่ใช่แน่นอน ไม่งั้นจะมีกระทู้คุยต่อเนื่องหรอว่า ยัยคนนี้ร้องไม่ดี เต้นง้องแง้ง ทำไมวันนี้เต้นไม่พร้อม ทำไมเต้นผิด อู้ ร้องเพี้ยน เสียงสั่น ไปจนถึงแต่งตัวไม่ดี น้ำหนักขึ้นมาเยอะเกินไป ผอมเกินไปด้วยซ้ำ ล้อยันหลุมอากาศเลย เราเองก็ลองไปดูไลฟ์เค้าแบบละเอียดก็พบว่ามีข้อผิดพลาดเหมือนๆกัน ไม่มีเพอร์เฟ็คหรอก
ญี่ปุ่นกับเกาหลีมีสไตล์การทำละครที่ต่างกัน แต่ทั้งสองฝั่งก็มีความเหมือนตรงที่นักแสดงเน้นขายฝีมือ ไม่ได้เน้นหน้าตาค่ะ อย่างพวกนักแสดงหน้าตาดีๆอย่างคิมแตฮีนี่ถึงคนเกาหลีจะชมว่าสวย แต่คนเกาหลีก็วิพากษ์วิจารณ์การแสดงของเธอหนักมากว่าเล่นได้ไม่ดี พวกพระเอกตัวท็อปของเกาหลีนี่น้อยมากกที่จะหน้าตาดี อย่างพระเอกแดจังกึมนี่ดังนะ แต่เขาหล่อมั้ย ก็ไม่ค่ะ แต่เขาดังได้เพราะเล่นได้ทุกบทบาทเเละเล่นได้ดีมากด้วยไม่ติดภาพลักษณ์ นักแสดงเกาหลีหน้าตาคนละแบบกับไอดอลเลยด้วยซ้ำ แยกหน้าได้ง่ายเลย(ไอดอลนี่บางทีเห็นแล้วงงหน้าตามาก) ไม่เน้นสวยแต่ต้องมีเสน่ห์ จะดังได้นี่วัดกันที่ทักษะการแสดงและความหลากหลายของบทค่ะ แล้ววงการการแสดงแข่งขันสูงมาก เล่นแข็งอยู่ไม่ได้ ไม่เกิดแน่นอน
พล็อตของละครเกาหลีกับญี่ปุ่นก็มีความสมจริงเท่ากันค่ะ แต่ที่เมืองไทยเอามานี่เขาเอามาแต่ละครกุ๊กกิ๊กซึ่งไอพวกละครเรตติ้งสูงๆบ้านเขาเขาก็เน้นเนื้อเรื่องกันทั้งนั้น สายอาชีพเขาก็หาข้อมูลแน่น พวกที่ไปดูซีรี่ย์เกาหลีก็เพราะว่าเขาเอียนละครไทยที่ไร้ความสมจริง บทตบตีแย่งชิงทั้งนั้นล่ะค่ะ เราอาจไม่ได้ดูซีรี่ย์เขามาก แต่ก็มีหลายเรื่องที่เราเคยดูและเราเห็นว่ามันดีจริงๆ อาชีพหมอ อาชีพอัยการ แม้แต่ดีไซน์เนอร์ก็มี หนังพีเรียดบางเรื่องก็บทดีมาก ข้อมูลเขาแน่นไม่แพ้ซีรี่ย์ญี่ปุ่น และทั้งญี่ปุ่นกับเกาหลีก็มีเอกลักษณ์ในการทำซีรี่ย์ค่ะ
แต่แนวชีวิตญี่ปุ่นจะทำได้ดีกว่า ส่วนแนวละครแอคชั่นบทสืบสวน เกาหลีมีองค์ประกอบที่ดีกว่า แนวอาชีพทั้งสองประเทศทำได้ดีไม่แพ้กัน
แล้วญี่ปุ่นก็มีละครแบบแย่งผู้ชายนะคะ แต่เค้าไม่ได้ฉายช่วงPrime time เค้ามีไว้สำหรับแม่บ้านตอนกลางวันค่ะ
และวงการของไต้หวัน นักแสดงเขาก็คัดเข้มงวดไม่แพ้สองประเทศที่ว่า อย่างรางวัลม้าทองคำนี่ได้กันยากมากๆ แล้วพวกนักแสดงไต้หวันแต่ละคนก็เก่ง เล่นได้หลายบทบาท และยิ่งจับมือกับฮ่องกงและจีนแผ่นดินใหญ่ เขาทำได้ยอดเยี่ยมมาก หนังพีเรียดหลายเรื่องนี่บทเขาดีกว่าของญี่ปุ่นและเกาหลีอีกนะ อย่างหลานหลิงหวาง ลำนำทะเลทราย ปู้ปู้จิงซิน ดีทั้งคิวบู๊ การชิงไหวพริบ วางแผน กลยุทธ์ทั้งอำนาจปกครองและกลยุทธ์ศึกสงคราม เพลงประกอบเขาก็มีเอกลักษณ์ ซาวน์ดนตรีสะท้อนวัฒนธรรมแต่ไม่ล้าสมัย นักแสดงบางคนก็เก่งทั้งร้องทั้งเต้น ทั้งการแสดง วาไรตี้โชว์
แต่ละประเทศก็มีข้อดีต่างกันไปนะคะ เราอาจไม่ชอบบางอย่างของคนเกาหลีแต่ถ้าบอกว่าละครเกาหลีมีแต่ตบตีกุ๊กกิ๊กนี่เราขอเถียงขาดใจเลย
และเห็นจขกท. กับบางความเห็นพูดถึงแฟนคลับญี่ปุ่นแล้วขอใส่สปอยล์หน่อยนะคะ (มันยาวนิดนึง)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แล้วก็ขยายความให้ จขกท. เพลงญี่ปุ่นบางวงเขาเน้นเพลงรักเลยค่ะ อย่างเพลงFlowerนี่เพลงรักเต็มไปหมด แถมมาแนวเศร้าหลายเพลงด้วยแต่คนก็นิยมฟังนะ วงSandaime J Soul Brothersก็มีเพลงรักๆพอสมควรเลยแล้วคนก็ชอบเยอะด้วย
ด้านละคร ภาพยนต์ ซีรี่ย์ เราว่าตีตลาดค่อนข้างยากเพราะมีซีรี่ย์และภาพยนต์ของฝรั่งเป็นกำแพงขนาดสูงที่ก้าวข้ามได้ยากมาก แม้แต่ญี่ปุ่นเองก็เถอะ จะปฏิเสธดิสนีย์ได้ลงคอจริงๆหรือ(ไม่งั้นFrozenคงไม่ยอดทะลุล้านทำเงินยิ่งกว่าบ้านเราอีก จนนักร้องถูกเชิญขึ้นKohaku) และเราว่าคนไทยก็ชอบดูหนังแอคชั่นด้วย แต่ญี่ปุ่นไม่ชำนาญด้านนั้นน่ะสิ อย่างAttack on Titanนี่คนด่ากระจุย...
เรื่องเครื่องสำอาง เทคโนโลยีมันก็ชีวิตประจำวันของพวกเราไปแล้วล่ะ อันนั้นไม่นับเป็นกระแส ก็ใช้กันเหมือนแบรนด์ฝรั่งอยู่ดี
เอาเป็นว่า ถ้ามีกระแส ขออย่าให้มากเกินไปละกัน อะไรที่มันมากเกินไปมันก็เอียน และเบื่อง่ายค่ะ
แล้วกระแสเจป็อปมันก็บูมมาก่อน ซึ่งเอาตรงๆเราว่าเราไม่อยากให้เป็นกระแสหนักหน่วงเหมือนเกาหลีอ่ะ
สมัยเจป็อปบูมนี่เราชอบญี่ปุ่นมากแต่เราก็เอียนสุดๆ อะไรก็ชาเขียว ชาเขียวเต็มไปหมด ตอนนั้นมีคนออกมาบ่นไม่แพ้กระแสเกาหลีในตอนนี้เลยนะคะ
ถ้าจะมีกระแสเจป็อป ขออะไรที่มันไม่มากเกินไป แต่อยู่ในระดับที่พาศิลปินมาได้ก็พอ(Kat-tunจ๋า ชาตินี้จะได้ดูคอนในไทยมั้ยคะะะ)
แล้วสังเกตุจากหลายคอมเม้น บางคนเข้าใจผิดเกี่ยวกับเกาหลีพอสมควรเลยนะ คือมองผิวเผินเหมือนที่ติ่งเกาหลีมองไอดอลญี่ปุ่นว่ามีดีแต่แบ๊วอะไร เต้นง้องแง้ง เพลงคิขุพวกนี้เลย
ขอทำความเข้าใจสักนิดนะคะ วงการเพลงเกาหลีก็คล้ายญี่ปุ่นนั่นแหล่ะ ตรงที่ไอดอลไม่ใช่ทุกสิ่งทุกอย่างของเขาค่ะ ในวงการเพลงเขาก็มีศิลปินมืออาชีพที่เน้นเรื่องเพลงโดยเฉพาะ เน้นขายเสียงโดยเฉพาะ และศิลปินพวกนั้นไม่ได้หน้าตาดีอะไรเลย แต่เขาเน้นขายงานเพลงของเขา ขายเพอร์ฟอร์แมนซ์ ร้องสด ต่างจากไอดอลที่พวกคุณเห็นโดยสิ้นเชิง ไม่รู้รู้กันรึเปล่าว่าศิลปินญี่ปุ่นเองก็มีให้สัมภาษณ์ว่าเขาก็ศึกษางานเพลงจากศิลปินเกาหลีเหมือนกันและชมว่าศิลปินเกาหลีเองก็ร้องเพลงดี ทำเพลงดี ทำการตลาดน่าสนใจ ย้ำว่าศิลปินนะคะไม่ใช่ไอดอล
และเกาหลีเน้นFirst Impressionว่าเป็นวงที่เต้นพร้อม เน้นเสียง แต่ในความเป็นจริง คุณลองไปถามแฟนคลับก็ได้ค่ะว่าเต้นเป๊ะร้องเป๊ะ เพอร์เฟ็คจริงไหม ซึ่งพวกเขาตอบว่าไม่ใช่แน่นอน ไม่งั้นจะมีกระทู้คุยต่อเนื่องหรอว่า ยัยคนนี้ร้องไม่ดี เต้นง้องแง้ง ทำไมวันนี้เต้นไม่พร้อม ทำไมเต้นผิด อู้ ร้องเพี้ยน เสียงสั่น ไปจนถึงแต่งตัวไม่ดี น้ำหนักขึ้นมาเยอะเกินไป ผอมเกินไปด้วยซ้ำ ล้อยันหลุมอากาศเลย เราเองก็ลองไปดูไลฟ์เค้าแบบละเอียดก็พบว่ามีข้อผิดพลาดเหมือนๆกัน ไม่มีเพอร์เฟ็คหรอก
ญี่ปุ่นกับเกาหลีมีสไตล์การทำละครที่ต่างกัน แต่ทั้งสองฝั่งก็มีความเหมือนตรงที่นักแสดงเน้นขายฝีมือ ไม่ได้เน้นหน้าตาค่ะ อย่างพวกนักแสดงหน้าตาดีๆอย่างคิมแตฮีนี่ถึงคนเกาหลีจะชมว่าสวย แต่คนเกาหลีก็วิพากษ์วิจารณ์การแสดงของเธอหนักมากว่าเล่นได้ไม่ดี พวกพระเอกตัวท็อปของเกาหลีนี่น้อยมากกที่จะหน้าตาดี อย่างพระเอกแดจังกึมนี่ดังนะ แต่เขาหล่อมั้ย ก็ไม่ค่ะ แต่เขาดังได้เพราะเล่นได้ทุกบทบาทเเละเล่นได้ดีมากด้วยไม่ติดภาพลักษณ์ นักแสดงเกาหลีหน้าตาคนละแบบกับไอดอลเลยด้วยซ้ำ แยกหน้าได้ง่ายเลย(ไอดอลนี่บางทีเห็นแล้วงงหน้าตามาก) ไม่เน้นสวยแต่ต้องมีเสน่ห์ จะดังได้นี่วัดกันที่ทักษะการแสดงและความหลากหลายของบทค่ะ แล้ววงการการแสดงแข่งขันสูงมาก เล่นแข็งอยู่ไม่ได้ ไม่เกิดแน่นอน
พล็อตของละครเกาหลีกับญี่ปุ่นก็มีความสมจริงเท่ากันค่ะ แต่ที่เมืองไทยเอามานี่เขาเอามาแต่ละครกุ๊กกิ๊กซึ่งไอพวกละครเรตติ้งสูงๆบ้านเขาเขาก็เน้นเนื้อเรื่องกันทั้งนั้น สายอาชีพเขาก็หาข้อมูลแน่น พวกที่ไปดูซีรี่ย์เกาหลีก็เพราะว่าเขาเอียนละครไทยที่ไร้ความสมจริง บทตบตีแย่งชิงทั้งนั้นล่ะค่ะ เราอาจไม่ได้ดูซีรี่ย์เขามาก แต่ก็มีหลายเรื่องที่เราเคยดูและเราเห็นว่ามันดีจริงๆ อาชีพหมอ อาชีพอัยการ แม้แต่ดีไซน์เนอร์ก็มี หนังพีเรียดบางเรื่องก็บทดีมาก ข้อมูลเขาแน่นไม่แพ้ซีรี่ย์ญี่ปุ่น และทั้งญี่ปุ่นกับเกาหลีก็มีเอกลักษณ์ในการทำซีรี่ย์ค่ะ
แต่แนวชีวิตญี่ปุ่นจะทำได้ดีกว่า ส่วนแนวละครแอคชั่นบทสืบสวน เกาหลีมีองค์ประกอบที่ดีกว่า แนวอาชีพทั้งสองประเทศทำได้ดีไม่แพ้กัน
แล้วญี่ปุ่นก็มีละครแบบแย่งผู้ชายนะคะ แต่เค้าไม่ได้ฉายช่วงPrime time เค้ามีไว้สำหรับแม่บ้านตอนกลางวันค่ะ
และวงการของไต้หวัน นักแสดงเขาก็คัดเข้มงวดไม่แพ้สองประเทศที่ว่า อย่างรางวัลม้าทองคำนี่ได้กันยากมากๆ แล้วพวกนักแสดงไต้หวันแต่ละคนก็เก่ง เล่นได้หลายบทบาท และยิ่งจับมือกับฮ่องกงและจีนแผ่นดินใหญ่ เขาทำได้ยอดเยี่ยมมาก หนังพีเรียดหลายเรื่องนี่บทเขาดีกว่าของญี่ปุ่นและเกาหลีอีกนะ อย่างหลานหลิงหวาง ลำนำทะเลทราย ปู้ปู้จิงซิน ดีทั้งคิวบู๊ การชิงไหวพริบ วางแผน กลยุทธ์ทั้งอำนาจปกครองและกลยุทธ์ศึกสงคราม เพลงประกอบเขาก็มีเอกลักษณ์ ซาวน์ดนตรีสะท้อนวัฒนธรรมแต่ไม่ล้าสมัย นักแสดงบางคนก็เก่งทั้งร้องทั้งเต้น ทั้งการแสดง วาไรตี้โชว์
แต่ละประเทศก็มีข้อดีต่างกันไปนะคะ เราอาจไม่ชอบบางอย่างของคนเกาหลีแต่ถ้าบอกว่าละครเกาหลีมีแต่ตบตีกุ๊กกิ๊กนี่เราขอเถียงขาดใจเลย
และเห็นจขกท. กับบางความเห็นพูดถึงแฟนคลับญี่ปุ่นแล้วขอใส่สปอยล์หน่อยนะคะ (มันยาวนิดนึง)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แล้วก็ขยายความให้ จขกท. เพลงญี่ปุ่นบางวงเขาเน้นเพลงรักเลยค่ะ อย่างเพลงFlowerนี่เพลงรักเต็มไปหมด แถมมาแนวเศร้าหลายเพลงด้วยแต่คนก็นิยมฟังนะ วงSandaime J Soul Brothersก็มีเพลงรักๆพอสมควรเลยแล้วคนก็ชอบเยอะด้วย
ด้านละคร ภาพยนต์ ซีรี่ย์ เราว่าตีตลาดค่อนข้างยากเพราะมีซีรี่ย์และภาพยนต์ของฝรั่งเป็นกำแพงขนาดสูงที่ก้าวข้ามได้ยากมาก แม้แต่ญี่ปุ่นเองก็เถอะ จะปฏิเสธดิสนีย์ได้ลงคอจริงๆหรือ(ไม่งั้นFrozenคงไม่ยอดทะลุล้านทำเงินยิ่งกว่าบ้านเราอีก จนนักร้องถูกเชิญขึ้นKohaku) และเราว่าคนไทยก็ชอบดูหนังแอคชั่นด้วย แต่ญี่ปุ่นไม่ชำนาญด้านนั้นน่ะสิ อย่างAttack on Titanนี่คนด่ากระจุย...
เรื่องเครื่องสำอาง เทคโนโลยีมันก็ชีวิตประจำวันของพวกเราไปแล้วล่ะ อันนั้นไม่นับเป็นกระแส ก็ใช้กันเหมือนแบรนด์ฝรั่งอยู่ดี
เอาเป็นว่า ถ้ามีกระแส ขออย่าให้มากเกินไปละกัน อะไรที่มันมากเกินไปมันก็เอียน และเบื่อง่ายค่ะ
แสดงความคิดเห็น
คุณคิดอย่างไรกับกระแสญี่ปุ่นในไทยที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
--- ด้านวงการเพลง แต่เมื่อวิเคราะห์เพลงญี่ปุ่น ด้านดนตรีที่ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยเน้นฟังแล้วติดหูง่ายๆ และมีดนตรี ทำนอง ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของญี่ปุ่น ส่วนเนื้อหาไม่ค่อยเน้นเรื่องความรักวัยหนุ่มสาว ซึ่งตรงกันข้ามกับความนิยมคนไทยส่วนใหญ่
--- ด้านละครและภาพยนต์ ก็เป็นอีกด้านที่ไม่เป็นที่นิยมของคนไทยส่วนใหญ่เพราะว่าไม่ค่อยมีละครแนวความรัก กุ๊กกิ๊ก ญี่ปุ่นจะสร้างแนวสืบสวน อาชีพตามความฝัน
--- ด้านการท่องเที่ยว ช่วงนี้คนไทยเที่ยวต่างประเทศ ซึ่งเที่ยวญี่ปุ่นมากเป็นอันดับ 1 ก็ว่าได้ แต่กระแสญี่ปุ่นในภาพรวมก็ถือว่าคงที่
--- ด้านอาหาร ด้านมังงะ ด้านเทคโลยี ถึงแม้ไทยจะรับกระแสมามาก แต่มันเหมือนเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันไปแล้ว
ปล.กระแสญี่ปุ่นในอนาตในประเทศไทยนั้น ส่วนตัวมันคงจะเป็นกระแสที่คงที่ไม่มีทางที่จะบูมหรือเพิ่มขึ้นเหมือนเมื่อก่อน กระแสคงจะมาอยู่ ณ จุดสูงสุด และจะค่อยซึมลึกเข้าไปในวิธีชีวิตของคนไทย และเมื่อมีความเป็นญี่ปุ่นด้านต่างๆ เข้ามาในไทยเพิ่มขึ้นในอนาคตส่วนตัวรู้สึกเฉยๆ