ตอนที่ 1
http://ppantip.com/topic/34280583
ตอนที่ 2
http://ppantip.com/topic/34285085
ตอนที่ 3
http://ppantip.com/topic/34290054
ตอนที่ 4
http://ppantip.com/topic/34294223
ตอนที่ 5
http://ppantip.com/topic/34307506
ตอนที่ 6
http://ppantip.com/topic/34332431
ตอนที่ 7
http://ppantip.com/topic/34343292
ตึง.. ตึง..ตึง เสียงฝีเท้าดังปึงปังโครมครามเดินขึ้นเรือน บ่าวไพร่ที่กำลังง่วนอยู่กับการเช็ดถูเครื่องลายครามต่างวางมือลง แล้วเหลือบมองผู้เป็นนาย สายตาเหี้ยมเกรียมจ้องมองไปยังข้าวของที่วางระเกะระกะ ด้วยอารมณ์ขุ่นมัวเดือดดาล แววตาคู่นั้นทำให้บ่าวไพร่เริ่มหวาดกลัว ถึงแม้จะเข้าหน้าหนาวอากาศเริ่มเย็นสบาย แต่ในใจกลับให้ความรู้สึกที่ร้อนรุ่ม ทำให้เหงื่อกาฬแตกซ่าน หยดน้ำที่ผุดขึ้นบนใบหน้าไหลเป็นทาง สายตาเลิ่กลั่กจ้องมองกันแล้วละจากงานที่ทำ คลานเลี่ยงหลบไปโดยพลัน โดยไม่หันมาสบตาชายผู้ยืนจังก้าอยู่ด้านหน้า ด้วยรู้ถึงอารมณ์คุ้มดีคุ้มร้ายของผู้เป็นนาย
คล้อยหลังไปไม่นานบทเพลงโหมโรงก็บรรเลงขึ้น เพล้ง! เครื่องลายครามงามวิจิตรถูกเตะกระเด็นแตกกระจายเกลื่อนพื้นเพื่อระบายโทสะ ดวงตาเบิกกว้าง กรามขบแน่นเป็นสันนูน ร่างกายสั่นเทาด้วยความโมโห มือสองข้างกำจิกแน่นลงไปในเนื้อ แล้วทิ้งกายลงนั่งบนตั่งด้วยท่าทีพลุ่งพล่าน
"มีใครอยู่บ้างโว้ย ไปตายห่าที่ไหนกันหมด เอาเหล้ามาให้กูประเดี๋ยวนี้"
เสียงตะโกนเรียกดังลั่นเรือน นายแดงที่แอบอยู่ตรงมุมเสารีบวิ่งจนขาขวิด กลิ้งล้มลุกคลุกคลาน ด้วยเพลานี้พายุพัดโหมกระหน่ำดั่งจะปลิดชีพทุกคนบนเรือน ขืนชักช้าคงได้หลังขาดกันเป็นแถว คิดได้ดังนั้นจึงรีบวิ่งไปหยิบเหล้าอย่างรีบร้อน แต่ด้วยความกลัวจนลนลาน ทำให้ไหเหล้าที่นำมากลิ้งหลุนๆ ไปบนพื้น สายตาของอ้ายแดงมองตามไหที่กลิ้งไปด้วยใจระทึก จนกระทั่งมันกลิ้งไปหยุดอยู่ที่ขาข้างหนึ่งซึ่งยันมันเอาไว้ หลวงนิมิตวรากรก้มลงหยิบไหเหล้าขึ้นมา แล้วยกขาขึ้นถีบเข้าที่ยอดอกของลูกสมุนคนสนิทจนหงายท้อง
"ซุ่มซ่ามจริงน๊ะ"
อ้ายแดงกลิ้งไม่เป็นท่าไปกับพื้น เมื่อตั้งตัวได้จึงยกมือไหว้เพื่อเป็นการขอโทษขอโพย แล้วจึงวิ่งกลับไปหลบอยู่ข้างเสาดังเดิม
จุกเหล้าถูกกระชากออกอย่างไม่ปราณี แล้วเควี้ยงทิ้งลงพื้น ชายหนุ่มกระดกเหล้าจากไหด้วยความคั่งแค้น น้ำสาโทกระฉอกอาบกายจวบจนหยดสุดท้าย เขาเคว้งไหลงกับพื้นแตกกระจาย ก่อนจะตะโกนอีกครั้ง "ไปเอาเหล้ามาให้กูอีก มีกี่ไหยกมาให้หมด"
นางจันผู้ที่เพิ่งกลับมาจากเรือนแม่อุ่น ได้ยินเสียงดังเอะอะจากด้านบนจึงเกิดความหวาดกลัว แล้วจึงเลี่ยงไปขึ้นบันไดที่เรือนเล็กด้านหลัง สายตาระแวดระวังกวาดตามองหานายหญิง พร้อมร้องเรียกเบาๆ "นายชื่นเจ้าขา..อยู่ไหนเจ้าคะ"
"กูอยู่นี่" แม่ชื่นมองซ้ายแลขวากวักมือเรียกนางจันเข้าไปในห้อง แล้วปิดประตู
"ได้ความว่าเยี่ยงไร ทำสำเร็จไหม?"
เสียงกระซิบกระซาบดังพอให้ได้ยินแค่สองคน "บ่าวไม่เจอตัวเจ้าคะ นั่งรออยู่ที่เรือนตั้งนาน ไม่มีวี่แววผู้ใดเลย"
สีหน้ากังวลครุ่นคิดแล้วจึงกล่าว "ใช้งานไม่ได้เรื่องจริงเลยนี่ เรื่องนี้ห้ามแพร่งพรายไป มีอะไรก็ไปทำก่อนประเดี๋ยวกูมา"
แม่ชื่นเดินฉับๆ ไปที่โถงเรือนใหญ่เพื่อสังเกตุการณ์ หลวงนิมิตวรากรนั่งกินเหล้าด้วยสีหน้าเคร่งเครียด บนพื้นเกลื่อนไปด้วยเศษกระเบื้องถ้วยไห หล่อนถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะเข้าไปสืบความ ท่วงท่ากรีดกรายเดินเข้าไปที่ด้านหลังยื่นมือไปบีบนวด
"ใครทำให้คุณหลวงโมโหเจ้าคะ" มือคลึงอยู่ที่ขมับของชายหนุ่ม ช่วยบรรเทาความตึงเครียด เขาหลับตาผ่อนคลายเอนหัวพิงอกเนียนนุ่ม
เปลือกตายังคงปิดอยู่แต่ปากขยับพูดตอบ "ก็อ้ายเพิ่มหน่ะซิ คิดจะพาแม่อุ่นหนีไปพระนคร"
"ชิชะ วอนเสียจริงอ้ายคนนี้ ชาวบ้านร้านตลาดเขารู้กันทั่วว่าคุณหลวงหมายปองแม่อุ่นอยู่ ทำแบบนี้มันหยามกันชัดๆ นะเจ้าคะ "
หล่อนพร่ำพูดเอาใจชายหนุ่มเพื่อให้อารมณ์ขุ่นมัวได้จางลงไป ฝีมือนวดที่ชำนิชำนาญจากการฝึกฝน ทำให้ชายผู้เป็นเจ้าของเรือนสงบสติอารมณ์เย็นลงได้
"แล้วคุณหลวงจะทำเยี่ยงไรหล่ะเจ้าคะ"
"กูวางแผนจะฉุดคร่าแม่อุ่นมาเป็นเมีย เมื่อข้าวสารเป็นข้าวสุกแล้ว จะไปไหนเสีย หึๆๆ" รอยยิ้มผุดขึ้นที่ใบหน้าเมื่อคิดว่าจะได้ลูบไล้เนื้อเนียน
"แล้วจะลงมือเมื่อใดเจ้าคะ ชื่นจะได้จัดเตรียมห้องหอไว้รอ" น้ำเสียงอ่อนหวานประจบประแจงด้วยต้องการสืบความ
"คราแรกว่าจะรอให้ถึงยาม 2 เสียก่อน แต่กูเปลี่ยนใจแล้ว อยากชื่นใจแม่อุ่นเต็มแก่ พลบค่ำว่าจะชิงลงมือเลย" เมื่อคิดได้ดังนั้นชายหนุ่ม จึงลุกขึ้นมาสั่งความ
"อ้ายแดง อยู่ไหนว่ะ ไปตามพวกข้างล่างมาหากูประเดี๋ยวนี้"
แม่ชื่นก้มลงมองบนพื้นที่เต็มไปด้วยเศษกระเบื้อง แล้วตะโกนเรียกบ่าวในเรือน "มีไอ้อีคนไหนอยู่บ้างนี่ มาเก็บกวาดหน่อยซิ" บ่าวผู้ที่แอบอยู่ไม่ไกล ได้ยินเจ้านายเรียกจึงเข้ามาเก็บกวาดเศษกระเบื้องที่กระจายอยู่เกลื่อนพื้น เมื่อเหล่าสมุนคนสนิทของชายหนุ่มขึ้นมากันครบแล้ว จึงได้เริ่มพูดคุยวางแผนกัน
ผู้เป็นนายหญิงของบ้านยืนสั่งงานบ่าวไพร่ เมื่อเสร็จแล้วจึงเดินเลี่ยงออกไปที่เรือนหลังเล็ก
"อีจัน...อีจัน.." เสียงเรียกแผ่วเบาด้วยกลัวใครได้ยิน
"อยู่นี่เจ้าคะ" ร่างอันอวบอิ่มเคลื่อนตัวช้าๆ คลานออกมาจากข้างเสาเรือน
นายสาวกระซิบสั่งความแล้วกำชับอีกครั้ง "รีบไปประเดี๋ยวนี้เลย แล้วอย่าให้พลาดอีกหล่ะ"
"เจ้าคะ" ผู้เป็นบ่าวรีบเดินจ้ำอ้าวออกไปตามคำสั่งพร้อมบ่นพึมพำ "สงสัยคงได้ผอมกันหล่ะครานี้ เดินมันทั้งวัน" นิ้วมืออวบป้อมดึงชายผ้าแถบขึ้นซับเหงื่อที่ไหลย้อยลงมา
จอมใจจอมขวัญ ตอนที่ 8 (ขอฝากช่วยวิจารณ์หน่อยนะคะ^_^)
ตอนที่ 1 http://ppantip.com/topic/34280583
ตอนที่ 2 http://ppantip.com/topic/34285085
ตอนที่ 3 http://ppantip.com/topic/34290054
ตอนที่ 4 http://ppantip.com/topic/34294223
ตอนที่ 5 http://ppantip.com/topic/34307506
ตอนที่ 6 http://ppantip.com/topic/34332431
ตอนที่ 7 http://ppantip.com/topic/34343292
ตึง.. ตึง..ตึง เสียงฝีเท้าดังปึงปังโครมครามเดินขึ้นเรือน บ่าวไพร่ที่กำลังง่วนอยู่กับการเช็ดถูเครื่องลายครามต่างวางมือลง แล้วเหลือบมองผู้เป็นนาย สายตาเหี้ยมเกรียมจ้องมองไปยังข้าวของที่วางระเกะระกะ ด้วยอารมณ์ขุ่นมัวเดือดดาล แววตาคู่นั้นทำให้บ่าวไพร่เริ่มหวาดกลัว ถึงแม้จะเข้าหน้าหนาวอากาศเริ่มเย็นสบาย แต่ในใจกลับให้ความรู้สึกที่ร้อนรุ่ม ทำให้เหงื่อกาฬแตกซ่าน หยดน้ำที่ผุดขึ้นบนใบหน้าไหลเป็นทาง สายตาเลิ่กลั่กจ้องมองกันแล้วละจากงานที่ทำ คลานเลี่ยงหลบไปโดยพลัน โดยไม่หันมาสบตาชายผู้ยืนจังก้าอยู่ด้านหน้า ด้วยรู้ถึงอารมณ์คุ้มดีคุ้มร้ายของผู้เป็นนาย
คล้อยหลังไปไม่นานบทเพลงโหมโรงก็บรรเลงขึ้น เพล้ง! เครื่องลายครามงามวิจิตรถูกเตะกระเด็นแตกกระจายเกลื่อนพื้นเพื่อระบายโทสะ ดวงตาเบิกกว้าง กรามขบแน่นเป็นสันนูน ร่างกายสั่นเทาด้วยความโมโห มือสองข้างกำจิกแน่นลงไปในเนื้อ แล้วทิ้งกายลงนั่งบนตั่งด้วยท่าทีพลุ่งพล่าน
"มีใครอยู่บ้างโว้ย ไปตายห่าที่ไหนกันหมด เอาเหล้ามาให้กูประเดี๋ยวนี้"
เสียงตะโกนเรียกดังลั่นเรือน นายแดงที่แอบอยู่ตรงมุมเสารีบวิ่งจนขาขวิด กลิ้งล้มลุกคลุกคลาน ด้วยเพลานี้พายุพัดโหมกระหน่ำดั่งจะปลิดชีพทุกคนบนเรือน ขืนชักช้าคงได้หลังขาดกันเป็นแถว คิดได้ดังนั้นจึงรีบวิ่งไปหยิบเหล้าอย่างรีบร้อน แต่ด้วยความกลัวจนลนลาน ทำให้ไหเหล้าที่นำมากลิ้งหลุนๆ ไปบนพื้น สายตาของอ้ายแดงมองตามไหที่กลิ้งไปด้วยใจระทึก จนกระทั่งมันกลิ้งไปหยุดอยู่ที่ขาข้างหนึ่งซึ่งยันมันเอาไว้ หลวงนิมิตวรากรก้มลงหยิบไหเหล้าขึ้นมา แล้วยกขาขึ้นถีบเข้าที่ยอดอกของลูกสมุนคนสนิทจนหงายท้อง
"ซุ่มซ่ามจริงน๊ะ"
อ้ายแดงกลิ้งไม่เป็นท่าไปกับพื้น เมื่อตั้งตัวได้จึงยกมือไหว้เพื่อเป็นการขอโทษขอโพย แล้วจึงวิ่งกลับไปหลบอยู่ข้างเสาดังเดิม
จุกเหล้าถูกกระชากออกอย่างไม่ปราณี แล้วเควี้ยงทิ้งลงพื้น ชายหนุ่มกระดกเหล้าจากไหด้วยความคั่งแค้น น้ำสาโทกระฉอกอาบกายจวบจนหยดสุดท้าย เขาเคว้งไหลงกับพื้นแตกกระจาย ก่อนจะตะโกนอีกครั้ง "ไปเอาเหล้ามาให้กูอีก มีกี่ไหยกมาให้หมด"
นางจันผู้ที่เพิ่งกลับมาจากเรือนแม่อุ่น ได้ยินเสียงดังเอะอะจากด้านบนจึงเกิดความหวาดกลัว แล้วจึงเลี่ยงไปขึ้นบันไดที่เรือนเล็กด้านหลัง สายตาระแวดระวังกวาดตามองหานายหญิง พร้อมร้องเรียกเบาๆ "นายชื่นเจ้าขา..อยู่ไหนเจ้าคะ"
"กูอยู่นี่" แม่ชื่นมองซ้ายแลขวากวักมือเรียกนางจันเข้าไปในห้อง แล้วปิดประตู
"ได้ความว่าเยี่ยงไร ทำสำเร็จไหม?"
เสียงกระซิบกระซาบดังพอให้ได้ยินแค่สองคน "บ่าวไม่เจอตัวเจ้าคะ นั่งรออยู่ที่เรือนตั้งนาน ไม่มีวี่แววผู้ใดเลย"
สีหน้ากังวลครุ่นคิดแล้วจึงกล่าว "ใช้งานไม่ได้เรื่องจริงเลยนี่ เรื่องนี้ห้ามแพร่งพรายไป มีอะไรก็ไปทำก่อนประเดี๋ยวกูมา"
แม่ชื่นเดินฉับๆ ไปที่โถงเรือนใหญ่เพื่อสังเกตุการณ์ หลวงนิมิตวรากรนั่งกินเหล้าด้วยสีหน้าเคร่งเครียด บนพื้นเกลื่อนไปด้วยเศษกระเบื้องถ้วยไห หล่อนถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะเข้าไปสืบความ ท่วงท่ากรีดกรายเดินเข้าไปที่ด้านหลังยื่นมือไปบีบนวด
"ใครทำให้คุณหลวงโมโหเจ้าคะ" มือคลึงอยู่ที่ขมับของชายหนุ่ม ช่วยบรรเทาความตึงเครียด เขาหลับตาผ่อนคลายเอนหัวพิงอกเนียนนุ่ม
เปลือกตายังคงปิดอยู่แต่ปากขยับพูดตอบ "ก็อ้ายเพิ่มหน่ะซิ คิดจะพาแม่อุ่นหนีไปพระนคร"
"ชิชะ วอนเสียจริงอ้ายคนนี้ ชาวบ้านร้านตลาดเขารู้กันทั่วว่าคุณหลวงหมายปองแม่อุ่นอยู่ ทำแบบนี้มันหยามกันชัดๆ นะเจ้าคะ "
หล่อนพร่ำพูดเอาใจชายหนุ่มเพื่อให้อารมณ์ขุ่นมัวได้จางลงไป ฝีมือนวดที่ชำนิชำนาญจากการฝึกฝน ทำให้ชายผู้เป็นเจ้าของเรือนสงบสติอารมณ์เย็นลงได้
"แล้วคุณหลวงจะทำเยี่ยงไรหล่ะเจ้าคะ"
"กูวางแผนจะฉุดคร่าแม่อุ่นมาเป็นเมีย เมื่อข้าวสารเป็นข้าวสุกแล้ว จะไปไหนเสีย หึๆๆ" รอยยิ้มผุดขึ้นที่ใบหน้าเมื่อคิดว่าจะได้ลูบไล้เนื้อเนียน
"แล้วจะลงมือเมื่อใดเจ้าคะ ชื่นจะได้จัดเตรียมห้องหอไว้รอ" น้ำเสียงอ่อนหวานประจบประแจงด้วยต้องการสืบความ
"คราแรกว่าจะรอให้ถึงยาม 2 เสียก่อน แต่กูเปลี่ยนใจแล้ว อยากชื่นใจแม่อุ่นเต็มแก่ พลบค่ำว่าจะชิงลงมือเลย" เมื่อคิดได้ดังนั้นชายหนุ่ม จึงลุกขึ้นมาสั่งความ
"อ้ายแดง อยู่ไหนว่ะ ไปตามพวกข้างล่างมาหากูประเดี๋ยวนี้"
แม่ชื่นก้มลงมองบนพื้นที่เต็มไปด้วยเศษกระเบื้อง แล้วตะโกนเรียกบ่าวในเรือน "มีไอ้อีคนไหนอยู่บ้างนี่ มาเก็บกวาดหน่อยซิ" บ่าวผู้ที่แอบอยู่ไม่ไกล ได้ยินเจ้านายเรียกจึงเข้ามาเก็บกวาดเศษกระเบื้องที่กระจายอยู่เกลื่อนพื้น เมื่อเหล่าสมุนคนสนิทของชายหนุ่มขึ้นมากันครบแล้ว จึงได้เริ่มพูดคุยวางแผนกัน
ผู้เป็นนายหญิงของบ้านยืนสั่งงานบ่าวไพร่ เมื่อเสร็จแล้วจึงเดินเลี่ยงออกไปที่เรือนหลังเล็ก
"อีจัน...อีจัน.." เสียงเรียกแผ่วเบาด้วยกลัวใครได้ยิน
"อยู่นี่เจ้าคะ" ร่างอันอวบอิ่มเคลื่อนตัวช้าๆ คลานออกมาจากข้างเสาเรือน
นายสาวกระซิบสั่งความแล้วกำชับอีกครั้ง "รีบไปประเดี๋ยวนี้เลย แล้วอย่าให้พลาดอีกหล่ะ"
"เจ้าคะ" ผู้เป็นบ่าวรีบเดินจ้ำอ้าวออกไปตามคำสั่งพร้อมบ่นพึมพำ "สงสัยคงได้ผอมกันหล่ะครานี้ เดินมันทั้งวัน" นิ้วมืออวบป้อมดึงชายผ้าแถบขึ้นซับเหงื่อที่ไหลย้อยลงมา