บทเรียนจากคริสตจักร City Harvest "ล่มสลายเพราะผู้นำยักยอกเงิน"
โดย คุณ KANOK LEE
ความจริงข่าวนี้ไม่ใช่ข่าวใหม่เพราะได้ยินมาตั้งแต่ปี 2012 แล้วว่าศิษยาภิบาล Kong Hee ถูกกล่าวหาจากเจ้าหน้าที่รัฐว่ายักยอกเงินของคริสตจักรกว่า 51 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ หรือ 1.3 พันล้านบาท เพื่อสนับสนุนภรรยาของศิษยาภิบาล Ho Yew Sun ในการเป็นนักร้องในสังกัด Warner Music Taiwan
Kong Hee and Ho Yew Sun - The Guardian 22 Oct 2015
City Harvest เป็นคริสตจักรสิงคโปร์ที่โด่งดังมากในยุคนี้ มีอาคารโบสถ์ที่สวยงามทันสมัย ได้รับการกล่าวขวัญว่ามีการนมัสการและการเทศนาที่สุดยอด มีการจัดระเบียบสมาชิกหมุนเวียนกันเข้ามาในโบสถ์อย่างไม่ขาดสาย
แต่ก็เกิดขึ้นแล้ว คนที่ถูกจับไม่ใช่แค่ศิษยาภิบาล แต่เป็นทีมผู้นำอีก 5 คน สิ่งที่ผมส่วนตัวไม่ชอบเลยคือการหากินกับศาสนา ไม่ว่าจะศาสนาอะไรก็ตาม เพราะเป็นการเอาเปรียบศรัทธาของผู้ติดตาม
อย่างไรก็ตาม ผมขอสรุปสิ่งที่เราอาจเรียนรู้จากเหตุการณ์นี้เพื่อที่จะระมัดระวังไม่ให้เกิดขึ้นกับคริสตจักร หรือตัวเราเอง พี่น้องสามารถอ่านและแสดงความเห็นต่าง สนับสนุน หรือเพิ่มเติมได้นะครับ
1. ผู้นำสไตล์คาริสมา ต้องเรียนรู้ที่จะถ่อมใจกับพระเจ้า และบังคับใจให้เชื่อฟังพระวจนะ - Charismatic Leader เป็นสไตล์ผู้นำที่มีเสน่ห์ สมัยที่ผมเรียนวิชา Leadership in the organization ในมหาวิทยาลัย ไสตล์ผู้นำมีหลากหลาย ขึ้นอยู่กับสถานการณ์และความเหมาะสมขององค์กร แต่สไตล์ผู้นำแบบ คาริสมา คือมีเสน่ห์ อันตรายที่สุด เพราะผู้ตามจะชอบตาม ชอบฟังไอเดีย ชอบทำงานด้วย เขาจะมีแรงดึงดูดพิเศษ และมักจะจบลงด้วยการยักยอกเงินโดยร่วมมือกับฝ่ายบัญชีการเงิน หรือไม่ก็เรื่องความผิดทางเพศกับคนรอบข้างเนื่องมาจากการหลงตัวเอง และการยอมรับอย่างมากมายจากคนรอบๆ ข้าง ฉะนั้นถ้าเรารู้ตัวว่าเราเป็นผู้นำที่มีบุคลิกพิเศษแบบนี้ เราต้องระมัดระวัง ถ่อมใจกับพระเจ้า บังคับใจให้เชื่อฟังพระวจนะพระเจ้าเสมอ
2. การสอนพระวจนะต้องตรงไปตรงมา - City Harvest จะเทศนาแบบ Prosperity Gospel หรือ พระกิตติคุณแห่งความรุ่งเรือง ซึ่งจะเน้นเรื่องความเป็นแง่บวกของพระคัมภีร์ ซึ่งฟังเผินๆ เหมือนจะดี น่าฟัง แต่พระวจนะทั้งเล่มไม่ได้พูดแง่บวกเท่านั้น มีมุมมองของการทนทุกข์ การเหยียดชีวิตออก การต่อสู้กับความบาป ซึ่งกลุ่มที่ชอบ Prosperity Gospel จะมองเป็นแง่ลบ และไม่ยอมรับในมุมมองแบบนี้ แต่จะเน้นพระคุณจนสุด คนฟังก็รับง่าย สบายใจ "คริสเตียนที่ดีต้องถามว่านั่นเป็นพระวจนะที่ถูกต้องสมดุลหรือไม่" ต้องพิจารณาแยกแยะให้ดี
3. วัตถุประสงค์ของคริสตจักรต้องเน้นพระมหาบัญชา ไม่ใช่สิ่งอื่น - เรื่องนี้อาจะเป็นข้อถกเถียงว่าคริสตจักรต้องเปลี่ยนสังคม ต้องเน้นทุกเรื่องโดยให้คริสตจักรเป็นศูนย์กลาง หรือบางคนจะบอกว่าให้อาณาจักรเป็นศูนย์กลาง ผมเห็นด้วยว่าคริสเตียนต้องเป็นเกลือและแสงสว่าง ต้องเป็นเกลือที่อยู่บนเนื้อเพื่อจะรักษาเนื้อไม่ให้เน่า เป็นแสงสว่างที่ตั้งบนเชิงตะเกียงเพื่อส่องสว่าง ไม่ใช่เอาถังครอบ แต่พอเข้ามุมปฏิบัติจริงๆ คริสตจักรที่จะเน้นเกลือแสงสว่าง + ศิษยาภิบาลที่มีคาริสมา ก็เอาเงินไปใช้ตามใจตัวเองแล้วเอาพระคัมภีร์ข้อนี้มาเป็น "ข้ออ้าง" ทุกที เพราะ "เกลือแสงสว่าง จริงๆ กว้างมาก ก็คือทุกอย่างที่ไม่ใช่โบสถ์ แต่มีวัตถุประสงค์ลึกๆ เพื่องานของพระเจ้า" ปัญหาคือบางทีวัตถุประสงค์ก็ลึกเกินไปจนไม่เห็นว่าพระเจ้าเกี่ยวข้องอย่างไร "เรามองได้เลยว่า ถ้าออกไปในโลกแล้วไม่ประกาศพระนามพระคริสต์ จะด้วยเหตุผลข้ออ้างอะไรก็ตาม ตั้งข้อสงสัยได้เลย"
4. อย่าเป็นคนดื้อด้านไม่ยอมรับอะไรเลย - ตรรกะคนประเภทนี้ไล่ไม่จน ดิ้นไปดิ้นมา ใช้พระคัมภีร์แบบกายกรรมพลิกไปเรื่อยตามความปรารถนาของเนื้อหนังตัวเอง เอาหลักพระคัมภีร์เป็นเหมือนยันต์ที่ปกป้องตัวเองจากทุกอย่างในโลกที่มาบอกว่าเขาผิด ไม่ยอมรับกฏหมาย ไม่ยอมรับความเห็นต่าง จะรู้สึกเหมือนตัวเองถูกข่มเหงตลอดเวลาถ้ามีคนมาพูดสิ่งที่ตรงกันข้าม จะยักยอกเงินโบสถ์ จะถูกจับ ยังไงก็ไม่ยอมรับผิด
1 ปต. 4:14-16 ถ้าพวกท่านถูกด่าเพราะพระนามของพระคริสต์ พวกท่านก็เป็นสุข เพราะว่าพระวิญญาณแห่งพระสิริคือพระวิญญาณของพระเจ้าสถิตกับพวกท่าน แต่อย่าให้ใครในพวกท่านทนทุกข์ฐานเป็นฆาตกร หรือเป็นขโมย หรือเป็นคนทำชั่ว หรือเป็นคนที่เที่ยวยุ่งกับธุระของคนอื่น แต่ถ้าทนทุกข์เพราะได้ชื่อว่าเป็นคริสตชน ก็อย่าให้คนนั้นละอายเลย แต่ให้ถวายพระเกียรติแด่พระเจ้าเพราะชื่อนั้น
โดย คุณ KANOK LEE ตามลิ้งกันไปได้ครับ -->
http://kanok-leelahakriengkrai.blogspot.com/2015/10/city-harvest.html
บทเรียนจากคริสตจักร City Harvest "ล่มสลายเพราะผู้นำยักยอกเงิน" โดย คุณ KANOK LEE
โดย คุณ KANOK LEE
ความจริงข่าวนี้ไม่ใช่ข่าวใหม่เพราะได้ยินมาตั้งแต่ปี 2012 แล้วว่าศิษยาภิบาล Kong Hee ถูกกล่าวหาจากเจ้าหน้าที่รัฐว่ายักยอกเงินของคริสตจักรกว่า 51 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ หรือ 1.3 พันล้านบาท เพื่อสนับสนุนภรรยาของศิษยาภิบาล Ho Yew Sun ในการเป็นนักร้องในสังกัด Warner Music Taiwan
Kong Hee and Ho Yew Sun - The Guardian 22 Oct 2015
City Harvest เป็นคริสตจักรสิงคโปร์ที่โด่งดังมากในยุคนี้ มีอาคารโบสถ์ที่สวยงามทันสมัย ได้รับการกล่าวขวัญว่ามีการนมัสการและการเทศนาที่สุดยอด มีการจัดระเบียบสมาชิกหมุนเวียนกันเข้ามาในโบสถ์อย่างไม่ขาดสาย
แต่ก็เกิดขึ้นแล้ว คนที่ถูกจับไม่ใช่แค่ศิษยาภิบาล แต่เป็นทีมผู้นำอีก 5 คน สิ่งที่ผมส่วนตัวไม่ชอบเลยคือการหากินกับศาสนา ไม่ว่าจะศาสนาอะไรก็ตาม เพราะเป็นการเอาเปรียบศรัทธาของผู้ติดตาม
อย่างไรก็ตาม ผมขอสรุปสิ่งที่เราอาจเรียนรู้จากเหตุการณ์นี้เพื่อที่จะระมัดระวังไม่ให้เกิดขึ้นกับคริสตจักร หรือตัวเราเอง พี่น้องสามารถอ่านและแสดงความเห็นต่าง สนับสนุน หรือเพิ่มเติมได้นะครับ
1. ผู้นำสไตล์คาริสมา ต้องเรียนรู้ที่จะถ่อมใจกับพระเจ้า และบังคับใจให้เชื่อฟังพระวจนะ - Charismatic Leader เป็นสไตล์ผู้นำที่มีเสน่ห์ สมัยที่ผมเรียนวิชา Leadership in the organization ในมหาวิทยาลัย ไสตล์ผู้นำมีหลากหลาย ขึ้นอยู่กับสถานการณ์และความเหมาะสมขององค์กร แต่สไตล์ผู้นำแบบ คาริสมา คือมีเสน่ห์ อันตรายที่สุด เพราะผู้ตามจะชอบตาม ชอบฟังไอเดีย ชอบทำงานด้วย เขาจะมีแรงดึงดูดพิเศษ และมักจะจบลงด้วยการยักยอกเงินโดยร่วมมือกับฝ่ายบัญชีการเงิน หรือไม่ก็เรื่องความผิดทางเพศกับคนรอบข้างเนื่องมาจากการหลงตัวเอง และการยอมรับอย่างมากมายจากคนรอบๆ ข้าง ฉะนั้นถ้าเรารู้ตัวว่าเราเป็นผู้นำที่มีบุคลิกพิเศษแบบนี้ เราต้องระมัดระวัง ถ่อมใจกับพระเจ้า บังคับใจให้เชื่อฟังพระวจนะพระเจ้าเสมอ
2. การสอนพระวจนะต้องตรงไปตรงมา - City Harvest จะเทศนาแบบ Prosperity Gospel หรือ พระกิตติคุณแห่งความรุ่งเรือง ซึ่งจะเน้นเรื่องความเป็นแง่บวกของพระคัมภีร์ ซึ่งฟังเผินๆ เหมือนจะดี น่าฟัง แต่พระวจนะทั้งเล่มไม่ได้พูดแง่บวกเท่านั้น มีมุมมองของการทนทุกข์ การเหยียดชีวิตออก การต่อสู้กับความบาป ซึ่งกลุ่มที่ชอบ Prosperity Gospel จะมองเป็นแง่ลบ และไม่ยอมรับในมุมมองแบบนี้ แต่จะเน้นพระคุณจนสุด คนฟังก็รับง่าย สบายใจ "คริสเตียนที่ดีต้องถามว่านั่นเป็นพระวจนะที่ถูกต้องสมดุลหรือไม่" ต้องพิจารณาแยกแยะให้ดี
3. วัตถุประสงค์ของคริสตจักรต้องเน้นพระมหาบัญชา ไม่ใช่สิ่งอื่น - เรื่องนี้อาจะเป็นข้อถกเถียงว่าคริสตจักรต้องเปลี่ยนสังคม ต้องเน้นทุกเรื่องโดยให้คริสตจักรเป็นศูนย์กลาง หรือบางคนจะบอกว่าให้อาณาจักรเป็นศูนย์กลาง ผมเห็นด้วยว่าคริสเตียนต้องเป็นเกลือและแสงสว่าง ต้องเป็นเกลือที่อยู่บนเนื้อเพื่อจะรักษาเนื้อไม่ให้เน่า เป็นแสงสว่างที่ตั้งบนเชิงตะเกียงเพื่อส่องสว่าง ไม่ใช่เอาถังครอบ แต่พอเข้ามุมปฏิบัติจริงๆ คริสตจักรที่จะเน้นเกลือแสงสว่าง + ศิษยาภิบาลที่มีคาริสมา ก็เอาเงินไปใช้ตามใจตัวเองแล้วเอาพระคัมภีร์ข้อนี้มาเป็น "ข้ออ้าง" ทุกที เพราะ "เกลือแสงสว่าง จริงๆ กว้างมาก ก็คือทุกอย่างที่ไม่ใช่โบสถ์ แต่มีวัตถุประสงค์ลึกๆ เพื่องานของพระเจ้า" ปัญหาคือบางทีวัตถุประสงค์ก็ลึกเกินไปจนไม่เห็นว่าพระเจ้าเกี่ยวข้องอย่างไร "เรามองได้เลยว่า ถ้าออกไปในโลกแล้วไม่ประกาศพระนามพระคริสต์ จะด้วยเหตุผลข้ออ้างอะไรก็ตาม ตั้งข้อสงสัยได้เลย"
4. อย่าเป็นคนดื้อด้านไม่ยอมรับอะไรเลย - ตรรกะคนประเภทนี้ไล่ไม่จน ดิ้นไปดิ้นมา ใช้พระคัมภีร์แบบกายกรรมพลิกไปเรื่อยตามความปรารถนาของเนื้อหนังตัวเอง เอาหลักพระคัมภีร์เป็นเหมือนยันต์ที่ปกป้องตัวเองจากทุกอย่างในโลกที่มาบอกว่าเขาผิด ไม่ยอมรับกฏหมาย ไม่ยอมรับความเห็นต่าง จะรู้สึกเหมือนตัวเองถูกข่มเหงตลอดเวลาถ้ามีคนมาพูดสิ่งที่ตรงกันข้าม จะยักยอกเงินโบสถ์ จะถูกจับ ยังไงก็ไม่ยอมรับผิด
1 ปต. 4:14-16 ถ้าพวกท่านถูกด่าเพราะพระนามของพระคริสต์ พวกท่านก็เป็นสุข เพราะว่าพระวิญญาณแห่งพระสิริคือพระวิญญาณของพระเจ้าสถิตกับพวกท่าน แต่อย่าให้ใครในพวกท่านทนทุกข์ฐานเป็นฆาตกร หรือเป็นขโมย หรือเป็นคนทำชั่ว หรือเป็นคนที่เที่ยวยุ่งกับธุระของคนอื่น แต่ถ้าทนทุกข์เพราะได้ชื่อว่าเป็นคริสตชน ก็อย่าให้คนนั้นละอายเลย แต่ให้ถวายพระเกียรติแด่พระเจ้าเพราะชื่อนั้น
โดย คุณ KANOK LEE ตามลิ้งกันไปได้ครับ --> http://kanok-leelahakriengkrai.blogspot.com/2015/10/city-harvest.html