เงินเข้าคลัง เพิ่มหมื่นล้าน หลังใช้ภาษีรถยนต์ อัตราใหม่ ปี '59

เงินเข้าคลัง เพิ่มหมื่นล้าน หลังใช้ภาษีรถยนต์ อัตราใหม่ ปี '59

นายสมชาย พูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมสรรพสามิตกล่าวว่า โครงสร้างภาษี สรรพสามิตรถยนต์ใหม่ ที่เปลี่ยนจากเดิม จัดเก็บตามขนาดเครื่องยนต์ เปลี่ยนมา จัดเก็บโดยอิงกับค่าการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกสู่สิ่งแวดล้อม ที่จะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. ปี 2559 จะส่งผลให้กรมสรรพสามิต มีรายได้เพิ่มขึ้นประมาณ 5,000-10,000 ล้านบาทต่อปี ซึ่งแต่ละปีมียอดจัดเก็บภาษีรถยนต์ประมาณปีละ 100,000 ล้านบาท ทั้งนี้ คิดจากยอดขายประมาณ 800,000-1,000,000 ล้านคันต่อปี จากยอดผลิตรวมประมาณ 2 ล้านคันต่อปี ส่งออกประมาณ 1.2 ล้านคันต่อปี

สำหรับผลกระทบต่อรถยนต์ จะต้อง เสียภาษีแตกต่างกันออกไป โดยกลุ่มรถ อีโคคาร์จะไม่ได้รับผลกระทบ จะยังคงเสียภาษีอัตราเดิม ที่ 25-30% ของราคาหน้าโรงงาน ส่วนรถกระบะ เสียภาษี 5% ภาษีเพิ่มขึ้น 10,000-30,000 บาทต่อคัน แต่รถกลุ่มที่ได้รับผลกระทบต้องเสียภาษีมากที่สุดคือ กลุ่มรถนั่งขนาดกลาง กลุ่มที่มี ขนาดเครื่องยนต์ 2000-2500 ซีซี ค่าการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 160-170 กรัมต่อกิโลเมตร เดิมเสียภาษีเฉลี่ยประมาณ 35% ของราคาหน้าโรงงาน ก็จะเสียเพิ่มขึ้นอีก 5% เป็นเสียภาษีสรรพามิต ที่อัตรา 40% ยกเว้นบางรุ่น บางยี่ห้อที่สามารถปรับปรุงประสิทธิภาพเครื่องยนต์ให้ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์น้อยลงกว่านี้ก็จะได้อัตราภาษีที่ต่ำลงที่ 30-35% ได้

ส่วนรถยนต์กลุ่มรถหรู ที่มีเครื่องยนต์ ขนาดใหญ่ จะเสียภาษีในอัตราเดิมที่ 50% อย่างไรก็ตาม ราคารถยนต์จะขึ้นกับ การตลาดของแต่ละค่ายรถยนต์มากกว่า โดยบางผู้ผลิตอาจรับเอาไว้เองไม่ปรับขึ้นราคาขายก็เป็นไปได้



อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/nnd/2280064


ภาพ http://community.headlightmag.com/index.php?topic=32753.0

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่