การกลับมาอีกครั้งของสะใภ้จ้าว ละครที่เคยดูเมื่อสิบกว่าปีแล้ว
ครั้งนี้อาจมีรูปแบบที่เปลี่ยนไป อาจจะแตกต่างปรับตามสมัยที่สร้าง
และสิ่งที่เด่นชัดคือ
"ความชัดเจนที่สะท้อนไปถึงมุมมองตัวละครที่ถูกบันทึกไว้กระจ่างขึ้น"
สะใภ้จ้าว เรื่องราวของการที่สองพี่น้องจะได้มาเป็นสะใภ้จ้าว เนื้อเรื่องก็มีแค่นี้
แต่ถูกดำเนินเรื่องด้วยตัวละครหลักที่มีความแตกต่างทั้งพื้นฐานและสิ่งแวดล้อม
นำไปสู่กระบวนการการตัดสินใจต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่ง แต่ระหว่างทางก็เกิดความรักระคนไป
สิ่งที่เด่นชัดที่สุดของเรื่องในละครเรื่องนี้ คือ การคลุมถุงชน
ซึ่งการคลุมถุงชนก็เป็นวิถีหนึ่งเมื่อผู้ใหญ่เห็นชายหญิงมีความเหมาะสมดีงามก็จะจับคู่กัน
ถ้าเป็นสมัยนี้คงเกิดขึ้นน้อยแล้ว เพราะสมัยนี้คนเราสามารถเลือกจะรักที่เหมาะสมให้กับตัวเองได้
แต่สมัยก่อนยังเป็นแบบนี้ไม่ได้ การคลุมถุงชนจึงเป็นเรื่องสำคัญต่อชีวิตกับคนยุคนั้นเหมือนกัน
เหล่าตัวละครหลักในเรื่องก็มีความรู้สึกต่อเรื่องนี้เช่นกันตามอุปนิสัยและสิ่งแวดล้อมไปสู่การตัดสินใจกับเรื่องนี้
สาลิน เด็กสาวอาศัยอยู่ที่สวนเมืองนนท์ เลี้ยงดูโดยตากับยาย นิสัยแก่นแก้ว บางครั้งก็ดูทะโมนบางที
แต่เพราะการเลี้ยงดูอย่างอิสระ ทำให้เธอต่างจากเด็กสาวคนอื่น เธอมีความกล้าที่จะเปิดรับและเข้าหาสิ่งต่าง ๆ ได้ง่าย
แต่ในความกล้าบางครั้งทำให้เธอไวต่อสิ่งต่าง ๆ และถ้าสิ่งนั้นเป็นสิ่งที่เธอไม่ถูกใจเธอจะแสดงออกทันที
รวมถึงยังมีความคิดต่อสิ่งต่าง ๆ ตามความรู้สึกของตัวเอง เป็นความอิสระแบบไทย ๆ
สำหรับเธอไม่มีทางเห็นด้วยกับการคลุมถุงชนแน่นอน
ศรีจิตรา พี่สาวของสาลิน อาศัยอยู่กับแม่ภายใต้การดูแลของป้า
ป้าของเธอก็ดูแลและสอนกริยามารยาททำให้เธอเป็นกุลสตรีที่เพียบพร้อมเป็นสะใภ้จ้าว
ในความเพียบพร้อมนั้นบางทีก็เป็นเหมือนกรอบที่คลุมตัวเธอไว้
สำหรับเธอการคลุมถุงชนเธอคงไม่มีปัญหาอะไร ถ้านั่นเป็นการตอบแทนบุญคุณของป้าที่เลี้ยงดูมา
แต่เมื่อเธอถูกปฎิเสธทั้งจากการรับรทราบและรับรู้ด้วยตัวเองถึงสองครั้งและอาจมีครั้งที่สาม
เธอจะรู้สึกอย่างไร
ชายเล็ก (ม.ร.ว. บดินทรราชทรงพล) ชายหนุ่มสำเร็จการศึกษาจากเมืองนอก
มีอุปนิสัยที่ชัดเจนแต่งต่างพี่น้องของตัวเอง มีความรักอิสระและมีความเชื่อมั่นในวิถีที่ตัวเองเลือก
แต่ยังมีความอ่อนโยนเพราะถูกเลี้ยงดูโดยแม่นม การคลุมถุงชนเขาไม่ได้สนใจอะไร
แต่เขากำลังสนใจผู้หญิงคนหนึ่ง และกำลังสร้างสัมพันธ์กับหญิงสาวอีกคนที่ดูท่าจะสนิทได้ง่าย
ชายรอง (ม.ร.ว. กิตติราชนรินทร์ ) พี่ชายของชายเล็ก เป็นลูกคนรองของหม่อมอำพัน
สำเร็จการศึกษาจากเมืองนอก แต่ยังรับราชการ เชื่อฟังต่อเสด็จ เพราะเป็นผู้เลี้ยงดูตัวเองมา
เขาพร้อมกับการคลุมถุงชนเพื่อตอบแทนเสด็จฯ แม้เขาจะไม่ได้ยินดีเท่าไหร่
เมื่อเขาต้องถูกจับคู่ต่อจากพี่ชาย เขารู้สึกไม่ยินดีกับผู้หญิงที่ถูกจับคู่ให้
เพราะเขาก็มีหญิงที่เขารักอยู่ แต่ในส่วนเล็ก ๆ ของตัวเขาเริ่มมีหญิงสาวอีกคนที่เขาไม่ชอบได้เข้ามาอีกคน
จะเห็นได้ว่าตัวละครหลักแต่ละคนก็มีความรู้สึกที่แตกต่างกันไป
จนเกิดความสัมพันธ์ที่หลากหลายราวกับมีกามเทพชักพา
ชายรองกับศรีจิตรา คู่รักที่ถูกจับคู่ทั้งที่ต่างทำไปเพราะการตอบแทนบุญคน โดยที่แต่ละฝ่ายก็ไม่ได้รู้สีกยินดีอะไรต่อกัน
ชายเล็กกับสาลิน หนุ่มสาวที่มีความคิดอ่านคล้ายกัน เพราะมีความอิสระเหมือนกัน ทั้งที่เติบโตกันคนละมุมโลก
ชายเล็กกับศรีจิตรา หนุ่มสาวที่ชะตาให้เขาเห็นหน้าตากัน แม้จะไม่รู้จักกันเลย แต่ชายหนุ่มเริ่มรู้สึกพีงใจกับหญิงสาวนั้น
โดยที่เขาไม่รู้ว่า เธอกำลังจะมาเป็นว่าที่พี่สะใภ้ของเขา
ชายรองกับสาลิน ชายหนุ่มและหญิงสาวที่ไม่ถูกชะตาในกันและกันจากหลายเรื่อง ชายหนุ่มที่ไม่ชอบหญิงสาวจากพฤติกรรม
กับหญิงสาวที่มีความรู้สึกไม่ดีกับชายหนุ่ม และยังต่อต้านเขาถ้าเขาจะต้องมาเป็นคู่หมั้นของพี่สาวตัวเอง
จากตอนนี้ทั้งหมดกำลังเข้าหากันเหมือนกามเทพชักพา
ละครเรื่องนี้นอกจากจะแตกต่างจากละครแนวนี้โดยทั่วไป
ความสำคัญของเรื่องนี้คือการบันทึกประวัติศาสตร์
ในรูปแบบสภาพสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป
ผ่านสำนวนภาษาผ่านตัวละครและสัญลักษณ์ที่เกิดขึ้นในสังคมที่หลากหลาย
การยังมีคนสมัยโบราณของชายโต เพื่อนของสาลินที่มีความนิยมที่ต่างกันแต่ก็เป็นเพื่อนกัน
เพื่อนบ้านที่ยกฐานะตัวตนในสังคม การเกิดขึ้นของอาชีพใหม่ ๆ
เป็นจุดบรรจบเมื่อคนยุคหนึ่งกำลังจะเข้าสู่อีกยุคหนึ่ง
เราจึงยังเหลือสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นก่อนในสมัยนั้นมาถึงสมัยนั้น
และจากสมัยนั้นยังมาถึงสมัยนี้
หากเราได้ดูละครเรื่องนี้ เราก็จะเห็นเช่นนั้นอยู่
สะใภ้จ้าว ยังเป็นมุมมองของเรื่องของคนธรรมดากับกลุ่มคุณหญิงคุณชาย ว่าทั้งทุกคนก็คงเหมือนกัน
มีการใช้ชีวิตมีเรื่องราว มีเสียงตลก มีความสุขความทุกข์ เพียงแต่สภาพแวดล้อมที่ต่างกัน
แต่สิ่งที่ทุกคนมีเหมือนกันคือความรัก
เพราะความรัก ไม่ว่าจะคุณจะเป็นใครหรือจะเป็นอย่างไร อาจไม่ต้องใช้ความกล้า ใช้การกระทำ ใช้เหตุผล
หรือใช้ความรู้สึก และแม้วิถีแห่งสังคมมาเกี่ยวข้อง คุณก็จะสามารถรับรู้และเข้าใจด้วยตัวคุณเอง
" รักที่จัดให้ รักที่ใฝ่หา รักที่กามเทพชักพา รักใดจะเป็นรักที่แท้จริง... "
สะใภ้จ้าว : บันทึกรักแห่งยุคสมัย...จุดบรรจบที่ยังคงร่องรอย
ครั้งนี้อาจมีรูปแบบที่เปลี่ยนไป อาจจะแตกต่างปรับตามสมัยที่สร้าง
และสิ่งที่เด่นชัดคือ "ความชัดเจนที่สะท้อนไปถึงมุมมองตัวละครที่ถูกบันทึกไว้กระจ่างขึ้น"
สะใภ้จ้าว เรื่องราวของการที่สองพี่น้องจะได้มาเป็นสะใภ้จ้าว เนื้อเรื่องก็มีแค่นี้
แต่ถูกดำเนินเรื่องด้วยตัวละครหลักที่มีความแตกต่างทั้งพื้นฐานและสิ่งแวดล้อม
นำไปสู่กระบวนการการตัดสินใจต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่ง แต่ระหว่างทางก็เกิดความรักระคนไป
สิ่งที่เด่นชัดที่สุดของเรื่องในละครเรื่องนี้ คือ การคลุมถุงชน
ซึ่งการคลุมถุงชนก็เป็นวิถีหนึ่งเมื่อผู้ใหญ่เห็นชายหญิงมีความเหมาะสมดีงามก็จะจับคู่กัน
ถ้าเป็นสมัยนี้คงเกิดขึ้นน้อยแล้ว เพราะสมัยนี้คนเราสามารถเลือกจะรักที่เหมาะสมให้กับตัวเองได้
แต่สมัยก่อนยังเป็นแบบนี้ไม่ได้ การคลุมถุงชนจึงเป็นเรื่องสำคัญต่อชีวิตกับคนยุคนั้นเหมือนกัน
เหล่าตัวละครหลักในเรื่องก็มีความรู้สึกต่อเรื่องนี้เช่นกันตามอุปนิสัยและสิ่งแวดล้อมไปสู่การตัดสินใจกับเรื่องนี้
สาลิน เด็กสาวอาศัยอยู่ที่สวนเมืองนนท์ เลี้ยงดูโดยตากับยาย นิสัยแก่นแก้ว บางครั้งก็ดูทะโมนบางที
แต่เพราะการเลี้ยงดูอย่างอิสระ ทำให้เธอต่างจากเด็กสาวคนอื่น เธอมีความกล้าที่จะเปิดรับและเข้าหาสิ่งต่าง ๆ ได้ง่าย
แต่ในความกล้าบางครั้งทำให้เธอไวต่อสิ่งต่าง ๆ และถ้าสิ่งนั้นเป็นสิ่งที่เธอไม่ถูกใจเธอจะแสดงออกทันที
รวมถึงยังมีความคิดต่อสิ่งต่าง ๆ ตามความรู้สึกของตัวเอง เป็นความอิสระแบบไทย ๆ
สำหรับเธอไม่มีทางเห็นด้วยกับการคลุมถุงชนแน่นอน
ศรีจิตรา พี่สาวของสาลิน อาศัยอยู่กับแม่ภายใต้การดูแลของป้า
ป้าของเธอก็ดูแลและสอนกริยามารยาททำให้เธอเป็นกุลสตรีที่เพียบพร้อมเป็นสะใภ้จ้าว
ในความเพียบพร้อมนั้นบางทีก็เป็นเหมือนกรอบที่คลุมตัวเธอไว้
สำหรับเธอการคลุมถุงชนเธอคงไม่มีปัญหาอะไร ถ้านั่นเป็นการตอบแทนบุญคุณของป้าที่เลี้ยงดูมา
แต่เมื่อเธอถูกปฎิเสธทั้งจากการรับรทราบและรับรู้ด้วยตัวเองถึงสองครั้งและอาจมีครั้งที่สาม
เธอจะรู้สึกอย่างไร
ชายเล็ก (ม.ร.ว. บดินทรราชทรงพล) ชายหนุ่มสำเร็จการศึกษาจากเมืองนอก
มีอุปนิสัยที่ชัดเจนแต่งต่างพี่น้องของตัวเอง มีความรักอิสระและมีความเชื่อมั่นในวิถีที่ตัวเองเลือก
แต่ยังมีความอ่อนโยนเพราะถูกเลี้ยงดูโดยแม่นม การคลุมถุงชนเขาไม่ได้สนใจอะไร
แต่เขากำลังสนใจผู้หญิงคนหนึ่ง และกำลังสร้างสัมพันธ์กับหญิงสาวอีกคนที่ดูท่าจะสนิทได้ง่าย
ชายรอง (ม.ร.ว. กิตติราชนรินทร์ ) พี่ชายของชายเล็ก เป็นลูกคนรองของหม่อมอำพัน
สำเร็จการศึกษาจากเมืองนอก แต่ยังรับราชการ เชื่อฟังต่อเสด็จ เพราะเป็นผู้เลี้ยงดูตัวเองมา
เขาพร้อมกับการคลุมถุงชนเพื่อตอบแทนเสด็จฯ แม้เขาจะไม่ได้ยินดีเท่าไหร่
เมื่อเขาต้องถูกจับคู่ต่อจากพี่ชาย เขารู้สึกไม่ยินดีกับผู้หญิงที่ถูกจับคู่ให้
เพราะเขาก็มีหญิงที่เขารักอยู่ แต่ในส่วนเล็ก ๆ ของตัวเขาเริ่มมีหญิงสาวอีกคนที่เขาไม่ชอบได้เข้ามาอีกคน
จะเห็นได้ว่าตัวละครหลักแต่ละคนก็มีความรู้สึกที่แตกต่างกันไป
จนเกิดความสัมพันธ์ที่หลากหลายราวกับมีกามเทพชักพา
ชายรองกับศรีจิตรา คู่รักที่ถูกจับคู่ทั้งที่ต่างทำไปเพราะการตอบแทนบุญคน โดยที่แต่ละฝ่ายก็ไม่ได้รู้สีกยินดีอะไรต่อกัน
ชายเล็กกับสาลิน หนุ่มสาวที่มีความคิดอ่านคล้ายกัน เพราะมีความอิสระเหมือนกัน ทั้งที่เติบโตกันคนละมุมโลก
ชายเล็กกับศรีจิตรา หนุ่มสาวที่ชะตาให้เขาเห็นหน้าตากัน แม้จะไม่รู้จักกันเลย แต่ชายหนุ่มเริ่มรู้สึกพีงใจกับหญิงสาวนั้น
โดยที่เขาไม่รู้ว่า เธอกำลังจะมาเป็นว่าที่พี่สะใภ้ของเขา
ชายรองกับสาลิน ชายหนุ่มและหญิงสาวที่ไม่ถูกชะตาในกันและกันจากหลายเรื่อง ชายหนุ่มที่ไม่ชอบหญิงสาวจากพฤติกรรม
กับหญิงสาวที่มีความรู้สึกไม่ดีกับชายหนุ่ม และยังต่อต้านเขาถ้าเขาจะต้องมาเป็นคู่หมั้นของพี่สาวตัวเอง
จากตอนนี้ทั้งหมดกำลังเข้าหากันเหมือนกามเทพชักพา
ละครเรื่องนี้นอกจากจะแตกต่างจากละครแนวนี้โดยทั่วไป
ความสำคัญของเรื่องนี้คือการบันทึกประวัติศาสตร์
ในรูปแบบสภาพสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป
ผ่านสำนวนภาษาผ่านตัวละครและสัญลักษณ์ที่เกิดขึ้นในสังคมที่หลากหลาย
การยังมีคนสมัยโบราณของชายโต เพื่อนของสาลินที่มีความนิยมที่ต่างกันแต่ก็เป็นเพื่อนกัน
เพื่อนบ้านที่ยกฐานะตัวตนในสังคม การเกิดขึ้นของอาชีพใหม่ ๆ
เป็นจุดบรรจบเมื่อคนยุคหนึ่งกำลังจะเข้าสู่อีกยุคหนึ่ง
เราจึงยังเหลือสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นก่อนในสมัยนั้นมาถึงสมัยนั้น
และจากสมัยนั้นยังมาถึงสมัยนี้
หากเราได้ดูละครเรื่องนี้ เราก็จะเห็นเช่นนั้นอยู่
สะใภ้จ้าว ยังเป็นมุมมองของเรื่องของคนธรรมดากับกลุ่มคุณหญิงคุณชาย ว่าทั้งทุกคนก็คงเหมือนกัน
มีการใช้ชีวิตมีเรื่องราว มีเสียงตลก มีความสุขความทุกข์ เพียงแต่สภาพแวดล้อมที่ต่างกัน
แต่สิ่งที่ทุกคนมีเหมือนกันคือความรัก
เพราะความรัก ไม่ว่าจะคุณจะเป็นใครหรือจะเป็นอย่างไร อาจไม่ต้องใช้ความกล้า ใช้การกระทำ ใช้เหตุผล
หรือใช้ความรู้สึก และแม้วิถีแห่งสังคมมาเกี่ยวข้อง คุณก็จะสามารถรับรู้และเข้าใจด้วยตัวคุณเอง
" รักที่จัดให้ รักที่ใฝ่หา รักที่กามเทพชักพา รักใดจะเป็นรักที่แท้จริง... "