- Honeymoon in France: จุดเริ่มต้นของ13 วัน ในฝรั่งเศส - http://ppantip.com/topic/34326406
- Ep.1: Chamonix เมืองขนมหวาน กลางเทือกเขาแอลป์ - http://ppantip.com/topic/34326743
- Ep.2: Annecy "Little Venice" แห่งฝรั่งเศส - http://ppantip.com/topic/34347401
- Ep.3: Avignon สะพานขาดก็มิอาจพรากเราได้ - http://ppantip.com/topic/34382391
- Ep.4: Provence หมู่บ้านบนเนินเขา และเราสองคน - http://ppantip.com/topic/34468041
- Ep.5: Arles ตามรอย วินเซนต์ เเวนโก๊ะ - http://ppantip.com/topic/34493023
- Ep 6: L'isle sur la Sorgue ปิกนิคกลางเมืองกังหันน้ำ - http://ppantip.com/topic/34581875
- Ep 7: Rennes บ้านเอียง เคียงกัน - http://ppantip.com/topic/34643659
- Ep 8: Mont Saint Michel ท่องปราสาท The Lord of the Rings - http://ppantip.com/topic/34760301
- Ep 9: Paris "Je t'aime" หลงรักปารีส 24 ชั่วโมง - http://ppantip.com/topic/34821139
- Ep 10: Loire Valley ขอเป็นเจ้าหญิงในปราสาท 1 วัน - http://ppantip.com/topic/34875863
- Ep 11: Disneyland Paris แอ๊บเด็กไปกับ Mickey & Minnie - http://ppantip.com/topic/34904619
- Ep 12: Montmarte เสน่ห์ของถนนเส้นหลังบ้าน - http://ppantip.com/topic/34933456
         


          เมืองแรกของทริปฮันนีมูนนี้
          เราเลือกเมืองที่เราชอบก่อนเลย ด้วยความที่เราเป็นคนชอบภูเขา  ที่หนาวๆ แล้วก็มีทะเลสาบ เราเลยตัดสินใจว่าเมืองแรกที่จะไปคือเมืองทางด้านฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของฝรั่งเศส  เมืองติดเทือกเขาแอลป์ชื่อว่า Chamonix (ชาโมนี) http://www.chamonix.com/chamonix-mont-blanc,0,en.html



           
          ดูจาก Google Map จะเห็นได้ว่ามันไกลจาก Paris ค่อนข้างมาก เราจึงตัดสินใจนั่งเครื่องบินไปลงที่ Geneva, Switzerland แทน  ซึ่งใช้เวลาจากสนามบิน Geneva  ไปถึงเมือง Chamonix เพียง ชั่วโมงครึ่ง         

สนามบินเจนีวา

จากสนามบินไป Chamonix เราจึงใช้บริการรถ mini bus ของบริษัทชื่อ Chamexpress (http://www.chamexpress.com/)  บริการดี ตรงเวลาและส่งถึงหน้าโรงแรม

รถของ Chamexpress
Credit: www.chamonix.com
           
          วิวระหว่างเป็นเทือกเขาสูงที่มีหิมะปกคลุม สลับกับหมู่บ้านเล็กๆ น่ารักเป็นหย่อมๆ
          คืนแรกเราพักที่ โรงแรมนี้ Mercure Chamonix Centre โดยเราจองผ่านทางเว็บ www.booking.com โรงแรมอยู่ใจกลางเมือง และห้องมีระเบียงที่สามารถมองออกมาเห็นภูเขาได้  โรงแรมในเมืองนี้ส่วนใหญ่จะเป็นโรงแรมที่ขนาดไม่ใหญ่มาก  ราคาค่อนข้างสูง  อยู่ที่ประมาณ 4,000 บาทขึ้นไป  แต่คุณภาพดี ห้องใหญ่กว่าโรงแรมในเมืองใหญ่อย่าง Paris หรือเมืองท่องเที่ยวหลักอื่นๆ






เห็นวิวจากห้อง แล้วชื่นใจ






          หลังจากเอากระเป๋าไปเก็บที่ห้องแล้ว  เราก็ออกเดินสำรวจเมืองทันที  จุดหมายแรกของเราคือ....ร้านอาหาร  ร้านที่เราเลือกเป็นร้านเล็กๆ  แต่เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยว เป็นร้านที่คนชอบกาแฟไม่ควรพลาด เพราะเค้าบอกว่าเป็นกาแฟอิตาเลี่ยน แถมอาหารก็อร่อยด้วย  ร้านนี้ชื่อว่า Green Soft Bar (https://www.facebook.com/GreenSoftBar)





สลัด

          เมนูเด็ดที่ห้ามพลาดคือ Penne Truffle sauce ที่โปะด้วย Parma Ham แบบจุใจ  กลิ่น truffle หอมมากกกก จานนี้กินแล้วหายเหนื่อยจากการเดินทางเป็นปลิดทิ้ง



          ส่วนของหวานทีเด็ดของร้าน คือ Tiramisu ซึ่งจริงๆแล้วเป็นขนมของอิตาลี  แต่กินที่นี่ก็อร่อยไม่แพ้กัน  เมืองChamonix ได้อิทธิพลเรื่องอาหารจากอิตาลีเยอะ เพราะเมืองอยู่ติดกับทางตอนเหนือของอิตาลี  ขับรถไปไม่กี่ชั่วโมงก็ถึง

Tiramisu @ Green Soft Bar

         หลังจากกินเสร็จก็ได้เวลาเดินเล่นในเมืองจริงๆ สักที  เมืองนี้บรรยากาศน่ารัก สองข้างทางส่วนใหญ่เป็นร้านขนม ร้านขายของกิน และร้านขายอุปกรณ์เล่นสกี


          แต่ที่โดนใจเราคือ ร้านเค้กเยอะมาก
          เดินไปตรงไหนก็เจอ  ละลานตาไปหมด  และแน่นอนเราก็ต้องมีร้านที่เล็งไว้อีกเช่นเคย  ชื่อร้านก็คือร้าน Patisserie Richard Chamonix (http://www.tripadvisor.com/Restaurant_Review-g187261-d1723713-Reviews-Patisserie_Richard-Chamonix_Haute_Savoie_Rhone_Alpes.html)
ร้านนี้ขายทั้งเค้ก และช็อคโกแลต  ที่ตกแต่งได้สวยงาม เราก็ไปเกาะตู้เค้ก ดูตาละห้อย อยากกินไปซะหมด
(ได้คะแนนโหวตใน Tripadvisor เยอะด้วย) แน่นอนถึงเราจะอิ่มอยู่ เราก็ซื้อ 1 ชิ้น  เก็บไว้ไปกินที่โรงแรม




          ส่วนนี่ก็ร้านขนม อีกหนึ่งร้าน ขายทั้งช็อคโกแลต ทั้งเค้ก ทั้งมาการอง เราเลยซื้อมาการอง จากร้านนี้มาลองอีก


"จะชิมทุกร้านเลยมั้ย" คุณแฟนเริ่มแซวความตะกละของเรา
"นี่ถ้ากินแล้วไม่อ้วน กินทุกร้านแล้วววว" เราก็ตอบจากใจจริง แต่เราว่าต่อให้กินแล้วไม่อ้วนก็คงกินทุกร้านไม่ไหวอยู่ดี เพราะร้านขนมหวานมันเยอะจริงๆ

         
          นอกจากร้านเค้กก็ยังมีร้านขายขนมสารพัดอย่าง ทั้งเยลลี่ ลูกอม ตังเม ชอคโกแลต  โดยร้านจะแต่งน่ารักมาก เข้าไปแล้วเหมือนอยู่ในบ้านขนมปังของฮันเซลกับเกรเทล เลยทีเดียว เด็กๆชอบมากร้านนี้  เด็กที่ไปกะเรา(คุณสามี)  ก็ลั้ลลาเลยทีเดียว เนื่องจากเยลลี่คือของโปรดของนาง





          เอาหละๆ มาถึง Sweet Gimmick  เคล็ดลับการสร้างความหวาน เด๋วคนอ่านจะงง ว่านี่มันมาฮันนีมูน หรือมาทัวร์กินกันแน่ (เราเองก็มีโมเม้นที่ไม่แน่ใจเหมือนกัน 55555)
    
          จุดสวีทของเมืองนี้ ที่แรกคือ ริมแม่น้ำ  ในเมืองนี้จะมีแม่น้ำเล็กๆไหลผ่าน  น้ำใสมาก  เราสามารถไปนั่งเล่นและตั้งกล้องถ่ายรูปคู่ได้  เรากะคุณสามีเลยซื้อขนมจากร้านขนม  แล้วไปนั่งกินริมน้ำ  อาจเพราะอากาศหนาว และมีหิมะปรอยนิดหน่อย เลยไม่มีคนเลย  ทำให้เรามีเวลานั่งเล่น และถ่ายรูปออกมาได้โดยไม่มีคนอื่นติดอยู่ในรูปเลย




         หลังจากนั่งเล่นสักพักก็สำรวจเมืองกันต่อ  ร้านรวงที่นี่มีมากมายจริงๆ  ดูได้เรื่อยๆไม่เบื่อ ยิ่งคนไหนชอบของแต่งบ้านน่ารักๆ  มีให้เลือกเยอะมาก  ของส่วนใหญ่สีสันสดใส  แลัวก็ให้อารมณ์เหมือนของตกแต่งวัน Christmas



          เดินไปเจอตลาดนัดเล็กๆกลางเมือง เสียดายเค้ากำลังจะเลิกพอดี โชคดียังมีร้านผลไม้เปิดอยู่ เลยได้ซื้อสตรอเบอร์รี่ มากินเล่นอีกหนึ่งอย่าง









          จุดสวีทที่ 2 คือ หน้าโบสถ์เล็กๆ ในเมืองนี้ ชื่อโบสถ์ St.Michel โบสถ์เล็กๆดูน่ารัก  ไปยืนถ่ายรูปแล้วมโนเอาว่าได้เข้าพิธีแต่งงานที่นี่อีกสักรอบ อะไรประมาณนั้น

          จากโบสถ์มองไปฝั่งตรงข้ามก็จะเป็นภูเขาสูง  เห็นหิมะปกคลุมยาวตลอดแนว  ลานโบสถ์เงียบๆ  ให้ความรู้สึกสงบ ไม่วุ่นวายเหมือนตรงย่านใจกลางเมือง




          เดินจากโบสถ์ไปไม่ไกล จะเจอพิพิธภัณฑ์คริสตัล (Musee des Cristaux - http://www.chamonix.com/musee-des-cristaux-espace-tairraz,48-195136,en.html) ที่นี่จะมีการจัดแสดงโชว์หินคริสตัลสวยๆที่ขุดจากบริเวณเทือกเขาในระแวกนั้น  ที่นี่ไม่ใหญ่มาก เดินแป๊บเดียวก็ทั่ว  ถ้าใครไม่สนใจคริสตัลก็ข้ามไปเลยเพราะมีค่าเข้าด้วย คนละ5 ยูโร  เราตัดสินใจเข้าไปเพราะต้องการจะหลบฝน ซึ่งตอนนั้นตกลงมาค่อนข้างหนัก  เลยหลบเข้าไปพักหาที่อบอุ่น





          พักจนหายหนาวก็ออกมาถ่ายรูปต่อ  เราก็ไปตรงจัตุรัสกลางเมือง  ที่มีรูปปั้น แล้วก็บ้านเรือนสไตล์ที่เป็นเอกลักษ์ของที่นี่  หามุมตั้งกล้อง และก็ได้รูปคู่นี้มา




         เดินเล่นจนเริ่มค่ำ  เดินไปกินไปตลอดทาง  ทำให้เราไม่หิวเลย  จึงตัดสินใจซื้อขนม มาการอง และไวน์แดงหนึ่งขวดไปนั่งจิบริมหน้าต่างที่โรงแรม เป็นมื้อเย็นที่เรียบง่าย  และจบการเดินทางวันแรกแบบ Happy สบายท้อง  พักผ่อนเร็วหน่อยเพราะวันนี้เดินทางเหนื่อย

Good Night
-----------------------------------------------------------