รีวิว Little Zoo Café คาเฟ่ของเหล่าจิ้งจอกน้อยจอมซน [เมืองทองธานี] by Sweet Tales
สวัสดีจ้าเพื่อนๆ สืบเนื่องมาจากเจ้าจิ้งจอกทะเลทรายเป็นสัตว์เลี้ยงในฝันของเรา แล้วในที่สุดก็มีคาเฟ่นี้มาเปิดในเมืองไทยเราจะพลาดได้อย่างไร อิอิ เห็นเค้าว่ากันว่าคนแน่นร้านมากแม้วันธรรมดา ก็เลยว่ารอให้คนซาๆก่อนแล้วค่อยแวะไปดีกว่า เมื่อวันศุกร์ที่แล้วเลยเพิ่งจะมีโอกาสไปถ่ายทำรีวิวให้เพื่อนๆได้อ่านกันจ้า ในเมื่อโอกาสมาถึง แบบนี้ต้องจัดเต็มสินะ เอาล่ะ มาเริ่มกันเลยดีกว่า
ปล. รีวิวคราวที่แล้วมีคอมเม้นว่า รูปน้อยไป คราวนี้เลยจัดให้แบบเต็มๆเลยนะค่ะ
ปล. 2 รูปเด็กๆในร้านอาจจะเบลอๆนิดนึงนะค่ะ น้องๆแอคทีฟกันมาก ถ่ายไม่ทันกันเลยทีเดียว อิอิ
>>> Location
พิกัดร้าน ร้านจะอยู่ในส่วนของโครงการสุโขทัย 99 (Sukhothai Ave 99) อยู่ตรงข้าม ม. สุโขทัยธรรมาธิราช
55/163 โครงการสุโขทัย 99
ถนน บอนด์สตรีท ต. บางพูด อ. ปากเกร็จ
นนทบุรี
วิธีการเดินทาง สำหรับคนที่ไม่มีรถยนตร์ส่วนตัว สามารถขึ้นรถตู้จาก อนุสาวรีย์ หรือ เดอะมอลล์งามวงศ์วานมาลง ม. สุโขทัยธรรมาธิราช และก็อาจจะนั่งวินต่อหรือเดินมาก็ได้ค่า จาก มสธ ไม่ไกลมากเท่าไหร่
ส่วนคนที่มีรถยนตร์ส่วนตัวก็ สามารถมาจากเส้นแจ้งวัฒนะเลี้ยวเข้าเมืองทอง ตรงมาเรื่อยๆ เลยกรมที่ดิน แล้วเลี้ยวเข้ามาในสุโขทัย เอฟ99 จ้า มีที่จอดรถของโครงการค่ะ ถ้าแสตมป์บัตร จอดได้ฟรี 2 ชม ค่ะ
ร้านหาไม่ยากนะค่ะ ให้สังเกตุจากป้านจิ้งจอกหน้าร้านได้เลยค่ะ ^^
>>> Opening Hours / Reservation
ร้านเปิดบริการทุกวันยกเว้นวันจันทร์นะค่ะ
เวลาเปิด – ปิดร้าน คือ 12.00 – 20.30 ค่ะ
เมื่อก่อนเคยเปิดตอน 11 โมงค่ะ แต่เพิ่งเปลี่ยนเวลาเปิดมาเป็นตอนเที่ยงแทนตั้งแต่วันที่ 18 กันยายนนะค่ะ
ยังไงเพื่อความแน่ใจจะลองโทรมาสอบถามก่อนก็ได้นะค่ะที่เบอร์ 0874411223 หรือ 0897727728
อย่างไรก็ตามทางร้านไม่รับจองคิวนะค่ะ ลูกค้าสามารถ walk in ได้อย่างเดียวค่ะ
Facebook ของทางร้านสำหรับเชคเมนู หรือโปรโมชั่นใหม่ๆนะค่ะ
https://www.facebook.com/littlezoocafe
>>> Café Decoration
ความรู้สึกแรกที่เข้าไปในร้านรู้สึกว่าร้านดูคลีนๆและสะอาดตาดีค่ะ ด้านในจะเป็นผนังสีขาวและมีการตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้ๆ ข้างในร้านค่อนข้างสว่างเนื่องจากหน้าร้านเป็นกระจกใส แต่ไม่จ้าแสบตามากจนเกินไป (แต่ด้านในของร้านก็แอบมืดเล็กน้อยนะค่ะ)
ก่อนเข้าร้าน อย่าลืมเปลี่ยนรองเท้าและล้างมือให้เรียบร้อยก่อนเข้าไปเล่นกับน้องจิ้งจอกกันนะค่ะ มีชั้นวางรองเท้าอยู่หน้าร้านและอ่างล้างมือค่ะ ทางร้านมีรองเท้าสำหรับใส่ในบ้านจัดเตรียมไว้ให้ค่ะ
ที่นั่งจะแบ่งเป็น 3 โซนนะค่ะ คือ
1. ที่นั่งตรงหน้าร้าน ตรงที่สามารถเห็นเจ้าจิ้งจอกได้ ที่นั่งบริเวณนี้จะเป็นแบบโต๊ะเก้าอี้ มีทั้งหมด 6 ตัว
2. ที่นั่งหน้าร้านด้านบน (จะอยู่บนห้องเล่นของน้องๆจิ้งจอก) เป็นโต๊ะญี่ปุ่นแบบนั่งพื้นมีประมาณ 3-4 โต๊ะ บริเวณนี้ค่อนข้างจะขึ้นลงลำบากนะค่ะ เนื่องจากบันได้ขั้นเล็กมาก ข้างบนจะมีชั้นวางหนังสือกิ๊บเก๋มากและก็มีน้องหมีตัวโตนั่งทานขนมเป็นเพื่อนด้วยจ้า
3. ที่นั่งบนชั้น 2 ขึ้นบันไดไปชั้นบน จะเป็นที่นั่งข้างหน้าเตาผิงอิฐจำลอง ตกแต่งแบบเรียบง่ายแต่ดูดี โต๊ะแบบญี่ปุ่นนะค่ะนั่งพื้น มีโต๊ะอยู่ 6-7 โต๊ะได้ค่ะ และชั้นสองก็ดีอย่างคือสามารถมองเห็นน้องแรคคูนได้นะค่ะ น้องๆจะอยู่ในห้องเล่นกระจกใสค่ะ
ทั้งร้านสามารถจุลูกค้าได้ประมาณ 50-70 คน แต่มีระบบจองคิวที่หน้าร้าน มีกระดาษจดชื่อและเบอร์โทรเมื่อถึงคิวพนักงานจะโทรเรียกนะค่ะ
ในร้านมีห้องน้ำบริการ 2 ห้องนะค่ะ ชั้นล่าง 1 ห้อง และชั้น บน 1 ห้องค่ะ ห้องน้ำสะอาดสะอ้านดีค่ะ แต่ห้องน้ำชั้นบนรู้สึกเหมือนไฟจะเสียนะค่ะ
อื่นๆก็จะมีพวกของตกแต่งภายในร้าน เล็กๆน้อยๆที่เกี่ยวกับพวกจิ้งจอก แต่ไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่เพราะ highlight จริงๆอยู่ที่น้องๆจิ้งจอกตัวจริงมากกว่า อิอิ
>>> It’s Play Time !!! มาเล่นกันเถอะๆๆ
มาดูเจ้าหน้าที่ต้อนรับที่น่ารักกันดีกว่า เป็นน้องปอมหน้าหมี อ้วนจ้ำม้ำ ขนาดกำลังฟัดมากค่ะ อิอิ ตรงทางขึ้นบันไดไปชั้นสองนี้จะเป็นที่ประจำของน้องเค้าเลยค่า น้องๆเค้าชื่อ น้องนิน่า กับนะจ๊ะ (บางวันก็อาจจะมีน้องหมาพันธ์ Yorkshire terrier มาแจมด้วยค่ะ)
ไฮไลท์ของร้านนี้จะอยู่ที่ เราได้เล่นกับน้องๆจิ้งจอกจอมซนทั้งหลายนี่แหละ แต่ระบบการเข้าเล่นจะต้องเข้าตามคิว คือคิวที่เราเข้ามาในร้าน สมมุติเราเป็นลูกค้าคนแรกก็เล่นได้เลยค่ะ ลูกค้า 1 คิว สามารถเล่นกับน้องได้ประมาณ 10-15 นาทีค่ะต่อรอบ ก็ต้องขึ้นอยู่กับอารมณ์ของน้องๆด้วยนะ เช่นถ้าเค้าหงุดหงิดก็อาจจะต้องให้เวลาเค้าพักผ่อนด้วย ถ้าอยากเล่นอีกก็ต้องเข้าคิวแบบ วน คือรอให้ลูกค้าท่านอื่นได้เล่นจนครบก่อนค่ะ
น้องๆจะมีทั้งหมด 5 ตัว ชื่อ ปีโป้ ยูโร่ ทิชชู่ (ตัวเมีย 3 ตัว) และ นกหวีด กับลูกชาย จะเป็นตัวผู้ค่ะ
ในห้องยังมีเจ้าเมียร์แคทอีกตัวนึง ซึ่งเป็นสัตว์ในตระกูลที่อาศัยอยู่ในทะเลทรายเหมือนกันจึงเลี้ยงไว้ด้วยกันค่ะ เราเก็บภาพไม่ทันเนื่องจากน้องๆแอคทีฟกันมาก ภาพจะค่อนข้างเบลอนะค่ะ (พอน้องๆเหนื่อยๆง่วงๆกันแล้วถึงจะได้ภาพมานิดหน่อยค่ะ)
ส่วนการเล่นกับน้องแรคคูน (มีสองตัวนะค่ะ เป็นตัวผู้ รู้สึกจะชื่อ คุ๊กกี้ กับ อ้วนหรือเปล่า ไม่แน่ใจค่ะ) น้องค่อนข้างเล่นแรงนะค่ะ รบกวนให้เชื่อฟังและทำตามพี่ๆพนักงานบอกนะค่ะ ถ้าเค้าเห็นว่า น้องๆเริ่มจะเล่นแรงและไม่ปลอดภัยเค้าก็จะเชิญเราออกจากห้องค่ะ อันนี้คือเพื่อความปลอดภัยของลูกค้าด้วยนะค่ะ
ทีนี้ทางร้านเค้าแจ้งว่า เค้าจะไม่เปิดห้องน้องแรคคูนให้เล่นพร้อมๆกับห้องจิ้งจอก เพื่อป้องกันความสับสนใจการจัดคิวค่ะ แล้วอีกอย่างก็ต้องขึ้นอยู่กับอารมณ์ของน้องแรคคูนด้วย ถ้าน้องเล่นแล้วมีอาการหงุดหงิดอาจจะต้องให้ลูกค้าออกจากห้องเร็วหน่อย
ส่วนพระเอกของร้านที่เป็นจิ้งจอกแดง วันที่เราไป เราไม่ได้เจอเค้าก็เลยไม่ได้ถ่ายรูปมาให้ชมกันนะค่ะ ต้องขอโทษด้วยนะค่ะ ตัวเจ้าจิ้งจอกแดงนี่เค้าจะพักอยู่ที่ชั้นสาม ก็แล้วแต่ทางร้านว่าจะเอามาให้เล่นกันเมื่อไหร่ แต่ช่วงนี้น้องเค้าผลัดขนค่อนข้างเยอะ ก็เลยไม่ค่อยได้ปล่อยให้ลงมานะค่ะ (อันนี้ของเล่น ตัวจริงเห็นในรูปของทางร้านจะหล่อกว่านี้อีก อิอิ)
>>> Sweet/ Menu / Taste
มาดูเมนูของทางร้านกันดีกว่า ในร้านจะมีเมนูไม่มากค่ะ แต่หลักๆก็จะมีเครื่องดื่ม signature อยู่สองตัวคือ เจ้าตัวนี้ โกโกบานาน่า (ค่าเสียหาย 145 บาท) เราว่ารสชาติดีเลยค่ะ เราชอบ มันเป็นโกโก้ข้างบนแล้วข้างล่างคือนมกล้วยค่ะ เราว่าหอมโกโก้และนมกล้วย รสชาติเข้มข้นค่ะค่ะไม่หวานมาก กินแล้วมันลงตัวกันดี
ส่วนเมนูเครื่องดื่ม signature อีกตัวนึงเราไม่ได้ลองชิมนะค่ะ จะเป็น Blue Lemon คล้ายๆอิตาเลี่ยนโซดา น้ำสีฟ้าๆ ราคา 125 บาทจ้า
รูปข้างล่างนี้เป็นลาเต้ร้อนค่ะ ของเพื่อนเราสั่งมา เค้าทำ latte art ให้ข้างหน้าซะสวยเชียว อิอิ อันนี้ราคา 85 บาทค่ะ ทางร้านเค้าจะไม่ได้ใส่น้ำตาลมาให้ในกาแฟนะค่ะ แต่เค้าจะเสริฟมาพร้อมกับไซรัปถ้วยเล็กๆ ก็แล้วแต่ลูกค้าปรุงเองตามชอบใจจะได้เติมเอง รสชาติของกาแฟจะไม่เยอะมาก เน้นที่ความมันของนมมากกว่า
มาเมนู Signature ของทานเล่นกันบ้างนะค่ะ อันนี้เด็ดสุดของในร้านจะเป็น Waffle with Egg and Bacon ค่ะ เซทนึงราคา 235 บาทค่ะ ประกอบด้วยวัฟเฟิ้ล 4 ชิ้น ไข่ลวกสอง โรยหน้ามาด้วยเบค่อนค่ะ วัฟเฟิลเนื้อหนาและแน่นมาก ไข่ลวกจะมาแบบออนเซ็นเลย ไหลเยิ้มๆ เมนูนี้บอกเลยว่ากินคนเดียวไม่หมดค่ะ ทำเอาเราสั่งอย่างอื่นต่อไม่ได้เลยทีเดียว มันเยอะมาก 5555 รสชาติก็โอเคนะ ตอนเรากินชิ้นแรกมันอร่อยดี แต่ชิ้นที่เหลือ กินด้วยความยากลำบาก และถ้าไม่รีบกินตอนที่มันยังร้อน พอไข่ลวกเย็นแล้วมันจะค่อนข้างเลี่ยน เล่นเอาจุกถึงคอเลยทีเดียว
Comment : ถ้าเค้าทำ option ให้เลือกมีจานขนาดใหญ่ (4 ชิ้น) กลาง (2 ชิ้น) เล็ก (1 ชิ้น) น่าจะดีกว่า เผื่อลูกค้าที่มาท่านเดียวแล้วอยากทานเมนูอย่างอื่นด้วยจะได้ไม่อิ่มจนเกินไป
เมนูของหวานที่เป็น signature อีกอันก็คือเจ้านี่เลย ชื่อของมันคือ Banana Log Crepe ค่าเสียหายอยู่ที่ 215 บาทค่ะ เมนูนี้จะเป็นเครปและข้างในเป็นไส้กล้วยเสริฟมาพร้อมซอสช๊อกโกแลตและสตรอวเบอรรี่สด เค้าแต่งจานได้น่ารักดี ทำจากผงโกโก้เป็นรูปจิ้งจอก อันนี้ถ่ายมาจากโต๊ะข้างๆ เลยไม่ได้ชิมรสชาติเลย อิอิ
เมนู signature ของร้านก็จะมีอยู่ทั้งหมด 4 เมนูประมานนี้นะค่ะ ส่วนน้ำสีฟ้าๆในรูปนั้นคือตัว Blue Lemon ค่ะ (Signature Drink ที่กล่าวไปข้างต้น)
>>> Price
ราคาเครื่องดื่มในร้าน จะอยู่ที่ 85 – 145 บาท
เครื่องดื่มประเภทกาแฟ (ร้อน/ เย็น) ประมาณ 85 -145 บาท
เครื่องดื่มประเภทโซดา จะอยู่ที่ 125 บาท
เครื่องดื่มพวก smoothie จะอยู่ที่ 125-145
พวกเมนูของหวานและของทานเล่นในร้านนะค่ะ จะมีตั้งแต่ 165 – 235 ค่ะ
ของทานเล่น (เน้นพวกของทอด)
Mix Fried 165 บาท
Calamari Fried Fish 215 บาท (มันคือหนวดปลาหมึก เสริฟพร้อมกับซอสมายองเนส)
Fish and Chips 265 บาท
Waffle with Egg and Bacon ราคา 235 บาทค่ะ
ของหวาน
Forrest cake, Banana log crepe, Forest Waffles อยู่ที่ 215 บาทค่ะ
Chocolate Truffle Fox ราคา 235 บาทค่ะ
มีไอติมด้วยนะค่ะ (chocolate, strawberry cheesecake, vanilla, super matcha, fudge chunks, macadamia) ไอติมสกู๊ปล่ะ 85 บาทค่ะ
โดยรวมๆเราว่า ราคาค่อนข้างแพงนะค่ะ แต่ถือว่า รวมค่าเล่นกับจิ้งจอกในนั้นด้วยก็ถือว่า คุ้มอยู่ค่ะ เพราะในส่วนที่เข้าไปเล่นกับน้องไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆนะค่ะ แค่ต้องรอเรียกตามคิว
[CR] รีวิว Little Zoo Café คาเฟ่ของเหล่าจิ้งจอกน้อยจอมซน [เมืองทองธานี] by Sweet Tales
สวัสดีจ้าเพื่อนๆ สืบเนื่องมาจากเจ้าจิ้งจอกทะเลทรายเป็นสัตว์เลี้ยงในฝันของเรา แล้วในที่สุดก็มีคาเฟ่นี้มาเปิดในเมืองไทยเราจะพลาดได้อย่างไร อิอิ เห็นเค้าว่ากันว่าคนแน่นร้านมากแม้วันธรรมดา ก็เลยว่ารอให้คนซาๆก่อนแล้วค่อยแวะไปดีกว่า เมื่อวันศุกร์ที่แล้วเลยเพิ่งจะมีโอกาสไปถ่ายทำรีวิวให้เพื่อนๆได้อ่านกันจ้า ในเมื่อโอกาสมาถึง แบบนี้ต้องจัดเต็มสินะ เอาล่ะ มาเริ่มกันเลยดีกว่า
ปล. รีวิวคราวที่แล้วมีคอมเม้นว่า รูปน้อยไป คราวนี้เลยจัดให้แบบเต็มๆเลยนะค่ะ
ปล. 2 รูปเด็กๆในร้านอาจจะเบลอๆนิดนึงนะค่ะ น้องๆแอคทีฟกันมาก ถ่ายไม่ทันกันเลยทีเดียว อิอิ
>>> Location
พิกัดร้าน ร้านจะอยู่ในส่วนของโครงการสุโขทัย 99 (Sukhothai Ave 99) อยู่ตรงข้าม ม. สุโขทัยธรรมาธิราช
55/163 โครงการสุโขทัย 99
ถนน บอนด์สตรีท ต. บางพูด อ. ปากเกร็จ
นนทบุรี
วิธีการเดินทาง สำหรับคนที่ไม่มีรถยนตร์ส่วนตัว สามารถขึ้นรถตู้จาก อนุสาวรีย์ หรือ เดอะมอลล์งามวงศ์วานมาลง ม. สุโขทัยธรรมาธิราช และก็อาจจะนั่งวินต่อหรือเดินมาก็ได้ค่า จาก มสธ ไม่ไกลมากเท่าไหร่
ส่วนคนที่มีรถยนตร์ส่วนตัวก็ สามารถมาจากเส้นแจ้งวัฒนะเลี้ยวเข้าเมืองทอง ตรงมาเรื่อยๆ เลยกรมที่ดิน แล้วเลี้ยวเข้ามาในสุโขทัย เอฟ99 จ้า มีที่จอดรถของโครงการค่ะ ถ้าแสตมป์บัตร จอดได้ฟรี 2 ชม ค่ะ
ร้านหาไม่ยากนะค่ะ ให้สังเกตุจากป้านจิ้งจอกหน้าร้านได้เลยค่ะ ^^
>>> Opening Hours / Reservation
ร้านเปิดบริการทุกวันยกเว้นวันจันทร์นะค่ะ
เวลาเปิด – ปิดร้าน คือ 12.00 – 20.30 ค่ะ
เมื่อก่อนเคยเปิดตอน 11 โมงค่ะ แต่เพิ่งเปลี่ยนเวลาเปิดมาเป็นตอนเที่ยงแทนตั้งแต่วันที่ 18 กันยายนนะค่ะ
ยังไงเพื่อความแน่ใจจะลองโทรมาสอบถามก่อนก็ได้นะค่ะที่เบอร์ 0874411223 หรือ 0897727728
อย่างไรก็ตามทางร้านไม่รับจองคิวนะค่ะ ลูกค้าสามารถ walk in ได้อย่างเดียวค่ะ
Facebook ของทางร้านสำหรับเชคเมนู หรือโปรโมชั่นใหม่ๆนะค่ะ
https://www.facebook.com/littlezoocafe
>>> Café Decoration
ความรู้สึกแรกที่เข้าไปในร้านรู้สึกว่าร้านดูคลีนๆและสะอาดตาดีค่ะ ด้านในจะเป็นผนังสีขาวและมีการตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้ๆ ข้างในร้านค่อนข้างสว่างเนื่องจากหน้าร้านเป็นกระจกใส แต่ไม่จ้าแสบตามากจนเกินไป (แต่ด้านในของร้านก็แอบมืดเล็กน้อยนะค่ะ)
ก่อนเข้าร้าน อย่าลืมเปลี่ยนรองเท้าและล้างมือให้เรียบร้อยก่อนเข้าไปเล่นกับน้องจิ้งจอกกันนะค่ะ มีชั้นวางรองเท้าอยู่หน้าร้านและอ่างล้างมือค่ะ ทางร้านมีรองเท้าสำหรับใส่ในบ้านจัดเตรียมไว้ให้ค่ะ
ที่นั่งจะแบ่งเป็น 3 โซนนะค่ะ คือ
1. ที่นั่งตรงหน้าร้าน ตรงที่สามารถเห็นเจ้าจิ้งจอกได้ ที่นั่งบริเวณนี้จะเป็นแบบโต๊ะเก้าอี้ มีทั้งหมด 6 ตัว
2. ที่นั่งหน้าร้านด้านบน (จะอยู่บนห้องเล่นของน้องๆจิ้งจอก) เป็นโต๊ะญี่ปุ่นแบบนั่งพื้นมีประมาณ 3-4 โต๊ะ บริเวณนี้ค่อนข้างจะขึ้นลงลำบากนะค่ะ เนื่องจากบันได้ขั้นเล็กมาก ข้างบนจะมีชั้นวางหนังสือกิ๊บเก๋มากและก็มีน้องหมีตัวโตนั่งทานขนมเป็นเพื่อนด้วยจ้า
3. ที่นั่งบนชั้น 2 ขึ้นบันไดไปชั้นบน จะเป็นที่นั่งข้างหน้าเตาผิงอิฐจำลอง ตกแต่งแบบเรียบง่ายแต่ดูดี โต๊ะแบบญี่ปุ่นนะค่ะนั่งพื้น มีโต๊ะอยู่ 6-7 โต๊ะได้ค่ะ และชั้นสองก็ดีอย่างคือสามารถมองเห็นน้องแรคคูนได้นะค่ะ น้องๆจะอยู่ในห้องเล่นกระจกใสค่ะ
ทั้งร้านสามารถจุลูกค้าได้ประมาณ 50-70 คน แต่มีระบบจองคิวที่หน้าร้าน มีกระดาษจดชื่อและเบอร์โทรเมื่อถึงคิวพนักงานจะโทรเรียกนะค่ะ
ในร้านมีห้องน้ำบริการ 2 ห้องนะค่ะ ชั้นล่าง 1 ห้อง และชั้น บน 1 ห้องค่ะ ห้องน้ำสะอาดสะอ้านดีค่ะ แต่ห้องน้ำชั้นบนรู้สึกเหมือนไฟจะเสียนะค่ะ
อื่นๆก็จะมีพวกของตกแต่งภายในร้าน เล็กๆน้อยๆที่เกี่ยวกับพวกจิ้งจอก แต่ไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่เพราะ highlight จริงๆอยู่ที่น้องๆจิ้งจอกตัวจริงมากกว่า อิอิ
>>> It’s Play Time !!! มาเล่นกันเถอะๆๆ
มาดูเจ้าหน้าที่ต้อนรับที่น่ารักกันดีกว่า เป็นน้องปอมหน้าหมี อ้วนจ้ำม้ำ ขนาดกำลังฟัดมากค่ะ อิอิ ตรงทางขึ้นบันไดไปชั้นสองนี้จะเป็นที่ประจำของน้องเค้าเลยค่า น้องๆเค้าชื่อ น้องนิน่า กับนะจ๊ะ (บางวันก็อาจจะมีน้องหมาพันธ์ Yorkshire terrier มาแจมด้วยค่ะ)
ไฮไลท์ของร้านนี้จะอยู่ที่ เราได้เล่นกับน้องๆจิ้งจอกจอมซนทั้งหลายนี่แหละ แต่ระบบการเข้าเล่นจะต้องเข้าตามคิว คือคิวที่เราเข้ามาในร้าน สมมุติเราเป็นลูกค้าคนแรกก็เล่นได้เลยค่ะ ลูกค้า 1 คิว สามารถเล่นกับน้องได้ประมาณ 10-15 นาทีค่ะต่อรอบ ก็ต้องขึ้นอยู่กับอารมณ์ของน้องๆด้วยนะ เช่นถ้าเค้าหงุดหงิดก็อาจจะต้องให้เวลาเค้าพักผ่อนด้วย ถ้าอยากเล่นอีกก็ต้องเข้าคิวแบบ วน คือรอให้ลูกค้าท่านอื่นได้เล่นจนครบก่อนค่ะ
น้องๆจะมีทั้งหมด 5 ตัว ชื่อ ปีโป้ ยูโร่ ทิชชู่ (ตัวเมีย 3 ตัว) และ นกหวีด กับลูกชาย จะเป็นตัวผู้ค่ะ
ในห้องยังมีเจ้าเมียร์แคทอีกตัวนึง ซึ่งเป็นสัตว์ในตระกูลที่อาศัยอยู่ในทะเลทรายเหมือนกันจึงเลี้ยงไว้ด้วยกันค่ะ เราเก็บภาพไม่ทันเนื่องจากน้องๆแอคทีฟกันมาก ภาพจะค่อนข้างเบลอนะค่ะ (พอน้องๆเหนื่อยๆง่วงๆกันแล้วถึงจะได้ภาพมานิดหน่อยค่ะ)
ส่วนการเล่นกับน้องแรคคูน (มีสองตัวนะค่ะ เป็นตัวผู้ รู้สึกจะชื่อ คุ๊กกี้ กับ อ้วนหรือเปล่า ไม่แน่ใจค่ะ) น้องค่อนข้างเล่นแรงนะค่ะ รบกวนให้เชื่อฟังและทำตามพี่ๆพนักงานบอกนะค่ะ ถ้าเค้าเห็นว่า น้องๆเริ่มจะเล่นแรงและไม่ปลอดภัยเค้าก็จะเชิญเราออกจากห้องค่ะ อันนี้คือเพื่อความปลอดภัยของลูกค้าด้วยนะค่ะ
ทีนี้ทางร้านเค้าแจ้งว่า เค้าจะไม่เปิดห้องน้องแรคคูนให้เล่นพร้อมๆกับห้องจิ้งจอก เพื่อป้องกันความสับสนใจการจัดคิวค่ะ แล้วอีกอย่างก็ต้องขึ้นอยู่กับอารมณ์ของน้องแรคคูนด้วย ถ้าน้องเล่นแล้วมีอาการหงุดหงิดอาจจะต้องให้ลูกค้าออกจากห้องเร็วหน่อย
ส่วนพระเอกของร้านที่เป็นจิ้งจอกแดง วันที่เราไป เราไม่ได้เจอเค้าก็เลยไม่ได้ถ่ายรูปมาให้ชมกันนะค่ะ ต้องขอโทษด้วยนะค่ะ ตัวเจ้าจิ้งจอกแดงนี่เค้าจะพักอยู่ที่ชั้นสาม ก็แล้วแต่ทางร้านว่าจะเอามาให้เล่นกันเมื่อไหร่ แต่ช่วงนี้น้องเค้าผลัดขนค่อนข้างเยอะ ก็เลยไม่ค่อยได้ปล่อยให้ลงมานะค่ะ (อันนี้ของเล่น ตัวจริงเห็นในรูปของทางร้านจะหล่อกว่านี้อีก อิอิ)
>>> Sweet/ Menu / Taste
มาดูเมนูของทางร้านกันดีกว่า ในร้านจะมีเมนูไม่มากค่ะ แต่หลักๆก็จะมีเครื่องดื่ม signature อยู่สองตัวคือ เจ้าตัวนี้ โกโกบานาน่า (ค่าเสียหาย 145 บาท) เราว่ารสชาติดีเลยค่ะ เราชอบ มันเป็นโกโก้ข้างบนแล้วข้างล่างคือนมกล้วยค่ะ เราว่าหอมโกโก้และนมกล้วย รสชาติเข้มข้นค่ะค่ะไม่หวานมาก กินแล้วมันลงตัวกันดี
ส่วนเมนูเครื่องดื่ม signature อีกตัวนึงเราไม่ได้ลองชิมนะค่ะ จะเป็น Blue Lemon คล้ายๆอิตาเลี่ยนโซดา น้ำสีฟ้าๆ ราคา 125 บาทจ้า
รูปข้างล่างนี้เป็นลาเต้ร้อนค่ะ ของเพื่อนเราสั่งมา เค้าทำ latte art ให้ข้างหน้าซะสวยเชียว อิอิ อันนี้ราคา 85 บาทค่ะ ทางร้านเค้าจะไม่ได้ใส่น้ำตาลมาให้ในกาแฟนะค่ะ แต่เค้าจะเสริฟมาพร้อมกับไซรัปถ้วยเล็กๆ ก็แล้วแต่ลูกค้าปรุงเองตามชอบใจจะได้เติมเอง รสชาติของกาแฟจะไม่เยอะมาก เน้นที่ความมันของนมมากกว่า
มาเมนู Signature ของทานเล่นกันบ้างนะค่ะ อันนี้เด็ดสุดของในร้านจะเป็น Waffle with Egg and Bacon ค่ะ เซทนึงราคา 235 บาทค่ะ ประกอบด้วยวัฟเฟิ้ล 4 ชิ้น ไข่ลวกสอง โรยหน้ามาด้วยเบค่อนค่ะ วัฟเฟิลเนื้อหนาและแน่นมาก ไข่ลวกจะมาแบบออนเซ็นเลย ไหลเยิ้มๆ เมนูนี้บอกเลยว่ากินคนเดียวไม่หมดค่ะ ทำเอาเราสั่งอย่างอื่นต่อไม่ได้เลยทีเดียว มันเยอะมาก 5555 รสชาติก็โอเคนะ ตอนเรากินชิ้นแรกมันอร่อยดี แต่ชิ้นที่เหลือ กินด้วยความยากลำบาก และถ้าไม่รีบกินตอนที่มันยังร้อน พอไข่ลวกเย็นแล้วมันจะค่อนข้างเลี่ยน เล่นเอาจุกถึงคอเลยทีเดียว
Comment : ถ้าเค้าทำ option ให้เลือกมีจานขนาดใหญ่ (4 ชิ้น) กลาง (2 ชิ้น) เล็ก (1 ชิ้น) น่าจะดีกว่า เผื่อลูกค้าที่มาท่านเดียวแล้วอยากทานเมนูอย่างอื่นด้วยจะได้ไม่อิ่มจนเกินไป
เมนูของหวานที่เป็น signature อีกอันก็คือเจ้านี่เลย ชื่อของมันคือ Banana Log Crepe ค่าเสียหายอยู่ที่ 215 บาทค่ะ เมนูนี้จะเป็นเครปและข้างในเป็นไส้กล้วยเสริฟมาพร้อมซอสช๊อกโกแลตและสตรอวเบอรรี่สด เค้าแต่งจานได้น่ารักดี ทำจากผงโกโก้เป็นรูปจิ้งจอก อันนี้ถ่ายมาจากโต๊ะข้างๆ เลยไม่ได้ชิมรสชาติเลย อิอิ
เมนู signature ของร้านก็จะมีอยู่ทั้งหมด 4 เมนูประมานนี้นะค่ะ ส่วนน้ำสีฟ้าๆในรูปนั้นคือตัว Blue Lemon ค่ะ (Signature Drink ที่กล่าวไปข้างต้น)
>>> Price
ราคาเครื่องดื่มในร้าน จะอยู่ที่ 85 – 145 บาท
เครื่องดื่มประเภทกาแฟ (ร้อน/ เย็น) ประมาณ 85 -145 บาท
เครื่องดื่มประเภทโซดา จะอยู่ที่ 125 บาท
เครื่องดื่มพวก smoothie จะอยู่ที่ 125-145
พวกเมนูของหวานและของทานเล่นในร้านนะค่ะ จะมีตั้งแต่ 165 – 235 ค่ะ
ของทานเล่น (เน้นพวกของทอด)
Mix Fried 165 บาท
Calamari Fried Fish 215 บาท (มันคือหนวดปลาหมึก เสริฟพร้อมกับซอสมายองเนส)
Fish and Chips 265 บาท
Waffle with Egg and Bacon ราคา 235 บาทค่ะ
ของหวาน
Forrest cake, Banana log crepe, Forest Waffles อยู่ที่ 215 บาทค่ะ
Chocolate Truffle Fox ราคา 235 บาทค่ะ
มีไอติมด้วยนะค่ะ (chocolate, strawberry cheesecake, vanilla, super matcha, fudge chunks, macadamia) ไอติมสกู๊ปล่ะ 85 บาทค่ะ
โดยรวมๆเราว่า ราคาค่อนข้างแพงนะค่ะ แต่ถือว่า รวมค่าเล่นกับจิ้งจอกในนั้นด้วยก็ถือว่า คุ้มอยู่ค่ะ เพราะในส่วนที่เข้าไปเล่นกับน้องไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆนะค่ะ แค่ต้องรอเรียกตามคิว