การตีตราผู้ติดเชื้อเอชไอวีและผู้ป่วยเอดส์ในสังคมไทย

นพ.โสภณ เมฆธน อธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) แถลงข่าวว่า คร.ได้สำรวจความเห็นประชาชน เรื่องการตีตราผู้ติดเชื้อเอชไอวีและผู้ป่วยเอดส์ในสังคมไทย ในกลุ่มตัวอย่างอายุ 15 ปีขึ้นไป เพื่อเปรียบเทียบสถานการณ์ในปี 2557 กับปี 2558 โดยพบว่าสังคมไทยมีการตีตรารังเกียจ และกลัวผู้ป่วยเอดส์ที่ไม่แสดงอาการเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 11.5 เป็นร้อยละ 20.7 ส่วนผู้ป่วยที่แสดงอาการแล้วพบว่ามีการรังเกียจ ไม่ยอมรับเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 29.1 เป็นร้อยละ 43.3 เมื่อแยกกิจกรรมพบว่ามีผู้ยินดีใช้สระว่ายน้ำเดียวกันลดลงจากร้อยละ 23.4 เหลือร้อยละ 19 ไม่ยินดีใช้สระว่ายน้ำร่วมเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 50.6 เป็นร้อยละ 51.2 ไม่ยินดีอยู่ร่วมบ้านเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 27.5 เป็น 36.5 ไม่ยินดีจะรับประทานอาหารร่วมกับคนในครอบครัวที่มีสมาชิกเป็นผู้ติดเชื้อเอชไอวี จากร้อยละ 30.6 เป็นร้อยละ 31.3 แม้กับเพื่อนสนิทที่ติดเชื้อก็ไม่ยินดีรับประทานอาหารร่วม จากร้อยละ 27.4 เป็นร้อยละ 34.9 ไม่ยินดีให้ลูกเรียนหนังสือร่วมชั้นกับเด็กนักเรียนที่ติดเชื้อฯจากร้อยละ 33.3 เป็นร้อยละ 40.9 ไม่ยินดีให้ลูกเล่นกับเด็กที่ติดเชื้อฯจากร้อยละ 42.5 เป็นร้อยละ 47.4 ทั้งหมดเป็นตัวทำให้ผู้ติดเชื้อไม่กล้าไปตรวจ หรือไม่บอกคนใกล้ชิด และจากการสำรวจสะท้อนให้เห็นว่าปะชาชนยังมีความรู้เรื่องนี้น้อย เพราะ คร.ได้ตั้งคำถามที่สะท้อนความรู้น้อยคือพบว่า ร้อยละ 19.6 ยังคิดว่าโรคเอดส์ติดต่อได้จากการที่ยุงกัด และร้อยละ 34.4 ไม่รู้ และร้อยละ 34.8 ไม่รู้ว่าคนไทยมีสิทธิตรวจหาเชื้อฯได้ฟรีปีละ 2 ครั้ง และร้อยละ 46 ไม่รู้ว่าถ้าเจอเลือดบวกแล้วสามารถรับยาต้านไวรัสฟรี
นพ.โสภณกล่าวต่อว่า สิ่งที่ต้องเร่งแก้ไขคือส่งเสริมให้หน่วยงานภาครัฐเป็นตัวอย่างเรื่องการป้องกันและบริหารจัดการให้ครอบคลุมทั่วประเทศภายในปี 2559 และการสร้างความเข้าใจเรื่องการตีตรา และลดการเลือกปฏิบัติในสถานบริการสุขภาพ.
ขอขอบคุณข้อมุลจาก ไทยรัฐออนไลน์

Report by LIV Capsule
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่