เรื่องมีอยู่ว่าเราเป็นเด็กต่างจังหวัดมาเรียนมหาลัยในกรุงเทพ จึงจำเป็นต้องอยู่หอช่วงประมาณปี2เทอม1เราอยู่หอเดียวกันกับเพื่อนในกลุ่ม2คน ชื่อนิ่มและดา ซึ่งเราอยู่ห้องเดียวกับนิ่ม ส่วนดาจะอยู่กับน้องสาวของนิ่มอีกห้องนึง ซึ่งเรากับดาอยากอยู่ด้วยกันแล้วด้วยความที่ดาก็ไม่อยากอยู่กับน้องของนิ่มด้วย และเราก็ไม่ชอบหอนี้ด้วย จึงคิดหาที่อยู่ใหม่และให้น้องของนิ่มย้ายมาอยู่กับนิ่มแทน
เรากับดาจึงหาหอแถวด้านหลังม. หาเท่าไหร่ก็ไม่ถูกใจจนมาเจอหอหญิงหอนึงอยู่ในซอยและอยู่หน้าวัดพอดี ซึ่งเป็นตึก4ชั้นติดๆกันหลายๆตึกแต่ด้านซ้ายจะเป็นทางเดินเข้าหอของอธิการซึ่งเพื่อนเราชื่อย่าอยู่ที่หอนั้นด้วย ชั้นล่างของตึกที่เราไปดูเป็นห้องสอนพิเศษ ชั้น2-4เป็นห้องพัก ถัดจากชั้น4จะเป็นดาดฟ้าโล่งๆให้ตากผ้า ตอนนั้นมีห้องว่างห้องเดียวอยู่ชั้น4 ขึ้นบันไดไปทางเดินก็แคบๆ ขั้นสุดท้ายก้าวไป2ก้าวก็เป็นประตูห้องเลย ส่วนขวามือเป็นห้องแคบๆให้ครูสอนพิเศษผู้ชายอยู่ ถัดไปหน่อยย้อนทางราวบันไดจะเป็นห้องน้ำรวมก็ดูน่ากลัวหน่อยอยู่หน้าบันไดทางขึ้นไปดาดฟ้าพอดี เรากับดาจึงเข้าไปดูห้องก็รู้สึกดีนะเพราะห้องก็กว้างและมีหน้าต่างรอบห้องมองออกไปเจอวัดเลยวิวดีมาก555 แต่ที่ชอบมากคือ วิวด้านซ้ายมือเป็นห้องของย่าที่อยู่หออธิการอยู่ตรงกับห้องเราพอดีเปิดหน้าต่างไปก็เจอห้องมันสามารถตะโกนคุยกันได้ เราและดาจึงตกลงเช่าหอนี้ทันทีโดยไม่ได้คิดอะไรมากมายเลย
เราอยู่ด้วยกันอย่างราบรื่นมาตลอด1ปีจนเราขึ้นปี3เทอม2 ปุ๊กเพื่อนในกลุ่มอีกคนนึงจะมานอนที่ห้องทุกวันที่มีเรียนเพราะบ้านปุ๊กอยู่ไกลมากไม่อยากไปกลับ (บอกก่อนว่าเรา3คนไม่มีใครสนใจเรื่องลี้ลับอะไร เพราะเราสามารถขึ้นไปซักผ้าคนเดียวบนดาดฟ้าตอนดึกๆได้ไฟก็ไม่มีใช้ไฟจากโทรศัพท์) จนมาวันนึงเรา3คนอ่านหนังสือสอบกลางภาคกันดึกมาก ปุ๊กก็อยากไปเข้าห้องน้ำจึงบอกให้เราไปยืนหน้าห้องน้ำเป็นเพื่อนให้หน่อย เราก็บอกว่า “ออกไปก่อนเดี๋ยวตามไป” เราก็ไม่ตามไปเพราะขี้เกรียจด้วยคิดว่าปุ๊กคงไปได้แค่เข้าห้องน้ำ พอปุ๊กออกจากห้องน้ำ เปิดประตูห้องมาเจอเรานั่งอ่านหนังสืออยู่มันก็ถามว่า “แกเข้ามาตอนไหนเนี่ย” เราก็พูดเล่นกะมันว่า “เค้ายังไม่ทันออกไปเลยแกอะออกมาซะก่อน555” คราวนี้มันปิดประตูทันทีหน้าเหลอเลยและบอกว่า “อ้าว แกไม่ได้ออกไปหรอแกอย่ามาแกล้งดิ๊ ก็เค้ายังเห็นเงาแกเดินอยู่หน้าห้องน้ำอยู่เลย และยังได้ยินเสียงแกเดินด้วย อย่ามาแกล้งดิ๊” (คือประตูห้องน้ำจะเป็นไม้ด้านล่างจะผุๆเห็นข้างนอกด้านล่างได้) เราก็งงเลยบอกว่าไม่ได้ไปจริงๆถามดาได้เลย และเราก็เงียบกันไปเลยไม่มีใครกล้าไปเข้าห้องน้ำอีกคืนนั้น
หลังจากวันนั้นเราลืมเรื่องคืนนั้นไปใช้ชีวิตปกติมาได้อาทิตย์กว่า จนเช้าวันนึงเรา3คนตื่นเช้าอาบน้ำจะไปเรียนกัน ดาก็เล่าความฝันมะคืนให้เรากับปุ๊กฟังก่อนออกจากห้องว่า “มะคืนเค้าฝันเห็นยายแก่ๆหน้าซีดๆขาวเหลืองจีนๆ ผมขาวๆมวยผมและยืนอยู่ปลายเตียงมองมาที่เราและยิ้มเจือนๆน่ากลัวๆ ไม่รู้แกเป็นใครไม่เคยเห็นแกมาก่อนเลย” เราก็บอกว่าไปว่าอาจจะเคยเจอที่ไหนสักที่แล้วเก็บมาฝันก้อได้ แล้วก็ออกไปเรียนกัน ไม่มีใครพูดถึงอีก เราก็ไม่ได้เล่าให้เพื่อนในกลุ่มคนอื่นฟังอีกเลย เพราะคิดว่าดาคงแค่ฝันไม่มีอะไรหรอก
หลังจากวันนั้นประมาณ3หรือ4วันได้ ปุ๊กกลับบ้านแต่อังเพื่อนอีกคนในกลุ่มมานอนที่ห้องเราแทน อังนอนข้างเตียงด้านล่างฝั่งเรานอน ก็นอนปกติจนเช้าดาก็กลับบ้านไปตั้งแต่เช้าก่อนเราตื่น ส่วนอังจะกลับบ้านพร้อมเราเพราะบ้านใกล้กัน ระหว่างทางอังก็เล่าให้เราฟังว่า “เมื่อคืนเค้าฝันเห็นยายแก่คนนึง” เราเลยเริ่มเอะใจเลยชิงถามลักษณะรูปร่างหน้าตา มันก็บอกว่า “หน้าแกดูหน้าจีนๆขาวๆเหลืองๆผมขาวๆและมวยผม แกยืนมองเราและยิ้มแต่ไม่ได้ยิ้มน่ากลัวนะ แต่คือเค้าไม่รู้จักว่าแกเป็นใคร” นาทีนั้นเราโทรหาดาและปุ๊กว่าได้เล่าฝันของดาให้ใครฟังมั้ย ทั้ง2คนตอบเหมือนกันว่าไม่ได้เล่าให้ใครฟังเลยแม้แต่เพื่อนในกลุ่ม เราก็ย้ำถามดาอีกครั้งว่าหน้าตาของยายเขาเป็นยังไง คำตอบที่ได้เหมือนกัน เราเลยเริ่มกลัวแล้วที่นี้
พอวันอาทิตย์กลับมาหอมาซักผ้าเราก็เจอพี่ที่อยู่ห้องถัดจากห้องน้ำ ก็เลยถามเขาว่า “พี่คะตั้งแต่พี่มาอยู่พี่เคยเจออะไรแปลกๆบ้างมั้ย”เขาก็ตอบว่า “พี่อะไม่เคยเจออะไรนะ แต่แฟนพี่เจอ พี่เคยแอบเอาแฟนมานอนและกลางดึกแฟนพี่ปวดฉี่มากแต่ไม่กล้าออกไปเข้าห้องน้ำ เลยฉี่ใส่ขวดแล้วนอนต่อ เช้ามาแฟนพี่ก็เล่าว่ามะคืนฝันว่ามียายหน้าจีนๆขาวเหลือง ผมขาวมวยผม มายืนชี้หน้าด้วยหน้าดุๆน่ากลัวมาก” เราได้ยินแค่นั้นหลอนเลยกลัวด้วยเราเก็บเสื้อผ้าไปนอนกับเพื่อนที่รามเพราะคืนนั้นดาไม่กลับต้องนอนคนเดียวก็ไม่ไหว วันจันทร์จึงกับมาเรียนก็เล่าให้ดาและเพื่อนๆฟัง จึงคิดว่าสงสัยพวกเราคงเสียงดัง หรือไม่เขาอยากให้เรารู้ว่าให้เกรงใจเขารึป่าวคิดไปต่างๆนานา
ประสบการณ์หลอนของเด็กหอ
เรากับดาจึงหาหอแถวด้านหลังม. หาเท่าไหร่ก็ไม่ถูกใจจนมาเจอหอหญิงหอนึงอยู่ในซอยและอยู่หน้าวัดพอดี ซึ่งเป็นตึก4ชั้นติดๆกันหลายๆตึกแต่ด้านซ้ายจะเป็นทางเดินเข้าหอของอธิการซึ่งเพื่อนเราชื่อย่าอยู่ที่หอนั้นด้วย ชั้นล่างของตึกที่เราไปดูเป็นห้องสอนพิเศษ ชั้น2-4เป็นห้องพัก ถัดจากชั้น4จะเป็นดาดฟ้าโล่งๆให้ตากผ้า ตอนนั้นมีห้องว่างห้องเดียวอยู่ชั้น4 ขึ้นบันไดไปทางเดินก็แคบๆ ขั้นสุดท้ายก้าวไป2ก้าวก็เป็นประตูห้องเลย ส่วนขวามือเป็นห้องแคบๆให้ครูสอนพิเศษผู้ชายอยู่ ถัดไปหน่อยย้อนทางราวบันไดจะเป็นห้องน้ำรวมก็ดูน่ากลัวหน่อยอยู่หน้าบันไดทางขึ้นไปดาดฟ้าพอดี เรากับดาจึงเข้าไปดูห้องก็รู้สึกดีนะเพราะห้องก็กว้างและมีหน้าต่างรอบห้องมองออกไปเจอวัดเลยวิวดีมาก555 แต่ที่ชอบมากคือ วิวด้านซ้ายมือเป็นห้องของย่าที่อยู่หออธิการอยู่ตรงกับห้องเราพอดีเปิดหน้าต่างไปก็เจอห้องมันสามารถตะโกนคุยกันได้ เราและดาจึงตกลงเช่าหอนี้ทันทีโดยไม่ได้คิดอะไรมากมายเลย
เราอยู่ด้วยกันอย่างราบรื่นมาตลอด1ปีจนเราขึ้นปี3เทอม2 ปุ๊กเพื่อนในกลุ่มอีกคนนึงจะมานอนที่ห้องทุกวันที่มีเรียนเพราะบ้านปุ๊กอยู่ไกลมากไม่อยากไปกลับ (บอกก่อนว่าเรา3คนไม่มีใครสนใจเรื่องลี้ลับอะไร เพราะเราสามารถขึ้นไปซักผ้าคนเดียวบนดาดฟ้าตอนดึกๆได้ไฟก็ไม่มีใช้ไฟจากโทรศัพท์) จนมาวันนึงเรา3คนอ่านหนังสือสอบกลางภาคกันดึกมาก ปุ๊กก็อยากไปเข้าห้องน้ำจึงบอกให้เราไปยืนหน้าห้องน้ำเป็นเพื่อนให้หน่อย เราก็บอกว่า “ออกไปก่อนเดี๋ยวตามไป” เราก็ไม่ตามไปเพราะขี้เกรียจด้วยคิดว่าปุ๊กคงไปได้แค่เข้าห้องน้ำ พอปุ๊กออกจากห้องน้ำ เปิดประตูห้องมาเจอเรานั่งอ่านหนังสืออยู่มันก็ถามว่า “แกเข้ามาตอนไหนเนี่ย” เราก็พูดเล่นกะมันว่า “เค้ายังไม่ทันออกไปเลยแกอะออกมาซะก่อน555” คราวนี้มันปิดประตูทันทีหน้าเหลอเลยและบอกว่า “อ้าว แกไม่ได้ออกไปหรอแกอย่ามาแกล้งดิ๊ ก็เค้ายังเห็นเงาแกเดินอยู่หน้าห้องน้ำอยู่เลย และยังได้ยินเสียงแกเดินด้วย อย่ามาแกล้งดิ๊” (คือประตูห้องน้ำจะเป็นไม้ด้านล่างจะผุๆเห็นข้างนอกด้านล่างได้) เราก็งงเลยบอกว่าไม่ได้ไปจริงๆถามดาได้เลย และเราก็เงียบกันไปเลยไม่มีใครกล้าไปเข้าห้องน้ำอีกคืนนั้น
หลังจากวันนั้นเราลืมเรื่องคืนนั้นไปใช้ชีวิตปกติมาได้อาทิตย์กว่า จนเช้าวันนึงเรา3คนตื่นเช้าอาบน้ำจะไปเรียนกัน ดาก็เล่าความฝันมะคืนให้เรากับปุ๊กฟังก่อนออกจากห้องว่า “มะคืนเค้าฝันเห็นยายแก่ๆหน้าซีดๆขาวเหลืองจีนๆ ผมขาวๆมวยผมและยืนอยู่ปลายเตียงมองมาที่เราและยิ้มเจือนๆน่ากลัวๆ ไม่รู้แกเป็นใครไม่เคยเห็นแกมาก่อนเลย” เราก็บอกว่าไปว่าอาจจะเคยเจอที่ไหนสักที่แล้วเก็บมาฝันก้อได้ แล้วก็ออกไปเรียนกัน ไม่มีใครพูดถึงอีก เราก็ไม่ได้เล่าให้เพื่อนในกลุ่มคนอื่นฟังอีกเลย เพราะคิดว่าดาคงแค่ฝันไม่มีอะไรหรอก
หลังจากวันนั้นประมาณ3หรือ4วันได้ ปุ๊กกลับบ้านแต่อังเพื่อนอีกคนในกลุ่มมานอนที่ห้องเราแทน อังนอนข้างเตียงด้านล่างฝั่งเรานอน ก็นอนปกติจนเช้าดาก็กลับบ้านไปตั้งแต่เช้าก่อนเราตื่น ส่วนอังจะกลับบ้านพร้อมเราเพราะบ้านใกล้กัน ระหว่างทางอังก็เล่าให้เราฟังว่า “เมื่อคืนเค้าฝันเห็นยายแก่คนนึง” เราเลยเริ่มเอะใจเลยชิงถามลักษณะรูปร่างหน้าตา มันก็บอกว่า “หน้าแกดูหน้าจีนๆขาวๆเหลืองๆผมขาวๆและมวยผม แกยืนมองเราและยิ้มแต่ไม่ได้ยิ้มน่ากลัวนะ แต่คือเค้าไม่รู้จักว่าแกเป็นใคร” นาทีนั้นเราโทรหาดาและปุ๊กว่าได้เล่าฝันของดาให้ใครฟังมั้ย ทั้ง2คนตอบเหมือนกันว่าไม่ได้เล่าให้ใครฟังเลยแม้แต่เพื่อนในกลุ่ม เราก็ย้ำถามดาอีกครั้งว่าหน้าตาของยายเขาเป็นยังไง คำตอบที่ได้เหมือนกัน เราเลยเริ่มกลัวแล้วที่นี้
พอวันอาทิตย์กลับมาหอมาซักผ้าเราก็เจอพี่ที่อยู่ห้องถัดจากห้องน้ำ ก็เลยถามเขาว่า “พี่คะตั้งแต่พี่มาอยู่พี่เคยเจออะไรแปลกๆบ้างมั้ย”เขาก็ตอบว่า “พี่อะไม่เคยเจออะไรนะ แต่แฟนพี่เจอ พี่เคยแอบเอาแฟนมานอนและกลางดึกแฟนพี่ปวดฉี่มากแต่ไม่กล้าออกไปเข้าห้องน้ำ เลยฉี่ใส่ขวดแล้วนอนต่อ เช้ามาแฟนพี่ก็เล่าว่ามะคืนฝันว่ามียายหน้าจีนๆขาวเหลือง ผมขาวมวยผม มายืนชี้หน้าด้วยหน้าดุๆน่ากลัวมาก” เราได้ยินแค่นั้นหลอนเลยกลัวด้วยเราเก็บเสื้อผ้าไปนอนกับเพื่อนที่รามเพราะคืนนั้นดาไม่กลับต้องนอนคนเดียวก็ไม่ไหว วันจันทร์จึงกับมาเรียนก็เล่าให้ดาและเพื่อนๆฟัง จึงคิดว่าสงสัยพวกเราคงเสียงดัง หรือไม่เขาอยากให้เรารู้ว่าให้เกรงใจเขารึป่าวคิดไปต่างๆนานา