คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 21
เรื่องยาวครับ ชิ้นเกรงใจ มันเป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ มันเป็นช่วงจังหวะ ชิงไหวชิงพริบครับ เรามาจำลองสถานการณ์ดูก่อน
ในที่นี้เราแบ่งอาหารออกเป็น 3 ชนิด คือ แบบใช้ช้อนตัก และ แบบส้อมจิ้ม และแบบพิเศษ มือเปิบ ( ผมไม่แบ่งแบบแห้ง/เปียก นะ )
แบบที่ 1 ช้อนตัก ขั้น 1 เราต้องคำนวณก่อนคับ ว่าใน 1 จานเต็ม มีกี่ชิ้น แล้วทุกคนได้กันครบแล้ว และเหลือเศษ เราถึงเบิ้ลได้โดยมารยาท
ขั้น 2 ในกรณีเหลือเศษหนึ่งชิ้น และเป็นชิ้นเกรงใจ
- ในกรณีที่กับชิ้นนั้นมีส่วนอุปกรณ์ เช่น กระดูก ก้าง เปลือก ต้องทำการพรางแต่ครั้งแรก โดยการใส่ทิชชู่ ตักทิ้ง ฯลฯ
- ต่อมาต้องจู่โจมที่จิตใจเขาก่อนครับ โดยการตักข้าวเพิ่มให้เห็นว่า ข้าวชั้นยังเหลือเยอะ ยังต้องการกับนั้นอยู่
- ทำการตักมาวางแบบนิ่งๆ ไม่ต้องไปสบตา ให้ดูเป็นธรรมชาติ เหมือนคนพึ่งเริ่มกินเป็นช้อนแรก ประกอบกับตอนแรก
เราซ่อนส่วนอุปกรณ์ไว้แล้ว ทำให้จานดูสะอาด ใหม่ เหมือนคนที่ยังกินไม่เยอะ
แบบที่ 2 ส้อมจิ้ม ขั้นตอนเหมือนกับช้อนตัก แต่เพิ่มเทคนิคไปในตอนจิ้ม
- โดยการชำเลืองดูข้าศึก ว่าได้สังเกตการณ์พื้นที่การรบหรือไม่ ถ้าไม่ ให้ทำการจิ้มแบบ Double Attack
คือ จิ้มแล้วติด 2 ชิ้น
- เทคนิคขั้นสูงขึ้นมาอีก คือ การจิ้มที่ผักชนิดใบก่อน เช่น ผักสลัด จิ้มที่ผักใบที่บานๆแล้วมาจิ้มที่กับ เราจะอาศัย
ใบของผัก แผ่คลุมกับที่จิ้ม บางท่านเมื่อฝึกจนชำนาญแล้ว สามารถทำแฮตทริค หรือ ดับเบิลแฮตทริคได้เลยทีเดียว
เทคนิคนี้เรียกว่า " ปิดฟ้า บังทะเล "
แบบที่ 3 มือเปิบ เราต้องดูว่าเราเปิบอะไร เช่น ลาบ หรือ อาหารชิ้นธรรมดา
- ถ้าเป็นจำพวกลาบ เราใช้อุปกรณ์ช่วย คือ ข้าวเหนียว โดยการแผ่ให้เป็นแผ่นกว้างๆ กดตรงกลางให้ลึก
แล้วกว้าน ควัก สะบัด ตัด เก็บ ขั้นตอนนี่กล่าวแล้วยืดยาว แต่ปฏิบัติจริงเพียง 0.5 วิ ภาษาทางภาคเหนือ
เรียกว่า " โอ้งขะโล่ง บวกควายนอน "
- ถ้าเป็นอาหารชิ้นธรรมดา จะใช้เทคนิค " ปิดฟ้า บังทะเล " ก็ได้ หรือถ้าผักหมด ให้ทำการใช้นิ้ว กลาง นาง ก้อย
แผ่เป็นพัด บังนิ้วชี้ กับ นิ้วโป้ง ที่คีบอาหาร แบบนี้เขาเรียก " ดัชนีบังไพร "
จริงๆมันมีอีกมากมาย แล้วแต่สถานการณ์และสมรภูมิ หวังว่าเกร็ดเล็กๆน้อยๆนี้ จะทำให้ จขกท. สามารถเอาชนะในการยุทธได้ บุญกุศลใดๆ
จากการเผยแผ่วิชานี้ กระผมขออุทิศให้กับ อ.เอก ส้อมสิบชิ้น , อ.ณัฐ มือใบตาล , อ.อ๊อด นิ้วเทวะ และครูบาอาจารย์สายกลูเม่ทุกท่านเทอญ
ในที่นี้เราแบ่งอาหารออกเป็น 3 ชนิด คือ แบบใช้ช้อนตัก และ แบบส้อมจิ้ม และแบบพิเศษ มือเปิบ ( ผมไม่แบ่งแบบแห้ง/เปียก นะ )
แบบที่ 1 ช้อนตัก ขั้น 1 เราต้องคำนวณก่อนคับ ว่าใน 1 จานเต็ม มีกี่ชิ้น แล้วทุกคนได้กันครบแล้ว และเหลือเศษ เราถึงเบิ้ลได้โดยมารยาท
ขั้น 2 ในกรณีเหลือเศษหนึ่งชิ้น และเป็นชิ้นเกรงใจ
- ในกรณีที่กับชิ้นนั้นมีส่วนอุปกรณ์ เช่น กระดูก ก้าง เปลือก ต้องทำการพรางแต่ครั้งแรก โดยการใส่ทิชชู่ ตักทิ้ง ฯลฯ
- ต่อมาต้องจู่โจมที่จิตใจเขาก่อนครับ โดยการตักข้าวเพิ่มให้เห็นว่า ข้าวชั้นยังเหลือเยอะ ยังต้องการกับนั้นอยู่
- ทำการตักมาวางแบบนิ่งๆ ไม่ต้องไปสบตา ให้ดูเป็นธรรมชาติ เหมือนคนพึ่งเริ่มกินเป็นช้อนแรก ประกอบกับตอนแรก
เราซ่อนส่วนอุปกรณ์ไว้แล้ว ทำให้จานดูสะอาด ใหม่ เหมือนคนที่ยังกินไม่เยอะ
แบบที่ 2 ส้อมจิ้ม ขั้นตอนเหมือนกับช้อนตัก แต่เพิ่มเทคนิคไปในตอนจิ้ม
- โดยการชำเลืองดูข้าศึก ว่าได้สังเกตการณ์พื้นที่การรบหรือไม่ ถ้าไม่ ให้ทำการจิ้มแบบ Double Attack
คือ จิ้มแล้วติด 2 ชิ้น
- เทคนิคขั้นสูงขึ้นมาอีก คือ การจิ้มที่ผักชนิดใบก่อน เช่น ผักสลัด จิ้มที่ผักใบที่บานๆแล้วมาจิ้มที่กับ เราจะอาศัย
ใบของผัก แผ่คลุมกับที่จิ้ม บางท่านเมื่อฝึกจนชำนาญแล้ว สามารถทำแฮตทริค หรือ ดับเบิลแฮตทริคได้เลยทีเดียว
เทคนิคนี้เรียกว่า " ปิดฟ้า บังทะเล "
แบบที่ 3 มือเปิบ เราต้องดูว่าเราเปิบอะไร เช่น ลาบ หรือ อาหารชิ้นธรรมดา
- ถ้าเป็นจำพวกลาบ เราใช้อุปกรณ์ช่วย คือ ข้าวเหนียว โดยการแผ่ให้เป็นแผ่นกว้างๆ กดตรงกลางให้ลึก
แล้วกว้าน ควัก สะบัด ตัด เก็บ ขั้นตอนนี่กล่าวแล้วยืดยาว แต่ปฏิบัติจริงเพียง 0.5 วิ ภาษาทางภาคเหนือ
เรียกว่า " โอ้งขะโล่ง บวกควายนอน "
- ถ้าเป็นอาหารชิ้นธรรมดา จะใช้เทคนิค " ปิดฟ้า บังทะเล " ก็ได้ หรือถ้าผักหมด ให้ทำการใช้นิ้ว กลาง นาง ก้อย
แผ่เป็นพัด บังนิ้วชี้ กับ นิ้วโป้ง ที่คีบอาหาร แบบนี้เขาเรียก " ดัชนีบังไพร "
จริงๆมันมีอีกมากมาย แล้วแต่สถานการณ์และสมรภูมิ หวังว่าเกร็ดเล็กๆน้อยๆนี้ จะทำให้ จขกท. สามารถเอาชนะในการยุทธได้ บุญกุศลใดๆ
จากการเผยแผ่วิชานี้ กระผมขออุทิศให้กับ อ.เอก ส้อมสิบชิ้น , อ.ณัฐ มือใบตาล , อ.อ๊อด นิ้วเทวะ และครูบาอาจารย์สายกลูเม่ทุกท่านเทอญ
แสดงความคิดเห็น
ทำยังไงกับอาหารชิ้นสุดท้ายในจาน? เมื่อต้องร่วมโต๊ะกับคนไม่สนิท