สวัสดีค่ะ วันนี้อยากขอแชร์ประสบการณ์ กู้ซื้อคอนโดในเมืองไทยของตัวดินฉันเอง เพราะว่านี่เป็นการเป็นหนี้ก้อนใหญ่ครั้งแรก และบวกกับดิฉันทำงานอยู่ที่กาตาร์ ไม่ค่อยได้กลับมาประเทศไทยสักเท่าไหร่จึงไม่ค่อยรู้เรื่องระเบียบต่างๆเลย
และคือคุณแม่ดิฉันท่านอยากได้คอนโดเพื่อมาลงทุนปล่อยเช่า เก็บค่าเช่าไว้กินตอนแก่ คุณแม่ว่ามันสบายดี เพราะทำเรื่องกู้ซื้อผ่านไปแล้ว 3 ห้อง แต่พอมาห้องนี้ คุณแม่กู้ไม่ผ่านเพราอายุเยอะ พี่ชายก็กู้ไม่ได้เพราะทำงานไม่ประจำ เป็น chef ตามงานเลี้ยงธรรมดา ไม่มีใครกู้ผ่านเลย จนทำให้เลยกำหนดโอนคอนโดมาแล้วหลายเดือน คุณแม่ก็ไปขอผ่อนผันกับทางโครงการฯไว้ก่อน เพราะจะให้ตัวดิฉันกู้แทน
ดิฉันเลยทำเรื่องผ่านบริษัทหนึ่งที่ดูแลคนไทยในต่างประเทศโดยเฉพาะ ทางนั้นก็จะให้เรายื่น pre ก่อนเลย ตรงนี้มีค่าใช้จ่ายค่ะ เพราะเอกสารต่างๆของเราเป็นของกาตาร์หมดเลย ไม่อยากพลาดเลยให้เค้าช่วยดูแลให้ ต้องใช้เอกสารเยอะเหมือนกัน แต่ไม่นานก็ได้ผล พอได้ผลก็ขอกู้จริง ตรงนี้มีเสียค่าใช้จ่ายเมื่อกู้ผ่าน พอมาถึงขั้นนี้แล้วเราก็เลยกำหนดโอนบ้านมาหลายเดือนเหมือนกัน คุณแม่ไปขอร้องโครงการฯว่าขอปรับ ตั้งแต่เดือนนี้ ถึงเดือนนี้ sale ก็ตกลงรับปากดิบดี
พอมาถึงวันเซ็นสัญญากับธนาคาร ดิฉันก้เอะใจนะ ว่าทำไม ทางโครงการฯไม่ส่งหนังสือรายละเอียดค่าปรับให้กับทางนิติกรของบริษัทตัวแทนดู มาถึงบางอ้อก็วันนี้แหละค่ะ เพราะทางโครงการฯส่งตอนจะเซ็นเห็นเบี้ยปรับ 2 แสนกว่าบาท !!!
ดิฉันอึ้งมากๆ ค่าปรับอะไรแพงขนาดนี้ ในเมื่อผ่อนไปแล้ว 5 แสน กว่าบาท ระยะเวลาปรับก็ขอผ่อนผัน sale ก็รับปากมาตลอด แต่พอถึงเวลามาปรับแพงมาก และไม่มีรายระเอียดเลยว่าปรับจากอะไรบ้าง บอกตรงๆว่าดิฉันโมโหมาก ไม่เซ็นแล้วสัญญาเพราะรู้ว่าโครงการฯตุกติก ดิฉันเลยแจ้งเจ้าหน้าที่ที่มาดูแลว่าจะไม่เซ็นสัญญาแล้ว จะขอกลับบ้าน แต่โชคดีค่ะ ที่ทั้งเจ้าหน้าที่จากธนาคาร และ บริษัท บอกจะลองสอบถามโครงการฯไว้ก่อน และจะ hold เรื่องไว้ก่อน ให้เวลาไปคิดอีกคืน เพื่อตัดสินใจใหม่ เพราะถ้ายกเลิกแล้วจะแก้ไขอะไรไม่ได้เลย
ดิฉันเลยขอเวลากลับไปตัดสินใจอีกคืน
ในระหว่างนั้นทางนิติกรของบริษัท ก็ช่วยเจรจาประสานงานเรื่องเอกสาร กฎหมาย ข้อสัญญาต่างๆให้ดิฉันทราบ และช่วยคุยกับทางโครงการให้ไม่ปรับดิฉัน ซึ่งตอนแรก เค้ายืนยันว่าจะปรับแค่ 50% แต่ใจดิฉันคิดว่าโครงการฯไม่แฟร์กับเราแล้ว ดิฉันไม่อยากได้ห้องนี้แล้ว เพราะอยู่กันยากแน่ๆ ถ้าจะขี้โกงแบบนี้
ดิฉันเลยแจ้งเจ้าหน้าที่นิติกรไปว่ายังไงก็ไม่เซ็น สุดท้ายคืนนั้นเจ้าหน้าที่นิติกรบอกว่า ตกลงกับโครงการฯให้แล้วไม่ต้องเสียค่าปรับเลย สุดท้ายแล้วดิฉันจึงตัดสินใจไปเซ็นสัญญาวันรุ่งขึ้นค่ะ เพราะคุณแม่เสียดายเงิน ห้าแสนที่ผ่อนไปแล้ว แล้วอีกอย่าง เราซื้อกับโครงการฯนี้ห้องนี้เป็นห้อง ที่ 5 แล้ว เห็นว่าเคยซื้อขายกันมาก่อนเลยซื้อ แต่ขอบอกเลยว่าพอเจอแบบนี้ ขอกู้ครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายค่ะ
และอยากเตือนเพื่อนๆไว้ด้วยนะคะ ว่าจะจองโครงการฯไหนศึกษารายละเอียดให้ดี เพราะตอนเราจะซื้อ เค้าจะดูแลอย่างดี
พอซื้อแล้ว เค้าจะไม่ใยดีเราเลยล่ะ
แชร์ประสบการณ์กู้ซื้อคอนโดในไทย (เกือบพลาด!!)
และคือคุณแม่ดิฉันท่านอยากได้คอนโดเพื่อมาลงทุนปล่อยเช่า เก็บค่าเช่าไว้กินตอนแก่ คุณแม่ว่ามันสบายดี เพราะทำเรื่องกู้ซื้อผ่านไปแล้ว 3 ห้อง แต่พอมาห้องนี้ คุณแม่กู้ไม่ผ่านเพราอายุเยอะ พี่ชายก็กู้ไม่ได้เพราะทำงานไม่ประจำ เป็น chef ตามงานเลี้ยงธรรมดา ไม่มีใครกู้ผ่านเลย จนทำให้เลยกำหนดโอนคอนโดมาแล้วหลายเดือน คุณแม่ก็ไปขอผ่อนผันกับทางโครงการฯไว้ก่อน เพราะจะให้ตัวดิฉันกู้แทน
ดิฉันเลยทำเรื่องผ่านบริษัทหนึ่งที่ดูแลคนไทยในต่างประเทศโดยเฉพาะ ทางนั้นก็จะให้เรายื่น pre ก่อนเลย ตรงนี้มีค่าใช้จ่ายค่ะ เพราะเอกสารต่างๆของเราเป็นของกาตาร์หมดเลย ไม่อยากพลาดเลยให้เค้าช่วยดูแลให้ ต้องใช้เอกสารเยอะเหมือนกัน แต่ไม่นานก็ได้ผล พอได้ผลก็ขอกู้จริง ตรงนี้มีเสียค่าใช้จ่ายเมื่อกู้ผ่าน พอมาถึงขั้นนี้แล้วเราก็เลยกำหนดโอนบ้านมาหลายเดือนเหมือนกัน คุณแม่ไปขอร้องโครงการฯว่าขอปรับ ตั้งแต่เดือนนี้ ถึงเดือนนี้ sale ก็ตกลงรับปากดิบดี
พอมาถึงวันเซ็นสัญญากับธนาคาร ดิฉันก้เอะใจนะ ว่าทำไม ทางโครงการฯไม่ส่งหนังสือรายละเอียดค่าปรับให้กับทางนิติกรของบริษัทตัวแทนดู มาถึงบางอ้อก็วันนี้แหละค่ะ เพราะทางโครงการฯส่งตอนจะเซ็นเห็นเบี้ยปรับ 2 แสนกว่าบาท !!!
ดิฉันอึ้งมากๆ ค่าปรับอะไรแพงขนาดนี้ ในเมื่อผ่อนไปแล้ว 5 แสน กว่าบาท ระยะเวลาปรับก็ขอผ่อนผัน sale ก็รับปากมาตลอด แต่พอถึงเวลามาปรับแพงมาก และไม่มีรายระเอียดเลยว่าปรับจากอะไรบ้าง บอกตรงๆว่าดิฉันโมโหมาก ไม่เซ็นแล้วสัญญาเพราะรู้ว่าโครงการฯตุกติก ดิฉันเลยแจ้งเจ้าหน้าที่ที่มาดูแลว่าจะไม่เซ็นสัญญาแล้ว จะขอกลับบ้าน แต่โชคดีค่ะ ที่ทั้งเจ้าหน้าที่จากธนาคาร และ บริษัท บอกจะลองสอบถามโครงการฯไว้ก่อน และจะ hold เรื่องไว้ก่อน ให้เวลาไปคิดอีกคืน เพื่อตัดสินใจใหม่ เพราะถ้ายกเลิกแล้วจะแก้ไขอะไรไม่ได้เลย
ดิฉันเลยขอเวลากลับไปตัดสินใจอีกคืน
ในระหว่างนั้นทางนิติกรของบริษัท ก็ช่วยเจรจาประสานงานเรื่องเอกสาร กฎหมาย ข้อสัญญาต่างๆให้ดิฉันทราบ และช่วยคุยกับทางโครงการให้ไม่ปรับดิฉัน ซึ่งตอนแรก เค้ายืนยันว่าจะปรับแค่ 50% แต่ใจดิฉันคิดว่าโครงการฯไม่แฟร์กับเราแล้ว ดิฉันไม่อยากได้ห้องนี้แล้ว เพราะอยู่กันยากแน่ๆ ถ้าจะขี้โกงแบบนี้
ดิฉันเลยแจ้งเจ้าหน้าที่นิติกรไปว่ายังไงก็ไม่เซ็น สุดท้ายคืนนั้นเจ้าหน้าที่นิติกรบอกว่า ตกลงกับโครงการฯให้แล้วไม่ต้องเสียค่าปรับเลย สุดท้ายแล้วดิฉันจึงตัดสินใจไปเซ็นสัญญาวันรุ่งขึ้นค่ะ เพราะคุณแม่เสียดายเงิน ห้าแสนที่ผ่อนไปแล้ว แล้วอีกอย่าง เราซื้อกับโครงการฯนี้ห้องนี้เป็นห้อง ที่ 5 แล้ว เห็นว่าเคยซื้อขายกันมาก่อนเลยซื้อ แต่ขอบอกเลยว่าพอเจอแบบนี้ ขอกู้ครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายค่ะ
และอยากเตือนเพื่อนๆไว้ด้วยนะคะ ว่าจะจองโครงการฯไหนศึกษารายละเอียดให้ดี เพราะตอนเราจะซื้อ เค้าจะดูแลอย่างดี
พอซื้อแล้ว เค้าจะไม่ใยดีเราเลยล่ะ