Account นี้ผมสมัครมาเป็น 10 ปี แล้ว ไม่เคยตั้งกระทู้เลย นี่เป็นครั้งแรก ปกติเคยแต่ตอบกระทู้ ขออภัยด้วยหากมีการผิดพลาดใดๆรวมทั้งขออภัยในการใช้ภาษาอย่างไม่เป็นทางการ สะกดผิดสะกดถูก เพราะผมเองเป็นคนพิมพ์คอมไม่ค่อยเก่ง
เริ่มเรื่องจาก ผมซื้อดาวน์คอนโดแห่งหนึ่งย่านสะพานควาย ในราคาประมาณ 3,000,000 บาท โดยซื้อดาวน์ต่อมาเป็นเงิน 450,000 บาท เหลือต้องชำระเงินส่วนที่เหลือในวันโอนกับโครงการเป็นเงินประมาณ 2,500,000 บาท ในวันโอน ถัดจากนั้นผมก็รอคอนโดเรียกตรวจรับห้องและรอโอน แต่เนื่องจากคอนโดมีปัญหาการเสร็จล่าช้า คือกำหนดเสร็จตามสัญญา ธค 57 แต่คอนโดเรียกตรวจรับห้อง กย 58 ที่คอนโด ลูกบ้านจึงมีการเรียกร้องค่าปรับจากการล่าช้าในการก่อสร้างคอนโด ตามกฎหมายคือ 0.01%/วัน ผมจึงโทรไปถาม สคบ.(สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค) ว่าในกรณีของผมซื้อดาวน์ต่อมาสามารถเรียกร้องค่าปรับจากการล่าช้าได้หรือไม่เพราะผมซื้อดาวน์ต่อมาอีกที สคบ. บอกว่าสามารถทำได้ ในฐานะที่เราเป็นเจ้าของห้องคนปัจจุบันแต่ถ้าคอนโดนัดโอน กรรมสิทธิ์ ก็ให้ไปโอนกรรมสิทธิ์ตามที่คอนโดนัด ไม่ให้รอเรื่องการเรียกร้องค่าปรับล่าช้า
จากนั้นเรื่องทุกอย่างก็เริ่มต้นขึ้น ผมส่งจดหมายไปถึงทางโครงการว่าห้องผมจะมีการเรียกร้องค่าปรับเนื่องจากคอนโดก่อสร้างล่าช้า ให้ตอบรับจดหมายของผมว่าคอนโดรับทราบว่าผมจะมีการเรียกร้องค่าปรับหลังโอนกรรมสิทธิ์เสร็จ ผลคือเงียบบบบบ ไม่มีการตอบรับ ผมจึงได้ไปยื่นจดหมายด้วยตัวเองอีกครั้งที่คอนโด ผลคือตัวแทนรับจดหมายบอกว่าจะส่งต่อจดหมายให้ผู้เกี่ยวข้องแต่ผลก็คือเงียบเช่นเดิม ผมจึงทำจดหมายร้องเรียนผ่าน สคบ. แล้วก็รอ สคบ. เรียกไปพบซึ่งก็ดูจะไม่มีปัญหาอะไร สคบ. บอกว่ากำหนดเสร็จคอนโดก็มีตามสัญญา คอนโดก่อสร้างล่าช้าจริงก็สามารถเรียกร้องได้ (ระหว่างคอนโดก่อสร้างล่าช้าไม่เคยมีจดหมายถึงลูกบ้านชี้แจงเรื่องการก่อสร้างล่าช้า)
ต่อมาตอนผมกู้เงินแบงค์สีม่วง เจ้าหน้าที่สินเชื่อบอกว่า ผมจะกู้เต็มวงเงินไหม คือ กู้ส่วนที่ต้องจ่ายจริง 2,500,000 บาทในวันโอน และกู้ส่วนที่เราจ่ายดาวน์ ไปแล้ว 450,000 บาทคืน (ตอนนั้นผมคิดว่าก็ดีเหมือนกัน จะได้เอาส่วนที่เกินมาที่จ่ายดาวน์ไปแล้ว เป็นค่าตกแต่งและเฟอร์นิเจอร์) ทางธนาคารบอกว่าตอนที่เช็คสั่งจ่ายออกมาต้องเป็นชื่อบริษัทเจ้าของโครงการ คือจะออกเป็นเช็ค 2 ใบ ใบแรกเป็นเงิน 2,500,000 บาทเป็นส่วนที่เหลือที่ผมต้องจ่ายกับโครงการ และใบที่2 เป็นใบที่คอนโดคืนเรา คอนโดจะเซ็นสลักหลังก็สามารถนำไปขึ้นเงินได้ ผมจึงตกลงเพราะก็คิดว่าเราจะได้มีเงินเหลือสำหรับค่าตกแต่งคอนโดด้วย จึงสรุปดังนี้ ทางธนาคารจะออกเช็คมา 2 ใบ โดยใบแรกเป็นเงิน 2,500,000 บาท เป็นส่วนที่เหลือที่ผมต้องจ่ายกับโครงการ และอีกฉบับ คือตกลงที่ 500,000 บาท
เมื่อวันโอนมาถึงผมก็ไปโอน โดยมี 3 คน คือ เจ้าหน้าที่สินเชื่อ ผมและเจ้าหน้าที่โครงการ ผมเซ็นรับเช็คทั้ง 2 ใบ จากธนาคารแล้วผมก็เอาเช็คทั้ง 2 ใบนี้ให้เจ้าหน้าที่โครงการไป (ค่าใช้จ่ายจิปาถะค่ามิเตอร์ไฟ ค่าธรรมเนียมโอน ขอไม่พูดถึงนะครับ) โดยโครงการบอกว่า หลังจากทำเรื่องเสร็จจะเอาเช็ค 500,000 บาท ไปให้เจ้าของโครงการเซ็นสลักหลัง แล้วให้เรามาเอาเช็ค 500,000 บาทพร้อมโฉนดตอนเย็น พอผมมาตอนเย็น โครงการมีให้แค่โฉนด แต่บอกว่าเช็ค 500,000 บาท เจ้าของโครงการไม่อยู่ ไม่มีคนเซ็นสลักหลังให้ตอนนี้ ผมก็บอก "อ่อ งั้นไม่เป็นไรครับ ผมไม่รีบ" ถ้าเจ้าของโครงการเซ็นสลักหลังเช็คเรียบร้อยแล้วให้โทรตามผมแล้วกัน จากนั้นอีก 3 วัน ทางโครงการก็โทรตามผมมารับเช็ค 500,000 บาท บอกว่าเจ้าของโครงการเซ็นแล้ว ผมก็มาที่โครงการ พอมาถึง ขอรับเช็ค ปรากฏว่ามีการเซ็นสลักหลังแล้วจริง แต่ขีดฆ่าที่เซ็นไว้ทิ้ง ผมก็เริ่มงง แล้วก็ถามโครงการว่านี่มันอะไรกัน สรุปก็คือ เค้าบอกว่าความจริงเช็ค ฉบับนี้เค้าไม่เซ็นก็ได้ แต่ที่เค้าเซ็นก็เพราะช่วยเรา เค้าเลยอยากให้เราช่วยเค้าบ้างโดยการให้เราถอนฟ้องเรียกค่าปรับคอนโดก่อสร้างล่าช้าจาก สคบ.ก่อน แล้วเค้าถึงจะยอมเซ็นสลักหลังให้ จุดนั้นผมโกรธมากเพราะ
1.เรื่องเช็คกับเรื่องเรียกร้องค่าปรับล่าช้ามันคนละเรื่องกันไม่เกี่ยวกันเลย
2.เราไม่เคยตกลงกันไว้แบบนี้ ถ้าเราตกลงกันไว้ก่อนก็เรื่องหนึ่งแต่นี่เราไม่เคยตกลงกันไว้ เค้าจะมาทำอย่างนี้ไม่ได้
3.เค้าช่วยอะไรผม ในเมื่อเงิน 500,000 บาท นี่ก็เงินผม ผมกู้มา และผมก็จ่ายค่าดาวน์ไปหมดแล้ว ผมเสียดอกเบี้ยตั้งแต่วันเซ็นสัญญา
ตอนนั้นผมโกรธมากจริงๆคือผมคิดว่าผมอยู่ต่อคงทะเลาะแน่ เลยขอเช็คคืนแล้วกลับบ้านไปตั้งหลักก่อนว่ามันเกิดอะไรขึ้น ระหว่างทางกลับบ้านผมโทรหาเจ้าหน้าที่แบงค์ที่ปล่อยสินเชื่อ เจ้าหน้าที่บอกว่าเรื่องระหว่างแบงค์กับผมเสร็จสิ้นตั้งแต่วันที่ผมเซ็นสัญญารับเช็ค, ผมเลยบอกว่างั้นคุณเอาเช็ค 500,000 บาท คืนธนาคารไป ผมไม่เอาแล้วเงิน 500,000 บาทนี้ แล้วลดวงเงินกู้ผมลงเท่าที่จ่ายกับคอนโดไป เจ้าหน้าที่สินเชื่อ บอกว่าเช็คนี้ไม่สามารถคืนได้(ซึ่งผมก็งงว่าทำไมคืนไม่ได้ในเมื่อผมเป็นคนกู้เงินก้อนนี้ออกมา)
ผมควรจะทำยังไงต่อดีครับ ควรจะถอนฟ้องสคบ.เรื่องเรียกร้องค่าปรับการก่อสร้างล่าช้าไหมหรือควรทำไงดี ???
*ผมประมาณ ตัวเลขเพื่อง่ายต่อการพิมพ์ไม่เป๊ะ แต่ใกล้เคียงกับตัวเลขจริง
** ทุกอย่างมีสัญญา ว่าเราจ่ายดาวน์ไปแล้วจริง สัญญาซื้อขายจำนวนเงินที่เราต้องจ่ายวันโอน สัญญาเงินกู้มีรายละเอียดเช็คแต่ละฉบับ
*** มีภาคต่อที่ผมไปคุยกับผู้จัดการแบงค์ครับ
ซื้อคอนโดแล้วมีปัญหา รบกวนผู้มีปัญหาการซื้อคอนโดแบบผม ช่วยตอบหน่อยครับ
เริ่มเรื่องจาก ผมซื้อดาวน์คอนโดแห่งหนึ่งย่านสะพานควาย ในราคาประมาณ 3,000,000 บาท โดยซื้อดาวน์ต่อมาเป็นเงิน 450,000 บาท เหลือต้องชำระเงินส่วนที่เหลือในวันโอนกับโครงการเป็นเงินประมาณ 2,500,000 บาท ในวันโอน ถัดจากนั้นผมก็รอคอนโดเรียกตรวจรับห้องและรอโอน แต่เนื่องจากคอนโดมีปัญหาการเสร็จล่าช้า คือกำหนดเสร็จตามสัญญา ธค 57 แต่คอนโดเรียกตรวจรับห้อง กย 58 ที่คอนโด ลูกบ้านจึงมีการเรียกร้องค่าปรับจากการล่าช้าในการก่อสร้างคอนโด ตามกฎหมายคือ 0.01%/วัน ผมจึงโทรไปถาม สคบ.(สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค) ว่าในกรณีของผมซื้อดาวน์ต่อมาสามารถเรียกร้องค่าปรับจากการล่าช้าได้หรือไม่เพราะผมซื้อดาวน์ต่อมาอีกที สคบ. บอกว่าสามารถทำได้ ในฐานะที่เราเป็นเจ้าของห้องคนปัจจุบันแต่ถ้าคอนโดนัดโอน กรรมสิทธิ์ ก็ให้ไปโอนกรรมสิทธิ์ตามที่คอนโดนัด ไม่ให้รอเรื่องการเรียกร้องค่าปรับล่าช้า
จากนั้นเรื่องทุกอย่างก็เริ่มต้นขึ้น ผมส่งจดหมายไปถึงทางโครงการว่าห้องผมจะมีการเรียกร้องค่าปรับเนื่องจากคอนโดก่อสร้างล่าช้า ให้ตอบรับจดหมายของผมว่าคอนโดรับทราบว่าผมจะมีการเรียกร้องค่าปรับหลังโอนกรรมสิทธิ์เสร็จ ผลคือเงียบบบบบ ไม่มีการตอบรับ ผมจึงได้ไปยื่นจดหมายด้วยตัวเองอีกครั้งที่คอนโด ผลคือตัวแทนรับจดหมายบอกว่าจะส่งต่อจดหมายให้ผู้เกี่ยวข้องแต่ผลก็คือเงียบเช่นเดิม ผมจึงทำจดหมายร้องเรียนผ่าน สคบ. แล้วก็รอ สคบ. เรียกไปพบซึ่งก็ดูจะไม่มีปัญหาอะไร สคบ. บอกว่ากำหนดเสร็จคอนโดก็มีตามสัญญา คอนโดก่อสร้างล่าช้าจริงก็สามารถเรียกร้องได้ (ระหว่างคอนโดก่อสร้างล่าช้าไม่เคยมีจดหมายถึงลูกบ้านชี้แจงเรื่องการก่อสร้างล่าช้า)
ต่อมาตอนผมกู้เงินแบงค์สีม่วง เจ้าหน้าที่สินเชื่อบอกว่า ผมจะกู้เต็มวงเงินไหม คือ กู้ส่วนที่ต้องจ่ายจริง 2,500,000 บาทในวันโอน และกู้ส่วนที่เราจ่ายดาวน์ ไปแล้ว 450,000 บาทคืน (ตอนนั้นผมคิดว่าก็ดีเหมือนกัน จะได้เอาส่วนที่เกินมาที่จ่ายดาวน์ไปแล้ว เป็นค่าตกแต่งและเฟอร์นิเจอร์) ทางธนาคารบอกว่าตอนที่เช็คสั่งจ่ายออกมาต้องเป็นชื่อบริษัทเจ้าของโครงการ คือจะออกเป็นเช็ค 2 ใบ ใบแรกเป็นเงิน 2,500,000 บาทเป็นส่วนที่เหลือที่ผมต้องจ่ายกับโครงการ และใบที่2 เป็นใบที่คอนโดคืนเรา คอนโดจะเซ็นสลักหลังก็สามารถนำไปขึ้นเงินได้ ผมจึงตกลงเพราะก็คิดว่าเราจะได้มีเงินเหลือสำหรับค่าตกแต่งคอนโดด้วย จึงสรุปดังนี้ ทางธนาคารจะออกเช็คมา 2 ใบ โดยใบแรกเป็นเงิน 2,500,000 บาท เป็นส่วนที่เหลือที่ผมต้องจ่ายกับโครงการ และอีกฉบับ คือตกลงที่ 500,000 บาท
เมื่อวันโอนมาถึงผมก็ไปโอน โดยมี 3 คน คือ เจ้าหน้าที่สินเชื่อ ผมและเจ้าหน้าที่โครงการ ผมเซ็นรับเช็คทั้ง 2 ใบ จากธนาคารแล้วผมก็เอาเช็คทั้ง 2 ใบนี้ให้เจ้าหน้าที่โครงการไป (ค่าใช้จ่ายจิปาถะค่ามิเตอร์ไฟ ค่าธรรมเนียมโอน ขอไม่พูดถึงนะครับ) โดยโครงการบอกว่า หลังจากทำเรื่องเสร็จจะเอาเช็ค 500,000 บาท ไปให้เจ้าของโครงการเซ็นสลักหลัง แล้วให้เรามาเอาเช็ค 500,000 บาทพร้อมโฉนดตอนเย็น พอผมมาตอนเย็น โครงการมีให้แค่โฉนด แต่บอกว่าเช็ค 500,000 บาท เจ้าของโครงการไม่อยู่ ไม่มีคนเซ็นสลักหลังให้ตอนนี้ ผมก็บอก "อ่อ งั้นไม่เป็นไรครับ ผมไม่รีบ" ถ้าเจ้าของโครงการเซ็นสลักหลังเช็คเรียบร้อยแล้วให้โทรตามผมแล้วกัน จากนั้นอีก 3 วัน ทางโครงการก็โทรตามผมมารับเช็ค 500,000 บาท บอกว่าเจ้าของโครงการเซ็นแล้ว ผมก็มาที่โครงการ พอมาถึง ขอรับเช็ค ปรากฏว่ามีการเซ็นสลักหลังแล้วจริง แต่ขีดฆ่าที่เซ็นไว้ทิ้ง ผมก็เริ่มงง แล้วก็ถามโครงการว่านี่มันอะไรกัน สรุปก็คือ เค้าบอกว่าความจริงเช็ค ฉบับนี้เค้าไม่เซ็นก็ได้ แต่ที่เค้าเซ็นก็เพราะช่วยเรา เค้าเลยอยากให้เราช่วยเค้าบ้างโดยการให้เราถอนฟ้องเรียกค่าปรับคอนโดก่อสร้างล่าช้าจาก สคบ.ก่อน แล้วเค้าถึงจะยอมเซ็นสลักหลังให้ จุดนั้นผมโกรธมากเพราะ
1.เรื่องเช็คกับเรื่องเรียกร้องค่าปรับล่าช้ามันคนละเรื่องกันไม่เกี่ยวกันเลย
2.เราไม่เคยตกลงกันไว้แบบนี้ ถ้าเราตกลงกันไว้ก่อนก็เรื่องหนึ่งแต่นี่เราไม่เคยตกลงกันไว้ เค้าจะมาทำอย่างนี้ไม่ได้
3.เค้าช่วยอะไรผม ในเมื่อเงิน 500,000 บาท นี่ก็เงินผม ผมกู้มา และผมก็จ่ายค่าดาวน์ไปหมดแล้ว ผมเสียดอกเบี้ยตั้งแต่วันเซ็นสัญญา
ตอนนั้นผมโกรธมากจริงๆคือผมคิดว่าผมอยู่ต่อคงทะเลาะแน่ เลยขอเช็คคืนแล้วกลับบ้านไปตั้งหลักก่อนว่ามันเกิดอะไรขึ้น ระหว่างทางกลับบ้านผมโทรหาเจ้าหน้าที่แบงค์ที่ปล่อยสินเชื่อ เจ้าหน้าที่บอกว่าเรื่องระหว่างแบงค์กับผมเสร็จสิ้นตั้งแต่วันที่ผมเซ็นสัญญารับเช็ค, ผมเลยบอกว่างั้นคุณเอาเช็ค 500,000 บาท คืนธนาคารไป ผมไม่เอาแล้วเงิน 500,000 บาทนี้ แล้วลดวงเงินกู้ผมลงเท่าที่จ่ายกับคอนโดไป เจ้าหน้าที่สินเชื่อ บอกว่าเช็คนี้ไม่สามารถคืนได้(ซึ่งผมก็งงว่าทำไมคืนไม่ได้ในเมื่อผมเป็นคนกู้เงินก้อนนี้ออกมา)
ผมควรจะทำยังไงต่อดีครับ ควรจะถอนฟ้องสคบ.เรื่องเรียกร้องค่าปรับการก่อสร้างล่าช้าไหมหรือควรทำไงดี ???
*ผมประมาณ ตัวเลขเพื่อง่ายต่อการพิมพ์ไม่เป๊ะ แต่ใกล้เคียงกับตัวเลขจริง
** ทุกอย่างมีสัญญา ว่าเราจ่ายดาวน์ไปแล้วจริง สัญญาซื้อขายจำนวนเงินที่เราต้องจ่ายวันโอน สัญญาเงินกู้มีรายละเอียดเช็คแต่ละฉบับ
*** มีภาคต่อที่ผมไปคุยกับผู้จัดการแบงค์ครับ