สวัสดีครับ นี่เป็นกระทู้แรกเลยในชีวิตของผมที่นี่หลังจากตามอ่านมาบ้างพอสมควร ^^

ออกตัวนิดนะครับ ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญเรื่องอาหารเพียงแต่เป็นคนชอบกินชอบเที่ยวเท่านั้นเอง การบรรยายหรือคะแนนที่ให้เป็นความรู้สึกส่วนตัวล้วนๆนะครับ และหากมีข้อผิดพลาดต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ
หลังจากสัญญากับแฟนไว้ตั้งแต่ตอนจีบใหม่ๆ ว่าจะพาไปทานอาหารญี่ปุ่นแบบบุฟเฟต์ (Buffet) ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในโรงแรมย่านรัชดา-ห้วยขวาง ที่คนเคยนิยมกัน เรียกว่าได้รับการจัดอันดับ 1 ใน 10 ร้านอาหารบุฟเฟต์ (Buffet) สไตล์ญี่ปุ่นที่ต้องไปลอง แต่ระยะหลังราคาขึ้นมามากสวนทางกับคุณภาพที่ลดลงเรื่อยๆ เลยพยายามที่จะหาร้านใหม่ นั่งค้นหาข้อมูลเยอะมากอ่านรีวิวมากมายหาไปหามาก็ลังเลไม่ได้ไปลองร้านไหนเสียที จนวันก่อนนั่งดูเฟสบุ๊คเจอน้องคนหนึ่งอัพรูปขึ้นเฟส เลยเอาชื่อร้านที่น้องเขาเช็คอินไปค้นหาดู แต่หารีวิวได้ไม่มาก ข้อมูลที่ทราบมาคือเจ้าของร้านเป็นศิษย์เก่าของ The V School ดูหน้าตาและเมนูอาหารที่แนะนำแล้วในเวบที่ค้นเจอ ทั้งซูชิฟัวกราส์ ซูชิปลาไหล ปลาดิบต่างๆทำให้ผมสนใจที่จะลองประกอบกับความที่เราอยากทานกันมานานละเลยไม่รอช้า จัดซะ!

ร้านนี้มีชื่อว่า Aiko Premium Sushi Buffet ร้านตั้งอยู่ที่ CDC เลียบทางด่วนรามอินทราฯ อยู่เฟสแรกใกล้กับร้าน Wine I Love You เลยครับ แนะนำว่าถ้าเป็นรอบเย็นโทรจองก่อนจะดีกว่าครับเพราะที่นั่งมีไม่มาก จะมีเป็นเคาน์เตอร์ที่นั่งดูเชฟทำประมาณ 20 ที่ และโต๊ะประมาณ 10 โต๊ะ รวมๆน่าจะรับคนได้ 40-50 คนครับ (ผมประมาณด้วยสายตานะครับ ผิดถูกต้องขออภัยด้วย) อ่อแต่มีห้อง VIP ที่รองรับคนได้ 10 คนด้วยนะครับบรรยากาศดีเป็นห้องส่วนตัวมีวิวบ่อน้ำ

หลังจากโทรจองแต่เช้าแล้ว เย็นวันนั้นเราก็มุ่งมั่นที่จะไปทานมาก ขนาดฝนตกและรถติดหนักตลอดทั้งวันก็ไม่อาจขวางเราได้ ฮ่าๆๆ ....จอดรถเรียบร้อยเดินมาถึงหน้าร้าน



ยืนดูเมนูหน้าร้าน



ที่นี่จะแบ่งเป็น 3 set นะครับ คือ Set A, Set B และ Set C ตามนี้
Set A ราคา 990++ (Services charge 10%, Vat 7%) เราสามารถสั่งอาหารของ Set B และ Set C ได้ด้วย
Set B ราคา 690++ (Services charge 10%, Vat 7%) เราสามารถสั่งอาหารของ Set C ได้ด้วย
Set C ราคา 390++ (Services charge 10%, Vat 7%)

จะมีอาหารนอกรายการเมนูด้วยนะครับถ้าจะสั่งต้องจ่ายเพิ่ม


ในร้านบรรยากาศดีทีเดียวครับ ทุกโต๊ะจะมีหม้อสุกี้ชาบูวางอยุ่ โดยเป็นแบบแบ่งครึ่งให้ทานได้ทั้งชาบู(น้ำใส)และสุกี้(น้ำดำ)แต่ถ้าหากตั้งใจมาทานซูชิและซาชิมิแจ้งพนักงานให้ยกหม้ออกไปได้นะครับหรือจะลองชิมสักหน่อยแล้วค่อยให้พนักงานมายกออกทีหลังก็ได้ครับ



ลงนั่งปุ๊ป พนักงานจะมาถามว่าจะรับเซต A,B หรือ C วันนี้เราเลือก A ครับ ตอนก่อนมาแอบลังเลว่าทาน Set A จะคุ้มหรือไม่ (เพราะว่าผมไม่ทานเนื้อ จริงๆแฟนหากไม่จำเป็นก็จะไม่ทานเนื้อเช่นเดียวกันแต่วันนี้ผมขอให้แฟนลองชิมชิ้นนึงเพื่อพิสูจน์รสชาติ) แต่หลังจากพิจารณาเมนูเห็นรายการอื่นๆแล้วก็ไม่ลังเลครับ พอตัดสินใจเลือกเซตได้ละ พนักงานจะหยิบเมนูเซตอื่นออกไปเหลือแต่เซตที่เราเลือก ในเมนูจะเป็นแบบรวบรายการทุกอย่างที่เราสั่งได้มาแล้วหน้าตาของเมนูจะไม่เหมือนเล่มใหญ่ที่วางหน้าร้าน




เวลาสั่งให้บอกจำนวนด้วยนะครับเพราะถ้าไม่บอกคือ 1 คำ เราเลือกเน้นสั่งอาหารที่มีเฉพาะในเมนู Set A ก่อนครับ อย่างละ 2 คำ(คนละคำ) ที่พลาดไม่ได้มาแล้วต้องลองคือ ซูชิตับห่าน(ฟัวกราส์) ซูชิปลาไหล และซูชิเอ็นกาวะครับ (แต่ผมพลาดลืมสั่งเอ็นกาวะ T.T พลาดได้ไง ฮ่าๆ อารมณ์ตอนนั้นแบบตาลายกับรายการอาหาร) อ่อ! เค้าจะปั้นหรือปรุงเมื่อเราสั่งนะครับ จะไม่มีการทำรอไว้เพราะฉะนั้น ถ้าไม่อยากให้ขาดตอนพอทานได้ประมาณสักครึ่งหนึ่งให้เตรียมสั่งต่อได้เลย ยิ่งช่วงเย็นคนเยอะอาจจะทำช้าหน่อย แต่บริการดีมากครับ ถ้าเราขาดเหลืออะไรพนักงานจะรีบตามให้เราทันที แต่อย่าสั่งเกินจนทานไม่ไหวนะครับ เพราะถ้าเหลือร้านคิดค่าปรับคำละ 100 บาทครับ! สำหรับเครื่องดื่มที่นี่จะเสิร์ฟชาเขียวเย็นให้ฟรีครับ ถ้าหากจะดื่มเครื่องดื่มอื่นๆคิดราคาเพิ่มนะครับ เวลาทาน 2 ชั่วโมง พนักงานจะเดินเอาใบรายการแจ้งรายละเอียดและเวลามาติดที่โต๊ะเราครับ



จานแรกมาอย่างไว เอ๊ะ!คุ้นๆว่าไม่ได้สั่ง พนักงานบอกว่าเสิร์ฟให้ทานเล่นแต่จะไม่รับก็ได้ มันคือก้างปลาแซลมอนทอดครับ แนะนำว่าไม่รับจะดีกว่ารสชาติคือก้างปลาทอดครับ ฮ่าๆ



แล้วพนักงานก็ทยอยยกมาเป็นลำดับ ผมขอแนะนำทีละรายการที่สั่งไปนะครับ เริ่มที่ชาบูและสุกี้ก่อน หม้อนี้รสชาติมาตรฐานครับ หากใครเคยทานร้าน Momo Paradise น้ำสุกี้จะรสคล้ายกันแต่อ่อนเค็มกว่าหน่อย เอาหมู(คุโรบุตะ)ลงไปลองลวก ใช้ได้ครับหม้อนี้ หมูนุ่มอร่อย น้ำซุปกลมกล่อมกำลังดี อ่อจะมีซอสให้จิ้มสองแบบถ้าใครเคยทาน Momo Paradise รสชาติเดียวกันเลยแต่ต้องขอพนักงานนะครับ เค้าจะไม่ได้เสิร์ฟมาให้ตอนแรก



หลังจากลองชิมแล้วก้ให้พนักงานมายกเตาออก โต๊ะโล่งขึ้นเยอะเลยครับ
ถัดไปจะขอแนะนำจานเรียกน้ำย่อย (Appetizer) ของร้านผมสั่งยำปลาแซลมอน (Salmon Spicy) มาลองครับ
เนื้อปลาสดดีครับ ราดมากับน้ำยำที่ปรุงกำลังดีไม่เผ็ดจนเกินไป ผักรองก็สดทีเดียว เรียกน้ำย่อยได้ดีเลยจานนี้



จานต่อไปในเมนูจะเขียนว่าเป็น Special Aiko ซึ่งมีอยู่ 3 อย่างผมจัดมาหมดครับ เริ่มที่หอยกรอบ (Oyster Fried) เอาหอยนางรมสดๆทั้งตัวไปชุบทอด จานนี้ให้ผ่านครับ หอยสดและทอดได้กรอบไม่อมน้ำมันจิ้มกับทงคัตซึซอสเข้ากันดีทีเดียว



ถัดมาเป็น ปลาฮอกเกะย่าง (Shima Hokke Yaki) จานนี้ผมเฉยๆไม่มีอะไรพิเศษครับ เนื้อจะออกแข็งหน่อยตามสไตล์ของฮอกเกะย่างซึ่งผมไม่ชอบอยู่แล้ว



จานถัดมาเป็นเมนูพิเศษที่ทางร้านปรุงมาให้ลองครับ หอยสวรรค์ (Oyster shooter) แก้วนี้ดีทีเดียวครับ แต่จะมีส่วนผสมของสาเก ท่านที่ไม่ดื่มแนวนี้อาจจะไม่ถูกปากเท่าไรนัก แก้วนี้จะใช้หอยนางรมสดๆทั้งตัวโดยผสมลงไปด้วยสาเก (Sake) และพอนซึ (Ponzu) เวลาทานให้ยกดื่มเป็นช็อตนะครับทีเดียวรวดหมดแก้วเลย ปกติผมไม่ดื่มแอลกอฮอลล์ตอนแรกไม่ทราบพอกระดกเข้าไปมึนนิดๆเพราะไม่ดื่มแอลกอฮอลล์มาเกือบ 20 ปีละครับ แต่ปริมาณไม่ได้มากอะไรแปปเดียวก็หายมึน แต่สำหรับท่านที่มีดื่มบ้างปกตินะครับไม่ได้แรงอะไร น่าจะถูกปากหลายๆคนครับ



จานถัดมาผมลองของทอดบ้างครับ สั่งกุ้งเทมปุระมา (Ebi Tempura) จานนี้ธรรมดาครับ หาทานได้ทั่วไป



จากนี้ไปจะเป็นของในเซตจำพวกซูชิ (Sushi) และ ซาชิมิ (Sashimi) นะครับ เด็ดๆหลายจานเลย ผมขอเริ่มด้วยหอยนางรม (Oyster) ก่อน หอยที่นี่สดและตัวใหญ่คำละตัวกำลังดีครับไม่คาวจะทานสดหรือหยอดวาซาบิเหยาะโชยุหน่อยก็ได้ครับ ชอบครับจานนี้มีเบิ้ลครับ



ถัดมาเป็นเซตซาชิมิ (Sashimi) เลือกที่เราอยากทานจากเมนูเลย วันนี้ผมเลือก แซลมอนซาชิมิ (Salmon Sashimi), ฮามาจิซาชิมิ (Hamaji Sashimi), หอยเชลล์ซาชิมิ (Hotate Sashimi), กุ้งหวานซาชิมิ (Ama Ebi Sashimi), ทูน่าซาชิมิ (Tuna Sashimi), ปลากระพงซาชิมิ (Suzuki Sashimi), หอยปีกนกซาชิมิ (Hokkigai Sashimi) และหมึกยักษ์ซาชิมิ (Tako Sashimi) ครับ พนักงานเสิร์ฟมาในเรือที่ไม่ได้มีการโปะน้ำแข็งเหมือนบางร้าน อันนี้ผมชอบครับเพราะถ้าของสดแล้วไม่จำเป็นต้องสร้างความรู้สึกให้คนทานและน้ำแข็งบางร้านก็สกปรกด้วยมีการเวียนใช้ซ้ำหรือเปล่าเราก็ไม่ทราบ
ขอพูดถึงรวมๆนะครับเพราะว่าของที่ใช้สดมากทีเดียว อาจจะไม่ถึงขนาดสดจากทะเล คนที่เคยมีโอกาสไปทานร้านซาชิมิ (Sashimi) ตามตลาดปลาที่ญี่ปุ่นจะทราบดีว่าถ้าสดแบบจากทะเลจะนุ่มและหวานมาก แต่ของที่นี่จัดว่าเยี่ยมครับ ร้านที่ไม่สดเวลาเราทานจะรู้สึกได้ว่าของดิบที่เราทานจะชืดๆมีน้ำที่ละลายจากน้ำแข็งซึมออกมา แต่ที่นี่ไม่มีแบบนั้น ซาชิมิที่นี่ไม่ผิดหวังครับ



จานถัดมามาแล้วพลาดไม่ได้จริงๆ ซูชิตับห่านหรือซูชิฟัวกราส์ (Foie Gras Sushi Aburi) โอยยย....ละลายในปาก ฟินนนมากกกกครับคือมันดีงามจริงๆ ตอนแรกสั่งไปแค่คนละคำ แต่..ไม่พอครับ ฮ่าๆๆๆ จัดมาอีกหลายคำเลย ฟัวกราส์ที่นี่ใช้ของดีครับเข้าปากแล้วเอาลิ้นดุนๆละลายในปากเลยทีเดียว มีรสหวานของซอสนิดหน่อยพอดับคาวคือยังไงก็มีกลิ่นบ้างเป็นเรื่องปกติครับแต่ไม่มากผมเองเฉยๆแทบจะไม่รู้สึกแต่แฟนบอกว่าไม่ชอบกลิ่นต้องบอกแบบเป็นกลางนะครับ แต่ต้องบอกว่าลองแล้วจะติดใจครับ คำเดียวไม่พอแน่นอน อ่อแต่การทานตับห่านหรือฟัวกราส์นี้อย่าทิ้งไว้นานจนเย็นนะครับมันจะคาว ควรทานตอนที่มาเสิร์ฟเลย



อีกจานนึงมักจะไม่พลาดกันคือซูชิปลาไหล (Unagi Sushi) จานนี้ปกติครับ คืออร่อยในแบบฉบบับของคนที่ชอบกินปลาไหลอยู่แล้ว แต่ที่นี่จะไม่มีการราดซอสเพิ่มนะครับจะมาแบบเป็นแห้งๆ ปกติแล้วผมจะทานกับซอสหวานเป็นความชอบส่วนตัววันที่ไปทานลืมขอทางร้านด้วยแต่ทานแบบนี้ก็อร่อยละครับ



ถัดมาเป็นซูชิไข่ปลาแซลมอน (Ikuragukkan) จานนี้โอเคครับ



ผมลองสั่งวากิวย่างไฟ (Wagyu Tataki) มาให้แฟนลอง 1 คำ แต่แฟนทานแล้วไม่ชอบเพราะปกติเธอจะไม่ชอบกินเนื้อวัวดิบ เวลาเผาไฟเชฟจะเผามาฝั่งเดียวบนจานที่จะเสิร์ฟครับ ด้านนึงก็จะดูสุกอีกด้านจะดูดิบแต่คนที่ทานแนวนี้อยุ่แล้วน่าจะไม่ผิดหวังครับ



จานสุดท้ายที่ลองวันนี้ครับคือไข่หวานย่างไฟ (Tamago Yaki) ทานตบท้ายนี่ดีมากเลยครับรสชาติหวานกำลังดี



หลังจากเราลองทานทั้งหมดแล้วก็มีเบิ้ลครับ ฮ่าๆๆ สั่งซ้ำหลายเมนูเลย ใกล้ครบ 2 ชั่วโมงแล้วเราสองคนทานจนพุงจะแตกเลยเรียกพนักงานเก็บเงิน ค่าเสียหายทั้งหมด 2 คน 2,330 บาทถ้วนครับ หรือถ้าคิดต่อหัวก็เท่ากับ 1,165 บาทครับ



ยังไม่จบนะครับ พิมพ์ไม่พอแล้ว เดี๋ยวต่อใน Comment นะครับ